ดูแลเด็ก ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ณัฐวรินทร์ ภานุโรจนรัศมี
ณัฐวรินทร์ ภานุโรจนรัศมี
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี

รักเด็ก, ใจเย็น, ละเอียด, รักสะอาด, ยืดหยุ่น, รับฟังและพร้อมเรียนรู้

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 34 ปี
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 48 ปี
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 58 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 40 ปี
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 31 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
5 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
5 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
5 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ทำความรู้จักเขตราษฎร์บูรณะ

เขตราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ทิศตะวันตกบนฝั่งธนบุรี มีแม่น้ำพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำที่สำคัญของประเทศไทย กั้นอาณาเขตทิศเหนือและทิศตะวันตก ทำให้เขตธนบุรี เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา และ อำเภอพระประแดงของจังหวัดสมุทรปราการแยกออกจากเขตนี้ ทิศใต้ติดกับเขตทุ่งครุ และทิศตะวันตกติดเขตจอมทอง เขตพื้นที่นี้มีที่สำคัญข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครนั้นคือ สะพานพระราม9 ที่ถูกสร้างขึ้นในรัชกาลที่9 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร) ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ใน ปี พ.ศ. 2530

อดีตมีพื้นที่ถึง 42.87 ตารางกิโลเมตร แต่มีการขยายเมืองในกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดการกระจายตัวของประชากรจึงเกิดการปรับเปลี่ยนแบ่งพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับเขตธนบุรี เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ และตั้งเขตทุ่งครุ ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่เพียง15.782 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม ชาวบ้านจึงมีอาชีพทำสวน เช่น ปลูกส้ม มะพร้าว ฯลฯ และมีการแบ่งเขตการปกครองเป็นสองแขวง คือ แขวงราษฎร์บูรณะ และแขวงบางปะกอก ซึ่งผู้คนจะอาศัยอยู่ที่พื้นที่แขวงบางปะกอกมากกว่า

สมัยโบราณตอนไม่มีถนน ชาวบ้านใช้วิธีการเดินทางด้วยทางน้ำเท่านั้น เพื่อทำมาค้าขาย ส่งสินค้า ทั้งเรือพายเรือแจวหรือเรือยนต์ กาลเวลาผ่านไปทำให้การคมนาคมถูกพัฒนามีการสร้างถนนสำคัญทั้ง สายหลัก ได้แก่ ถนนสุขสวัสดิ์ , ถนนราษฎร์บูรณะ และถนนประชาอุทิศ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1 หรือ "ทางด่วน 1") ส่วนสายรองได้แก่ ถนนราษฎร์พัฒนา, ถนนสุขสวัสดิ์ 13 และถนนจอมทอง-บูรณะ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้น นอกจากนั้นเขตนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น วัด โรงเรียน วิทยาลัย สะพาน อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาลอีกด้วย



เทคนิคในการเลือกโรงเรียนให้เด็ก

กล่าวถึงการเลือกโรงเรียนให้เด็กนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรวินิจพิจารณาในหลาย ๆด้าน โดยเฉพาะเด็กอนุบาล ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้คนส่วนใหญ่มักมองเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักเช่น มีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ระบบการรับส่งเข้าเรียน การฆ่าเชื้อโรค ฯลฯ แต่ยังมีเรื่องราวอีกหลายด้านที่ไม่ควรมองข้ามก่อนทำการตัดสินใจ อาทิ

- ตัวเด็ก เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกโรงเรียน พ่อ แม่ ควรสังเกตลักษณะความถนัดของเด็ก รวมไปถึงจุดเเข็ง จุดอ่อนเพราะเด็กทุกคนไม่เหมือนกัน และไม่ได้เหมาะกับโรงเรียนทุกที่ ไม่ควรเลือกตามใจ พ่อ แม่ อยากให้เรียนเท่านั้น เช่น ลูกถนัดสายภาษา แต่ถูกบังคับให้เรียนสายวิทย์, ลูกถนัดสายอาชีพ แต่ให้เรียนสายสามัญ ลูกคนโตประสบความสำเร็จ อยากให้ลูกคนถัดไปเดินตามรอยพี่ เป็นต้น การถูกบังคับเหล่านี้มักก่อผลเสียแกเด็ก ทั้งด้านผลการเรียนไม่ดี ไม่ตั้งใจเรียน หรือบางรายอาจถึงขั้นเรียนไม่จบ ต้องลาออกก่อน ทำให้เด็กเสียเวลาการเรียนไปเป็นปี ๆ

-ระยะทาง ไม่ควรเลือกโรงเรียนที่ห่างจากบ้านหรือที่ทำงานพ่อ แม่ ไกลเกินไป เพราะต้องตื่นเช้า และกลับเย็นค่ำ ส่งผลให้เด็กเพลียจากการเดินทาง ไม่มีเวลาทำการบ้าน ทบทวนบทเรียน เล่นกับเพื่อน หรือ ออกกำลังกาย

-ค่าเทอม ควรเลือกตามความเหมาะสมของฐานะแต่ละครอบครัว ครอบครัวใดมีฐานะทางการเงินดีมักเลือกโรงเรียนเอกชนเพราะถือหลักการลงทุนด้านการศึกษาให้กับลูกเป็นเรื่องที่ดี แต่หากครอบครัวที่มีปัญหาทางด้านการเงิน สามารถเลือกโรงเรียนรัฐบาลที่มีมาตรฐานได้

-ติดตามข่าวสารโรงเรียนรวมถึงชื่อเสียง ควรหาข้อมูลของโรงเรียน ติดตามข่าวการทำกิจกรรมของเด็ก และชื่อเสียงของโรงเรียน บางโรงเรียนอาจพบชื่อเสียงที่ไม่ดี แต่หากผู้บริหารสามารถหาทางออกที่ดี หรือมีมาตรการ การแก้ไข วิธีการออกมายอมรับผิดชอบต่าง ๆ ให้กับโรงเรียนได้ดีหรือไม่ หรือ พ่อ แม่ ผู้ปกครองสา
มารถสอบถามข้อมูลประสบการณ์จากหลาย ๆ เสียง ที่เคยเรียนโรงเรียนนี้

-นโยบาย หลักสูตร เป้าหมายของโรงเรียน ไม่ควรตรึงเคลียด เน้นวิชาการมากเกินไป ควรดูว่าเหมาะสมกับเด็กหรือไม่ เช่น เน้นภาษา กีฬา หรือ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น

-สภาพแวดล้อม บรรยากาศห้องเรียน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ มีสนามหญ้าให้เด็กได้วิ่งเล่น

การที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองเป็นส่วนใหญ่ ให้ความเอาใจใส่เรื่องการพิจารณาโรงเรียนก่อนเข้าเรียนจึงเป็นเรื่องที่ดี และเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้ โรงเรียนแต่ละที่ ต่างต้องทำมาตรฐานของโรงเรียนตัวเองให้อยู่ในเกณฑ์ดีอยู่สม่ำเสมออีกด้วย



เด็กไทยอ่านหนังสือไม่ออก พ่อ แม่ มีส่วนช่วยได้อย่างไร

การอ่าน เป็นสิ่งสำคัญของพัฒนาการทางสมอง ที่เกี่ยวข้องกับการคิด การกระทำ และความรู้สึก เช่น การควบคุมอารมณ์ การยืดหยุ่นทางความคิด การจดจำ และเรียกใช้ข้อมูลอย่างมีระบบ การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่าง ๆ และการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จนบรรลุความสำเร็จ ซึ่งจะมีผลกับเด็กเมื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

จากผลการสำรวจ สถิตเด็กไทยในปัจจุบันในวัยเรียน มักมีปัญหาอ่านไม่ออกหรือ อ่าน เขียนไม่คล่อง ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตข้างหน้า อ้างอิงจาก สถาบันอุทยานการเรียนรู้ “ทีเคพาร์ค” (TK park)

ซึ่งปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจากทางภาครัฐ โรงเรียน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และตัวเด็กเอง อาทิ

-ภาครัฐ โรงเรียน และผู้เกี่ยวข้อง

ควรมีการตรวจสอบด้านหลักสูตร วิธีการจัดการเรียนการสอน และลงไปดูในรายละเอียดถึงสาเหตุและสภาพแวดล้อมของตัวเด็กเป็นรายคน จะได้วิเคราะห์ หาทางแก้ปัญหาอ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านไม่คล่องได้ตรงจุด

-พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และตัวเด็กเอง

สิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้คือ การส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่ยังอ่านไม่ออก ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กอยู่ในท้อง เด็กทารกจะสามารถจดจำเสียงของพ่อ แม่ ได้ และนำมาต่อยอดความรู้ให้เด็กก่อนการเข้าเรียน ซึ่งเป็นวัยที่สำคัญเปรียบเสมือนผ้าขาว ที่เติมแต่งอะไรเข้าไปก็คล้อยตามนั้น ด้วยวิธีการเบี่ยงเบนความสนใจเด็กยุคใหม่ที่ติดสื่อดิจิตอล โดยสร้างบรรยากาศ ให้เหมาะสม เช่น จัดโซนพื้นที่ห้องสมุดในบ้าน ชั้นวางหนังสือสีสันเพื่อเป็นที่ดึงดูด มีสมุดภาพหรือหนังสือนิทานที่เน้นไปทางภาพมากกว่าตัวหนังสือ ทำกิจกรรมอ่านหนังสือพร้อมกับเด็ก เปิดโอกาสให้เด็กซักถาม ในเรื่องที่สงสัย หรือโยนคำถามให้เด็ก และมีคำตอบในแง่ของการอธิบาย ให้ความคิดเห็นร่วมกัน เสริมคติเตือนใจ สำหรับคำตอบนั้นไม่ควรมีใครถูกหรือผิด จะทำให้เด็ก กล้าตอบ มีความไว้ใจเล่าความคิดให้ฟัง เมื่อเกิดความเข้าใจ รับฟังขึ้น และที่สำคัญคือ ไม่กดดัน ไม่บังคับอ่านให้จำในทันที หรือเปรียบเทียบเด็กที่อ่านออกได้ก่อน เป็นต้น วิธีการเหล่านี้สามารถทำให้เด็กเล็กมีความรู้สึกดีและสนุกกับการอ่านหนังสือ ไม่เบื่อง่าย และมีความอยากอ่านหนังสือได้เองในวัยต่อไป