ติวเตอร์ ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติวเตอร์ ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Jarinpon Wongviriyasakoon
Jarinpon Wongviriyasakoon
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
เอกภพ ตรีขันธ์
เอกภพ ตรีขันธ์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เรากำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูกของเรา ตอนนี้ลูกอยู่ชั้นม. 4 อยากให้เรียนคณิตเพิ่มเติมเพราะลูกอ่อนวิชานี้มาก ๆ เราเลยเข้ามาในเว็บไซต์ของใส่ใจ มีตัวเลือกของติวเตอร์เยอะเลย ได้อ่านประวัติของติวเตอร์หลาย ๆ คน ติวเตอร์แต่ละคนโปรไฟล์ดีมาก ๆ ตอนนี้ลูกเรียนไปแล้ว 3 คลาส ลูกบอกว่าครูสอนสนุก จากที่ไม่เข้าใจวิชาคณิตศาสตร์ ตอนนี้ลูกเริ่มเข้าใจมากขึ้น
Saijai
คณาวุติ ชัยบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว
ตอนนี้ลูกผมอยู่ป.6 ผมก็ไม่ทราบว่าระบบเค้าเป็นยังไง เลยให้ลูกเรียนกับติวเตอร์แบบเข้มข้น เหนื่อยมากครับ ถ้ามาอัดทีหลัง โชคดีที่ติวเตอร์ ดูแลดี สอนดีกระชับ และเน้นแนวสอบบดินทร ผมต้องปรึกษาติวเตอร์ตลอดให้คำแนะนำดี เหมือนทำงานเป็นทีมเดียวกัน ติวเตอร์ ลูก และคุณพ่อ มีแผนมีเป้าหมายดีเลยครับ คิดว่ามีเวลาอีก 4 เดือนลูกทำได้แน่นอน ขอบคุณครับ ใส่ใจทีม
Saijai
เนติภล ชอบจินดา
4 ปีที่แล้ว
ต้องบอกก่อนว่าลูกชายผมจะอ่อนเรื่องคณิต-วิทย์ คือถ้าเป็นวิชาคำนวน จะช้ากว่าที่คุณครูที่โรงเรียนสอน ถ้าให้เรียนกลุ่มใหญ่กลัวไม่ได้ผล ค้นข้อมูลดู ที่นี่มีข้อมูลหลากหลายเลยให้ลูกลองเรียนดู พอดีคลิ๊กกันได้กับครู สอนดีนะครับ ลูกผมโอเคขึ้นมาก ตอนนี้ก็พอได้ในหลายๆอย่าง ติวเตอร์ที่จองกับใส่ใจ ให้ลองทำโจทย์ที่หลากหลายติวเตอร์อธิบายดีครับ
Saijai
สุทธา แหลมเสมอ
4 ปีที่แล้ว
คุณพ่อ คุณแม่จะเข้าใจค่ะ ช่วงที่ลูกต้องติวหนังสือเตรียมสอบ ปวดหัวไปหมด กลัวลูกสอบไม่ติด จะให้ลูกติวที่ไหนดี มีตัวเลือกมากมายแต่ไม่รู้จะเรียนที่ไหน มาเจอที่นี่ หาติวเตอร์ง่ายมาก ได้ติวเตอร์ถูกใจ ในราคาสบายกระเป๋า รับรองว่าจะแนะนำเพื่อน ๆ มาใช้บริการที่นี่อีกแน่นอนค่ะ
Saijai
ธนพร กุลวานิช
4 ปีที่แล้ว
ลูกชายเรียนอยู่ม.6 สามสัปดาห์ก่อนเลยมองหาที่เรียนพิเศษวิทย์-คณิตเพิ่มให้เขา ไปเจอโพสต์ของใส่ใจในเฟซบุ๊ก เห็นมีบริการติวเตอร์ส่วนตัวด้วย ลองดูประวัติติวเตอร์หลายๆคน จนลองนัดสัมภาษณ์ไป 3 คน โชคดีมากที่ตัดสินใจเลือกถูกคน รู้สึกประทับใจกับระบบและติวเตอร์ที่จองผ่านใส่ใจมากเลยค่ะ
Saijai
พิมพ์ชนก เปี่ยมสุข
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์

การจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวกับเรียนพิเศษตามสถาบันกวดวิชาแบบไหนดีกว่ากัน
การเรียนเสริม เรียนพิเศษ และเรียนกวดวิชา ถือเป็นที่ค่านิยมอย่างมากสำหรับนักเรียนในปัจจุบันนี้ เนื่องจากการศึกษาในสมัยนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันจึงทำให้เด็กตัดสินใจในการเรียนเสริมมากขึ้น วันนี้ใส่ใจจะมาพูดถึงข้อดีของการจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ทำไมการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เรามีคำตอบมาให้คุณค่ะ

1) จ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัว นักเรียนสามารถเลือกเรียนตามวันและเวลาที่ต้องการได้
2) ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพราะติวเตอร์จะมาป้อนความรู้ให้คุณถึงที่บ้าน
3) สอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวใส่ใจนักเรียนได้อย่างเต็มที่ นักเรียนสามารถถามติวเตอร์ส่วนตัวได้ทันทีในกรณีที่ไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ
4) นักเรียนมีสมาธิมากกว่าการเรียนในกลุ่มใหญ่ การเรียนพิเศษตัวต่อตัวนั้นจะทำให้ผู้เรียนสามารถนั้นมีสมาธิกว่าการเรียนแบบกลุ่มใหญ่ๆ แน่นอนเพราะบางครั้งการเรียนกับกลุ่มใหญ่ ๆ นั้นผู้เรียนอาจจะหลุดโฟกัสได้ เพราะธรรมชาติของเด็ก เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ ชอบพูดคุยกัน
5) ปลอดภัยกว่าออกไปเรียนข้างนอก บางครั้งเรียนพิเศษข้างนอกต้องเดินทางและอาจจะเลิกเรียนค่ำมืด ดังนั้นอาจเกิดอันตรายได้หากต้องเดินทางไปเรียนคนเดียว
6) คุณสามารถเลือกคนสอนได้ตามใจชอบ มีทางเลือกมากกว่าการเรียนตามสถาบันต่าง ๆ

และนี่คือเหตุผลทำไมการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมาก หากคุณสนใจที่จะหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ของคุณ ใส่ใจมีบริการค้นหาติวเตอร์คุณภาพที่ใช้พร้อมรอให้บริการแล้วค่ะ
คุณสมบัติของครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนตัดสินใจจ้าง
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองจะหาครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ได้ถูกใจ ใส่ใจมี 6 คุณสมบัติที่ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องมี คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองควรรู้ไว้เพื่อค้นหาครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ตรงใจคุณที่สุด

1) ความใส่ใจ หลายท่านอาจค้านว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์คือความรู้และประสบการณ์ ซึ่งมีส่วนถูก แต่ถ้ามองในมุมของนักเรียน นักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งด้านสติปัญญา การคิด การตัดสินใจ และความสามารถในการเรียนรู้ ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีต้องมีความเข้าใจในตัวนักเรียน เพื่อหาเทคนิค วางแผนการสอนที่เหมาะสม มีวิธีการสื่อสาร และสามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้อย่างเต็มที่
2) ความรู้ความชำนาญในเนื้อหาที่สอน ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องมีความรู้และความชำนาญในเนื้อหาวิชาที่สอนเป็นอย่างดี ต้องสามารถตอบคำถามและอธิบายในสิ่งที่นักเรียนสงสัยได้
3) ความยืดหยุ่น ในที่นี้หมายถึงครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนเทคนิคการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนมากที่สุด
4) ความอดทน ในกรณีที่นักเรียนมีข้อสงสัยในเนื้อหาที่เรียน นักเรียนอาจจะถามคำถามเดิมซ้ำๆ ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องไม่แสดงความรำคาญทั้งน้ำเสียงและท่าทาง
5) เป็นผู้ฟังที่ดี ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่ถ่ายทอดความรู้ด้วยการสื่อสารเพียงฝั่งเดียว กระบวนการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อให้นักเรียนมีโอกาสโต้ตอบ โต้แย้ง และหาข้อสรุปร่วมกัน ดังนั้นหากจะมองหาครูสอนพิเศษสักคนคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมดูคุณสมบัติและทักษะเหล่าของติวเตอร์เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ
เรียนพิเศษหรือเรียนเสริมส่วนตัวที่บ้านจะช่วยให้เด็กมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่อย่างไร
ในสมัยนี้การเรียนเสริม เรียนพิเศษหรือการกวดวิชานั้นมีหลากหลายทางเลือก และการจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวถือเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับนักเรียนที่ต้องการความส่วนตัวในการเรียนและหวังผลลัพธ์ที่ดี การเรียนพิเศษตัวต่อตัวช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นอย่างไร ใส่ใจมีคำตอบมาให้คุณค่ะ

• เมื่อเรียนพิเศษตัวต่อตัว นักเรียนจะมีความใกล้ชิดกับติวเตอร์ ในด้านของนักเรียนหากมีข้อสงสัยนักเรียนสามารถสอบถามติวเตอร์ได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่ ๆ อีกด้วย ส่วนในด้านของติวเตอร์เมื่อรับงานสอนพิเศษตัวต่อตัวแล้ว เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้นักเรียนอย่างสุดความสามารถ และติวเตอร์เองจะมุ่งเน้นความใส่ใจไปที่เด็กนักเรียนคนเดียวจึงทำให้เด็กได้รับความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อนักเรียนเข้าใจในสิ่งที่ติวเตอร์สอน นักเรียนจะสามารถทำข้อสอบที่โรงเรียนได้และได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
• การเรียนพิเศษนั้นนักเรียนจะได้ฝึกทำข้อสอบ หรือแบบฝึกหัดและสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียนเพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้

ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ส่วนตัวนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวนักเรียน อีกทั้งยังทำให้นักเรียนนั้นมีผลการเรียนที่ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อตกลงที่นักเรียนต้องตกลงกับติวเตอร์ก่อนเริ่มเรียนมีอะไรบ้าง
มีเหตุผลมากมายว่าทำไมเด็กไทยส่วนใหญ่ในยุคนี้ต่างใช้เวลาไปกับการเรียนพิเศษ ซึ่งหลัก ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะ เรียนในห้องเรียนแล้วไม่เข้าใจ หรืออาจจะเรียนเสริมเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สนามสอบที่มีการแข่งขันสูงเพื่อที่จะต่อยอดในระดับการศึกษาที่สูงและดีขึ้น

อย่างไรก็ดีในปัจจุบันนี้มีหลากหลายทางเลือกสำหรับการเรียนเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันกวดวิชา หรือ การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวก็ดี วันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณที่กำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ว่าควรตกลงอะไรกับติวเตอร์ มาดูกันค่ะ

• สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตกลงกับติวเตอร์คือสถานที่เรียนและเวลาเรียน การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวคุณสามารถเลือกสถานที่เรียนและเวลาได้ตามความสะดวก อย่างไรก็ดีหากต้องการจะเรียนที่บ้านหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่นร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือห้องสมุดคุณพ่อคุณแม่หรือตัวนักเรียนจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบทุกครั้งเพื่อความชัดเจนทั้งสองฝ่าย
• แน่นอนว่าการจ้างติวเตอร์นั้นคุณหวังเพื่อที่จะได้รับความใส่ใจจากติวเตอร์ ดังนั้นก่อนทำการเรียนทุกครั้งนักเรียนจะต้องพูดคุยกับติวเตอร์ถึงเรื่องการเรียน หากคุณต้องการให้ติวเตอร์สอนคุณในเนื้อหาบทเรียนไหนเป็นพิเศษนักเรียนจะต้องบอกติวเตอร์เพื่อที่ติวเตอร์ เพราะติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองในด้านการเรียนที่ดีขึ้น
• ค่าจ้าง ก่อนทำการจ้างคุณพ่อคุณแม่จะต้องตกลงค่าจ้างกับติวเตอร์ตามชั่วโมงที่จ้างสอน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวเพื่อลูก ๆ ของคุณจะได้สะดวกในการเรียน ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ

พ่อแม่ควรทำอย่างไร ให้ลูกเรียนรู้ได้หลายภาษา

การพูดได้หลายภาษาเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเด็กในปัจจุบัน ที่สามารถเปิดโอกาสในด้านต่างๆให้กับเด็กได้ ทั้งการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิต พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงมักหาวิธีต่างๆสอนลูกตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับภาษา ทั้งการสอนด้วยตัวเอง หรือการเรียนกับติวเตอร์ แม้ว่าพ่อแม่จะไม่เก่งภาษาก็สามารถสอนลูกได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ภาษาจากแม่คือภาษาที่มาจากใจ” พ่อแม่หลายคนพยายามสอนลูกด้วยตัวเองถึงแม้จะไม่เก่งภาษาก็ต้องฝืนอดทนเรียนภาษาไปพร้อมกับลูก เวลาลูกนอนหลับก็ต้องมานั่งเรียนดูคลิปต่างๆ จดคำศัพท์ที่ใช้คุยกับลูกบ่อย แต่เวลาต้องคุยกับลูกจริงๆกับนึกคำศัพท์ไม่ออกสลับไทยบ้างอังกฤษบ้างจนรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเอง ดังนั้นก่อนจะฝึกให้ลูกพูดภาษาอื่น พ่อแม่ควรสำรวจตัวเองก่อนว่าสามารถพูดภาษานั้นได้คล่องแค่ไหน มีเวลาเรียนพร้อมกับการเลี้ยงลูกไปด้วยหรือไม่ การที่จะทำให้ลูกพูดหลายภาษาได้ไม่จำเป็นที่พ่อแม่จะต้องสอนเอง ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียดายหากลูกพูดภาษาอื่นไม่ได้เพราะพ่อแม่ไม่เก่งภาษา ในยุคสมัยนี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่พาตัวเองไปอยู่กับเจ้าของภาษาหรือใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย พ่อแม่จึงมีหน้าที่หลักคือหาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ลูกได้คุ้นเคยกับการใช้ภาษานั้นๆ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ภาษาด้วยตัวเองเป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติที่ไม่ต้องฝืนไม่ต้องกลัวผิด หากครอบครัวมีความพร้อมสามารถให้ลูกเรียนโรงเรียนที่สอน 2 หรือ 3 ภาษาโดยครูเจ้าของภาษาได้โดยตรง หรืออาจส่งลูกไปเรียนกวดวิชาเกี่ยวกับภาษานั้นๆ แม้กระทั่งที่บ้านก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมได้เช่นกัน อาทิ การอ่านนิทานเ ปิดเพลงเกี่ยวกับภาษาให้ลูกฟัง ให้เล่นเกมเกี่ยวกับภาษา ก็ช่วยได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกหลายภาษาด้วยวิธีการใดก็ตาม จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับครอบครัว หากบ้านไหนที่มีพ่อแม่เก่งภาษาอังกฤษก็เลือกใช้วิธีการพูดภาษานั้นๆในชีวิตประจำวัน แต่หากบ้านไหนที่มีพ่อแม่ไม่เก่งภาษาก็สามารถเลือกเรียนไปพร้อมกับลูกหรือให้ลูกไปอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในโรงเรียนหรือการเรียนกวดวิชา ซึ่งเด็กแต่ละคนจะใช้เวลาในการเรียนรู้ไม่เท่ากัน พ่อแม่จึงต้องรอย่างใจเย็นเมื่อลูกสนใจและเห็นถึงความสำคัญของการเรียนภาษา จะทำให้พูดได้ด้วยตนเองและสนใจในการเรียนภาษาอื่นๆต่อไป



อาหารบำรุงสมอง

“You are what you eat” กินเท่าที่เห็น เป็นอย่างที่กิน สำนวนที่คุ้นหูกันมาอย่างช้านาน หมายความว่าคุณกินอะไรเข้าไปคุณก็จะเป็นอย่างนั้น หากเลือกกินของมีประโยชน์จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่หากเลือกกินของที่ไม่มีประโยชน์ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน หากพูดถึงอาหารการกินกับเรื่องของสมองหรือความจำ “ควรเลือกอาหารสมองให้เป็น” เพราะสมองดีเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนต้องการ เนื่องจากสมองมีบทบาทต่อการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงในโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาทเพิ่มมากขึ้น จากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการมีจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น นั่นหมายความว่า ยิ่งเราอายุมากขึ้นก็จะเสี่ยงต่อโรคประสาทมากขึ้นเช่นกัน รู้หรือไม่ว่าโรคหลอดเลือดสมองตีบเป็นโรคที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากรองจากโรคมะเร็ง ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้ง่ายที่สุด เราควรจะเลือกรับประทานอะไรบ้าง?

1. ปลา อย่างที่เชื่อกันว่า กินปลาแล้วจะฉลาดโดยเฉพาะปลาน้ำทะเลลึกเช่น ปลาทูน่า ปลาเซลมอน ซึ่งเป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดกับสมอง หากไม่สามารถรับประทานปลาจากทะเลได้ หรือไม่มีเวลาในการเตรียมอาหาร การเลือกรับประทานอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาก็สามารถทดแทนได้เหมือนกัน

2. ข้าวกล้องงอก มีสารอาหารที่อุดมไปด้วยกาบามากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 15 เท่าป้องกันการถูกทำลายของสมองและโรคอัลไซเมอร์ได้ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสบายมากขึ้น

3.ไข่ แหล่งโปรตีนที่หารับประทานง่ายที่สุด ตัวช่วยที่ดีในการพัฒนาการทำงานของสมอง ทั้งความทรงจำ การเรียนรู้ เสริมสร้างระบบประสาท ซึ่งมีสารโคลินที่มีความสำคัญต่อความจำด้วย ไข่ไก่สามารถให้พลังงานสูงไม่ทำให้หิวบ่อย

4.นม มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทดูแลการทำงานของระบบประสาทในส่วนของความทรงจำ ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลเมอร์ในผู้สูงอายุได้

5.ผลไม้ การรับประทานผลไม้จะส่งผลดีกับสมองได้หลากหลายด้าน ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดจะให้คุณประโยชน์แตกต่างกันไปโดยเฉพาะ ทับทิมสามารถช่วยระงับความเครียดของสมอง ให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดี เลี้ยงสมองได้ทั่วถึง

6. ช็อกโกแลต ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นสมองให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและยังพัฒนาความทรงจำได้มากถึง 20% มีสารเอนโดฟินเละเซโรโทนินที่เป็นสารความสุขในสมอง ทำให้อารมณ์ดีอีกด้วย



เมืองน่าอยู่

"เขตหลักสี่a> เดิมทีอยู่ในการปกครองของเขตบางเขน ต่อมาถูกโอนย้ายไปอยู่ในเขตการปกครองของเขตดอนเมือง เมื่อเขตดอนเมืองมีพื้นที่และประชากรที่หนาแน่นมากขึ้น เพื่อความสะดวกสบายของประชาชนในพื้นที่ในการติดต่อราชการจึงมีการประกาศให้เปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตดอนเมืองและจัดตั้งเขตหลักสี่ขึ้นโดยแบ่งพื้นที่ทางทิศใต้ของเขตดอนเมืองมาจัดตั้ง ปัจจุบันหลักสี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีแดง ทำให้ย่านนี้กลายเป็นที่ต้องการของใครหลายคน หลักสี่ประกอบไปด้วยแหล่งงานที่หลากหลาย ทั้งภาครัฐและเอกชนเช่น ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน่วยงานของกระทรวงต่างๆ อาทิกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศอีกด้วย ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็เจริญไม่แพ้เขตอื่นๆ แหล่งงานในส่วนเอกชนของหลักสี่มักจะอยู่ในรูปของการค้าเช่น ไอทีสแควร์ บิ๊กซี โลตัสเป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ยังทำให้หลักสี่กลายเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจเรียกได้ว่านอกจากจะเป็นแหล่งงานของกลุ่มผู้อาศัยแล้ว ยังเป็นสถานที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่อีกด้วย การเดินทางของผู้คนจากทิศ ต่างๆในหลักสี่ไม่ว่าจะเข้าออกก็สามารถเดินทางได้ง่ายดาย โดยทิศเหนือของหลักสี่จะเชื่อมกับจังหวัดปทุมธานี ทิศใต้ของหลักสี่จะเชื่อมกับตัวเมืองกรุงเทพชั้นในคือ จตุจักร บางเขนลาดพร้าว ทิศตะวันออกจะเชื่อมกับคันนายาว มีนบุรี ส่วนทิศตะวันตกจะเชื่อมกับอำเภอปากเกร็ดของจังหวัดนนทบุรี

นอกจากจะมีความเจริญจากการเป็นชุมชนเมือง ที่มาพร้อมความสะดวกสบายครบครัน รวมถึงการเดินทางที่แสนสะดวกแล้ว เขตหลักสี่ยังมีพื้นที่สีเขียวสูงถึง 200 ตารางวาไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะบึงสีกัน สวนสาธารณะเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง ซึ่งมีอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร พื้นที่สีเขียวในเมืองค่อนข้างที่จะหายากดังนั้นการมีพื้นที่เขียวส่งผลให้หลักสี่กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทุกคนต่างต้องการเพื่อการผ่อนคลายและออกกำลังกาย

"