ดูแลเด็ก ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลเด็ก ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 20 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
ณัชฐิชา เรืองเกษม
ณัชฐิชา เรืองเกษม
Saijai อายุ 27 ปี

1. เป็นคนที่ friendly ใจดี เข้ากับคนทั่วไปได้ง่าย

2. รักและเอ็นดูเด็กเป็นพิเศษ

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ปทิตตา เข็มทอง
ปทิตตา เข็มทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 51 ปี

รักเด็ก ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ตรงไปตรงมา ค่าจ้างไม่รวมเบี้ยเลี้ยง

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
ภาวิณี  พรมสี
ภาวิณี พรมสี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบและต้องใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็ก อายุ 1 ปี 5 เดื่อน และ 2 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 23 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ทำความรู้จักเขตราษฎร์บูรณะ

เขตราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ทิศตะวันตกบนฝั่งธนบุรี มีแม่น้ำพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำที่สำคัญของประเทศไทย กั้นอาณาเขตทิศเหนือและทิศตะวันตก ทำให้เขตธนบุรี เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา และ อำเภอพระประแดงของจังหวัดสมุทรปราการแยกออกจากเขตนี้ ทิศใต้ติดกับเขตทุ่งครุ และทิศตะวันตกติดเขตจอมทอง เขตพื้นที่นี้มีที่สำคัญข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครนั้นคือ สะพานพระราม9 ที่ถูกสร้างขึ้นในรัชกาลที่9 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร) ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ใน ปี พ.ศ. 2530

อดีตมีพื้นที่ถึง 42.87 ตารางกิโลเมตร แต่มีการขยายเมืองในกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดการกระจายตัวของประชากรจึงเกิดการปรับเปลี่ยนแบ่งพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับเขตธนบุรี เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ และตั้งเขตทุ่งครุ ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่เพียง15.782 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม ชาวบ้านจึงมีอาชีพทำสวน เช่น ปลูกส้ม มะพร้าว ฯลฯ และมีการแบ่งเขตการปกครองเป็นสองแขวง คือ แขวงราษฎร์บูรณะ และแขวงบางปะกอก ซึ่งผู้คนจะอาศัยอยู่ที่พื้นที่แขวงบางปะกอกมากกว่า

สมัยโบราณตอนไม่มีถนน ชาวบ้านใช้วิธีการเดินทางด้วยทางน้ำเท่านั้น เพื่อทำมาค้าขาย ส่งสินค้า ทั้งเรือพายเรือแจวหรือเรือยนต์ กาลเวลาผ่านไปทำให้การคมนาคมถูกพัฒนามีการสร้างถนนสำคัญทั้ง สายหลัก ได้แก่ ถนนสุขสวัสดิ์ , ถนนราษฎร์บูรณะ และถนนประชาอุทิศ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1 หรือ "ทางด่วน 1") ส่วนสายรองได้แก่ ถนนราษฎร์พัฒนา, ถนนสุขสวัสดิ์ 13 และถนนจอมทอง-บูรณะ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้น นอกจากนั้นเขตนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น วัด โรงเรียน วิทยาลัย สะพาน อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาลอีกด้วย



เทคนิคในการเลือกโรงเรียนให้เด็ก

กล่าวถึงการเลือกโรงเรียนให้เด็กนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรวินิจพิจารณาในหลาย ๆด้าน โดยเฉพาะเด็กอนุบาล ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้คนส่วนใหญ่มักมองเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักเช่น มีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ระบบการรับส่งเข้าเรียน การฆ่าเชื้อโรค ฯลฯ แต่ยังมีเรื่องราวอีกหลายด้านที่ไม่ควรมองข้ามก่อนทำการตัดสินใจ อาทิ

- ตัวเด็ก เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกโรงเรียน พ่อ แม่ ควรสังเกตลักษณะความถนัดของเด็ก รวมไปถึงจุดเเข็ง จุดอ่อนเพราะเด็กทุกคนไม่เหมือนกัน และไม่ได้เหมาะกับโรงเรียนทุกที่ ไม่ควรเลือกตามใจ พ่อ แม่ อยากให้เรียนเท่านั้น เช่น ลูกถนัดสายภาษา แต่ถูกบังคับให้เรียนสายวิทย์, ลูกถนัดสายอาชีพ แต่ให้เรียนสายสามัญ ลูกคนโตประสบความสำเร็จ อยากให้ลูกคนถัดไปเดินตามรอยพี่ เป็นต้น การถูกบังคับเหล่านี้มักก่อผลเสียแกเด็ก ทั้งด้านผลการเรียนไม่ดี ไม่ตั้งใจเรียน หรือบางรายอาจถึงขั้นเรียนไม่จบ ต้องลาออกก่อน ทำให้เด็กเสียเวลาการเรียนไปเป็นปี ๆ

-ระยะทาง ไม่ควรเลือกโรงเรียนที่ห่างจากบ้านหรือที่ทำงานพ่อ แม่ ไกลเกินไป เพราะต้องตื่นเช้า และกลับเย็นค่ำ ส่งผลให้เด็กเพลียจากการเดินทาง ไม่มีเวลาทำการบ้าน ทบทวนบทเรียน เล่นกับเพื่อน หรือ ออกกำลังกาย

-ค่าเทอม ควรเลือกตามความเหมาะสมของฐานะแต่ละครอบครัว ครอบครัวใดมีฐานะทางการเงินดีมักเลือกโรงเรียนเอกชนเพราะถือหลักการลงทุนด้านการศึกษาให้กับลูกเป็นเรื่องที่ดี แต่หากครอบครัวที่มีปัญหาทางด้านการเงิน สามารถเลือกโรงเรียนรัฐบาลที่มีมาตรฐานได้

-ติดตามข่าวสารโรงเรียนรวมถึงชื่อเสียง ควรหาข้อมูลของโรงเรียน ติดตามข่าวการทำกิจกรรมของเด็ก และชื่อเสียงของโรงเรียน บางโรงเรียนอาจพบชื่อเสียงที่ไม่ดี แต่หากผู้บริหารสามารถหาทางออกที่ดี หรือมีมาตรการ การแก้ไข วิธีการออกมายอมรับผิดชอบต่าง ๆ ให้กับโรงเรียนได้ดีหรือไม่ หรือ พ่อ แม่ ผู้ปกครองสา
มารถสอบถามข้อมูลประสบการณ์จากหลาย ๆ เสียง ที่เคยเรียนโรงเรียนนี้

-นโยบาย หลักสูตร เป้าหมายของโรงเรียน ไม่ควรตรึงเคลียด เน้นวิชาการมากเกินไป ควรดูว่าเหมาะสมกับเด็กหรือไม่ เช่น เน้นภาษา กีฬา หรือ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น

-สภาพแวดล้อม บรรยากาศห้องเรียน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ มีสนามหญ้าให้เด็กได้วิ่งเล่น

การที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองเป็นส่วนใหญ่ ให้ความเอาใจใส่เรื่องการพิจารณาโรงเรียนก่อนเข้าเรียนจึงเป็นเรื่องที่ดี และเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้ โรงเรียนแต่ละที่ ต่างต้องทำมาตรฐานของโรงเรียนตัวเองให้อยู่ในเกณฑ์ดีอยู่สม่ำเสมออีกด้วย



เด็กไทยอ่านหนังสือไม่ออก พ่อ แม่ มีส่วนช่วยได้อย่างไร

การอ่าน เป็นสิ่งสำคัญของพัฒนาการทางสมอง ที่เกี่ยวข้องกับการคิด การกระทำ และความรู้สึก เช่น การควบคุมอารมณ์ การยืดหยุ่นทางความคิด การจดจำ และเรียกใช้ข้อมูลอย่างมีระบบ การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่าง ๆ และการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จนบรรลุความสำเร็จ ซึ่งจะมีผลกับเด็กเมื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

จากผลการสำรวจ สถิตเด็กไทยในปัจจุบันในวัยเรียน มักมีปัญหาอ่านไม่ออกหรือ อ่าน เขียนไม่คล่อง ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตข้างหน้า อ้างอิงจาก สถาบันอุทยานการเรียนรู้ “ทีเคพาร์ค” (TK park)

ซึ่งปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจากทางภาครัฐ โรงเรียน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และตัวเด็กเอง อาทิ

-ภาครัฐ โรงเรียน และผู้เกี่ยวข้อง

ควรมีการตรวจสอบด้านหลักสูตร วิธีการจัดการเรียนการสอน และลงไปดูในรายละเอียดถึงสาเหตุและสภาพแวดล้อมของตัวเด็กเป็นรายคน จะได้วิเคราะห์ หาทางแก้ปัญหาอ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านไม่คล่องได้ตรงจุด

-พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และตัวเด็กเอง

สิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้คือ การส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่ยังอ่านไม่ออก ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กอยู่ในท้อง เด็กทารกจะสามารถจดจำเสียงของพ่อ แม่ ได้ และนำมาต่อยอดความรู้ให้เด็กก่อนการเข้าเรียน ซึ่งเป็นวัยที่สำคัญเปรียบเสมือนผ้าขาว ที่เติมแต่งอะไรเข้าไปก็คล้อยตามนั้น ด้วยวิธีการเบี่ยงเบนความสนใจเด็กยุคใหม่ที่ติดสื่อดิจิตอล โดยสร้างบรรยากาศ ให้เหมาะสม เช่น จัดโซนพื้นที่ห้องสมุดในบ้าน ชั้นวางหนังสือสีสันเพื่อเป็นที่ดึงดูด มีสมุดภาพหรือหนังสือนิทานที่เน้นไปทางภาพมากกว่าตัวหนังสือ ทำกิจกรรมอ่านหนังสือพร้อมกับเด็ก เปิดโอกาสให้เด็กซักถาม ในเรื่องที่สงสัย หรือโยนคำถามให้เด็ก และมีคำตอบในแง่ของการอธิบาย ให้ความคิดเห็นร่วมกัน เสริมคติเตือนใจ สำหรับคำตอบนั้นไม่ควรมีใครถูกหรือผิด จะทำให้เด็ก กล้าตอบ มีความไว้ใจเล่าความคิดให้ฟัง เมื่อเกิดความเข้าใจ รับฟังขึ้น และที่สำคัญคือ ไม่กดดัน ไม่บังคับอ่านให้จำในทันที หรือเปรียบเทียบเด็กที่อ่านออกได้ก่อน เป็นต้น วิธีการเหล่านี้สามารถทำให้เด็กเล็กมีความรู้สึกดีและสนุกกับการอ่านหนังสือ ไม่เบื่อง่าย และมีความอยากอ่านหนังสือได้เองในวัยต่อไป