ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
Sarawut Madcharoen
Sarawut Madcharoen
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
อริสสา กลิ่นล่ำทวีทรัพย์
อริสสา กลิ่นล่ำทวีทรัพย์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ใจดี คุย ให้คำปรึกษาได้ ตรงต่อเวลา รับผิดชอบงาน รักความสะอาด

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Rapatr Matinrat
Rapatr Matinrat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อรภัทร เมธินรัตน์ หรือแอมมี่นะคะ ตอนนี้อายุ 27 ค่ะ จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความสนใจเกี่ยวกับจิตวิทยาจึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของจิตวิทยาเด็ก จนถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ซึ่งเชื่อว่าทักษะที่ได้เรียนรู้มา สามารถนำมาทำงานด้านนี้ หรือที่เกี่ยวข้องได้อย่างดี มีความรู้รอบตัว มีสกิลการสื่อสารที่ทำให้สามารถพูดคุยได้กับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุได้ทุกเรื่อง เป็นคนมีความสามารถที่หลากหลาย สามารถทำงานได้ multi skills มีความอดทน เข้ากับผู้อื่นได้งาน มีความตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบสูง

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 35 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ปัจุบันทำงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประสบการณ์ด้านนี้ 3 ปี เข้าเวรดึกได้ค่ะ ฟีดได้ รับวัคซีนโควิค 4 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
3 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

บางกะปิ เมืองที่กำลังโต

เมื่อนึกถึงบางกะปิ สิ่งแรกๆ ที่เราคิดถึงเลยน่าจะเป็น มหาวิทยาลัย ชื่อดังทั้งของรัฐและเอกชน (มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ) อีกทั้ง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางความรู้ที่ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ ของเมืองไทย นอกจากนี้แล้ว เมื่อมีรายการกีฬาสำคัญ งานแสดงคอนเสิร์ต ระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ ส่วนใหญ่จะใช้ราชมังคลากีฬาสถาน และ สนามกีฬาหัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นสถานที่จัดงานเหล่านี้ จากทุ่งบางกะปิ ในอดีต โดยที่มาของชื่อ "บางกะปิ" นั้น ได้มีข้อสันนิษฐานมากมาย ตั้งแต่คำว่า "กบิ" หรือ "กบี่" ที่หมายถึง ลิง เพราะพื้นที่แถบนี้ในอดีตเคยเป็นป่าทึบ และมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก (แล้วทำไมไม่เรียกบางลิงดูเหมือนจะง่ายกว่า) สัญลักษณ์ของเขตเป็นรูปหนุมานด้วย หรือมาจาก "กะปิ" ซึ่งเป็นเครื่องปรุงอาหาร เพราะพื้นที่นี้แต่เดิมอุดมสมบูรณ์ด้วยกุ้งเล็ก ๆ มากมาย ประชาชนจึงนิยมนำมาทำกะปิกันมาก อันนี้น่าจะใกล้เคียงทั้งรูป รสกลิ่น น่าเป็นที่จดจำง่าย ยังมีอีกหนึ่งที่มา โดยชื่อกะปิ มาจากชื่อหมวก ‘กะปิเยาะห์’ ของชาวมุสลิม เนื่องจากพื้นที่นี้มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก ซึ่งการแต่งกายของชาวมุสลิมส่วนใหญ่จะสวมหมวกคลุมหัวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘กะปิเยาะห์’ จึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อ ‘บางกะปิ’ ได้เช่นกัน

ไม่ว่าที่มาจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันบางกะปิกลายเป็นศูนย์กลางหนึ่งของกรุงเทพฯ จากเดิมที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ริมคลอง (คลองแสนแสบ) จนเมื่อเมืองขยายและการเดินทางในกรุงเทพฯ เริ่มเปลี่ยนรูปแบบเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก มีการตัดถนนสายใหม่ ๆ ทำให้ชุมชนเติบโตเร็วและคับคั่งไปด้วยคนที่เข้ามาอาศัย รวมถึงการเข้ามาปักธงเปิดศูนย์การค้าของกลุ่มเดอะมอลล์อย่าง เดอะมอลล์ บางกะปิ บริเวณใกล้แยกแฮปปี้แลนด์ในช่วงเวลา พ.ศ.253-พ.ส.2537 เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ย่านบางกะปิมีการเติบโตเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พื้นที่โดยรอบศูนย์การค้าแห่งนี้มีการค้าขาย สำนักงานขนาดเล็กขยายตัวเป็นวงกว้าง และมีผลให้เกิดโครงการค้าปลีกอื่น ๆ รวมถึงการเข้ามาของรถไฟฟ้า ทำให้เกิดการลงทุนสร้างอาคารสำนักงานหรือ ห้องพัก ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในย่านบางกะปิ นอกจากพื้นที่รอบสถานีลำสาลีแล้ว สถานีหัวหมาก สถานีการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสถานีรามคำแหง ทั้งหมดนี้จะกำหนดทิศทางของเขต บางกะปิ เขตที่มีพื้นที่ 28.523 ตร.กม กับจำนวนประชากร กว่า 144,000 คน



กะปิ ที่พ้องกับบางกะปิ

ระหว่างคน “บางกอก” กับ คน “บ้านนอก” ที่ทุ่งบางกะปิ คงเป็นบ้านนอกในยุคหนึ่งที่ยังเป็นทุ่ง คลองแสนแสบที่เคยใช้ยกทัพไปญวนในครั้งก่อนยังคงใส เหมือนคำที่บรรยายไว้ในนิยายรัก ดำผุดดำว่ายล้อเล่น หยอกล้อกัน ก่อนความเจริญจะเข้ามา ไม่ว่าที่มาของบางกะปิจะเป็นอย่างไรหนึ่งในนั้นคือคำว่า กะปิ ที่ คนไทยส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับ “กะปิ” อาหารหมักกลิ่นแรงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในอาหารไทยหลายตำรับเป็นอย่างดี กะปิ เป็นเครื่องปรุงรสอย่างหนึ่งที่แพร่หลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนใต้ของประเทศจีน สำหรับประเทศไทย กะปินั้นทำมาจากหลากหลายวัตถุดิบขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้นๆ เช่น ทางฝั่งอันดามันจะเป็นกุ้งเคย จึงทำให้ กะปิมีมาจากหลากหลายที่มา เอาเป็นว่าสูตรใครสูตรมันขึ้นอยู่กับความชอบ โดยแต่ละท้องที่ในกะปิจะมีปริมาณของกรดอะมิโนและสารระเหยแตกต่างกันทำให้รสชาติและกลิ่นแตกต่างกัน กะปิ ชื่อนี้ใช้เรียก ในประเทศไทย ลาว กัมพูชา สันนิษฐานกันว่ากะปิไทยมาจาก คำว่า "กะปิ" ในภาษาไทยมาจากคำในภาษาพม่าว่า "ง่าปิ" แปลว่า "ปลาหมัก" กะปิ เคยเป็นเรื่องใหญ่ในสมัย รัชกาลที่ 3 ได้มีการตั้งภาษีกะปิ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ รับสั่งเจ้าพนักงานพระคลังสินค้าว่า จะเขียนตราตั้งและบัญชี อย่าให้ออกชื่อว่า “กะปิ” เป็นของหยาบคายต่ำช้า ให้ยักเขียนและกราบทูลเสียว่า “งาปิ” ตั้งแต่นั้นมา “งาปิ” เป็นภาษาราชการ ครั้นถึงสมัย ร.4 มีผู้กราบทูล ออกชื่อ “งาปิ” ยังไม่โปรด ว่าเหตุใดจึงต้องไปเปลี่ยนชื่อที่คนเรียกกันมาช้านาน พระรัตนโกษาทูลว่า ของอันนี้มีผู้ถูกดูแคลนอยู่...ถ้าไม่โปรด จะขอรับพระราชทานชื่ออื่นที่สมควร ลงในท้องตรา มีพระบรมราชโองการดำรัสว่า ถ้าจะแปลงควรแปลงให้หมด มิใช่แค่ครึ่งๆ กลางๆ จึงโปรดให้ใช้คำ “เยื่อเคย” แทน แล้วสั่งให้พระยามณเฑียรออกประกาศว่า ถ้าจะกราบทูลเรื่องกะปิ จะเรียกกะปิอย่างเดิมก็ได้ หรือถ้ารังเกียจก็ให้ใช้ว่า “เยื่อเคย” ก็ได้

กะปิ คิดขึ้นโดยชาวประมง ที่ต้องการจะดองกุ้งที่จับมาได้เพื่อเอาไว้รับประทานได้ในระยะเวลานาน ๆ หรือ อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งกล่าวว่าเนื่องจากไม่สามารถขายกุ้งได้หมด จึงทำการดองเอาไว้ ไม่ว่าข้อสันนิษฐานจะเป็นอย่างไร แต่ข้อเท็จจริงคือ กะปิเป็นตำรับอาหารของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในปัจจุบัน กะปิกลายมาเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอาหาร และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนต่าง ๆ จากการผลิตกะปิขาย ย้อนกลับมาที่ทุ่งบางกะปิ ความเป็นจริงที่ได้ประจักษ์ว่า “ทุ่งบางกะปิ” ในอดีตได้กลับกลายมาเป็น “ย่านหัวหมาก” ในวันนี้



5 วิธีง่ายๆ ในการเตรียมลูกของคุณให้พร้อมสำหรับชั้นอนุบาล

ในวันไปโรงเรียนอนุบาลวันแรกของลูกชาย เราซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้เพื่อสอดแนมเขาในช่วงแรก เราต้องการให้แน่ใจว่าเขาพบเด็กคนอื่นๆ เล่นด้วย และเขาจะเข้าแถวกับชั้นเรียนของเขาเมื่อถึงเวลากลับเข้าไปข้างใน เรายืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 20 นาทีโดยแอบมองจากด้านหลังต้นไม้และพูดคุยกับพ่อแม่คนอื่นๆ ที่ทำแบบเดียวกัน

เมื่อเรายืนอยู่ที่นั่น เราถามตัวเองว่า 'เราเตรียมลูกชายให้พร้อมสำหรับชั้นอนุบาลแล้วหรือยัง' พ่อแม่คนอื่นๆ ที่อยู่กับเราต่างสงสัยและกังวลในสิ่งเดียวกัน ความพร้อมของชั้นอนุบาลเป็นหัวข้อยอดนิยมในปัจจุบัน แต่เมื่อมีคนพูดว่าลูกของคุณ "พร้อมสำหรับชั้นอนุบาล" หมายความว่าอย่างไร ความพร้อมหมายถึงอะไรแตกต่างกันไปอย่างไม่น่าเชื่อจากชุมชนสู่ชุมชน โรงเรียนถึงโรงเรียน ครูถึงครู ผู้ปกครองถึงผู้ปกครอง ประเทศสู่ประเทศ

แม้ว่าคำจำกัดความของความพร้อมในชั้นอนุบาลจะแตกต่างกันไปตามบริบท ต่อไปนี้เป็นวิธีง่ายๆ 5 วิธีในการช่วยเตรียมบุตรหลานให้พร้อมสำหรับชั้นอนุบาล:

1. พูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก พูดคุยกับลูกของคุณตั้งแต่เนิ่นๆ และบ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น พูดคุยกับลูกน้อยของคุณในขณะที่คุณเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ตอนที่เล่นด้วยกัน พยายามสื่อสารด้วยการพูดคุย การตอบสนองของบุตรหลานของคุณอาจเป็นคำพูดหรือไม่ใช่คำพูด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพูดคุยกับบุตรหลานของคุณและฟังคำตอบของพวกเขาอย่างใกล้ชิด “คุณต้องใส่ใจในสิ่งที่ลูกของคุณพยายามสื่อสารกับคุณจริงๆ”

2. ให้เด็กได้มีเวลาเล่น เด็กทุกคนต้องการเวลาว่างในการเล่น การให้เวลาลูกเล่นไม่ใช่เรื่องเสียเวลา ตรงกันข้ามกับการเล่นให้ประโยชน์ด้านพัฒนาการแก่เด็กมากมาย การเล่นทางกายภาพช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว และเด็กเล็กมักฝึกเล่นโดยทำซ้ำการเคลื่อนไหวเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อฝึกทักษะดังกล่าวให้ชำนาญ การเล่นเป็นกลุ่มช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ทักษะการเข้าสังคม รวมถึงวิธีแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาต่อรองและการประนีประนอม วิธีการโน้มน้าวใจและวิธีแสดงความปรารถนาของพวกเขา ประโยชน์ส่วนใหญ่จากการเล่นทางสังคมเกิดขึ้นเมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะจัดการกับความขัดแย้งของตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ให้น้อยที่สุด และแนะนำให้เลือกโรงเรียนอนุบาลที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เล่นอย่างเต็มที่

3. ให้เด็กได้มีประสบการณ์โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ ให้บุตรหลานของคุณได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนวัยเดียวกัน เช่น เรียนว่ายน้ำ หรือกิจกรรมฟังนิทาน โดยให้เด็กได้ใช้เวลาอยู่กับผู้ดูแล หรือครูพี่เลี้ยง และเพื่อน ให้เด็กรู้สึกสบายใจที่จะรับคำแนะนำและฟังผู้ใหญ่คนอื่นๆ

4. ส่งเสริมความเป็นอิสระและการดูแลตนเอง ในโรงเรียนอนุบาล ครูมักจะให้คำแนะนำแบบหลายส่วนซึ่งกำหนดให้เด็กต้องทำงานหลายอย่างให้เสร็จ การส่งเสริมให้บุตรหลานของคุณมีความเป็นอิสระและเรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองและจัดการสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ช่วยให้พวกเขาเชี่ยวชาญในการจัดการงานหลายอย่างที่โรงเรียนด้วย

5. เรียนรู้อย่างสนุกสนานและผ่อนคลาย บุตรของท่านจำเป็นต้องรู้วิธีการอ่านเมื่อเริ่มอนุบาลหรือไม่? ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลหากเด็กจะไม่อ่านหนังสือในชั้นอนุบาล แต่เด็ก จะต้องรู้จักตัวอักษร สิ่งสำคัญคือต้องสอนตัวอักษรด้วยท่าทางที่สนุกสนาน เพื่อสนับสนุนทักษะการรู้หนังสือของบุตรหลานของคุณ แทนที่จะสอนลูกของคุณเกี่ยวกับ พยัญชนะ คุณสามารถชี้ตัวอักษรบนป้ายและในขณะที่อ่านให้ลูกของคุณฟัง กุญแจสำคัญคือการช่วยให้ลูกของคุณรู้จักตัวอักษรในบริบทของสภาพแวดล้อมของพวกเขา