ดูแลผู้สูงอายุ ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราที่บ้านมีข้อดีอย่างไรบ้าง ใส่ใจขออธิบายข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้

1) การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับลูกหลานที่มีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุของตน หลาย ๆ คนอาจมีงานหรือภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา การจ้างคนดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพจึงเหมือนการได้ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามที่คุณไม่สะดวกด้วยเช่นกัน
2) ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลที่ศูนย์ดูแล บ้านพักคนชราหรือ เนอสซิ่งโฮม(Nursing Home)แล้ว จำนวนผู้สูงอายุที่มีมากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามาก
3) ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านต่าง ๆ เพราะผ่านการฝึกอบรมการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะการดูแลกิจวัตรประจำวัน เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดตัว หรือความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และยังสามารถพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเพื่อให้ไม่รู้สึกเหงาด้วยเช่นกัน
4) ผู้สูงอายุไม่รู้สึกแปลกสถานที่เนื่องจากความเคยชินเพราะได้อยู่ที่บ้าน และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่างไกลจากลูกหลาน อีกทั้งยังคงได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่สำคัญสภาพแวดล้อมภายในบ้านสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และไม่วิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อรับรู้ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากต้องการคนเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของคุณ ทางใส่ใจมีบริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่น่าไว้ใจให้คุณ

ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

เขตดินแดงมีอะไรให้รู้บ้าง

เขตดินแดง มีพื้นที่ขนาดปานกลาง 8.354 ตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกับอีกสี่สิบเก้าเขตในกรุงเทพมหานคร แต่เป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมาก ซึ่งการสำรวจล่าสุดในปี พ.ศ. 2563 มีทั้งหมด 115,508 คน มีการแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 2 แขวงคือ แขวงดินแดง และแขวงรัชดาภิเษก โดยประชากรให้ความนิยมอาศัยอยู่ในพื้นที่แขวงดินแดงมากกว่าราวเจ็ดหมื่นกว่าคน สำหรับที่มาของชื่อดินแดงนั้น เนื่องจากพื้นที่ของเขตนี้ในอดีตส่วนใหญ่แล้วเป็นทุ่งนากว้างขวางเหมือนกันเขตรอบนอกของกรุงเทพฯ จนสมัยนายกรัฐมนตรี จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้คิดพัฒนาตัดเพิ่มถนนต่อจากถนนราชวิถีเข้ามาในพื้นที่นี้จนกลายเป็นถนนเส้นหลัก ระหว่างการก่อสร้างที่ต้องใช้ดินลูกรังจึงเกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายเป็นสีแดงไปเกาะจับหลังคาบ้านเรือนของชาวบ้านไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้ชาวบ้านเรียกถนนสายนี้ว่าถนนดินแดง ตามด้วยย่านดินแดง ภายหลังทางการมีการปรับเปลี่ยนการปกครองเลยใช้ชื่อเรียกนั้นมาตั้งเป็นชื่อเขต แต่ก่อนจะได้มาเป็นเขตดินแดงจวบจนปัจจุบันนี้ เขตดินแดงได้ถูกโยกย้ายปรับเปลี่ยนไปอยู่เขตอื่นหลายเขตด้วยกันคือ เป็นแขวงหนึ่งของเขตบางซื่อก่อน จากนั้นถูกย้ายไปขึ้นกับเขตพญาไท และย้ายไปขึ้นกับเขตห้วยขวาง ภายหลังเขตดินแดงมีการขยายตัวและเขตห้วยขวางมีประชากรเพิ่มขึ้น เพื่อความง่ายในการปกครองและความสะดวกของประชากร ทางการเลยปรับการบริหารแยกแขวงดินแดงออกมาเป็นเขตดินแดง จวบจนปัจจุบันนี้

เขตดินแดงในปัจจุบันเป็นทั้งแหล่งการค้า แหล่งการศึกษา แหล่งการบริการ และแหล่งที่อยู่อาศัย ฯลฯ มีสถานที่ตั้งสำคัญ ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กระทรวงแรงงาน ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี วิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการจำนงค์และวิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจจำนงค์ เป็นต้น



ความหลากหลายของชุมชนในย่านดินแดง

เขตดินแดง นับเป็นเขตที่มีพื้นที่ติดกับเขตแหล่งเศรษฐกิจ ข้างเคียงสำคัญ ๆ มีความเจริญรุ่งเรืองในหลาย ๆ ด้าน โดยมีทิศเหนือติดกับเขตจตุจักร ทิศตะวันออกติดต่อกับเขตห้วยขวาง ทิศใต้ติดต่อกับเขตราชเทวี ทิศตะวันตกติดต่อกับเขตพญาไท ทำให้มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมมาถึงเขตนี้ด้วย จากถนนดินลูกรังมาเป็นถนนในปัจจุบันนับได้ว่าเจริญรุ่งเรืองกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งถนนสายหลัก สายรอง ทางลัด ถนนพิเศษ ที่เป็นถนนเส้นสำคัญหลายเส้นทางเช่น ถนนรัชดาภิเษกถนนดินแดง ถนนอโศก-ดินแดง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ถนนประชาสงเคราะห์ เป็นต้น อีกทั้งมีสถานีรถไฟฟ้าหลายสถานี นับได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีการคมนาคมที่ครบวงจร จึงเกิดแหล่งงานและแหล่งที่อยู่อาศัยขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่าเขตดินแดงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะย่านอโศก-ดินแดง ซึ่งวิถีชีวิตของผู้คนในเขตนี้ มีหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา รวมถึงหลากหลายนิกายต่างกันออกไป อันสังเกตได้จากการสร้างสถานที่เคารพของแต่ละศาสนาในเขตพื้นที่แห่งนี้ เช่น

1) วัดกุนนทีรุทธาราม (วัดห้วยขวาง)

เป็นวัดพุทธ ฝ่ายเถรวาท มหานิกาย ตั้งอยู่ที่แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

2) วัดพรหมวงศาราม (วัดหลวงพ่อเณร)

เป็นวัดพุทธ ฝ่ายเถรวาท มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ 41 ซอย เพิ่มสิน แขวง ดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

3) วัดเล่งจิ๋วเจงเสี่ย

เป็นวัดจีน วัดพุทธ ฝ่ายมหายาน ตั้งอยู่ที่ 40 ซอยสมปรารถนา ถนนดินแดง เขตดินแดง

5) วัดแม่พระฟาติมา

เป็นวัดของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ที่ 4080ถนนอโศก-ดินแดง เขตดินแดง แขวงดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

6) มัสยิดมูฮายีรีน

เป็นสถานที่สำคัญของทางศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่ที่ 137 ถนน มิตรไมตรี แขวง ดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

7) มัสยิดดารุ้ลมู่ฮาญีรีน

เป็นสถานที่สำคัญของทางศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่ที่ 43/27 ซอย ชานเมือง 10 ถ. รัชดาภิเษก แขวง ดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400



ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการหาคนดูแลแบบครบวงจร

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทกับการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก สังเกตได้จากผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสื่อสารได้พัฒนา ปรับปรุง อุปกรณ์ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต ต่าง ๆ ออกรุ่นใหม่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง โดยอดีตราคาอุปกรณ์เหล่านั้นค่อนข้างสูง ยากต่อการเข้าถึงของครอบครัวที่มีฐานะทางการเงินไม่ดี ต่างกับปัจจุบันที่ยอดของผู้บริโภคล้นตลาด มีการแข่งขันการทางตลาดมากขึ้น ทางผู้ประกอบการเหล่าจึงต้องคิดค้นอุปกรณ์ในหลากหลายราคาเพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม ทำให้การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสารในปัจจุบันเป็นเรื่องง่ายขึ้น

การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นผู้ใช้ควรได้รับการศึกษาถึงวิธีการใช้งานให้ถูกต้องมิเช่นนั้นอาจเกิดภัยร้ายแรงขึ้นได้ เช่นในวัยเด็ก ที่ไม่ควรอยู่กับการใช้หน้าจอนานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการสมาธิสั้น มีอารมณ์รุนแรง ดื้อ เป็นต้น แต่หากใช้อย่างมีสติเทคโนโลยีเหล่านั้นก็มีประโยชน์มากโขอยู่เหมือนกัน เช่น สามารถใช้ในการติดต่อสื่อสาร ศึกษาหาความรู้ เรียนออนไลน์ ใช้ในการค้นหาเส้นทางรถ ทางเรือ และค้นหาความต้องการในปัจจัยการดำรงชีวิตต่าง ๆ

กล่าวถึงหนึ่งในปัจจัยของการดำรงชีวิต สำหรับคนในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้านด้วยกัน ซึ่งเป็นผู้ที่มีพระคุณ นอกจากการได้ให้กำเนิดแล้ว ท่านยังเคยทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลาน เติบโต กว่าจะมีงานทำในวันนี้ ร่างกายของท่านต้องในการทำงานมาอย่างหนักเป็นเวลานานถึง 60 ปีด้วยกัน ทำให้ร่างกายเกิดการทรุดโทรม มีอาการเจ็บป่วยตามมา ดังนั้นบุตรหลาน คนรอบข้างที่เกี่ยวข้องจึงควรให้ความสำคัญ ทดแทนบุญแก่ผู้สูงอายุอย่างยิ่ง เพราะหากลูก หลาน ได้เห็นการปรนนิบัติกับท่านให้เป็นตัวอย่างที่ดีในวันนี้ เด็กเหล่านั้นจะซึมซับและเก็บไว้ทำกับเราซึ่งเป็นวัยกลางคน วัยทำงานในวัยนี้ ในตัวอย่างที่ดีเหล่านั้นเช่นกัน ซึ่งวิถีชีวิตสังคมไทยในอดีตกับปัจจุบันต่างกันมาก เช่น อดีตผู้ชายมักทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงมักทำงานบ้านดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่มีการออกไปทำงานมากขึ้น ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง ทั้งความคิด ความเชื่อใหม่ ๆ เช่น ผู้ชายและผู้หญิง มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น มีโอกาสได้ศึกษาเหล่าเรียน ดังนั้นผู้หญิงในวันนี้จึงสามารถหาเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านได้เช่นกัน

แต่ข้อเสียของการที่ผู้หญิงต้องทำงานนอกบ้านนั้นคือ มีเวลาดูแลบ้าน ดูแลลูก ดูแลผู้สูงอายุน้อยลงไปด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาศัยในเขตเมืองกรุง ที่มีแหล่งงานรองรับหลากหลายอาชีพ ดังนั้นความจำเป็นในการหาผู้ช่วยมาดูแลในเรื่องดังกล่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการคิดค้นการให้บริการดูแลบุคคลเหล่านั้นแบบครบวงจร โดยการใช้เทคโนโลยีที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ทั้งจากเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค ไลน์ อีกทั้งยังมีการพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันหาคนทำงานในมือถือต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานควรศึกษารายละเอียดถึงความน่าเชื่อถือของทางผู้ประกอบการเหล่านั้นก่อนทำการตัดสินใจ และปรับมุมมองความคิด เพื่อต้อนรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัจจัยในการดำรงชีวิตในทุกวันนี้ด้วย