วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันพยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน
I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.
แสดงผล 21 ถึง 40 จาก 40 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
เขตวัฒนา จากถนนทางผ่านในประวัติศาสตร์สงครามโลก สู่ศูนย์กลางใหม่ทางเศรษฐกิจ
เนื่องจากทางกรุงเทพมหานคร ได้พิจารณาเห็นว่าพื้นที่เขตคลองเตยยังมีอาณาเขตกว้างขวาง และมีพลเมืองเพิ่มมากขึ้น ทำให้การตรวจตราดูแลทุกข์สุขของประชาชนอาจทำได้ไม่ทั่วถึง ทำให้การบริการของสำนักงานเขตติดขัด ไม่คล่องตัว เพื่อประโยชน์ในการบริหารการปกครองและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน กรุงเทพมหานครจึงได้จัดตั้ง เปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตคลองเตย และจัดตั้งเขตวัฒนาขึ้นโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2541 เป็นต้นไป พื้นที่เขตวัฒนาคือพื้นที่บริการของ สำนักงานเขตคลองเตย สาขา 1 เดิมนั้นเอง จึงอาจกล่าวได้ว่าสำนักงานเขตคลองเตยสาขา 1 ซึ่งดำเนินการ ให้บริการประชาชนเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน 5 วัน ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “เขตวัฒนา” ในวันที่ 6 มีนาคม 2541 เขตวัฒนาจัดอยู่ในกลุ่มกรุงเทพใต้ ซึ่งถือเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ และการพัฒนาตามแนววงแหวนอุตสาหกรรม ทางกายภาพแล้ว เขตวัฒนามีขนาดพื้นที่ 12.565 ตารางกิโลเมตร และแบ่งพื้นที่การปกครอง ออกเป็น 3 แขวง คือ แขวงคลองเตยเหนือ แขวงคลองตันเหนือ และแขวงพระโขนงเหนือ โดยได้ตั้งอยู่ระหว่างแนวคลองแสนแสบทางด้านทิศเหนือ และแนวคลองพระโขนงทางด้านทิศตะวันออก ตลอดแนวถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 1-18 ทางด้านทิศใต้ อีกทั้งแนวเขตทางรถไฟสายช่องนนทรีทางทิศตะวันตก
เขตวัฒนานับเป็นเขตที่มีความเจริญเติบโต โดยทางกายภาพและด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ชั้นในของ กรุงเทพมหานคร มีความสะดวกในการคมนาคมและระบบขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน เรือโดยสาร และ รถโดยสาร โดยมีถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี ถนนทองหล่อ (ทองหล่อ อีกหนึ่งถนนสายประวัติศาสตร์และสายเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงจากอดีตเป็นอย่างมาก ใครเลยจะเชื่อว่า ถนนทางผ่านในประวัติศาสตร์สงครามโลก จะกลายเป็นถนนที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านที่อยู่อาศัยและย่านสถานบันเทิง) ถนนเอกมัย และถนนปรีดีพนมยงค์ (ถนนนี้เดิมคือซอยสุขุมวิท 71 สร้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปี พ.ศ. 2485-2486) เป็นถนนสายหลักเชื่อมโยงแหล่งธุรกิจพาณิชยกรรมในพื้นที่ ด้วยกันนั้นเขตวัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจเมือง เป็นแหล่งพาณิชยกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตามแนวถนนสายหลัก และสายรอง ที่มีพื้นที่พาณิชยกรรมรองจากพื้นที่พักอาศัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร มีร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ รวมถึงสถานประกอบการ และ แหล่งให้บริการด้านต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงและธุรกิจงานแต่งงาน ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ชื่อเขต วัฒนา เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2540 คำว่า วัฒนา แผลงมาจากคำว่า วฑฺฒน ในภาษาบาลี
ถนนสายเลือดหลักและสายเลือดใหม่ ของเขตวัฒนา
ถนนสายเลือดหลักและสายเลือดใหม่ ของเขตวัฒนา ที่นำความมั่งคั่งมาสู่ เขตวัฒนา เป็นถนนที่มีการขยับตลอดเวลา จนกลายเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครในเวลานี้และอนาคต
ถนนอโศกมนตรี เป็นถนนสายสั้น ๆ ในกรุงเทพมหานคร มีความยาวโดยประมาณเพียงแค่ 1.3 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นที่แยกอโศกมนตรีซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนรัชดาภิเษก (มุ่งหน้ามาจากเขตคลองเตย) ถนนอโศกมนตรีเดิมมีชื่อเรียกว่า "ซอยสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก)" และ "ถนนอโศก" โดยกรุงเทพมหานครได้เปลี่ยนชื่อเป็น ถนนอโศกมนตรี เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2547 ตามข้อเสนอของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ซึ่งเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้อุทิศที่ดินร่วมกับเจ้าของที่ดินรายอื่นและซื้อที่ดินที่เป็นตลาดเดิมมอบให้เทศบาลนครกรุงเทพสร้างถนนสายนี้ ย่านนี้มีมากกว่าตึกออฟฟิศ หากแต่เป็นย่านที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านค้าและสถานที่ต่างๆที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมือง มีเดินทางที่สะดวกมากทั้ง BTS MRT มีทางเชื่อม sky walk เดินข้ามแยกอย่างปลอดภัย โดยสถานที่สำคัญบนถนนสายนี้ มีโรงพยาบาลจักษุรัตนิน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อาคารสภาวิชาชีพบัญชีฯ และสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์
ถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) เป็นถนนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร มีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นจากถนนสุขุมวิทที่ทางแยกสุขุมวิทในแขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา มุ่งไปทางทิศเหนือ เมื่อถึงปากซอยปรีดี พนมยงค์ 26 (พัฒนเวศม์) จึงเริ่มเป็นเส้นแบ่งพื้นที่การปกครองระหว่างแขวงพระโขนงเหนือกับแขวงคลองตันเหนือ จนกระทั่งผ่านปากซอยปรีดี พนมยงค์ 25 (เจริญมิตร) จึงเข้าแขวงคลองตันเหนือ ถนนนี้เดิมคือซอยสุขุมวิท 71 สร้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปี พ.ศ. 2485-2486 เทศบาลนครกรุงเทพได้รับมอบมาจากแขวงการทางกรุงเทพ (หน่วยงานของกรมทางหลวง) เมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยกรมทางหลวงเรียกซอยนี้ว่า "ทางสายพระโขนง-คลองตัน (ซอยปรีดี)" สถานที่สำคัญบนถนนเส้นนี้ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย และโรงพยาบาลพัฒนเวช
ถนนทองหล่อ หรือ ซอยสุขุมวิท 55 หรือที่นิยมเรียกกันว่า ซอยทองหล่อ เป็นเส้นทางจราจรแยกจากถนนสุขุมวิทในเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ไปบรรจบกับถนนเพชรบุรีในเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ชื่อซอยทองหล่อตั้งขึ้นตามชื่อเดิมของ ร.ท. ทองหล่อ ขำหิรัญ ร.น. (ยศในขณะนั้น; สำหรับยศสูงสุด และชื่อซึ่งเปลี่ยนใหม่ภายหลังจากนั้น คือ พล.ร.ต.ทหาร ขำหิรัญ ) จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2557 เอกมัย ย่านทองหล่อ ถือเป็นทำเลยอดนิยมของการซื้อขายที่ดินเป็นอันดับ 1 (รองลงมาคือ พญาไท พหลโยธิน สนามเป้า สะพานควาย) ที่ดินบางผืนมีการซื้อขายกันที่ 1,200,000-1,800,000 บาทต่อตารางวาราคาเพิ่มขึ้นไปถึง 22% จากปี 2555 อยู่ที่ 900,000 บาทต่อตารางวา โครงการคอนโดมีเนียม สร้างแล้วกว่า 4,000-5,000 ยูนิต ส่วนใหญ่มีราคาขายตารางเมตรละกว่า 100,000 บาท มีผู้พักอาศัยต่อเนื่องโดยเฉลี่ยร้อยละ 96 ต่อปี มีราคาเช่าห้องพักระหว่าง 800-1,000 บาทต่อตารางเมตร
4 เคล็ดลับในการดูแลผู้สูงอายุที่รัก
เมื่อถึงเวลาที่ต้องดูแลผู้สูงวัยที่คุณรักคุณต้องแน่ใจว่าพวกเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่ความรักและความอดทน แม้ว่าบางครั้งอาจจะเครียด แต่คุณต้องจำไว้ด้วยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้สูงอายุจะต้องพึ่งพาครอบครัวหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อดูแลพวกเขา เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องทำความคุ้นเคยกับวิธีการดูแลที่ดีที่สุด
1.แวะไปเยี่ยมเยือนบ่อย ๆ สิ่งสำคัญคือต้องไปเยี่ยมผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุต้องการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับครอบครัว และเพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุปลอดภัยและมีสุขภาพดี ตรวจสอบรอบ ๆ บ้านเพื่อหาปัญหาที่อาจต้องได้รับการแก้ไข เช่น ความสะอาดโดยรวมของบ้านหรือหากมีสิ่งใดชำรุดที่อาจต้องได้รับการแก้ไข
2. ตรวจสอบยา ให้แน่ใจว่าผู้สูงอายุได้รับยาอย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือใบนัดพบแพทย์ครั้งต่อไป หากผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้ยาหลายชนิด ผู้ดูแลควรซื้อที่จัดกล่องยาที่มีช่องที่ระบุวันในสัปดาห์เช่นเดียวกับปริมาณ AM และ PM สิ่งนี้สามารถช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการรับประทานยาได้ นอกจากนี้หากมีการกำหนดยาใหม่โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหรือปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นกับยาปัจจุบัน
3. ว่าจ้างผู้ดูหรือใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุ อาจมีความจำเป็นต้องจ้างผู้ช่วยผู้ช่วยหรือผู้ดูแล เพื่อช่วยผู้สูงอายุในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ ทำธุระ หรือทำความสะอาด
4. ปรับปรุงที่พักอาศัย ลองสำรวจรอบ ๆ บ้านหรือที่พักอาศัย เพื่อประเมินสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ บางอย่างอาจเป็นการแก้ไขง่าย ๆ หรือการติดตั้งอุปกรณ์เสริมความสะดวกและปลอดภัย ได้แก่ :
- การติดตั้งทางลาดสำหรับเก้าอี้รถเข็นหรือทางเดิน
- การติดตั้งราวจับและราวจับที่โถสุขภัณฑ์และฝักบัว
- การติดตั้งโถสุขภัณฑ์ มีราวจับเพื่อการพยุงตัว
- ตรวจสอบแสงสว่างโดยรวมในบ้านว่าสว่างเพียงพอ
- เสียบไฟกลางคืนเซ็นเซอร์อัตโนมัติสองสามดวงทั่วบ้านเพื่อให้สามารถตรวจตราดูแลผู้สูงอายุว่าพวกเขาตื่นขึ้นมาในเวลากลางคืนหรือไม่
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเสื่อหรือแถบกันลื่นในห้องอาบน้ำหรืออ่างอาบน้ำหรือบริเวณอื่น ๆ ที่อาจลื่นในบ้าน
- การขจัดสิ่งที่เกะกะเป็นพิเศษที่วางอยู่รอบ ๆ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ขวางทาง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายเคเบิลสายไฟและสายไฟถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการตกที่อาจเกิดขึ้น
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง