วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้
เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 40 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ
รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา
1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน
จากตำบล สู่ เขตสวนหลวง
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 กรุงเทพมหานครได้ประกาศจัดตั้งแขวงอ่อนนุชและแขวงพัฒนาการแยกจากพื้นที่แขวงสวนหลวง โดยมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกัน ส่งผลให้เขตสวนหลวงในปัจจุบันแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 3 แขวง บทสรุปที่ลงตัวของเขตสวนหลวงหลังจากที่ประปรุงเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของพื้นที่และประชากร จากตำบลเล็กๆ ในปี พ.ส.2470 ที่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้โอนอำเภอพระโขนงรวมทั้งตำบลสวนหลวงมาขึ้นกับจังหวัดพระนคร (เป็นจังหวัดในอดีตของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีขึ้นในช่วง พ.ศ. 2408–2515 ก่อนที่จะรวมกับจังหวัดธนบุรี เป็นกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน)
สถานีหัวหมาก (รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) เป็นสถานีสำคัญในเขตนี้ เป็นสถานีรถไฟฟ้าในเส้นทางระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Rail Link - SARL) ในระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สาย City Line (Suvarnabhumi Airport Rail Link City Line) ที่แวะจอดรายทางจากสถานีพญาไทถึงสุวรรณภูมิ และอนาคต สถานีนี้จะเชื่อมต่อ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า รถไฟฟ้า BTS สายศรีนครินทร์ เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางราง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งทำให้ราคาที่ดินบริเวณสถานีหัวหมากราคาที่ดินปรับตัวสูงต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มลงมือก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทางอย่างเป็นรูปธรรม จากราคาประมาณ 100,000 บาทต่อตารางวาก่อนหน้ายังไม่มีการก่อสร้างขยับขึ้นถึง 400,000-500,000 บาทต่อตารางวาในปัจจุบันส่วนที่ดินที่อยู่ในซอย และถนนสายรองๆ จะมีราคาขายที่ต่างกันออกไปตามศักยภาพของที่ดินนั้นๆ เพราะทุกวันนี้การที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านดูเหมือนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งให้ความน่าสนใจของพื้นที่ตามแนวเส้นทางมีมากขึ้น คาดการว่าในอนาคตปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้าจะมากขึ้น ตามความสะดวกด้วย
สำหรับสถานที่สำคัญ ของเขตสวนหลวง นอกจากวัดที่อยู่สองฝั่งคลองพระโขนง เช่น วัดมหาบุศย์ (วัดแม่นาคพระโขนง) ชมเรือโบราณ เสาตะเคียนโบราณ ต้นตะเคียนเก่าแก่ ศาลา และรูปเหมือนแม่นาค ยังมี มัสยิดอัลกุ๊บรอ มัสยิดเป็นมัสยิดแห่งแรกในเขตสวนหลวงสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จวบจนปัจจุบัน และ มัสยิดอัลเอี๊ยะติซอม ซึ่งบรรพบุรุษของชาวมุสลิมที่อพยพมาจากภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ได้ร่วมกันสร้างขึ้นใหม่
5 วิธีเติมเต็มวัยทองด้วยความสุข
ทุกคนมีพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และผู้สูงอายุมีโอกาสพิเศษในการแสดงให้ผู้อื่นเห็นวิธีการค้นหาความสุขตลอดช่วงวัย เคล็ดลับทั้งเจ็ดนี้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุทุกคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยชรา
1. จัดลำดับความสำคัญของครอบครัวและเพื่อน การเชื่อมต่อทางสังคมเป็นกุญแจสำคัญของความสุขตามวัย เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวเป็นบุคคลที่จะช่วยสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุ พวกเขายังเป็นบุคคลที่จะอยู่เคียงข้างเพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษของคน คุณคนพิเศษ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวยังสามารถได้รับประโยชน์จากความเป็นเพื่อนของผู้ดูแลมืออาชีพที่มีความเห็นอกเห็นใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลที่บ้าน สามารถเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ว่าพวกเขาต้องการการดูแลตลอดเวลาหรือเพียงแค่ต้องการความช่วยเหลือในการออกกำลังกายและงานบ้านสัปดาห์ละสองสามวันผู้สูงอายุสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ดูแลที่บ้านที่ไว้วางใจได้
2. ยิ้มต่อไป มันฟังดูเรียบง่าย แต่เมื่อถึงเวลายากลำบากการยิ้มกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่การยิ้มสามารถกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความสุข กระตุ้นให้คนที่คุณรัก ยิ้มให้กับกระจกเมื่อตื่นนอนครั้งแรกในตอนเช้า การเริ่มต้นด้วยการยิ้มอาจทำให้คุณรู้สึกดีได้ตลอดทั้งวัน
3. ค้นพบความสนใจใหม่ ๆ ปัจจุบันเป็นยุคของข่าวสารและข้อมูล การได้เรียนรู้และเข้าถึงสิ่งใหม่ สามารถทำได้ไม่ยากด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ผู้สูงอายุสามารถเข้าเรียนและสำรวจงานอดิเรกต่างๆที่กระตุ้นจิตใจและร่างกาย ในที่สุดจะพบกับกิจกรรมใหม่ ๆ ที่เติมเต็มความสุขให้พวกเขาได้
4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ความสุขลดลง ตัวอย่างเช่นการบาดเจ็บที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ความเจ็บปวดเรื้อรังที่ทำให้รู้สึกมีความสุขได้ยาก ผู้สูงอายุควรให้คำมั่นสัญญากับตนเองว่าจะนัดตรวจสุขภาพตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอและเข้ารับการตรวจเมื่อมีอาการผิดปกติ นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดี เพื่อป้องกันภาวะสุขภาพทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุบางคนต้องการความช่วยเหลือในการใช้ชีวิตประจำวันเพียงเล็กน้อยเพื่อให้พวกเขาสามารถรักษาความเป็นอิสระได้
5. มีอารมณ์ขัน ความคิดที่ว่าผู้อาวุโสสูญเสียอารมณ์ขันนั้นไม่จริงเลย พวกท่านยังอยากร่วมทำกิจกรรมกับครอบครัวหรือคนที่เป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ดูละคร หรือพูดคุยหยอกล้อ เพื่อที่ได้คลายความเหงา และสร้างเสียงหัวเราะ การได้ยินเรื่องตลกอาจทำให้จิตใจของเขาดีขึ้น ความสุขรอบตัวหาได้ง่าย อยู่ที่ความเข้าใจและการยอมรับความเปลี่ยนแปลง
6 วิธีง่ายๆ ในการจัดการอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
ภาวะซึมเศร้าเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ เมื่อคุณสงสัยว่าคนที่คุณรักกำลังซึมเศร้า ให้ใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้เพื่อเพิ่มความสุขให้พวกท่าน
1. รับรู้สัญญาณเริ่มต้นของอาการซึมเศร้า
ผู้สูงอายุอาจไม่ทราบว่าพวกเขารู้สึกหดหู่ใจเสมอไป แต่คุณอาจสังเกตเห็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าท่านอาจต้องการความช่วยเหลือ ตัวอย่างเช่นผู้ปกครองของคุณอาจเลิกทำกิจกรรมโปรดหรือเลิกดูแลสุขอนามัยส่วนตัว หากคุณสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติให้พูดคุย ซักถามท่านทันที
ภาวะซึมเศร้าเป็นเพียงหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ผู้สูงอายุมีความอ่อนไหว ผู้สูงอายุสามารถเผชิญกับความท้าทายต่างๆได้เมื่ออายุมากขึ้นซึ่งหลายอย่างสามารถบรรเทาได้ด้วยความช่วยเหลือของผู้ดูแลในบ้านมืออาชีพที่ให้การดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพสูง
2. แจ้งเตือนหลังจากเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าหลังจากมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัญหาสุขภาพใหม่หรือโรคใหม่ อย่าลืมสังเกตคนที่คุณรักเพื่อหาสัญญาณของภาวะซึมเศร้าในช่วงเวลาเหล่านี้
3. ค้นหาสาเหตุทางกายภาพ
อาการซึมเศร้าอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากปัญหาสุขภาพร่างกาย ตัวอย่างเช่นความผิดปกติของต่อมไทรอยด์อาจส่งผลต่อระดับอารมณ์และพลังงาน หรืออีกทางหนึ่งโรคอัลไซเมอร์อาจทำให้เกิดอาการที่ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกหดหู่ พูดคุยกับแพทย์ของผู้สูงอายุ ของคุณเพื่อดูว่ามีสาเหตุทางกายภาพที่ต้องได้รับการแก้ไขหรือไม่
4. ช่วยในการจัดการยา
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเป็นจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อจัดการกับปัญหาสุขภาพและอาการเจ็บป่วย ผู้ดูแลควรมีระบบหรือบริหารจัดการยาเวลาการให้ยาเพื่อให้เข้ากับตารางกิจวัตรประจำวันและให้มั่นใจว่าไม่มีการหลงลืมยาที่จำเป็น จนส่งให้เกิดปัญหาสุขภาพหรืออาการเจ็บป่วยลุกลามรุนแรง
5. ส่งเสริมนิสัยการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ
ผู้สูงอายุที่มีอาการซึมเศร้าอาจไม่รับประทานอาหารที่เหมาะสมหรือออกกำลังกายซึ่งส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต การกำหนดแผนการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายที่ช่วยท่านมีความกระตือรือร้น หากจำเป็นให้มีคนไปเยี่ยมพ่อแม่ของคุณทุกวันเพื่อให้กำลังใจอย่างอ่อนโยนและทำตามแผนต่อไป
6. มอบประสบการณ์แปลกใหม่
การมอบประสบการณ์เชิงบวกจะช่วยให้พ่อแม่ของคุณมีมุมมองที่ดีต่อชีวิต ตัวอย่างเช่นคุณสามารถดูหนังตลกด้วยกันหรือออกไปเดินเล่นท่ามกลางแสงแดด ล้อมรอบคนที่คุณรักด้วยโอกาสทางสังคมและกิจกรรมต่างๆที่รอคอยในอนาคต
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง