วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง พี่เลี้ยงสองภาษา พี่เลี้ยงวันหยุดบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน
สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์
การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ
พาลูกเข้าวัดเสริมคุณธรรม
พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกของตัวเองเป็นคนดี ต่างคนต่างมีวิธีการปลูกฝังเลี้ยงดูเพื่อให้ลูกมีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม สำหรับพุทธศาสนิกชนการพาลูกเข้าวัดฟังธรรม หรือให้ลูกได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในวัดร่วมกับผู้อื่น เป็นการฝึกให้เด็กได้ช่วยเหลือผู้อื่น และจะทำให้เด็กได้รู้สึกนึกคิดในการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อโตขึ้น สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเขตบางกอกใหญ่ มีวัดที่จะมาแนะนำคือ “วัดอรุณราชวราราม” วัดอรุณเป็นวัดที่เก่าแก่อยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก่อนเป็นวัดที่ไม่ใหญ่มากนัก ชาวบ้านมักจะเรียกว่า “วัดมะกอก” เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา หลังจากที่มีการปฏิสังขรณ์ วัดอรุณราชวราราม ในรูปโฉมใหม่ ได้กลายมาเป็นวัดสีขาวประดับด้วยลวดลายกระเบื้องสีสันสวยงาม จนกลายมาเป็นสถานที่ที่หลายคนต่างมาเก็บภาพความสวยงามไว้ พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นสถาปัตยกรรมไทยโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังมีพระปรางค์รองอีก 4 ปรางค์ ความวิจิตรตระการตาที่เห็นนั้น มาจากการประดับด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีต่างๆ เป็นลายดอกไม้ ใบไม้ และลายอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 08.00 – 17.30 น.
ค่าเข้าชม : คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 100 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 0 2891 2185
วิธีเดินทาง : ลงสถานีสะพานตากสิน S6 (สายสีลม)ใช้ทางออกที่ 2 ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าสาทร (Central Pier) ไปขึ้นที่ท่าเตียน (N.8) จากนั้นใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเตียนไปยังวัดอรุณราชวราราม
ดูแลพฤติกรรมเด็กซน
ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นสังคมเมือง ผู้คนแออัด แทบทุกคนต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อความอยู่รอด ทำให้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่เลี้ยงลูกได้ยากขึ้นกว่าเมื่อสมัยก่อนที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ส่งผลต่อเด็ก เช่น สื่อและสิ่งเร้าที่เข้ามากระตุ้นพฤติกรรมเด็ก ในบางครั้งพ่อแม่เองก็เข้าใจผิด โดยคิดว่าเทคโนโลยีจะช่วยเสริมพัฒนาการได้ ทำให้เด็กติดหน้าจอ
ในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้าถึงง่าย จนบางครั้งทำให้พ่อแม่ลืมไปว่า การได้ให้ลูก ๆ อยู่กับธรรมชาติ ประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่นำมาดัดแปลงได้ จะเป็นการเสริมสร้างจินตนาการเด็ก พ่อแม่ควรรู้พัฒนาการของเด็กแต่ละวัย เพราะเด็กแต่ละวัยมีการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นเด็กวัย 3-5 ขวบ ควรให้เด็กได้เล่นตามธรรมชาติเช่นพวก ดิน ทราย โดยให้เขาได้สัมผัสกับของจริง แล้วเด็กจะเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเขา พ่อแม่ควรให้ลูกได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง ๆ โดยมีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อคอยระวังเรื่องความปลอดภัยและได้สังเกตพฤติกรรมของลูกว่าพัฒนาเหมาะสมตามวัยหรือไม่
หากพบสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกมีพัฒนาการช้า พ่อแม่ไม่ควรชะล่าใจ เพราะว่าถ้าหากรู้ปัญหาเร็วก็อาจจะแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ความซนของเด็กถือเป็นเรื่องปกติ เด็กที่อยู่ในช่วงวัย 3-5 ขวบ มักจะเป็นตัวของตัวเองและมีการแสดงออกตามความต้องการของตัวเองมากขึ้น และจะเริ่มมีความคิดต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ซนจะไม่ค่อยน่ากลัวเท่ากับเด็กที่เงียบ ๆ หรือไม่พูดอะไรเลย แต่ในความซนของเด็กนั้นจะต้องมีขอบเขต พ่อแม่ควรจะคุยกับเด็กให้รู้ว่า พวกเขาควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไรบ้าง
ฝึกลูกช่วยงานบ้าน
เรามักเคยได้ยินพ่อแม่หลาย ๆ คนบ่นอยู่เสมอว่าลูกของตนไม่ค่อยมีวินัย ขาดความรับผิดชอบ ที่จริงแล้วการฝึกลูกช่วยงานบ้านสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ข้อดีของการฝึกลูกช่วยงานบ้าน คือ ส่งผลเมื่อเด็กเติบโตขึ้น เด็กคนไหนที่ได้ฝึกให้ช่วยงานบ้านตั้งแต่เด็ก จะเป็นคนที่รู้จักความรับผิดชอบและมีวินัยในตัวเอง ส่วนเด็กที่ไม่เคยได้รับการฝึกให้ช่วยงานบ้านก็มักจะทำแค่สิ่งที่ตัวเองสนใจหรืออยากทำ อีกทั้งยังไม่มีความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เด็กที่ทำงานบ้านจะมีความพยายามโดยไม่ล้มเลิก มีสมาธิในการทำงาน มีความตั้งใจที่มากกว่าในการทำงานกับคนอื่น วิธีที่จะทำให้เด็ก ๆ เริ่มสนใจการทำงานบ้าน พ่อแม่ควรจะให้เด็กได้รู้สึกว่างานบ้านเป็นเรื่องที่สนุก เช่น อาจจะมีเกมให้เล่นร่วมกันระหว่างการทำงานบ้าน เมื่อทำงานเสร็จแล้วพ่อแม่ควรชมเชยในความพยายามของลูก เลือกงานบ้านให้เหมาะกับวัย การที่จะมอบหมายงานให้เด็ก ๆนั้นต้องมีความเหมาะสมกับวัย สามารถฝึกลูกทำงานบ้านได้ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป อาจสอนให้ทำงานแบบง่าย ๆ เช่น การเก็บของให้เข้าที่พวกของเล่นต่าง ๆ สอนให้นำเสื้อผ้าไปเก็บในตะกร้า สอนให้เก็บขยะไปทิ้ง หรืออาจจะสอนการเก็บรองเท้าให้เข้าที่หลังจากถอด สำหรับเด็กที่โตมากกว่านี้ก็อาจจะฝึกให้หัดพับผ้า เก็บที่นอนให้เรียบร้อย รดน้ำต้นไม้ วัย 6 ขวบขึ้นไปอาจจะสอนให้ล้างจาน กวาดบ้าน ในการให้เด็กทำครั้งแรกคุณแม่ควรจะนั่งดูและให้คำแนะนำต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกเด็กนั้นก็คือพ่อแม่ควรมีส่วนร่วมด้วย และให้รางวัลลูกเมื่อทำงานบ้านเสร็จ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง