ติวเตอร์ ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เครียดมากช่วงที่ลูกชายต้องตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย ดูเค้าไม่พร้อมเลย ไม่มีทางสอบแข่งกับคนอื่นได้แน่ ๆ ผมเป็นห่วงมาก ๆ จนตัดสินใจจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนที่บ้าน เหมือนสวรรค์มาโปรด ลูกพร้อมขึ้นมาก คนเป็นพ่อก็สบายใจครับ
Saijai
พงษ์เทพ รัตนาพล
3 ปีที่แล้ว
จองติวเตอร์ผ่านเว็บใส่ใจ ได้ติวเตอร์ดีๆ มีคุณภาพ และมีประสบการณ์ แถมราคาจับต้องได้ คุณแม่สบายใจ สบายกระเป๋าค่ะ โชคดีมากๆ ที่มาเจอเว็บนี้
Saijai
สุภาพร บริรักษ์
3 ปีที่แล้ว
การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวอาจจะแพงกว่าให้ลูกเรียนที่โรงแรียนกวดวิชาไปหน่อย แต่ผลลัพท์ออกมาดีมาก ลูกได้เรียนอย่างเต็มที่ ผลการเรียนดีขึ้นอย่างเห็นได้หชัด ถือว่าค้มค่ะ คุณแม่อย่างเราพร้อมที่จะลงทุนเพื่อสิ่งที่ดีของลูกเสมอค่ะ
Saijai
ธิดาพร หวังนุรักษ์
4 ปีที่แล้ว
เราเรียน BA และต้องเรียน Fundamental of Financial Accounting เพราะเป็นวิชาบังคับของมหาวิทยาลัย แต่เราทำได้ไม่ดีเลย เสิร์จหาติวเตอร์ระดับมหาวิทยาลัยจนเจอเว็บใส่ใจ เลยลองใช้บริการดู เพราะเรทไม่สูงมาก พี่ที่สอนเขามีเทคนิคนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด เรารู้สึกว่าพี่เข้าอธิบายเข้าใจง่ายมาก ไฟนอลที่ผ่านมาเราได้ B+ ดีใจมาก ๆ รู้สึกประทับใจมาก ติวเตอร์สอนดี พี่ติวเตอร์เขาเก่งมาก ๆ ที่สำคัญคือพวกเราเรียนพิเศษกันแบบออนไลน์ด้วยค่ะ
Saijai
อังคณา บุษย์บำเพ็ญ
4 ปีที่แล้ว
ช่วงที่ลูกต้องสอบ IELTS เพื่อไปยื่นต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศก็ได้ติวเตอร์ที่จองกับใส่ใจมาช่วยติวให้นี่แหละค่ะ ผลคือลูกสอบได้ระดับ 8 รู้สึกประทับใจมาก เพราะติวเตอร์มีเทคนิคในการสอนที่ดีและเห็นผลจริงค่ะ
Saijai
กนกวรรณ สุประเสิรฐ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์

ข้อดีของการจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวมีอะไรบ้าง
อะไรคือข้อดีของการจ้างติวเตอร์ส่วนตัว วันนี้ใส่ใจจะมาขยายความให้ฟังค่ะ

1) ความสะดวกในการเลือกเรียนตามวันและเวลาที่ต้องการ ซึ่งไม่เหมือนกับการเรียนในสถาบันกวดวิชาที่นักเรียนต้องเรียนตามตารางที่โรงเรียนกำหนดเท่านั้น หากขาดเรียนไปแล้ว นักเรียนไม่สามารถที่จะเรียนซ้ำได้ ถ้าเลือกติวเตอร์ส่วนตัว นักเรียนสามารถแจ้งติวเตอร์เพื่อสอนในวันที่นักเรียนสะดวก
2) ไม่ต้องเสียเวลาการเดินทาง ด้วยสภาพการจราจรที่คับคั่งบนท้องถนน บวกกับมลภาวะต่าง ๆ คงจะดีไม่น้อยหากเราไม่ต้องเผชิญกับสภาพเหล่านี้ การจ้างติวเตอร์มาสอนที่บ้านนั้น นักเรียนไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา เพราะครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์จะป้อนความรู้ให้ถึงที่บ้านหรืออาจจะเป็นสถานที่ที่สะดวกกับตัวนักเรียนเช่นคาเฟ่ใกล้บ้าน
3) เรื่องความปลอดภัย ความปลอดภัยของเด็ก ๆ เป็นสิ่งที่พ่อแม่กังวล ในสมัยนี้เราเห็นได้ว่าเด็กนักเรียนแต่ละคนมุ่งมั่นกับการติวตามสถาบันต่าง ๆ มากมายเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าที่ดี ๆ บางคนเรียนพิเศษถึงค่ำกว่าจะเดินทางกลับบ้านก็ดึกไม่ใช่น้อย หากคุณจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนลูก ๆ ของคุณที่บ้านจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของลูก ๆ ของคุณได้ค่ะ
4) อีกปัญหาหนึ่งของการเรียนในกลุ่มที่มีนักเรียนจำนวนมาก คือนักเรียนมักมีความเกรงใจและไม่กล้าถามหากเกิดข้อสงสัย จนอาจจะต้องปล่อยผ่านไปทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจ แต่ในกรณีที่เรียนกับติวเตอร์ส่วนตัวนักเรียนสามารถซักถามได้ทันที

หากคุณสนใจที่จะหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ของคุณ ติวเตอร์ที่อยู่บนเว็บไซต์ของใส่ใจพร้อมให้บริการแล้วค่ะ
ทักษะที่ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีควรมี
คุณสมบัติอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรมองหาจากครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เมื่อต้องการจ้างมาสอนพิเศษลูก ๆ ที่บ้าน มาดูกันเลยค่ะ

1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
จ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์สอนลูกที่บ้านจะช่วยให้ลูกมีผลการเรียนดีขึ้นหรือไม่
การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยทำให้ผลการเรียนของนักเรียนดีขึ้นหรือไม่ วันนี้ใส่ใจมีคำตอบมาให้คุณค่ะ

1) เหตุผลหลัก ๆ ของการเรียนพิเศษคือ นักเรียนอาจจะไม่เข้าใจการเรียนในห้องเรียนจึงตัดสินใจเรียนเสริมเพื่อจะได้เรียนให้ทันเพื่อน ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์จะช่วยทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น เมื่อนักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียน นักเรียนจะเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนมากขึ้น
2) นักเรียนได้ฝึกทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัด และสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียน เพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้
3) ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด การเรียนแบบกลุ่มใหญ่ในโรงเรียนคุณครูอาจไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนทุกคนได้ เมื่อนักเรียนมีข้อสงสัย ไม่เข้าใจเนื้อหา และไม่กล้าที่จะยกมือถามครูผู้สอน หากนักเรียนจ้างครูพิเศษมาสอนที่บ้าน นักเรียนสามารถถามหรือพูดคุยกับคุณครูสอนพิเศษได้ตลอด และหากนักเรียนอยากให้คุณครูเน้นเนื้อหาใดเป็นพิเศษก็สามารถบอกคุณครูผู้สอนได้เลย เพื่อที่นักเรียนจะได้เข้าใจวิชานั้น ๆ มากขึ้น

ดังนั้นการเรียนพิเศษนั้นสามารถช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่และติวเตอร์ต้องตกลงกันคืออะไร
การเรียนเสริม เรียนพิเศษและเรียนกวดวิชา ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับนักเรียนในปัจจุบันนี้ เพราะการเรียนตามหลักสูตรวันละ 6 ชั่วโมงในโรงเรียนดูจะไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันเพื่อให้ได้อยู่ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน ในยุคที่มีตัวเลือกมากมายในการเรียนพิเศษ ใส่ใจมีคำแนะนำที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองควรทำการตกลงกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวก่อนตัดสินใจเริ่มการเรียนการสอน

1) เวลาเรียน ระบุเวลาเรียนให้ชัดเจน โดยอาจจะให้สอดคล้องกับตารางเรียนหรือตารางกิจกรรมที่โรงเรียน หรือเรียนในวันหยุดประจำสัปดาห์
2) สถานที่ อาจจะเป็นที่บ้าน ห้องสมุด หรือ คาเฟ่ Café ใกล้บ้าน ต้องมั่นใจว่าไม่ใช่สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือรถสัญจรไปมาเสียงดัง
3) แผนการเรียนการสอน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง รวมถึงตัวนักเรียนเอง ควรวางแผนร่วมกับผู้สอน ว่าควรเป็นไปในรูปแบบใดเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนและมีประสิทธิภาพที่สุด
4) ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรแจ้งให้ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ทราบถึงลักษณะบางประการของผู้เรียนที่อาจเป็นอุปสรรคในการเรียน เพื่อให้ครูผู้สอนปรับวิธีการสอนรวมถึงเตรียมสื่อการสอนเหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
5) ค่าจ้างและกำหนดการจ่าย คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรตกลงเรื่องค่าจ้างกับติวเตอร์ให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำเรียนสอน เช่นค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ค่าจ้างเป็นรายคอร์ส หรือเป็นรายเดือน

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ

พ่อแม่ควรทำอย่างไร ให้ลูกเรียนรู้ได้หลายภาษา

การพูดได้หลายภาษาเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเด็กในปัจจุบัน ที่สามารถเปิดโอกาสในด้านต่างๆให้กับเด็กได้ ทั้งการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิต พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงมักหาวิธีต่างๆสอนลูกตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับภาษา ทั้งการสอนด้วยตัวเอง หรือการเรียนกับติวเตอร์ แม้ว่าพ่อแม่จะไม่เก่งภาษาก็สามารถสอนลูกได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ภาษาจากแม่คือภาษาที่มาจากใจ” พ่อแม่หลายคนพยายามสอนลูกด้วยตัวเองถึงแม้จะไม่เก่งภาษาก็ต้องฝืนอดทนเรียนภาษาไปพร้อมกับลูก เวลาลูกนอนหลับก็ต้องมานั่งเรียนดูคลิปต่างๆ จดคำศัพท์ที่ใช้คุยกับลูกบ่อย แต่เวลาต้องคุยกับลูกจริงๆกับนึกคำศัพท์ไม่ออกสลับไทยบ้างอังกฤษบ้างจนรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเอง ดังนั้นก่อนจะฝึกให้ลูกพูดภาษาอื่น พ่อแม่ควรสำรวจตัวเองก่อนว่าสามารถพูดภาษานั้นได้คล่องแค่ไหน มีเวลาเรียนพร้อมกับการเลี้ยงลูกไปด้วยหรือไม่ การที่จะทำให้ลูกพูดหลายภาษาได้ไม่จำเป็นที่พ่อแม่จะต้องสอนเอง ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียดายหากลูกพูดภาษาอื่นไม่ได้เพราะพ่อแม่ไม่เก่งภาษา ในยุคสมัยนี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่พาตัวเองไปอยู่กับเจ้าของภาษาหรือใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย พ่อแม่จึงมีหน้าที่หลักคือหาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ลูกได้คุ้นเคยกับการใช้ภาษานั้นๆ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ภาษาด้วยตัวเองเป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติที่ไม่ต้องฝืนไม่ต้องกลัวผิด หากครอบครัวมีความพร้อมสามารถให้ลูกเรียนโรงเรียนที่สอน 2 หรือ 3 ภาษาโดยครูเจ้าของภาษาได้โดยตรง หรืออาจส่งลูกไปเรียนกวดวิชาเกี่ยวกับภาษานั้นๆ แม้กระทั่งที่บ้านก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมได้เช่นกัน อาทิ การอ่านนิทานเ ปิดเพลงเกี่ยวกับภาษาให้ลูกฟัง ให้เล่นเกมเกี่ยวกับภาษา ก็ช่วยได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกหลายภาษาด้วยวิธีการใดก็ตาม จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับครอบครัว หากบ้านไหนที่มีพ่อแม่เก่งภาษาอังกฤษก็เลือกใช้วิธีการพูดภาษานั้นๆในชีวิตประจำวัน แต่หากบ้านไหนที่มีพ่อแม่ไม่เก่งภาษาก็สามารถเลือกเรียนไปพร้อมกับลูกหรือให้ลูกไปอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในโรงเรียนหรือการเรียนกวดวิชา ซึ่งเด็กแต่ละคนจะใช้เวลาในการเรียนรู้ไม่เท่ากัน พ่อแม่จึงต้องรอย่างใจเย็นเมื่อลูกสนใจและเห็นถึงความสำคัญของการเรียนภาษา จะทำให้พูดได้ด้วยตนเองและสนใจในการเรียนภาษาอื่นๆต่อไป



อาหารบำรุงสมอง

“You are what you eat” กินเท่าที่เห็น เป็นอย่างที่กิน สำนวนที่คุ้นหูกันมาอย่างช้านาน หมายความว่าคุณกินอะไรเข้าไปคุณก็จะเป็นอย่างนั้น หากเลือกกินของมีประโยชน์จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่หากเลือกกินของที่ไม่มีประโยชน์ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน หากพูดถึงอาหารการกินกับเรื่องของสมองหรือความจำ “ควรเลือกอาหารสมองให้เป็น” เพราะสมองดีเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนต้องการ เนื่องจากสมองมีบทบาทต่อการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงในโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาทเพิ่มมากขึ้น จากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการมีจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น นั่นหมายความว่า ยิ่งเราอายุมากขึ้นก็จะเสี่ยงต่อโรคประสาทมากขึ้นเช่นกัน รู้หรือไม่ว่าโรคหลอดเลือดสมองตีบเป็นโรคที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากรองจากโรคมะเร็ง ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้ง่ายที่สุด เราควรจะเลือกรับประทานอะไรบ้าง?

1. ปลา อย่างที่เชื่อกันว่า กินปลาแล้วจะฉลาดโดยเฉพาะปลาน้ำทะเลลึกเช่น ปลาทูน่า ปลาเซลมอน ซึ่งเป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดกับสมอง หากไม่สามารถรับประทานปลาจากทะเลได้ หรือไม่มีเวลาในการเตรียมอาหาร การเลือกรับประทานอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาก็สามารถทดแทนได้เหมือนกัน

2. ข้าวกล้องงอก มีสารอาหารที่อุดมไปด้วยกาบามากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 15 เท่าป้องกันการถูกทำลายของสมองและโรคอัลไซเมอร์ได้ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสบายมากขึ้น

3.ไข่ แหล่งโปรตีนที่หารับประทานง่ายที่สุด ตัวช่วยที่ดีในการพัฒนาการทำงานของสมอง ทั้งความทรงจำ การเรียนรู้ เสริมสร้างระบบประสาท ซึ่งมีสารโคลินที่มีความสำคัญต่อความจำด้วย ไข่ไก่สามารถให้พลังงานสูงไม่ทำให้หิวบ่อย

4.นม มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทดูแลการทำงานของระบบประสาทในส่วนของความทรงจำ ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลเมอร์ในผู้สูงอายุได้

5.ผลไม้ การรับประทานผลไม้จะส่งผลดีกับสมองได้หลากหลายด้าน ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดจะให้คุณประโยชน์แตกต่างกันไปโดยเฉพาะ ทับทิมสามารถช่วยระงับความเครียดของสมอง ให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดี เลี้ยงสมองได้ทั่วถึง

6. ช็อกโกแลต ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นสมองให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและยังพัฒนาความทรงจำได้มากถึง 20% มีสารเอนโดฟินเละเซโรโทนินที่เป็นสารความสุขในสมอง ทำให้อารมณ์ดีอีกด้วย



เมืองน่าอยู่

"เขตหลักสี่a> เดิมทีอยู่ในการปกครองของเขตบางเขน ต่อมาถูกโอนย้ายไปอยู่ในเขตการปกครองของเขตดอนเมือง เมื่อเขตดอนเมืองมีพื้นที่และประชากรที่หนาแน่นมากขึ้น เพื่อความสะดวกสบายของประชาชนในพื้นที่ในการติดต่อราชการจึงมีการประกาศให้เปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตดอนเมืองและจัดตั้งเขตหลักสี่ขึ้นโดยแบ่งพื้นที่ทางทิศใต้ของเขตดอนเมืองมาจัดตั้ง ปัจจุบันหลักสี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีแดง ทำให้ย่านนี้กลายเป็นที่ต้องการของใครหลายคน หลักสี่ประกอบไปด้วยแหล่งงานที่หลากหลาย ทั้งภาครัฐและเอกชนเช่น ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน่วยงานของกระทรวงต่างๆ อาทิกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศอีกด้วย ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็เจริญไม่แพ้เขตอื่นๆ แหล่งงานในส่วนเอกชนของหลักสี่มักจะอยู่ในรูปของการค้าเช่น ไอทีสแควร์ บิ๊กซี โลตัสเป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ยังทำให้หลักสี่กลายเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจเรียกได้ว่านอกจากจะเป็นแหล่งงานของกลุ่มผู้อาศัยแล้ว ยังเป็นสถานที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่อีกด้วย การเดินทางของผู้คนจากทิศ ต่างๆในหลักสี่ไม่ว่าจะเข้าออกก็สามารถเดินทางได้ง่ายดาย โดยทิศเหนือของหลักสี่จะเชื่อมกับจังหวัดปทุมธานี ทิศใต้ของหลักสี่จะเชื่อมกับตัวเมืองกรุงเทพชั้นในคือ จตุจักร บางเขนลาดพร้าว ทิศตะวันออกจะเชื่อมกับคันนายาว มีนบุรี ส่วนทิศตะวันตกจะเชื่อมกับอำเภอปากเกร็ดของจังหวัดนนทบุรี

นอกจากจะมีความเจริญจากการเป็นชุมชนเมือง ที่มาพร้อมความสะดวกสบายครบครัน รวมถึงการเดินทางที่แสนสะดวกแล้ว เขตหลักสี่ยังมีพื้นที่สีเขียวสูงถึง 200 ตารางวาไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะบึงสีกัน สวนสาธารณะเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง ซึ่งมีอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร พื้นที่สีเขียวในเมืองค่อนข้างที่จะหายากดังนั้นการมีพื้นที่เขียวส่งผลให้หลักสี่กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทุกคนต่างต้องการเพื่อการผ่อนคลายและออกกำลังกาย

"