ดูแลเด็ก ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 56 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
จิตฤดี สุวรรณมณี
จิตฤดี สุวรรณมณี
Saijai อายุ 37 ปี

I am a girl,love and care the kid I like the kid that same my family.I think I can do the job is good.

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

นิสัย : ใจเย็น รักเด็ก รักผู้สูงอายุ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ใส่ใจ สะอาด พูดน้อย ไม่จุกจิก

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
3 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

พาลูกเข้าวัดเสริมคุณธรรม

พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกของตัวเองเป็นคนดี ต่างคนต่างมีวิธีการปลูกฝังเลี้ยงดูเพื่อให้ลูกมีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม สำหรับพุทธศาสนิกชนการพาลูกเข้าวัดฟังธรรม หรือให้ลูกได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในวัดร่วมกับผู้อื่น เป็นการฝึกให้เด็กได้ช่วยเหลือผู้อื่น และจะทำให้เด็กได้รู้สึกนึกคิดในการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อโตขึ้น สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเขตบางกอกใหญ่ มีวัดที่จะมาแนะนำคือ “วัดอรุณราชวราราม” วัดอรุณเป็นวัดที่เก่าแก่อยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก่อนเป็นวัดที่ไม่ใหญ่มากนัก ชาวบ้านมักจะเรียกว่า “วัดมะกอก” เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา หลังจากที่มีการปฏิสังขรณ์ วัดอรุณราชวราราม ในรูปโฉมใหม่ ได้กลายมาเป็นวัดสีขาวประดับด้วยลวดลายกระเบื้องสีสันสวยงาม จนกลายมาเป็นสถานที่ที่หลายคนต่างมาเก็บภาพความสวยงามไว้ พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นสถาปัตยกรรมไทยโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังมีพระปรางค์รองอีก 4 ปรางค์ ความวิจิตรตระการตาที่เห็นนั้น มาจากการประดับด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีต่างๆ เป็นลายดอกไม้ ใบไม้ และลายอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 08.00 – 17.30 น.

ค่าเข้าชม : คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 100 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 0 2891 2185

วิธีเดินทาง : ลงสถานีสะพานตากสิน S6 (สายสีลม)ใช้ทางออกที่ 2 ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าสาทร (Central Pier) ไปขึ้นที่ท่าเตียน (N.8) จากนั้นใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเตียนไปยังวัดอรุณราชวราราม



ดูแลพฤติกรรมเด็กซน

ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นสังคมเมือง ผู้คนแออัด แทบทุกคนต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อความอยู่รอด ทำให้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่เลี้ยงลูกได้ยากขึ้นกว่าเมื่อสมัยก่อนที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ส่งผลต่อเด็ก เช่น สื่อและสิ่งเร้าที่เข้ามากระตุ้นพฤติกรรมเด็ก ในบางครั้งพ่อแม่เองก็เข้าใจผิด โดยคิดว่าเทคโนโลยีจะช่วยเสริมพัฒนาการได้ ทำให้เด็กติดหน้าจอ

ในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้าถึงง่าย จนบางครั้งทำให้พ่อแม่ลืมไปว่า การได้ให้ลูก ๆ อยู่กับธรรมชาติ ประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่นำมาดัดแปลงได้ จะเป็นการเสริมสร้างจินตนาการเด็ก พ่อแม่ควรรู้พัฒนาการของเด็กแต่ละวัย เพราะเด็กแต่ละวัยมีการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นเด็กวัย 3-5 ขวบ ควรให้เด็กได้เล่นตามธรรมชาติเช่นพวก ดิน ทราย โดยให้เขาได้สัมผัสกับของจริง แล้วเด็กจะเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเขา พ่อแม่ควรให้ลูกได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง ๆ โดยมีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อคอยระวังเรื่องความปลอดภัยและได้สังเกตพฤติกรรมของลูกว่าพัฒนาเหมาะสมตามวัยหรือไม่

หากพบสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกมีพัฒนาการช้า พ่อแม่ไม่ควรชะล่าใจ เพราะว่าถ้าหากรู้ปัญหาเร็วก็อาจจะแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ความซนของเด็กถือเป็นเรื่องปกติ เด็กที่อยู่ในช่วงวัย 3-5 ขวบ มักจะเป็นตัวของตัวเองและมีการแสดงออกตามความต้องการของตัวเองมากขึ้น และจะเริ่มมีความคิดต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ซนจะไม่ค่อยน่ากลัวเท่ากับเด็กที่เงียบ ๆ หรือไม่พูดอะไรเลย แต่ในความซนของเด็กนั้นจะต้องมีขอบเขต พ่อแม่ควรจะคุยกับเด็กให้รู้ว่า พวกเขาควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไรบ้าง



ฝึกลูกช่วยงานบ้าน

เรามักเคยได้ยินพ่อแม่หลาย ๆ คนบ่นอยู่เสมอว่าลูกของตนไม่ค่อยมีวินัย ขาดความรับผิดชอบ ที่จริงแล้วการฝึกลูกช่วยงานบ้านสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ข้อดีของการฝึกลูกช่วยงานบ้าน คือ ส่งผลเมื่อเด็กเติบโตขึ้น เด็กคนไหนที่ได้ฝึกให้ช่วยงานบ้านตั้งแต่เด็ก จะเป็นคนที่รู้จักความรับผิดชอบและมีวินัยในตัวเอง ส่วนเด็กที่ไม่เคยได้รับการฝึกให้ช่วยงานบ้านก็มักจะทำแค่สิ่งที่ตัวเองสนใจหรืออยากทำ อีกทั้งยังไม่มีความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เด็กที่ทำงานบ้านจะมีความพยายามโดยไม่ล้มเลิก มีสมาธิในการทำงาน มีความตั้งใจที่มากกว่าในการทำงานกับคนอื่น วิธีที่จะทำให้เด็ก ๆ เริ่มสนใจการทำงานบ้าน พ่อแม่ควรจะให้เด็กได้รู้สึกว่างานบ้านเป็นเรื่องที่สนุก เช่น อาจจะมีเกมให้เล่นร่วมกันระหว่างการทำงานบ้าน เมื่อทำงานเสร็จแล้วพ่อแม่ควรชมเชยในความพยายามของลูก เลือกงานบ้านให้เหมาะกับวัย การที่จะมอบหมายงานให้เด็ก ๆนั้นต้องมีความเหมาะสมกับวัย สามารถฝึกลูกทำงานบ้านได้ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป อาจสอนให้ทำงานแบบง่าย ๆ เช่น การเก็บของให้เข้าที่พวกของเล่นต่าง ๆ สอนให้นำเสื้อผ้าไปเก็บในตะกร้า สอนให้เก็บขยะไปทิ้ง หรืออาจจะสอนการเก็บรองเท้าให้เข้าที่หลังจากถอด สำหรับเด็กที่โตมากกว่านี้ก็อาจจะฝึกให้หัดพับผ้า เก็บที่นอนให้เรียบร้อย รดน้ำต้นไม้ วัย 6 ขวบขึ้นไปอาจจะสอนให้ล้างจาน กวาดบ้าน ในการให้เด็กทำครั้งแรกคุณแม่ควรจะนั่งดูและให้คำแนะนำต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกเด็กนั้นก็คือพ่อแม่ควรมีส่วนร่วมด้วย และให้รางวัลลูกเมื่อทำงานบ้านเสร็จ