ดูแลเด็ก ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นันทกานต์ ชำนาญกิจ
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ดูแลแบบไป-กลับนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 58 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
ฉวี เสภา
ฉวี เสภา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 55 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กมากกว่า 30 ปี ค่าจ้างตามพิจารณาอะไรก็แล้วยินดี

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 34 ปี
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 31 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
Jitraporn Tunsom
Jitraporn Tunsom
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 50 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 31 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
บุญตา สุอังคะวาทิน
บุญตา สุอังคะวาทิน
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 55 ปี

ผ่านหลักสูตร คุรุศาสตร๋มหาบัณฑิตด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 40 ปี
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
5 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
5 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

เรื่องราวของแขนบางแขน

บางเขน ชื่อเรียกที่คุ้นชินของคนในกรุงเทพมหานคร เดิมมีฐานะเป็นอำเภอ แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการปกครองเป็นส่วนท้องถิ่นในช่วงปีพุทธศักราช 2514 – 2515 จึงกลายเป็น เขตบางเขน ปัจจุบันเขตนี้มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 แขวง คือ แขวงอนุสาวรีย์ และแขวงท่าแร้ง โดยมีคลองกระเฉด คลองแพรเขียว และไผ่เขียวเป็นเส้นแบ่งเขต พื้นที่เขตบางเขนตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีอาณาเขตที่กว้างมากรองรับการขยายตัวของกรุงเทพตอนเหนือได้เป็นอย่างดี มีการสร้างถนนเพิ่มเติม ทั้งสายหลัก ทางพิเศษ สายรอง ทางลัด และการเข้าถึงของรถไฟฟ้าที่เข้าถึงในปัจจุบันคือ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท โดยมีสถานีที่ให้บริการคือ สถานีกรมทหารราบที่ 11, สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ, สถานีพหลโยธิน 59, สถานีสายหยุด และสถานีสะพานใหม่ รวมถึงโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นับได้ว่าเป็นเขตที่มีความเจริญทางการคมนาคมสูง จึงทำให้มีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การแพทย์ การศึกษา การค้า และหน่วยงานราชการ ฯลฯ ตั้งอยู่หลายแห่งด้วยกัน เช่น
- “ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต” : เป็นสถานศึกษาที่คอยบ่มเพาะเด็กที่ตั้งอยู่ที่ 69 หมู่6 ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้งเขตบางเขน ก่อตั้งขึ้นโดยพระครูภาวนาภิธาน เมื่อปีพุทธศักราช 2518 บนเนื้อที่ 2 ไร่ และดูแลโดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต โรงเรียนแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กในชุมชนได้เรียนหนังสือ ได้รับการอบรมสั่งสอนในทางที่ถูกต้อง โดยเน้นใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการฝึกสมาธิ ปัญญา และปลูกฝังคุณธรรมให้กับเด็ก เพื่อเติบโตเป็นคนดีของสังคม โรงเรียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ให้การศึกษากับเด็ก แต่ยังถือว่าเป็นศูนย์รวมใจของคนในชุมชนนี้ - สนามมวยเวทีลุมพินี : เป็นสถานที่ที่เป็นจุดรวมตัวของผู้ใหญ่ในช่วงการแข่งขันชกมวย ตั้งอยู่ในพื้นที่ของศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน สนามแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2499 ที่มีการชกทั้งมวยไทย และสากล โดยจัดให้มีการชกทุกวันอังคาร และวันศุกร์ เวลา 18.00 – 22.00 น. และวันเสาร์ เวลา 16.00 – 24.30 น. เว้นวันสำคัญทางศาสนา



สถานที่สำคัญทางศาสนาในเขตบางเขน

เขตบางเขน เป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร มีอาณาเขตกว้างขวางประกอบกับมีชุมชน ย่านการค้า และอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในท้องที่ จึงมีสถานที่สำคัญทางศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น

-วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร: ตั้งอยู่ที่ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 ได้รับอนุญาตให้สร้างเป็นที่สำนักสงฆ์ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2484 ที่ดินของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รวมเนื้อที่ทั้งหมด 226 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวา เดิมมีชื่อว่า “วัดประชาธิปไตยฎ เนื่องจากสร้างขึ้นบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นรัฐบาลได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ กิ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์และดินดังกล่าวมาประดิษฐานที่วัด จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระศรีมหาธาตุ”

-วัดบางบัว: ตั้งอยู่ที่ 50 ซอยไวปรีชา ถนนพหลโยธิน 46 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัดบางบัวสร้างประมาณพุทธศักราช 2380 บนเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 7 ตารางวา แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดลาดน้ำเค็ม วัดบางบัวมีโครงการต่าง ๆ มากมาย เช่น โครงการบวชอุบาสิกาแก้วของวัดพระธรรมกาย โครงการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เป็นต้น ให้กับประชาชนได้ร่วมกันปฏิบัติธรรม

-วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต: ตั้ง 69 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ดำเนินการก่อสร้างเมื่อ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2512 มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 31 ไร่ 2งาน 62 ตารางวา ชื่อของวัดนั้นมีที่มาจากคำว่า "ศิริพงษ์" เป็นนามสกุลของผู้บริจาคที่ดิน ส่วนคำว่า "ธรรมนิมิต" เพราะต้องการให้วัดเป็นวัดปฏิบัติธรรมสมถะวิปัสสนาและศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ในย่านบางเขนยังคงมีวัดอื่นอีกมากมายให้ประชาชนในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบได้เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจ และร่วมฟังธรรมในช่วงวันสำคัญต่าง ๆ



สื่ออิเล็กทรอนิกส์กับเด็กในยุคสมัยใหม่

ในยุคปัจจุบันนี้เรามักจะมองเห็นเด็กกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาคู่กันเสมอ เพราะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทได้กลายมาเป็นเพื่อนคลายเหงา และเครื่องฆ่าเวลาของเด็กในยุคนี้ไปแล้ว หากมีการใช้และเรียนรู้อย่างไม่ถูกวิธี อาจเป็น “ดาบสองคม” เพราะสื่อทุกชนิดมีทั้งประโยชน์และโทษ หนึ่งในข้อเสียนั้นคือ กลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่บ่อยครั้งที่สุดจะมีความเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองเพิ่มขึ้นถึง 40% อ้างอิงจาก ที่นี่

นอกจากนั้นการวิจัยของ นายแพทย์วีระศักดิ์ ชลไชยะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน กุมารเวช (พัฒนาการและพฤติกรรม) พบว่าเด็กแรกเกิดถึงอายุ 2 ปี ยังไม่สามารถแปลงภาพและเสียงที่ได้ยินจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้กับโลกแห่งความเป็นจริงได้ด้วยตนเอง ในขณะที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองนั้นยังคงวุ่นวายกับการทำงาน ติดต่อธุรกิจเพื่อหาเงินมาจุนเจือภายในครอบครัว หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่จะต้องคอยดูแลความสะอาดบ้าน และความเรียบร้อยภายในบ้าน ทำให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองบางคนตัดสินใจเลือกจ้างพี่เลี้ยงหรือบุคคลที่สามารถคอยดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกได้ เพราะเห็นถึงข้อเสียในการปล่อยให้เด็กใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยคำแนะนำนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในหลายๆด้าน เช่น การเกิดอารมณ์รุนแรง พฤติกรรมลอกเลียนแบบ เป็นต้น

การจ้างพี่เลี้ยงเด็กถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับพ่อ แม่สมัยใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน หรือแม้แต่ทำงานที่บ้าน ที่ออฟฟิศเอง ที่ต้องใช้สมาธิและไม่ต้องการให้ลูกมารบเร้าขณะทำงาน แทนการหยิบยื่นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ลูก แต่การมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำขณะใช้งานถือเป็นสิ่งจำเป็นกว่า และยิ่งไปกว่านั้นหากมีใครสักคนที่สามารถชักจูงเด็ก ให้มีเวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เล่นเกมที่ใช้การคิดวิเคราะห์มากกว่า จะเป็นผลดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพตา สุขภาพจิตและส่งผลทางด้านพัฒนาการของเด็กได้ดีกว่า เพียงแต่ต้องมีการคัดกรองพี่เลี้ยงที่มีประวัติดี เชื่อถือได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคต