วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
สอนหลักสูตรการศึกษา เรียนออนไลน์ ติวเตอร์คณิตศาสตร์ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ติวเตอร์ภาษาไทย ติวเตอร์วิทยาศาสตร์ เรียนภาษาต่างประเทศ ติว GAT ติว PAT ครูฝึกทักษะบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันวรินธร โขพิมพ์ ชื่อเล่นไอซ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์
- มีประสบการณ์การสอนพิเศษกับทางสถาบัน IQEQ Town Tutorial School สอนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลาย
- มีประสบการณ์ทางด้านภาษามามากกว่า 10 ปี เรียนในห้องเรียน Intensive English Program ในระดับชั้นประถมศึกษา ห้องเรียนพิเศษ 2 ภาษา English Program ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ ห้องเรียนสายการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่น ในมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันศึกษาอยู่คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่
- เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ Nishinomiyakofu High School ประเทศญี่ปุ่น
- รับเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ โดยมีนนักเรียนญี่ปุ่นมาอยู่ที่บ้าน
- มีโอกาสไป Summer กับโครงการ Hanamaru ณ จังหวัด Shimane ประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะและนิสัยของติวเตอร์
- สอนในรูปแบบพี่สอนนอน
- มีกิจกรรมให้ทำตลอด เน้นการสนานาในชีวิตจริง
- มีไฟล์เอกสารส่งให้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ใจดี และใจเย็น รักเด็ก
- ปรึกษาได้ทุกอย่าง สามารถถามได้ตลอดเวลาที่ไม่เข้าใจ
มีประสบการณ์ล่ามและแปลตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เคยไปอยู่ที่ประเทศแคนาดาและประเทศญี่ปุ่น ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษอยู่ในระดับ advance ค่ะ ส่วนตัวชอบภาษาและพูดได้มากกว่า 4 ภาษา แต่ก็สามารถสอนวิชาอื่นๆได้เช่นกัน เพราะเคยสอนทั้งคนไทยและคนต่างชาติค่ะ ไม่จำกัดแค่วิชาภาษาต่างประเทศเท่านั้น ใครที่ชอบเรียนและพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้โดยเฉพาะเกี่ยวกับต่างประเทศ ติดต่อได้เลยค่า
อารีรัตน์ ภักดีย่อง ชื่อเล่น ดรีม นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4
ด้านภาษา
-มีประสบการณ์สอนภาษาฝรั่งเศสให้กับนักเรียนชั้นมอปลายที่ต้องการสอบรายบท เช่นเรื่อง cod coi, subjontive, etc.
-มีประสบการณ์สอนภาษาฝรั่งเศสให้กับน้องปี 1 ที่ต้องการซิ่วและสอบ pat7.1 อีกครั้ง
-มีประสบการณ์สอนภาษาไทยให้กับชาวฝรั่งเศสในคลาสส่วนตัว
ด้านดนตรี
-มีประสบการณ์การเล่นกีต้าร์มากกว่า 5 ปี และอูคูเลเล่มากกว่า 3 ปี
-มีประสบการณ์การสอนอูคูเลเล่นักเรียนชั้นป.4 ตั้งแต่ไม่มีพื้นฐานจนปัจจุบันสามารถเล่นได้เป็นเพลง อ่านคอร์ดเป็น รู้จังหวะของเพลง
-สอนอูเลเล่ให้น้องชั้นม.4 ตั้งแต่ไม่ทีพื้นฐานด้านดนตรีจนสามารถเข้าใจจังหวะเพลง สามารถจับและเปลี่ยนคอร์ดได้คล่องแคล่วมากขึ้น รู้การเปลี่ยนคอร์ดในเพลง
-ปัจจุบันรับสอนกีต้าร์และอูคูเลเล่ให้กับนักเรียนคลาสส่วนตัว
ลักษณะนิสัยของติวเตอร์
-เป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี สามารถ entertain น้องๆให้สนุกไปกับการเรียนได้
-สามารถอธิบายเนื้อหาที่ยากให้เข้าใจได้อย่างง่าย โดยการยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ
-มีคลังคำศัพท์และความรู้รอบตัว
-มีไฟล์เอกสารส่งให้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
-มีกิจกรรมให้ทำระหว่างเรียน
-สามารถปรึกษาได้ในเวลาที่ไม่เข้าใจ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
• ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด เพราะการเรียนแบบกลุ่มใหญ่ ในโรงเรียนนั้นคุณครูไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนได้ทั่วถึง ส่วนตัวนักเรียนเองเมื่อมีข้อสงสัยอาจจะไม่กล้าถามเพราะกลัวเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ล้อเลียนว่าเรียนไม่เก่งหรือเรียนไม่รู้เรื่อง ทำให้ต้องปล่อยความสงสัยนั้นไป แต่การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัว นักเรียนมีความกล้าที่จะถามหรือและขอครูอธิบายซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ เพราะไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับตามองหรือตัดสินว่าตัวเองไม่ฉลาด
• นักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น เพราะการเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ เมื่อมีสิ่งรบกวนเช่น เพื่อนพูดคุยกันหรือแอบกินขนมในห้องเรียน นักเรียนจะหลุดโฟกัสจากเนื้อหาได้ง่าย เพราะสมาธิถือเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีสมาธินักเรียนจะเข้าใจเนื้อบทเรียนหาตรงหน้าได้มากขึ้น เมื่อเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนการทำข้อสอบจะไม่ใช่เรื่องยากและทำให้ผลการเรียนดียิ่งขึ้น
• นักเรียนสามารถนำสิ่งที่ติวเตอร์ส่วนตัวสอนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่น เทคนิคต่าง ๆ ในการทำข้อสอบ วิธีการจำที่ดี ติวเตอร์ส่วนตัวสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้เด็กนักเรียนได้โดยตรงเพื่อที่นักเรียนจะนำไปใช้เพื่อให้การเรียนของนักเรียนนั้นดีขึ้น
1) เวลาเรียน ระบุเวลาเรียนให้ชัดเจน โดยอาจจะให้สอดคล้องกับตารางเรียนหรือตารางกิจกรรมที่โรงเรียน หรือเรียนในวันหยุดประจำสัปดาห์
2) สถานที่ อาจจะเป็นที่บ้าน ห้องสมุด หรือ คาเฟ่ Café ใกล้บ้าน ต้องมั่นใจว่าไม่ใช่สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือรถสัญจรไปมาเสียงดัง
3) แผนการเรียนการสอน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง รวมถึงตัวนักเรียนเอง ควรวางแผนร่วมกับผู้สอน ว่าควรเป็นไปในรูปแบบใดเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนและมีประสิทธิภาพที่สุด
4) ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรแจ้งให้ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ทราบถึงลักษณะบางประการของผู้เรียนที่อาจเป็นอุปสรรคในการเรียน เพื่อให้ครูผู้สอนปรับวิธีการสอนรวมถึงเตรียมสื่อการสอนเหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
5) ค่าจ้างและกำหนดการจ่าย คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรตกลงเรื่องค่าจ้างกับติวเตอร์ให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำเรียนสอน เช่นค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ค่าจ้างเป็นรายคอร์ส หรือเป็นรายเดือน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ
พ่อแม่ควรทำอย่างไร ให้ลูกเรียนรู้ได้หลายภาษา
การพูดได้หลายภาษาเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเด็กในปัจจุบัน ที่สามารถเปิดโอกาสในด้านต่างๆให้กับเด็กได้ ทั้งการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิต พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงมักหาวิธีต่างๆสอนลูกตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับภาษา ทั้งการสอนด้วยตัวเอง หรือการเรียนกับติวเตอร์ แม้ว่าพ่อแม่จะไม่เก่งภาษาก็สามารถสอนลูกได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ภาษาจากแม่คือภาษาที่มาจากใจ” พ่อแม่หลายคนพยายามสอนลูกด้วยตัวเองถึงแม้จะไม่เก่งภาษาก็ต้องฝืนอดทนเรียนภาษาไปพร้อมกับลูก เวลาลูกนอนหลับก็ต้องมานั่งเรียนดูคลิปต่างๆ จดคำศัพท์ที่ใช้คุยกับลูกบ่อย แต่เวลาต้องคุยกับลูกจริงๆกับนึกคำศัพท์ไม่ออกสลับไทยบ้างอังกฤษบ้างจนรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเอง ดังนั้นก่อนจะฝึกให้ลูกพูดภาษาอื่น พ่อแม่ควรสำรวจตัวเองก่อนว่าสามารถพูดภาษานั้นได้คล่องแค่ไหน มีเวลาเรียนพร้อมกับการเลี้ยงลูกไปด้วยหรือไม่ การที่จะทำให้ลูกพูดหลายภาษาได้ไม่จำเป็นที่พ่อแม่จะต้องสอนเอง ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียดายหากลูกพูดภาษาอื่นไม่ได้เพราะพ่อแม่ไม่เก่งภาษา ในยุคสมัยนี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่พาตัวเองไปอยู่กับเจ้าของภาษาหรือใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย พ่อแม่จึงมีหน้าที่หลักคือหาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ลูกได้คุ้นเคยกับการใช้ภาษานั้นๆ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ภาษาด้วยตัวเองเป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติที่ไม่ต้องฝืนไม่ต้องกลัวผิด หากครอบครัวมีความพร้อมสามารถให้ลูกเรียนโรงเรียนที่สอน 2 หรือ 3 ภาษาโดยครูเจ้าของภาษาได้โดยตรง หรืออาจส่งลูกไปเรียนกวดวิชาเกี่ยวกับภาษานั้นๆ แม้กระทั่งที่บ้านก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมได้เช่นกัน อาทิ การอ่านนิทานเ ปิดเพลงเกี่ยวกับภาษาให้ลูกฟัง ให้เล่นเกมเกี่ยวกับภาษา ก็ช่วยได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกหลายภาษาด้วยวิธีการใดก็ตาม จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับครอบครัว หากบ้านไหนที่มีพ่อแม่เก่งภาษาอังกฤษก็เลือกใช้วิธีการพูดภาษานั้นๆในชีวิตประจำวัน แต่หากบ้านไหนที่มีพ่อแม่ไม่เก่งภาษาก็สามารถเลือกเรียนไปพร้อมกับลูกหรือให้ลูกไปอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในโรงเรียนหรือการเรียนกวดวิชา ซึ่งเด็กแต่ละคนจะใช้เวลาในการเรียนรู้ไม่เท่ากัน พ่อแม่จึงต้องรอย่างใจเย็นเมื่อลูกสนใจและเห็นถึงความสำคัญของการเรียนภาษา จะทำให้พูดได้ด้วยตนเองและสนใจในการเรียนภาษาอื่นๆต่อไป
อาหารบำรุงสมอง
“You are what you eat” กินเท่าที่เห็น เป็นอย่างที่กิน สำนวนที่คุ้นหูกันมาอย่างช้านาน หมายความว่าคุณกินอะไรเข้าไปคุณก็จะเป็นอย่างนั้น หากเลือกกินของมีประโยชน์จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่หากเลือกกินของที่ไม่มีประโยชน์ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน หากพูดถึงอาหารการกินกับเรื่องของสมองหรือความจำ “ควรเลือกอาหารสมองให้เป็น” เพราะสมองดีเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนต้องการ เนื่องจากสมองมีบทบาทต่อการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงในโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาทเพิ่มมากขึ้น จากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการมีจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น นั่นหมายความว่า ยิ่งเราอายุมากขึ้นก็จะเสี่ยงต่อโรคประสาทมากขึ้นเช่นกัน รู้หรือไม่ว่าโรคหลอดเลือดสมองตีบเป็นโรคที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากรองจากโรคมะเร็ง ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้ง่ายที่สุด เราควรจะเลือกรับประทานอะไรบ้าง?
1. ปลา อย่างที่เชื่อกันว่า กินปลาแล้วจะฉลาดโดยเฉพาะปลาน้ำทะเลลึกเช่น ปลาทูน่า ปลาเซลมอน ซึ่งเป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดกับสมอง หากไม่สามารถรับประทานปลาจากทะเลได้ หรือไม่มีเวลาในการเตรียมอาหาร การเลือกรับประทานอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาก็สามารถทดแทนได้เหมือนกัน
2. ข้าวกล้องงอก มีสารอาหารที่อุดมไปด้วยกาบามากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 15 เท่าป้องกันการถูกทำลายของสมองและโรคอัลไซเมอร์ได้ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสบายมากขึ้น
3.ไข่ แหล่งโปรตีนที่หารับประทานง่ายที่สุด ตัวช่วยที่ดีในการพัฒนาการทำงานของสมอง ทั้งความทรงจำ การเรียนรู้ เสริมสร้างระบบประสาท ซึ่งมีสารโคลินที่มีความสำคัญต่อความจำด้วย ไข่ไก่สามารถให้พลังงานสูงไม่ทำให้หิวบ่อย
4.นม มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทดูแลการทำงานของระบบประสาทในส่วนของความทรงจำ ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลเมอร์ในผู้สูงอายุได้
5.ผลไม้ การรับประทานผลไม้จะส่งผลดีกับสมองได้หลากหลายด้าน ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดจะให้คุณประโยชน์แตกต่างกันไปโดยเฉพาะ ทับทิมสามารถช่วยระงับความเครียดของสมอง ให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดี เลี้ยงสมองได้ทั่วถึง
6. ช็อกโกแลต ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นสมองให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและยังพัฒนาความทรงจำได้มากถึง 20% มีสารเอนโดฟินเละเซโรโทนินที่เป็นสารความสุขในสมอง ทำให้อารมณ์ดีอีกด้วย
เมืองน่าอยู่
นอกจากจะมีความเจริญจากการเป็นชุมชนเมือง ที่มาพร้อมความสะดวกสบายครบครัน รวมถึงการเดินทางที่แสนสะดวกแล้ว เขตหลักสี่ยังมีพื้นที่สีเขียวสูงถึง 200 ตารางวาไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะบึงสีกัน สวนสาธารณะเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง ซึ่งมีอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร พื้นที่สีเขียวในเมืองค่อนข้างที่จะหายากดังนั้นการมีพื้นที่เขียวส่งผลให้หลักสี่กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทุกคนต่างต้องการเพื่อการผ่อนคลายและออกกำลังกาย
"
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง