ดูแลผู้สูงอายุ ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
5 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
5 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
5 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

ข้อมูลเขตราษฎร์บูรณะ

เขตราษฎร์บูรณะนั้นมีพื้นที่ ที่ติดกับ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่ประชากรอยู่อาศัยหลายเชื้อชาติมายาวนาน ดังนั้นย่านราษฎร์บูรณะจึงได้รับอิทธิพลบางส่วนมาจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ด้วยเหตุประกอบกับการขยายตัวของเมืองทางฝั่งใต้ของกรุงเทพฯ จึงทำให้ย่านราษฎร์บูรณะนั้นเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่มีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก แต่ยังคงจัดเป็นย่านอยู่อาศัยแบบเงียบสงบ โดยมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งหน่วยงานราชการ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ วัดราษฎร์บูรณะ โรงเรียน โรงพยาบาล ดิสเคาน์สโตร์ ที่เติมเต็มองค์ประกอบการอยู่อาศัยย่านนี้ เขตราษฎร์บูรณะมีพื้นที่ทั้งหมด 15.782 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอยู่ที่ 79,000 คน ในความเป็นย่านการค้า ราษฎร์บูรณะ ก็เป็นแหล่งการค้าในแบบเอสเอ็มอีหรือธุรกิจรายย่อย อาคารพาณิชย์ คลังสินค้าขนาดเล็ก ซึ่งตั้งอยู่คู่กับชุมชนอยู่อาศัย เมื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาเขตราษำร์บูรณะก็จะเห็นสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย อยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งงานขนาดใหญ่ที่ทำให้ย่านราษฎร์บูรณะเจริญเติบโต ด้วยรูปลักษณ์อาคารที่โดดเด่น และตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยกันนั้นอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย จึงเปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของย่านนี้ ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยได้ขยายตัวมายังเขตราษฎร์บูรณะ ที่เป็นโครงการจัดสรรใหม่ ๆ ในย่านราษฎร์บูรณะเกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะราคาที่ดินย่านนี้ค่อนข้างสูง การพัฒนาโครงการบ้านแนวราบใหม่ ๆ จึงอยู่บริเวณใกล้เคียง เช่น ย่านสุขสวัสดิ์ ย่านพุทธบูชา ย่านบางปะกอก เป็นหลัก อนาคตโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ฝั่งใต้ เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายจากสายสีม่วงปัจจุบัน ซึ่งตามแผนดำเนินงานของภาครัฐได้ประเมินว่า จะเป็นเส้นทางที่มีคนใช้บริการจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นที่วิ่งเข้าเขตเมืองชั้นในรองรับการเดินทางของประชาชนฝั่งเมืองเก่า โดยเริ่มต้นจากสถานีเตาปูน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT วิ่งมาทางรัฐสภาใหม่ เกียกกาย ผ่านเมืองเก่า แล้วข้ามมาฝั่งธนบุรี วงเวียนใหญ่ สำเหร่ ดาวคะนอง บางปะแก้ว บางปะกอกสะพานพระรามเก้า ราษฎร์บูรณะ พระประแดง ครุใน ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะมีผลให้ย่านราษฎร์บูรณะ โดยเฉพาะพื้นที่รอบสถานีมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น



วิธีเติมความสุขให้ชีวิตสู่การเป็นผู้สูงวัยที่มีความสุข

จะใช้ชีวิตวัยชราอย่างไรให้มีความสุข ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการสร้างความสุขที่คนทุกวัยสามารถนำไปใช้ และก้าวไปเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี

1. รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก คนหนุ่มสาว หรือคนแก่ ระลึกไว้เสมอว่าครอบครัว คือ คนที่รักและคอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอ นอกจากครอบครัวคุณอาจมีเพื่อนสนิทสักไม่กี่คนที่จริงใจกับคุณ จงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านั้น โทรหาหรือไปเยี่ยมพวกเขาทุกครั้งที่ทำได้

2. ยิ้มเข้าไว้

ฟังดูง่าย การที่คุณจะเป็นคนที่ยิ้มได้แม้จะเจอกับความอยากลำบากนั้น คุณต้องเป็นคนคิดบวก หรือมองทุกอย่างในแง่บวก รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น การคิดบอกและรอยยิ้มจะกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความสุข ยิ้มในกระจกเมื่อตื่นนอนตอนเช้าเป็นครั้งแรก เริ่มต้นวันด้วยรอยยิ้มจะสร้างสิ่งดี ๆ ได้ทั้งวัน

3. เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

เทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา อย่าทำตัวล้าหลัง ก้าวให้ทันโลก อย่าหยุดเรียนรู้ คุณอาจพบงานอดิเรกหรือกิจกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างความสุขได้ง่ายขึ้น

4. รักษาสุขภาพ

ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ลดความสุขได้ ตัวอย่างเช่น อาการบาดเจ็บที่ไม่รักษาอาจนำไปสู่ความเจ็บปวดเรื้อรังที่ทำให้รู้สึกมีความสุขได้ยาก ผู้สูงอายุควรให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะนัดตรวจสุขภาพตามกำหนดเวลาและไปตรวจเมื่อมีอาการผิดปกติ

5. มีอารมณ์ขัน

ดูหนังตลกหรือเล่าเรื่องตลกกับเพื่อน ๆ สร้างอารมณ์ขัน เสียงหัวเราะ ทำให้สุขภาพจิตดี ทำให้จิตใจของเขาดีขึ้น

6. ออกไปข้างนอกทุกวัน

แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ที่สำคัญ ออกไปเดินเล่นข้างนอกสักครู่ บนระเบียงท่ามกลางแสงแดดสักสองสามนาทีก็สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์สำหรับสุขภาพทางอารมณ์ได้

7. ทำประโยชน์ให้กับชุมชน

ใช้ความรู้และความสามารถที่มีในการทำงานหรือทำประโยชน์ให้กับชุมชน ทำงานจิตอาสาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน



ค้นหาความหมายและความสุขของวัยสูงอายุ

ค้นหาความหมายและความสุขตามวัย

นักอายุรศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่าความขัดแย้งของวัย: เนื่องจากผู้คนประสบกับทักษะทางปัญญาหรือสุขภาพกายที่ลดลง แทนที่จะรู้สึกแย่ พวกเขารู้สึกมีความสุขมากกว่าตอนเด็กๆ

แก่กว่าแต่ฉลาดทางอารมณ์ โดยเฉลี่ยแล้วผู้สูงอายุอาจมีความสุขมากขึ้นเพราะสติปัญญาที่พวกเขาได้รับจากประสบการณ์ชีวิต จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในด้านจิตวิทยาและการสูงวัย เมื่ออายุและขอบเขตเวลาของผู้คนสั้นลง พวกเขาลงทุนในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญที่สุด โดยทั่วไปแล้วนั่นคือความสัมพันธ์ที่มีความหมาย และพวกเขาได้รับความพึงพอใจมากขึ้นจากการลงทุนในความสัมพันธ์เหล่านั้น

นักวิจัยรายงานว่า ชีวิตทางอารมณ์ดีขึ้นตามอายุ ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสุขที่มากขึ้นเมื่อคนมีอายุมากขึ้น ความชราสัมพันธ์กับความผาสุกทางอารมณ์ในเชิงบวกที่มากขึ้น ความมั่นคงทางอารมณ์ที่มากขึ้น และความลึกทางอารมณ์ที่มากขึ้น ผลการศึกษายังเผยอีกว่า ผู้ที่มีอารมณ์ด้านบวกมักมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่มีความรู้สึกด้านลบบ่อยกว่า

แนวโน้มการสูงวัยในเชิงบวกส่งเสริมสุขภาพ

คุณรู้หรือไม่ว่าผู้คนคิดอย่างไรเกี่ยวกับการสูงวัยส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขา

ทัศนะเชิงบวกเกี่ยวกับการสูงวัยเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคเรื้อรังและภาวะสมองเสื่อม ความโดดเดี่ยวและความเหงาน้อยลง การรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น และการฟื้นตัวจากความทุพพลภาพได้เร็วและดีขึ้น บุคคลที่มีความตระหนักในตนเองในเชิงบวกเกี่ยวกับวัยสูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในพฤติกรรมสุขภาพเชิงป้องกันเมื่อเวลาผ่านไป ตามข้อมูลของเวชศาสตร์ป้องกัน ผลที่ได้คือ การให้ความรู้และส่งเสริมให้ผู้คนมีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นในเรื่องอายุ อาจช่วยเพิ่มพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัยได้

วัตถุประสงค์ ความหมาย และความสำเร็จในการแก่ชรา

การสร้างความหมายและจุดประสงค์ส่วนบุคคลผ่านช่วงต่างๆ ของชีวิตยังเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและการสูงวัยที่ประสบความสำเร็จตามการศึกษาด้านจิตวิทยาของแคนาดา สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของความพึงพอใจในชีวิตและการเติบโตเมื่อต้องเผชิญกับความทุพพลภาพหรือความสูญเสียอื่นๆ ที่มักมาพร้อมกับความชรา

การศึกษาพบว่าความมุ่งมั่น การมองโลกในแง่ดี และความผาสุกทางวิญญาณเป็นวิธีที่พบได้บ่อยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้สูงอายุในการค้นหาและเพิ่มความหมายและจุดประสงค์ส่วนตัว การรำลึกถึงซึ่งเกี่ยวข้องกับการดึงบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีตเพื่อแก้ปัญหาในปัจจุบัน หรือการส่งต่อปัญญาจากการเรียนรู้ตลอดชีวิตไปสู่รุ่นน้อง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความหมายที่เกี่ยวข้องกับการสูงวัยที่ประสบความสำเร็จ