ดูแลเด็ก ใน นนทบุรี

ดูแลเด็ก ใน นนทบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

พิณธนารัตน์ ดิษผล
พิณธนารัตน์ ดิษผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

เป็นคนรักเด็ก เอาใจใส่เด็กทุกๆเรื่อง ใจเย็น ค่าจ้างเป็นเรทสำหรับทำงาน 8 ชั่วดมงต่อวัน

แสดงเพิ่มเติม
ชารีฟา พงศ์ยุโสะ
ชารีฟา พงศ์ยุโสะ
Saijai อายุ 24 ปี
จุฑามาศ ล่าบ้านหลวง
จุฑามาศ ล่าบ้านหลวง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

มีลูก1ค่ะ อายุ5ขวบ เคยเลี้ยงหลานและเคยทำดูแลผู้สูงอายุ มีรอยสักที่แขน1ข้างค้ะ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ดูแลแบบไป-กลับนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉวี เสภา
ฉวี เสภา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กมากกว่า 30 ปี ค่าจ้างตามพิจารณาอะไรก็แล้วยินดี

แสดงเพิ่มเติม
ญานุศา ศิริมงคล
ญานุศา ศิริมงคล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 22 ปี

ฝากไว้พิจารณาด้วยค่ะ อายุยังน้อยแต่ประสบการณ์เยอะพอสมควรค่ะ แล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ ความอดทนสูงใจเย็นเล่นกับเด็กได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 33 ปี
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ประภัสสร สุขชาติ
ประภัสสร สุขชาติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

รักเด็ก ใจเย็น สามารถดูแลเด็กได้

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 30 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ประวัติศาสตร์ จังหวัดนนทบุรี

นนทบุรีก่อตั้งมากว่า 400 ปี ชื่อเดิมคือ บ้านตลาดขวัญ ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ดินบริเวณนี้เหมาะแก่การทำการเกษตรและเพาะปลูกพืช ทำสวน และเป็นสวนผลไม้ที่ขึ้นชื่อของกรุงศรีอยุธยา

สมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยาได้ยกบ้านตลาดขวัญขึ้นเป็น

เมืองนนทบุรี ในปี พ.ศ. 2092 โดยตัวเมืองนนทบุรีแต่เดิมนั้นตั้งอยู่ที่ตำบลบางกระสอในปัจจุบัน

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2179 พระเจ้าปราสาททองทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดตอนใต้วัดท้ายเมือง แล้วกระแสน้ำจึงเปลี่ยนทางเดินไหลเข้าคลองลัดที่ขุดใหม่ นานเข้าจึงกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่

ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์มหาราชขึ้นครองราชย์ ในปี พ.ศ. 2208 พระองค์ทรงเห็นว่าแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่ทำให้ข้าศึกเข้าประชิดพระนครได้ง่ายขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมปราการตรงปากแม่น้ำอ้อม และย้ายเมืองนนทบุรีมาอยู่บริเวณปากแม่น้ำอ้อมตั้งแต่นั้นมา นนทบุรี ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

จังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่าเป็นจังหวัดในเขตปริมณฑลของกรุงเทพฯ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 622.38 ตารางกิโลเมตร

จังหวัดนนทบุรี มีขนาดเล็กเป็นอันดับ 2 รองจากจังหวัดสมุทรสงครามและอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยอำเภอทั้งหมด 6 อำเภอ ได้แก่

1. อำเภอไทรน้อย

2. อำเภอบางกรวย

3. อำเภอบางใหญ่

4. อำเภอบางบัวทอง

5. อำเภอปากเกร็ด

6. อำเภอเมืองนนทบุรี



ภาพรวมจังหวัดนนทบุรี

<แต่เดิม จังหวัดนนทบุรี เน้นการทำเกษตรกรรมและมีผลผลิตที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ทุเรียน แต่ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาในพื้นที่โดยมีการสร้างอาคารที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม โรงงานอุตสาหกรรม และโรงแรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่ในการทำการเกษตรกรรมลดลงและมีการเปลี่ยนวิถีชีวิตไปจากเดิมคือ อาชีพเกษตรกรน้อยลง แต่เน้นพัฒนาทางเศรษฐกิจอื่นเพิ่มมากขึ้น

จังหวัดนนทบุรี จึงกลายเป็นพื้นที่หนึ่งที่เป็นแหล่งรายได้ของประชากรจากพื้นที่อื่นอพยพมาเพื่อทำงานในเขต จังหวัดนนทบุรี

การคมนาคมในจังหวัดนนทบุรี

จังหวัดนนทบุรี มีทางหลวงจังหวัดและทางหลวงแผ่นดินใช้เดินทางติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานครได้อย่างสะดวก แต่ปัญหาหลักของ จังหวัดนนทบุรี คือสภาพการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถนนเส้นหลัก เช่น ถนนราชพฤกษ์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนติวานนท์ ฯลฯ

การท่องเที่ยว จังหวัดนนทบุรี

จังหวัดนนทบุรี มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ทำให้เกิดการผสมผสานวัฒนธรรมของผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติที่มาอยู่รวมกันที่นี่ ที่สำคัญ จังหวัดนนทบุรี ยังมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานหลายยุคหลายสมัย ทำให้มีจุดขายในการท่องเที่ยวมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัดหรือโบราณสถาน รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมแนวใหม่ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามแหล่งแม่น้ำสายต่างๆ ตัวอย่างเช่น วัดเฉลิมพระเกียรติ วัดปรมัยยิกาวาส ฯลฯ



การดูแลเด็กสมาธิสั้น

เด็กสมาธิสั้น หรือที่คนทั่วไปคุ้นชินกับคำว่า เด็กไฮเปอร์ ซึ่งอาการสมาธิสั้นนั้นสร้างความกังวลให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก อาการของ เด็กสมาธิสั้น จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนในช่วงอายุประมาณ 4-5 ปี จากผลการวิจัยพบว่า เด็กสมาธิสั้น 1 ใน 3 เมื่อโตขึ้นอาการนี้จะค่อยๆ หายได้เอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้ปกครองที่จะช่วยในการปรับพฤติกรรมรวมไปถึงการดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามพ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงคนที่ทำหน้าที่ดูแลเด็ก เช่น พี่เลี้ยงเด็ก ต่างก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยปรับพฤติกรรมของ เด็กสมาธิสั้น ให้ดีขึ้นได้โดยอาศัยเทคนิคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

- การจัดตารางให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างมีระบบระเบียบ เช่น ต้องตื่นกี่โมง อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวไปโรงเรียนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เด็กไม่ต้องมีชีวิตที่ล่องลอยไร้จุดหมายนั่นเอง

- พ่อแม่ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็กช่วยกันกระตุ้นความจำให้เด็กว่าต้องทำอะไรบ้าง อาจจะใช้วิธีการเขียนโน้ตสั้น ๆ ให้เด็กได้อ่านและจะได้จดจำว่าต้องทำอะไรในแต่ละวัน

- พ่อแม่ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงต้องเข้าใจ เด็กที่สมาธิสั้น อาจจะมีอาการหลงลืมหรือไม่สามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้เหมือนเด็กคนอื่น ผู้ปกครองต้องมีความเข้าใจและไม่ลงโทษหรือด่าทอเด็ก เพราะทำให้เด็กเสียใจและหมดกำลังใจ

- สังเกตความชอบและความสนใจของเด็ก ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กีฬา หรือ ความชอบอื่นๆ และคอยสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่ชอบ เด็กจะได้มีความสนใจในการทำสิ่งดังกล่าว เป็นการฝึกสมาธิไปในตัวด้วย

- ฝึกให้เด็กได้ทำกิจกรรมบางอย่างแบบต่อเนื่อง อย่างน้อย 20 หรือ 30 นาที เช่น เล่นต่อจิกซอว์ หรือ เลโก้ เพื่อให้เด็กอยู่นิ่ง ๆ ได้นานขึ้น