ดูแลเด็ก ใน สาทร, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน สาทร, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์เป็นครูศูนย์ 8 ปี พี่เลี้ยงเสริมพัฒนาการเด็ก แถวๆ หมู่บ้าน ดูแลเด็ก 2 ขวบขึ้น

แสดงเพิ่มเติม
อาซียะห์  บินฮะเก็ต
อาซียะห์ บินฮะเก็ต
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 30 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วค่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ใจเย็น รักเด็ก พูดคุยและเสริมพัฒนาการเด็กได้ดี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กทั้งแรกเกิดและเด็กโต 5ปี ใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และปรับตัวเข้ากับผู้คนได้ง่าย ซื่อสัตย์

แสดงเพิ่มเติม
ศิตอร  ภูสุวรรณ
ศิตอร ภูสุวรรณ
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก เคยดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 8 ขวบค่ะ ชงนม ป้อนข้าว อาบน้ำ ดูแลทั่วไปค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Nisachon Chuaykhun
Nisachon Chuaykhun
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
พัชรี   อ่อนศรี
พัชรี อ่อนศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ

เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ

ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ

ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ

เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุนีย์  กอศรีสกุล
สุนีย์ กอศรีสกุล
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 52 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.

แสดงเพิ่มเติม
ปราณี  ต่วนลา
ปราณี ต่วนลา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ดูแลได้ตั้งแต่แรกเกิด - 10 ขวบ - ดูแลเด็กต่างชาติ มาเลย์ ดูไบ ออสเตรเลีย

ประมาณ 2 ปี กว่า ทำงานที่นี่ เพราะ อยากใช้เวลาว่าง สร้างรายได้เสริมคะ.

-อุปนิสัย

มองโลก เชิงบวก,ใจเย็น,พร้อมเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ

-สามารถ ว่ายน้ำ,ทำอาหาร,ขับรถมอเตอร์ไซค์,ขับรถยนต์ มีใบขับขี่.

แสดงเพิ่มเติม
Beya Ruangdech
Beya Ruangdech
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สามารถเล่นกับเด็ก ๆ เสริมพัฒนาการทุก ๆ ด้าน

แสดงเพิ่มเติม
กัญญารัตน์  สาธรณ์
กัญญารัตน์ สาธรณ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ดิฉันชื่อหวาน ค่ะรักเด็กชอบอยู่กับเด็ก มีความอดทนสูงเป็นคนใจเย็นค่ะ มีประสบการการทำงานcall center มา2ปี6เดือนค่ะวันหยุดมีสอนพิเศษวิชาสังคมภาษาไทยให้เด็กอนุบาลกับน้องวัยประถม เคยเลี้ยงหลานมา3ปี สามารถสอนหนังสือเพิ่มเติมให้น้องได้ค่ะหากทางผู้ปกครองของน้องต้องการ

แสดงเพิ่มเติม

คุณแม่มี passion ในการดูแลเด็ก และชอบเล่นกับเด็กๆมาก มีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้เวลากับเด็กๆ ด้วยประสบการณ์เลี้ยงลูกคนเดียวกว่า 10 ปี" - ปลอดภัย ไว้ใจได้ มีที่อยู่แน่นอน (ยินดีมอบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านให้แก่ผู้ว่าจ้าง)- สามารถสอนทำการบ้านทุกวิชา (กรณีหลักสูตรอินเตอร์อาจจะไม่ 100% นะคะ)- สามารถ request activities ได้ เช่น สอนอ่าน-เขียน ตีแบด ขี่จักรยาน เย็บปัก เป็นต้น- ให้คำปรึกษา วางแผนในการเลี้ยงดูได้- พาออกไปเที่ยวนอกสถานที่ (เบิกค่าใช้จ่ายตามจริง + ค่าเดินทาง) เช่น Haborland ดูหนัง เป็นต้น- ทำอาหาร และล้างจาน- ซื้อของใช้เข้าบ้าน (เบิกราคาตามจริง + ค่าเดินทาง) ส่วนเพิ่มเติม- เปลี่ยนผ้าปูที่นอน 100 บาท/ห้อง- กวาดถูบ้าน 400 บาท/ครั้ง (ไม่รวมล้างห้องน้ำ)- ซัก ตาก พับผ้า 200 บาท/ครั้ง

แสดงเพิ่มเติม
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 35 ปี
เจนจิรา เจริญลาภ
เจนจิรา เจริญลาภ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันชื่อเจนค่ะ รักเด็ก มีความอดทนสูง มีบุตรมาแล้วเข้าใจการดูแลเด็กค่ะ สามารถพาเด็กทำกิจกรรมที่มีประโยชน์กับเด็กค่ะ ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วค่ะ ฝากคุณลูกค้าพิจารณาด้วยนะคะ😊

แสดงเพิ่มเติม
Slin Vasinputt
Slin Vasinputt
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ตั้งใจทำงาน อยู่ในจริยธรรม ศีลธรรม งานพี่เลี้ยงเด็ก part time และรวมสอนไปด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
rasita pimpakorn
rasita pimpakorn
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
น้ำฝน จันทร์เจริญ
น้ำฝน จันทร์เจริญ

เป็นคนเรียนรู้ไวค่ะ สามารถทำงานตามที่บอกอย่างเต็มที่รักเด็ก เคยผ่านการมีลูกมาก่อนจะเลี้ยงเด็กให้เหมือนลูกตัวเองค่ะเพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่

แสดงเพิ่มเติม
ภาวิณี  พรมสี
ภาวิณี พรมสี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบและต้องใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็ก อายุ 1 ปี 5 เดื่อน และ 2 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati

Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ฉันเดินอยู่บนถนนสาทรใต้

เขตสาทร ชื่อนี้ในอดีตเคยใช้ตัวสะกดชื่อถนนว่า "สาธร" ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น "สาทร" ตามคำสะกดที่ถูกต้องเช่นในปัจจุบัน หากพูดถึงเขตสาทรนี้ ในความคิดของหลายๆ คนจะนึกถึง “ตึกสูงๆ ศูนย์รวมของธุรกิจของกรุงเทพมหานคร” แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ แรกเริ่มเดิมทีนั้น ที่มีการตัดถนนผ่าน โดยถนนสาทร เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2431 ในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพระราม 4 และถนนเจริญกรุง โดยได้ว่าจ้างกลุ่มกรรมการชาวจีนที่เข้ามาทำงานในสมัยนั้น เพื่อทำการขุด โดยเริ่มขุดจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก เรื่อยไปจนบรรจบกับคลองถนนตรงหรือคลองวัวลำพอง (ปัจจุบันถูกถมเป็นถนนพระรามที่ 4) และได้เรียกคลองที่ขุดขึ้นใหม่นี้ว่า "คลองเจ้าสัวยม" (คลองสาทรในปัจจุบัน) และได้นำดินที่ขุดคลองมาทำเป็นถนนอีกด้วย ต่อมาเจ้าสัวยมได้รับบรรดาศักดิ์และราชทินนามเป็น "หลวงสาทรราชายุตก์" จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อถนนนี้ว่า "ถนนสาทรราชายุตก์" รวมถึงคลอง คือ "คลองสาทรราชายุตก์" แต่ผู้คนนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า "สาทร" (ในขณะที่คำว่า "สาทร" ตามพจนานุกรมนั้นหมายถึง เอื้อเฟื้อ เอาใจใส่) และถือได้ว่าเป็นย่านเก่าแก่ของพ่อค้าชาวจีนและชาวยุโรปที่เข้ามาในช่วงเวลานั้น จึงทำให้บ้านในบริเวณสาทรจะเป็นทรงตะวันตกและสร้างแบบตามๆ กันขึ้นหลายหลัง และในบางหลังก็ยังเป็นอาคารเก่าแก่จนถึง ปัจจุบัน เช่นอาคารหอการค้าไทย-จีน ในอดีตอาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของห้างบอมเบย์เบอร์มา (บอมเบย์ เบอร์มา เทรดดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2406) ก่อนจะถูกซื้อต่อโดยกลุ่มนักธุรกิจไทย-จีนเพื่อเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของหอการค้าไทย-จีนในช่วงรัชสมัยของ รัชกาลที่ 6 ในปี พ.ศ. 2484 อาคารแห่งนี้ถูกใช้เป็นคอมเมิร์ชเซ็นเตอร์โดยทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบัน เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ได้ซื้อและบูรณะอาคารนี้ครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ. 2545 เพื่อเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและโรงเรียนสอนการประกอบอาหารไทย บลู เอเลฟเฟ่นต์ จนถึงปัจจุบัน จากตึกเก่า สู่อาคารสำนักงานสมัยใหม่ สูงเสียดฟ้า ถนนสาทรมีสองฝั่ง ฝั่งสาทรใต้จะอยู่ในเขตสาทร จำง่ายๆ ว่าฝั่งที่มีโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์คือฝั่งใต้ ถ้าจะนึกถึงแลนด์มาร์ค ครั้งหนึ่งก็คงจะเป็น ตึกหุ่นยนตร์ สัญญลักษณ์ของความทันสมัย (สมัยก่อน) บนสาทร ก่อนที่จะถูกอาคารใหม่ๆ เข้ามาบดบัง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเติบโตเลย เขตสาทร วันนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นย่านอาคารสำนักงานจากกลุ่มบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ และสถานทูต สถานกงศุล นับได้ว่าเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจหรือซีบีดี (Central Business District : CBD) อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร



สัญลักษณ์ของความทันสมัย บนสาทร

สัญลักษณ์ของความทันสมัย บนสาทร ภาพถ่ายด้วยฟิล์มอัลฟ่า แม้จะออกโทนสีเหลืองบ่งบอกถึงความเก่าไปบ้างแล้ว แต่หากนับเวลาจริงที่ได้บันทึกภาพนี้ไว้ คงเป็นเวลาที่ตื่นตาตื่นใจ พ.ศ.2529 เช้าวันที่อากาศสดใสอาคารหุ่นยนต์ดูใจดี ปรากฏขึ้นบนถนนสาทรใต้ บันทึกความทรงจำ อาคารสูง 20 ชั้นยืนสงบ บนถนนย่านธุรกิจที่กำลังเจริญเติบโต และแล้ววันเวลาก็ผ่านมากว่า 30 ปี ผ่านมือจากธนาคารเอเซีย สู่ ธนาคาร ยูโอบี (ประเทศไทย) ผู้ออกแบบอาคารนี้คือ ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (สถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย) ตึกก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2529 ด้วยรูปทรงอาคารที่สะท้อนถึงการต่อต้านแบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก (ศตวรรษที่ 18-20) และโพสต์โมเดิร์น (แนวความคิดที่มาหลังจากยุค modern ซึ่งเป็นช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม) ล้ำสมัย ด้วยองค์ประกอบทั้งการลดระดับของผนัง เสาอากาศ และดวงตา จึงทำให้รูปทรงกายภาพภายนอกของอาคารดูเหมือน หุ่นยนต์ อย่างชัดเจน ความเป็นมาของอาคารนี้เริ่มขึ้นจาก ผู้บริหารธนาคารเอเซียในขณะนั้นต้องการอาคารที่สื่อออกถึงยุคสมัยใหม่และโลกแห่งคอมพิวเตอร์ของธนาคาร ซึ่ง ดร.สุเมธ ได้แรงบันดาลใจมาจากของเล่นของบุตรชาย แต่ ดร.สุเมธเขียนไว้ว่าอาคารของเขา "ไม่จำเป็นต้องเป็นหุ่นยนต์" และ "พื้นที่ของการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ " ก็เพียงพอแล้วตราบเท่าที่พวกเขาสามารถ "ปลดปล่อยจิตวิญญาณจากความอับจนทางปัญญาในปัจจุบันและขับเคลื่อนไปสู่ศตวรรษหน้า" (หน้าที่ 79 Sumet Jumsai. "Building Study: Bank of Asia, Bangkok.") อาจารย์ ได้เขียนว่าการออกแบบของเขาอาจถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง: แทนที่จะจัดแสดงผลงานภายในของอาคารเขาเลือกที่จะประดับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปด้วยชิ้นส่วนเครื่องจักรกล อาคารของเขา อาจารย์แสดงความขัดแย้งและต่อต้านวิสัยทัศน์ของเครื่องจักรในศตวรรษที่ 20 ในฐานะ "องค์กรที่แยกจากกัน" ซึ่งมักจะ "ยกระดับบนแท่นเพื่อการสักการบูชา" โดยการกลายเป็น "ส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราเพื่อนตัวเอง" ทำให้ หนทางสำหรับการผสมผสานระหว่างเครื่องจักรและมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 ตึกหุ่นยนต์ได้รับเลือกจากพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย นครลอสแอนเจลิส ให้เป็นหนึ่งใน 50 อาคารที่สมบูรณ์แห่งศตวรรษ อาคารยังส่งผลให้ ดร.สุเมธ ได้รับรางวัลจากบัณฑิตยสภาสถาปัตยกรรมและการออกแบบแห่งชิคาโก (Athenaeum Museum of Architecture and Design) ซึ่งเป็นรางวัลที่คนไทยรับเป็นคนแรก นอกจากนั้น หนังสือ Encyclopedia of 20th Century Architecture (Copyright Year 2004) ของนายสตีเฟน เซนนอตต์ ได้ระบุอาคารนี้ว่า "เป็นการยกระดับงานสถาปัตยกรรมไทยให้ได้รับความจดจำไปทั่วโลก" และยังติดหนึ่งใน 24 อันดับ สถาปัตยกรรมที่อัปลักษณ์ที่สุดของโลกเคียงคู่กับ ตึกช้าง วันนี้แม้ความสง่างามได้ถูกบดบังด้วยอาคารอื่นๆ รอบข้าง หรือแม้แต่รถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านหน้าอาคาร แต่อาคารนี้ก็เป็นภาพแห่งความทรงจำของเด็กๆ หลายคน



7 เคล็ดลับในการเตรียมตัวสำหรับการเปิดเทอมวันแรก

วันสำคัญก็มาถึงเมื่อลูกออกจากอ้อมอกพ่อแม่ การออกไปเรียนชั้นอนุบาล หรือเตรียมอนุบาล ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูก อาจเป็นก้าวแรกที่หนูๆ ออกจากบ้านหรือเปลี่ยนไปสู่สภาพแวดล้อมและเพื่อนใหม่ๆ แม้แต่การไปสู่โปรแกรมเรียนที่คุ้นเคยก็ยังมีความตื่นเต้น ความสุข และความวิตกกังวล ในช่วงอายุ 3 4 และ 5 ปีของการพัฒนา "การเปลี่ยนแปลง" สามารถนำมาซึ่งความรู้สึกและความคิด เด็กบางคนยอมรับและสนุกกับการเปลี่ยนแปลงมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม้แต่เด็กที่ "มีประสบการณ์" ส่วนใหญ่จะต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษในช่วงวันแรกและสัปดาห์แรกของการเข้าเรียน

ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณพ่อ คุณแม่สามารถทำได้เพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกออกไปสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่

1.หากมีโอกาสเยี่ยมชมโรงเรียนหรือห้องเรียนก่อนวันแรก ครูบางคนเชิญครอบครัวมาเยี่ยมก่อนเวลา ถ้าไม่มีให้เดินทางไปโรงเรียนเพื่อดูอาคารและสนามเด็กเล่น เพื่อให้ลูกๆ มีความคุ้นเคยกับสถานที่

2.อ่านหนังสือนิทานดีๆ เกี่ยวกับการเริ่มเรียน การอ่าน การเล่าเรื่องเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นให้มีการสอบถามพูดคุยเกี่ยวกับการไปโรงเรียน

3.ชวนพูดคุยกับบุตรหลานของเราเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับโรงเรียนเพื่อนครูและกิจกรรมใหม่ ๆ เช่น มีของเล่น มีสนามเด็กเล่น มีเพื่อนๆ เป็นต้น

4. ฝึกซ้อม การเรียนรู้วิธีเตรียมตัวให้พร้อมทุกเช้าสำหรับการเดินทางไปโรงเรียนต้องใช้เวลาและฝึกฝน การฝึกก่อนวันแรกจะเป็นประโยชน์ แสร้งทำเป็นว่าเป็นวันเรียนและทำตามขั้นตอนของการตื่นนอนแต่งตัวป้อนอาหารและออกไปที่ประตู ลองใช้แผนภูมิที่สามารถพิมพ์ได้นี้เพื่อช่วยให้บุตรหลานของคุณจดจำสิ่งที่เธอต้องทำ

5.ฝึกทักษะการช่วยเหลือตัวเองเช่นการแต่งกายการ การเปลี่ยนเสื้อผ้า (เวลาเข้าห้องน้ำ) และการล้างมือ ลูกของคุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อถูกขอให้ทำสิ่งเหล่านี้ที่โรงเรียน

6.ถามบุตรหลานของคุณว่าต้องการนำขนมชนิดใดไปโรงเรียนด้วย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

7.ไปซื้อของที่โรงเรียน ลองเสื้อผ้าและสินค้าสำหรับเด็ก เสมือนเตรียมไปโรงเรียน เหมือนกับการทำความคุ้นเคยว่าไปโรงเรียนต้องใส่ชุดแบบนี้นะ ไม่เร็วเกินไปที่จะเริ่มพิธีการซื้อชุดนักเรียน หรือกระเป๋าเป้สะพายหลัง ไม่จำเป็นต้องเป็นของที่มีราคาแพง แต่ให้มีความรู้สึกว่าหนูโตแล้ว วันหนึ่งหนูไปโรงเรียน