ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางรัก, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางรัก, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

ประวัติศาสตร์ บางรัก

บางรัก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางตะวันออกของพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีอาณาเขตทิศเหนือและทิศตะวันออก ติดต่อกับเขตปทุมวัน ทิศใต้ ติดกับเขตสาทร ทิศตะวันตก ติดกับเขตคลองสาน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดต่อกับเขตสัมพันธวงศ์ เป็นพื้นที่แรกๆ ที่ชาวยุโรปเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพ พวกเขาได้ขออนุญาต รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้าง ถนนเจริญกรุง โดยใช้เหตุผลว่า "เข้ามาอยู่ที่กรุงเทพมหานครไม่มีถนนหนทางที่จะ ขี่รถม้าไปเที่ยว พากันเจ็บไข้เนืองๆ" เกิดเป็นถนนสายแรกของประเทศไทย โดยเป็นถนนรุ่นแรกที่ใช้เทคนิคการสร้างแบบตะวันตก ตอนสร้างเสร็จใหม่ๆ ผู้คนเรียกว่า ถนนใหม่ และชาวยุโรปเรียกว่า นิวโรด (New Road) ชาวจีนเรียกว่า ซิงพะโล่ว แปลว่าถนนตัดใหม่ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า "ถนนเจริญกรุง"แปลว่า ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ถือได้ว่าเป็นถนนประวัติศาสตร์ของกรุงเทพ เปิดให้ใช้งานวันที่ 17 มีนาคม 2407 นับเป็นถนนที่กว้างและยาวที่สุดในเวลานั้น ตัวถนนฝั่งที่ใกล้ถนนสนามไชย อยู่คู่ขนานกับชุมชนเยาวราช ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ของชาวจีนที่ย้ายมาอยู่อาศัยในเมืองไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของย่านการค้าขาย โดยเฉพาะการค้าขายของชาวจีน จึงกลายเป็นแหล่งชุมชน ทำมาค้าขาย ทำให้พื้นที่ในเขตบางรักมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ จวบจนถึงปัจจุบันมีโรงแรมหรูสร้างขึ้นริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตบางรัก เช่น โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ โรงแรมเชอราตัน โรงเรียนชื่อดัง เช่น โรงเรียนอัสสัมชัญโรงเรียน กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอน มีบริษัท ตึก สถาปัตยกรรมชาวต่างชาติเกิดขึ้นจำนวนมาก เพราะอดีตเคยเป็นสถานกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย (อาคารไปรษณีย์กลางบางรักในปัจจุบัน) มีอาคารเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมตะวันตก เช่น ศุลกสถาน อาคาร อีสต์ เอเชียติก ห้องสมุดเนียลสัน เฮส์ และพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก



สถาปัตยกรรมตะวันตกในย่านบางรัก

ย่านบางรัก มีแหล่งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ให้พูดถึงมากมาย และเติบโตสูงสุดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงรัชกาลที่ 7 เพราะย่านนี้มีชาวยุโรปอาศัยมากที่สุดในกรุงเทพ สถาปัตยกรรมในย่านบางรักที่เกี่ยวข้องกับชาวยุโรป เช่น

O.P. Place ปัจจุบันสภาพตึกดูใหม่มาก แต่ที่จริงแล้วตึกนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เจ้าของเป็นชาวเยอรมัน ภายในออกแบบได้สวยงาม เป็นสถานที่ขายงานศิลปะ งานฝีมือ งานประดิษฐ์ ของตกแต่งบ้าน ผ้าไหม ของฝากของที่ระลึก และยังสามารถที่จะจัดนิทรรศการ ด้านศิลปะได้อย่างมากมาย ของทุกชิ้นมีใบรับรองจากกรมศิลปากร ดังนั้นลูกค้าที่ซื้อของที่นี่ไปไร้กังวลเรื่องของปลอมได้เลย

สถานที่ตั้ง 30/1 ซอย 38 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

อาคาร อีสต์ เอเชียติก หรือ ตึกเก่า บริษัทอีสต์ เอเชียติก สร้างขึ้นในช่วงต้นรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2434 หรือเมื่อประมาณ 130 ปีมาแล้ว เดิมทีอาคารนี้เป็นบริษัท ของชาวเดนมาร์ก ชื่อว่า Anderson เป็นผู้เดินเรือและเป็นนักธุรกิจที่เข้ามาในเมืองไทยในยุคนั้น เขาเป็นคนที่ฉลาดนำสินค้าจากไทยส่งไปขายในฝั่งยุโรป และนำสินค้าจากฝั่งยุโรปเข้ามาขายในไทย สินค้าหลักที่เขาใช้ค้าขายคือพวกงานไม้ งานเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้สัก เนื่องจากชาวยุโรปชื่นชมงานออกแบบจากไทยเป็นอย่างมาก ทำให้เขาสามารถตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาได้ เพื่อส่งสินค้าไปขายทั่วทุกมุมโลกตามทางเดินเรือ ตัวอาคารมีลักษณะเป็นห้องโล่งๆ ยาวตลอดทั้งตัวตึก มีบันไดขึ้นตรงกลาง ภายนอกออกแบบที่สวยงามโดดเด่น มีตราสมอเรือที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ ประดับอยู่ด้านบนของหน้าตึก รวมไปถึงสัญลักษณ์ของเมอคิวรี่ เทพเจ้าแห่งความเชื่อของชาวยุโรปด้านการทำมาค้าขึ้น ประดับอยู่ด้านหน้าตึก

สถานที่ตั้ง ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

นอกจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้น ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเขตบางรักที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาศึกษาเรื่องราวในประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง



เที่ยวถนนเจริญกรุง บางรัก

เที่ยวถนนเจริญกรุง บางรัก ย่านแหล่งท่องเที่ยว ที่มีทั้งร้านคาเฟ่ ร้านขายของโชว์ผลงานศิลปะ ของเก่า เสื้อผ้า และอีกมากมาย การเดินทางไปมาสะดวกสบาย ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปสถานที่ต่าง ๆ สามารถเดินทางไปมาโดยรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง เรือ หรือรถยนต์ เหมาะแก่การมาท่องเที่ยว รับประทานอาหาร ถ่ายรูป จับจ่ายซื้อของ ศึกษาประวัติศาสตร์ในอดีตของกรุงเทพเป็นอย่างมาก

ร้านอาหารและสถานที่น่าเที่ยวในถนนเจริญกรุง อาทิ

1. ร้านไอศกรีมฮงฮวด เป็นร้านไอศกรีมชื่อดัง ตั้งอยู่แถวไปรษณีย์กลาง ทางเข้าซอยเจริญกรุง 43 มีไอศกรีมให้เลือกหลายรสชาติ วานิลลา กาแฟ กะทิ ช๊อคโกแลต และสตริเบอร์รี่ ราคาเพียง 20 บาท แต่ถ้าจะเพิ่มท็อปปิ้ง ก็เพิ่มเงินอีก 10 บาท จัดเป็นของหวานรสชาติดีที่ต้องลอง

2. ศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ หรือ TCDC (Thailand Creative & Design Center)

ตั้งอยู่ในอาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ภายในอาคารจะแบ่งออกเป็น 5 ชั้น โดยมีสินค้าการออกแบบนำมาขายจำนวนมาก และด้านในยังมีโซนหนังสือที่มีพื้นที่กว้างมาก โดยทาง TCDC จะมีสื่อในรูปแบบการนำเสนอต่าง ๆ ทั้งสื่อดิจิตอลสมัยใหม่ที่เหมาะต่อการเรียนรู้

สถานที่ตั้ง อาคารไปรษณีย์กลาง 1160 ถนน เจริญกรุง แขวง บางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

3. ร้านนิวเฮงกี่ ร้านอาหารจีน ที่ตั้งห่างจาก TCDC 700 เมตร มีทั้งเมนูบะหมี่ หรือข้าวราด แต่เมนูแนะนำของร้านคือ เมนูไก่กระเช้า เมนูนี้รสชาติเด็ดเพราะเป็นการนำไก่ไปทอดผัดกับซอสสไตล์จีนเสฉวนตกแต่งเล็กน้อยพร้อมเสิร์ฟ

4. วัดสวนพลู สร้างขึ้นในสมัย ปี พ.ศ.2340 การออกแบบสถาปัตยกรรมอยู่ในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัดเก่าแก่ มีลักษณะสีแดงน้ำตาล สวยงามเห็นชัดมาก

สถานที่ตั้ง 58 ซอย เจริญกรุง 42/1 แขวง บางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

5. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางรัก รศ.วราพร สุรวดี ได้มอบบ้านและที่ดินให้เป็นสถานที่เรียนรู้วิถีชีวิตของในชุมชน อาคารตกแต่ง สวยงาม สไตล์การออกแบบได้รับอิธิพลมาจากชาวตะวันตก ภายในอาหารมีเครื่องใช้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเก็บรักษาไว้อย่างดี เปิด พุธถึงอาทิตย์ ปิดวันจันทร์และอังคาร ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00

ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 273 ซอยเจริญกรุง 43 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร