ดูแลผู้สูงอายุ ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
3 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราที่บ้านมีข้อดีอย่างไรบ้าง ใส่ใจขออธิบายข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้

1) การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับลูกหลานที่มีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุของตน หลาย ๆ คนอาจมีงานหรือภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา การจ้างคนดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพจึงเหมือนการได้ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามที่คุณไม่สะดวกด้วยเช่นกัน
2) ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลที่ศูนย์ดูแล บ้านพักคนชราหรือ เนอสซิ่งโฮม(Nursing Home)แล้ว จำนวนผู้สูงอายุที่มีมากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามาก
3) ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านต่าง ๆ เพราะผ่านการฝึกอบรมการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะการดูแลกิจวัตรประจำวัน เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดตัว หรือความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และยังสามารถพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเพื่อให้ไม่รู้สึกเหงาด้วยเช่นกัน
4) ผู้สูงอายุไม่รู้สึกแปลกสถานที่เนื่องจากความเคยชินเพราะได้อยู่ที่บ้าน และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่างไกลจากลูกหลาน อีกทั้งยังคงได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่สำคัญสภาพแวดล้อมภายในบ้านสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และไม่วิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อรับรู้ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากต้องการคนเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของคุณ ทางใส่ใจมีบริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่น่าไว้ใจให้คุณ

ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

บ้านผู้สูงอายุสะแกงาม คลองสามวา

ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การแพทย์ ที่อยู่อาศัยตลอดจนการดูแลให้ครอบคลุมและทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเกิดโครงการที่จะสร้างบ้านพักคนชราเพิ่ม เพื่อให้กระจายครอบคลุมทุกเมืองของกรุงเทพ จากเดิมที่กรุงเทพมีบ้านพักผู้สูงอายุในการดูแล 1 แห่ง คือบ้านพักบางแค เขตบางแคที่รองรับผู้สูงอายุได้เพียง 140 คน ไม่สามารถรองรับผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพที่มีมากกว่า 1,000,000 คนได้ ทำให้เกิดโครงการสร้างบ้านพักคนชราเพิ่มเพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดย

พื้นที่สำหรับก่อสร้างบ้านผู้สูงอายุคือ บ้านสะแกงามกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณบึงสะแกงาม แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา มีทำเลเหมาะสมทั้งการคมนาคมที่สะดวกและอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์แค่ 12 กิโลเมตร ออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมภายใต้แนวคิดที่ว่า สร้างความสุขให้ผู้สูงอายุในบั้นปลายชีวิต โดยใช้วิธีธรรมชาติบำบัด แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันได้แก่ สวนสาธารณะ ส่วนกลางสาธารณะและส่วนที่พักอาศัย ปัจจุบันนี้เริ่มก่อสร้างเฟส 1 แล้ว โดยการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพชั่วคราว และการสร้างเฟส 2 จะเป็นการสร้างบ้านพัก ซึ่งจะมีบ้านพักให้เลือกสองลักษณะคือ Type A เข้าพักได้ 8 คน ส่วน Type B สามารถเข้าพักได้ 14 คน ซึ่งราคาจะอยู่ที่หลังละ 2.6 - 5 ล้านบาท โครงการนี้เฟส 1 คาดว่าจะเสร็จในปี 2565 และจะรีบดำเนินการสร้างส่วนที่เหลือให้เร็วที่สุดโดยงบประมาณในการดำเนินการจะมาจากงบประมาณของกรุงเทพมหานครเองและเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคเพื่อให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี



ซาฟารี เวิลด์ สวนสัตว์เปิดสุดทึ่งที่ต้องไปสักครั้ง

อยากส่องสัตว์แบบใกล้ชิดไม่ต้องไปถึงแอฟริกาใต้ สามารถทำได้ที่นี่ สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ สวนสัตว์เปิดที่นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดกับสัตว์ สามารถนั่งชมชีวิตความเป็นอยู่ตามธรรมชาติได้ ตั้งอยู่ที่ ถนนปัญญาอินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่กว่า 450 ไร่ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนได้แก่

1.โซนซาฟารี ปาร์ค (Safari Park) เป็นโซนสวนสัตว์เปิด ให้นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปหรือสามารถนั่งรถบริการของ Safari World เข้าไปชมสัตว์ป่า ในบรรยากาศทุ่งแอฟริกา สัมผัสกับความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ เช่น ม้าลาย ยีราฟ สิงโต เป็นต้น ที่มีระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งไม่ควรลงจากรถมาถ่ายรูปเป็นอันขาด เนื่องจากบางพื้นที่เป็นโซนมีสัตว์อันตรายอย่างเสือ สิงโต มีป้ายเตือนระหว่างทางที่ค่อนข้างถี่หากรถเกิดเสียบริเวณนี้ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น ห้ามลงจากรถเด็ดขาด

2.โซนมารีน ปาร์ค (Marine Park) โซนสวนน้ำ มีสัตว์น้ำหลากหลาย สามารถเดินไปชมการแสดงและดูสัตว์ต่างๆได้ การแสดงโชว์ต่างๆได้แก่ การแสดงสิงโตทะเล ลิงอุรังอุตัง การแสดงโลมาและวาฬขาว และสัตว์อื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งยังมีสวนนกมาคอว์ สวนจระเข้ ไฮไลต์ของโซนนี้จะเป็นการแสดงโลมา และบ่อกระจกของพะยูนแมนนาทีหรือวัวทะเลนั่นเอง ซาฟารีเวิลด์เป็นที่เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเจ้าตัวนี้อยู่ซึ่งที่นี่มีด้วยกัน 5 ตัว

3.โซนเปิดใหม่ jungle Walk โซนที่สามารถป้อนอาหารให้ยีราฟได้ ซึ่งจะเป็นระเบียงยาวและให้ยีราฟยื่นหน้ามารับอาหารจากมือที่เราป้อน อาหารจะเป็นกล้วยทั้งเปลือก และยังมีนิทรรศการการแสดงนกและสัตว์แปลกนานาชนิด เช่นจิงโจ้เทา นกพิราบหงอนวิคตอเรีย ปลาช่อนอเมซอนเป็นต้น

สำหรับการมาเที่ยวซาฟารีเวิลด์ควรมาตั้งแต่เช้าเริ่มต้นจากโซนซาฟารีปาร์ค และขับรถไปตามทางให้ทันการให้อาหารเสือ จากนั้นก็ออกมาจากโซนนี้แล้วรีบเข้าไปส่วนมารีนปาร์ค เพื่อดูโชว์ช้างซึ่งมีรอบเดียวของวันและจะมีโชว์โลมาในช่วงบ่าย ซึ่งการมาเที่ยวที่นี่แบบครอบครัวส่วนใหญ่จะเที่ยวไม่ครบใน 1 วันเนื่องจากกิจกรรมที่เยอะและพื้นที่หลากหลายโซน ดังนั้นควรเลือกกิจกรรมที่สนใจอยากมาดูและวางแผนให้ดีเพื่อที่จะสามารถชมสิ่งที่ต้องการได้อย่างละเอียด และสนุก



ทำอย่างไรไม่ให้ผู้สูงอายุมีอาการ ติดบ้าน

มีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบการเข้าสังคม พูดคุยกับเพื่อนบ้านและพบปะสังสรรค์ เพราะการอยู่บ้านอาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้า เนื่องจากต้องอยู่เพียงลำพัง แต่มีผู้สูงอายุอีกจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่ “ติดบ้าน” ชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบออกไปทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ยิ่งนานวันอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาในที่สุด โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากการขาดการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น เก็บตัว เพียงลำพัง โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะดูแลผู้สูงอายุเอง ลูกหลานส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านคนเดียว อยู่นิ่งไม่สุงสิงกับใครเป็นเรื่องปกติของคนวัยนี้ ซึ่งความจริงแล้วคนในวัยนี้จะอารมณ์อ่อนไหวกว่าวัยอื่น ๆ การได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน อยู่กับคนในบ้านพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขและกำลังใจเพิ่มมากขึ้น การที่ผู้สูงอายุชอบอยู่บ้านไม่เข้าสังคมเนื่องมาจากการคิดว่าตัวเองแก่แล้วไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งคนที่จะให้กำลังใจได้ดีที่สุดก็คือ คนในครอบครัว เพื่อทำให้ท่านรู้สึกว่ามีคุณค่ากับลูกหลานอยู่ ที่สำคัญไม่ควรพูดว่า “พ่อแก่แล้ว แม่แก่แล้ว” ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้รู้สึกว่า คุณค่าในตัวของท่านต่ำลง การดึงผู้สูงอายุออกจากบ้านถือเป็นแนวทางที่ดีในการลดปัญหาความเครียดและเยียวยาสภาพจิตใจของผู้สูงอายุได้ดีอีกวิธีหนึ่ง โดยเฉพาะการเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งล้วนมีสังคมของเขาอยู่แล้ว เช่นชมรมจิตอาสา ชมรมออกกำลังกายเพื่อผผู้สูงอายุ ซึ่งสังคมตรงนี้จะทำให้เขารู้สึกอยากออกไปเข้าร่วม เพราะเป็นกลุ่มของตัวเองมีกิจกรรมที่สนใจเหมือนกัน สามารถออกจากความเหงา ความเศร้าและการอยู่บ้านเฉยๆได้ เพราะส่วนใหญ่ลูกหลานจะพาท่านไปเดินห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ชอบอยู่แล้ว เนื่องจากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมและรู้สึกว่าไม่ใช่ที่ของตัวเอง นี่เลยเป็นอีกเหตุผลที่ลูกหลานคิดว่าท่านไม่ชอบออกไปไหน ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่ที่ของท่านเลย วิธีดังกล่าวข้างต้นช่วยให้ท่านเห็นคุณค่าของตัวเองอีกครั้งและอยากเข้าสังคม อยากคุยกับคนนั้น คนนี้ โดยไม่ต้องใช้หลักทฤษฎีอะไรให้วุ่นวาย