ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Lalitta  Suttama
Lalitta Suttama
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักน้อง ดูแลเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

แสดงเพิ่มเติม
Thidarat Deetien
Thidarat Deetien
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

งานประจำเป็น Project Manager อยู่บริษัทเอกชนค่ะ มีความใจเย็น และมีทักษะจัดการได้ดี ชอบและรักสัตว์ ปกติเลี้ยงแมวที่บ้าน 3 ตัว สุนัข 9 ตัวค่ะ มีเวลาว่างจากงานประจำช่วงวันหยุด

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวุฒิ  ฉัตรมณี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

เป็นคนใจเย็นรักสัตว์ เลี้ยงสัตว์มาตั้งเด็กมีความเข้า

ธรรมชาติของสัตว์ ดูแลได้เป็นอย่างดีคับ

แสดงเพิ่มเติม
พรภสร ขุนด่าน
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

รักสัตว์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ไว้ใจได้ รักษาคำพูด

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐกฤตา เทพสุภา
ณัฐกฤตา เทพสุภา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ทำงานอยู่ที่ ร้าน little zoo คาเฟ่ค่ะ อยากได้รายได้เสริมเนื่องจากช่วงนี้โควิทร้านถูกปิด จึงขาดรายได้ ดูแลสัตว์ได้ทุกชนิด ทุกประเภทนะคะ

แสดงเพิ่มเติม

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

รักสัตว์ ใจเย็น มีความอดทนสูง

แสดงเพิ่มเติม
มาเรียม พรั่งเกิด
มาเรียม พรั่งเกิด
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

มีประสบการณ์ทำงานแม่บ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยง ทำอาหารง่าย ๆ ได้ เช่น ข้าวผัด อาหารตามสั่ง รักสัตว์หมาแมว เคยเข้ารับการอบรมกับ life university เกี่ยวกับจิตวิทยา และการเป็นโค้ช NLP มีทัศนคติเชิงบวกสูง มีมารยาท นวดได้มีใบอนุญาตถูกต้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักสัตว์ ใจดี ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ ชื่อแอมมี่นะคะ เป็นคนรักสัตว์ (มีประสบการณ์ในการดูแลแมว และสุนัข) มีคุณสมบัติพื้นฐานครบถ้วน เช่น ปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงด้วยความเอาใจใส่ ความเมตตา มีความอดทน มีความน่าเชื่อถือ มีความแข็งแรงและความแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับสัตว์เลี้ยงได้หากจำเป็น และมีความรู้ในการดูแลสัตว์เลี้ยง เข้าใจพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท มีความขยันและรับผิดชอบสูงค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
2 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
2 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
2 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
2 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
คุณสมบัติของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาคนช่วยดูแลบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักที่บ้านในยามที่คุณไม่มีเวลา สิ่งเหล่านี้คือลักษณะและคุณสมบัติสำคัญของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. มีใจรักงานบริการด้านนี้ และมีความรักที่แท้จริงต่อบรรดาสัตว์เลี้ยง ไม่รังเกียจที่จะต้องเก็บกวาดกรงหรือทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ บางครั้งเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อาจเล่นซนจนทำให้บ้านสกปรก ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงจะต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข โดยไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น
2. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เนื่องจากบรรดาสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องบริหารเวลาในการดูแลอย่างมืออาชีพ เช่น เวลาให้อาหาร อาบน้ำ ออกกำลังกาย ฯลฯ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขอนามัยและสภาพจิตใจที่ดี
3. มีความรู้ในเรื่องของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมว สุนัขค่อนข้างเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่กับผู้คน จึงสามารถพาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะได้ กลับกันแมวค่อนข้างเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ หากเจอผู้คนมาก ๆ อาจทำให้ตื่นคนและอาจส่งผลให้เกิดความเครียดตามมา ดังนั้นพี่เลี้ยงสัตว์ที่ดีจำเป็นต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนเหมาะกับการเลี้ยงแบบใด
4. มีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยง การอยู่กับสัตว์เหล่านี้มาเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเคยชิน และสามารถรับมือกับสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี เช่น ยามสัตว์เลี้ยงป่วยและจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้ดูแลที่มีความรู้ในการปฐมพยาบาลสัตว์สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้

คุณสมบัติทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้นนับว่าเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยก็ว่าได้ อย่าลังเลที่จะเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในทันที เพื่อความสบายใจของคุณ ลำพัง
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

ลาดพร้าว ไกลแค่ไหนคือใกล้

“ศูนย์กลางการเดินทาง”

20 ปีที่แล้ว บริเวณรอบถนนลาดพร้าวซึ่งไหลไปทางตะวันออกเฉียงใต้จากทางยกระดับดอนเมืองที่สวนจตุจักรไปยังแฮปปี้แลนด์ในเขตบางกะปิ ถือเป็นเขตชานเมืองของกรุงเทพฯ แต่ด้วยการสร้างทางด่วนและเส้นทางขนส่งสาธารณะหลายสาย ลาดพร้าวจึงกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมที่เฟื่องฟู ย่านที่เรียกว่า “ลาดพร้าว” (บางครั้งเรียกว่า “ลาดพร้าว”) ประกอบด้วยส่วนด้านในของถนนลาดพร้าวตั้งแต่ซอย 1 - 35 และ 2 - 42 ถนนพหลโยธินจนถึงแยกรัชโยธินที่ถนนวิภาวดีรังสิต ปัจจุบันลาดพร้าวให้บริการโดยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน 2 สถานี สถานีลาดพร้าว ใกล้ซอย 21 และถนนรัชดาภิเษก และสถานีพหลโยธินใกล้ยูเนี่ยนมอลล์และเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2564 เป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองสิ้นสุดที่ถนนรัชดาภิเษกและมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกสู่จังหวัดสมุทรปราการเชื่อมต่อกับสถานีบีทีเอสสำโรง นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS (รถไฟฟ้า) ซึ่งปัจจุบันสิ้นสุดที่หมอชิต สลับกับ MRT (ต้องใช้ตั๋วแยกต่างหาก) สถานีสี่แยกลาดพร้าว มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2562 โดยจะขยายไปยังซอยพหลโยธิน 24 รัชโยธิน และอีกมากมายในปี 2563 บริเวณใกล้เคียงคือสถานีขนส่งหมอชิตเหนือ ซึ่งจะเชื่อมต่อในปี 2563 ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สายสีแดงใหม่

ประชาชนชาวลาดพร้าวส่วนใหญ่เป็นคนไทยและชาวตะวันตกที่มีรายได้ปานกลาง โครงการคอนโดมิเนียมเฉลี่ยต่ำกว่าใจกลางกรุงเทพฯประมาณ 130,000 - 170,000 บาทต่อตารางเมตร โครงการล่าสุด ได้แก่ :

METRIS ลาดพร้าว ถ.ลาดพร้าว ซอย 8 29 ชั้น 193 ยูนิต 3.9 - 10.0 ล้านบาท (135,000 - 165,000 บาทต่อตร.ม.)

ไลฟ์ ลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ใกล้ซอย 22 อาคารสูง 45 ชั้น 46 ชั้น จำนวน 1,615 ยูนิต กำหนดสร้างเสร็จปี 2563 3.3 - 11.6 ล้านบาท (135,000 - 165,000 บาทต่อตร.ม.)

Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ที่ ถนนรัชดาภิเษก 27 ชั้น 497 ยูนิต ราคา 4 - 23 ล้านบาท (135,000 - 165,000 บาทต่อตร.ม.)

เอ็ม ลาดพร้าว ตรงข้ามเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว 44 ชั้น 286 ยูนิต 4.7 - 12 ล้านบาท (145,000 - 215,000 บาทต่อตร.ม.)

Maru Ladprao 15, 30 ชั้น และ 332 ยูนิต กำหนดแล้วเสร็จมิถุนายน 2564 3.8 - 10 ล้านบาท (เฉลี่ย 150,000 บาทต่อตร.ม.)

เซ็นทริค รัชโยธิน ถนนพหลโยธินและรัชโยธิน สูง 21 ชั้น 261 ยูนิต เริ่มต้น 3.7 ล้านบาท (เฉลี่ย 160,000 บาทต่อตร.ม.)

พื้นที่ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่นี้รวมถึงกลุ่มอาคารสำนักงานของ บริษัท บนถนนวิภาวดีรังสิตและถนนรัชดาภิเษกที่อยู่ใกล้เคียง ได้แก่ PTT Energy Complex, Sun Tower, SJ Infinite One, การบินไทย, ไทยรัฐ (หนังสือพิมพ์) , SCB Park Plaza และ TMB

โรงแรมท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงบางแห่ง ได้แก่: เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โรงแรมทราเวลเลอร์ส ถ.รัชดาภิเษก

ไอยรินทร์ ณ โรงแรมตึกช้าง ถนนพหลโยธิน ใกล้ ซ.26 The Bazaar Hotel ที่ สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดา ลาดพร้าว ซอย26 ซี ยู อินน์ ถ.วิภาวดี-รังสิต

ศูนย์กลางการช้อปปิ้งร้านค้าปลีกในละแวกใกล้เคียงคือเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าวและในระดับที่น้อยกว่าคือยูเนี่ยนมอลล์ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพหลโยธิน



สื่อสารกับสุนัขได้เข้าใจ ด้วยภาษากาย น้ำเสียง และคำพูด

สุนัขถือเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมสำหรับคนมีสัตว์เลี้ยง คนรักสุนัขส่วนใหญ่ยกตำแหน่งเพื่อนที่ซื่อสัตย์ให้กับสุนัขของตน แต่กว่าจะได้สุนัขที่น่ารักและเชื่อฟัง เจ้าของสุนัขหรือผู้ดูรับจำเป็นต้องฝึกฝนและเข้าใจวิธีการที่จะใช้สื่อสารกับสุนัขด้วย

เจ้าของสุนัขส่วนใหญ่จะยอมรับว่าสุนัขของพวกเขาเข้าใจคำศัพท์ง่าย ๆ ที่คุ้นเคย เช่น เมื่อพูดว่า "นั่ง" แล้วสุนัขจะทรุดตัวลง เมื่อพูดว่า "ไปเดินเล่นกันเถอะ" สุนัขจะวิ่งไปที่ประตูแล้วคว้าสายจูง เมื่อพูดว่า "ได้เวลากินแล้ว" สุนัขจะไปที่ชามอาหาร ดูเหมือนว่าสุนัขจะเข้าใจคำว่านั่ง เดิน และกิน แปลว่าสุนัขเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงคำเฉพาะกับการกระทำหรือวัตถุที่เฉพาะเจาะจง

สุนัขอาจได้ยินสิ่งที่เราพูด แต่สิ่งที่เราพูดเป็นเพียงตัวแปรหนึ่งเท่านั้น สุนัขตีความภาษาพูดของคนร่วมกับภาษากายและวิธีที่เราพูดนั้นส่งผลต่อความเข้าใจของสุนัข

บางคนคิดว่าวิธีที่เราพูดมีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่เราพูด สุนัขอ่านน้ำเสียงและภาษากายมากกว่าคำพูดจริง ๆ สุนัขจะสังเกตท่าทางของคนพูด ดูการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง และการเคลื่อนไหวร่างกาย และฟังน้ำเสียง รวมปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อกำหนดความหมายในสิ่งที่เราพูด

หากเจ้าของสุนัขหรือผู้ดูแลยิ้มและพูดอย่างตื่นเต้นว่า "ไปเดินเล่นกันเถอะ!" สุนัขน่าจะกระดิกหางและเดินเตร่ไปมาอย่างกระตือรือร้น หากคุณพูดคำเดียวกันนี้ด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองและทำหน้าบึ้ง เขาอาจจะตัวสั่นและสะอื้นไห้ การสังเกตเหล่านี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนรู้สึกว่าสุนัขตอบสนองได้เหมือนกับทารกของมนุษย์ในการเข้าใจภาษาของเรา อันที่จริงแล้ว สุนัขอาจมีความสามารถในการรับรู้เช่นเดียวกับทารกมนุษย์อายุ 6-12 เดือน

ทั้งสุนัขและเด็กทารกต่างเข้าใจความหมายของคำว่า “ไม่!” อย่างรวดเร็ว เมื่อหยิบเศษอาหารจากพื้นแล้วพยายามยัดเข้าปาก พวกเขาทราบความแตกต่างระหว่าง "ใช่" กับ "ไม่" หรือไม่ หรือพวกเขาตอบสนองต่อน้ำเสียงที่สั่งการและภาษากายที่วิตกกังวลของเราหรือไม่ อาจเป็นการผสมผสานระหว่างคำศัพท์ที่เรียนรู้และการสังเกตภาษากายและน้ำเสียงหรือไม่ ด้วยการทำซ้ำ ทั้งสุนัขและทารกจะเชื่อมโยงคำบางคำ กับวัตถุหรือการกระทำบางอย่าง นั่นเป็นเหตุผลที่เราพูดว่า "นั่ง" ซ้ำแล้วซ้ำอีกในขณะที่ให้สุนัขนั่งจริงๆ ในที่สุดเขาก็เชื่อมโยงคำ กับการกระทำ ยังเป็นเหตุผลที่เราพูดว่า "สุนัข" กับลูกน้อยของเราในขณะที่ชี้ไปที่สุนัข ในที่สุด มนุษย์ตัวน้อยก็เข้าใจว่าสัตว์ที่มีขนยาวตัวนี้ถูกเรียกว่า "สุนัข"

แม้ว่านักวิทยาศาสตร์หลายคนเห็นตรงกันว่าสุนัขเข้าใจคำบางคำ แต่ไม่เข้าใจประโยคเต็ม พวกเขารู้สึกว่าการพูดว่า "ต้นไม้ นก หญ้า เดิน" มีความหมายเดียวกับ "ไปเดินเล่น" แม้ว่าสุนัขจะไม่เข้าใจทุกคำในประโยค แต่เข้าใจคำว่า "เดิน" และถ้าคุณพูดคำเหล่านั้นด้วยความกระตือรือร้นด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ สุนัขของคุณจะพุ่งไปที่ประตูหน้า

แม้จะมีคำศัพท์ที่จำกัด สุนัขและทารกก็สื่อสารกับเราได้ พวกเขาอาจไม่ได้พูดด้วยภาษาพูด แต่พวกเขาสามารถ "พูด" กลับมาหาเราได้ แม้จะไม่มีคำศัพท์มากมาย แต่ก็ทำให้เราเข้าใจเสียงคร่ำครวญ เสียงร้อง และเสียงร้องของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับภาษากายพิเศษของพวกเขาเอง



เป็นคำถามเก่าแก่: ทำไมสุนัขถึงจงรักภักดี?

บางคนอาจจะบอกว่าเพราะว่าเราให้อาหารและที่พักแก่พวกเขา แต่สำหรับเจ้าของสุนัขที่ดูแลสุนัขด้วยความรัก ทุกคนรู้ดีว่ามีอะไรมากกว่านั้น เพราะเมื่อเราให้อาหารและที่อยู่แก่แฮมสเตอร์และปลาทอง แต่สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นมักไม่แสดงความรักต่อเจ้าของหรือผู้ดูแลเหมือนที่สุนัขทำ สุนัขร้องไห้เมื่อเจ้าของสุนัขออกจากบ้าน กระโดดด้วยความดีใจเมื่อเรากลับมาบ้านและมีชีวิตอยู่และหายใจเพื่อความรักของเรา

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ทำไมสุนัขถึงภักดีต่อมนุษย์มากผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์มักกล่าวถึงความจงรักภักดีของสุนัขที่นักวิจัยตั้งทฤษฎีว่า สุนัขที่เรารู้จักในปัจจุบันมีวิวัฒนาการมาจากหมาป่า หลังจากที่พวกเขาเริ่มอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุดได้ค้นพบข้อสรุปที่ต่างออกไป ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสุนัขแยกตัวจากบรรพบุรุษหมาป่าเมื่อประมาณ 135,000 ปีก่อน ก่อนที่สุนัขหรือหมาป่าจะอาศัยอยู่กับมนุษย์

อันที่จริง หลักฐานทางโบราณคดี เช่น กระดูกสุนัขที่ถูกฝังไว้ใกล้ถิ่นฐานของมนุษย์ มีอายุย้อนไปถึง 13,000 ปีเท่านั้น ดังนั้นจึงมีเหตุผลว่าทฤษฎีปัจจุบันคือหมาป่าพัฒนาเป็นสุนัขโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์ แต่เมื่อสุนัขและมนุษย์เริ่มพึ่งพากันและกัน พวกเขาก็มีความเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก นับตั้งแต่วันแรกของการเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ สุนัขก็มีความผูกพันทางอารมณ์กับเจ้าของ สุนัขหลายตัวเข้าใจอารมณ์ของเจ้าของ และสามารถบอกได้ว่าเราเศร้าหรือโกรธเมื่อใด และเราเข้าใจสุนัขเป็นการตอบแทน เราสามารถอ่านท่าทางของพวกเขาและบอกได้ว่าพวกเขากลัว ไม่พอใจ หรือสนุกสนานเมื่อใด

พฤติกรรมการรวมกลุ่ม

ความภักดีเป็นเพียงพฤติกรรมตามธรรมชาติสำหรับสุนัข สุนัขเป็นฝูงสัตว์ ซึ่งหมายความว่าพวกมันเป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่ร่วมกับสุนัขอื่น ๆ พฤติกรรมนี้เป็นกลไกในการเอาชีวิตรอดด้วย สมาชิกของกลุ่มพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอด ครูฝึกสุนัขหลายคนและผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์อื่น ๆ เชื่อว่าความคิดแบบนี้ทำให้สุนัขมีความจงรักภักดีต่อมนุษย์ เพราะสุนัขมองว่าเจ้าของหรือผู้ดูแลเป็นเพียงสมาชิกอีกคนหนึ่งในกลุ่ม และคิดว่าความภักดีจะทำให้พวกมันมีชีวิตอยู่ คุณมักจะได้ยินผู้ฝึกสอนพูดว่าในระหว่างการฝึกการเชื่อฟัง คุณต้องยืนยันตัวเองว่าเป็น “สุนัขจ่าฝูง” ถ้าสุนัขของคุณมองว่าคุณเป็นหัวหน้าฝูง พวกมันก็จะตามคุณ