ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 25 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
ธีรภัทร สารรักษ์
ธีรภัทร สารรักษ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

เป็นคนดี และ เป็นคนตรงๆ

แสดงเพิ่มเติม
จารุพร แก้วจันทร์
จารุพร แก้วจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สามารถดูแลและควบคุมสัตว์เลี้ยงได้ในระดับดี รวมถึงการฝึกระดับพื้นฐานและดูแลสัตว์ในขณะอยู่การการควบคุมระหว่างพาออกเดินได้ หากกรณีเกิดเหตุอันมิอาจคาดหมายได้สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีความระมัดระวังตามที่บุคคลในสภาวะเช่นนั้นควรทีตามวิสัย ไม่ประมาท

อุปกรณ์การเก็บสิ่งปฎิกูลรวมถึงอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ทางนายจ้างต้องเป็นผู้จัดเตรียมให้

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 21 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
จิณณภัสร์ กิตตินันท์ทยากร
จิณณภัสร์ กิตตินันท์ทยากร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ชอบพบปะผู้คน พร้อมที่จะเป็นมิตร

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
4 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
5 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
5 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
5 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

เขตพญาไท..ไม่ไกลแค่กลางเมือง

เขตพญาไท เป็นเหมือนรอยต่อของกรุงเทพชั้นใน กับชั้นนอกยังคงเป็นที่ตั้งของ ศูนย์ราชการ ถึง 2 กระทรวงหลัก อีกทั้งกรมทหาร สถานศึกษา นอกจากนี้ถ้าหากพูดถึงย่านพญาไท อีกภาพที่คนส่วนใหญ่คิดถึงคือ ย่านของแหล่งสถาบันการศึกษา สถานที่กวดวิชา ที่มีชื่อเสียงมากมาย เนื่องด้วย มีเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบายถือเป็นศูนย์รวมของระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพมหานครการที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ประมาณปี พ.ศ. 2548 ที่กลุ่มสถาบันกวดวิชาชื่อดังเริ่มย้ายจากย่านสยามสแควร์มายังย่านพญาไท ทำให้พญาไทมีความเจริญไม่แพ้ สยาม หรือ สีลม ในปัจจุบันย่าน ‘พญาไท’ มีอาคารสำนักงานเกิดใหม่และกำลังจะมี มากขึ้นกว่าในปีที่ผ่านๆ มา ภาพของย่านพญาไทเด่นชัดในความเป็นย่านอยู่อาศัยชั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ จับกลุ่มทั้งคนไทยกำลังซื้อสูง ต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยให้ผู้มีกำลังซื้อได้เช่า

เชื่อหรือไม่ว่า พญาไท ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านการแพทย์และเศรษฐกิจสุขภาพ นับได้ว่าเป็นพื้นที่หนาแน่นด้านกิจกรรมการแพทย์สูงสุดของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 9.34 ตารางกิโลเมตร ทิศเหนือจดถนนประดิพัทธ์ ทิศตะวันออกจดถนนวิภาวดี ถนนดินแดงและถนนราชปรารภ ทิศตะวันตกจดถนนพระรามหก ส่วนทิศใต้จดถนนเพชรบุรี ชุมชนและเขตพญาไท 16 ชุมชน ประชากรรวม 67,388 คน สถานพยาบาลและหน่วยบริการการแพทย์รวม 74 แห่ง แบ่งเป็น ศูนย์การแพทย์ 6 แห่ง โรงพยาบาล 11 แห่ง คลินิกอีก 38 แห่ง มีองค์กรการแพทย์ 9 แห่ง สถาบันศึกษาด้านการแพทย์ 2 แห่ง ศูนย์จำหน่ายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ 5 แห่ง และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 3 แห่ง หน่วยบริการพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย โรงแรมที่พัก 96 แห่ง ร้านอาหารและค่าเฟ่ 711 แห่ง ที่อยู่อาศัย 63 แห่ง (บางสถานที่คาบเกี่ยวกับเขตราชเทวี)

อีกมุมหนึ่งของเขตพญาไท ที่ไม่อาจมองข้ามได้ คือ ซอยอารีย์ เสน่ห์ของถนนสายนี้คงเป็นเรื่องของการออกแบบอาคาร ร้านอาหาร และ คาเฟ่ ที่ออกแบบมาแข่งขันกัน เชื่อมต่อยุคสมัย ต่างไปจากมุมอื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร จนกลายเป็นศูนย์กลาง ของการพักผ่อน ทานอาหาร ดื่มกาแฟ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ถนนสายนี้ได้ตอบโจทย์ของคนที่มีความหลากหลาย ทั้งคนที่ทำงานในศูนย์ราชการ พนักงานออฟฟิศ สำนักงาน รวมถึงกลุ่มนักเรียนผู้ปกครองที่มาเรียนกวดวิชาในย่านนี้

พญาไทมีขนาดเพียงแค่ 9.5 ตารางกิโลเมตร แต่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญๆ กับเขตอื่นๆ และเป็นเขตผสมระหว่าง โลกเก่าและโลกปัจจุบัน ข้าราชการและเอกชน



ทบทวนอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ

เราอาจได้ยินเสียงอ้อนวอน ของเด็กๆ คุณพ่อครับ น้าครับ ผมอยากเลี้ยงแมว หนูอยากเลี้ยงหมา หรือผมขอหนูแฮมส์เตอร์ เป็นรางวัลได้ไหมครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหรือมีข้อห้ามอะไรเพราะสัตว์เลี้ยงสามารถนำความสุข ความรักมาให้ ทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการรับผิดชอบที่ต้องใช้เวลา อยู่ด้วยกันไป เติบโตไปด้วยกัน เช่น แมวที่มีอายุยืนยาวถึง 20 ปี หรือสุนัขที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ระหว่าง 10 ถึง 20 ปี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาดังกล่าว บางคนอาจยังไม่พร้อมที่ต้องดูแลระยะยาว ทำให้การมีสัตว์เลี้ยง ไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้ อาจมีปัญหาจากการที่ปรับตัวเข้ากันไม่ได้ กลายเป็นปัญหาอย่างที่คาดไม่ถึง ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ

เรามาทบทวนกันดูอีกครั้ง ก่อนจะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญหรือรางวัล โดยตั้งคำถามแล้วหาคำตอบในใจไปทีละข้อ

1. คนที่เราจะมอบสัตว์เลี้ยงให้นี้ต้องการสัตว์เลี้ยงจริงหรือเปล่า ลองหาเวลาพูดคุยหาข้อมูลด้วยกัน ว่าชอบไม่ชอบอะไร เพราะสัตว์เลี้ยงมีหลายสายพันธุ์ วิธีการเลี้ยงก็ต่างกันออกไป หากรับมาตอนเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นเด็กเล็กๆ โตขึ้นยังจะชอบไหม

2. เด็กๆ จะมีอาการแพ้สัตว์เลี้ยงหรือไม่ บางคนมีอาการขนสัตว์ และขนสัตว์บางชนิดนำมาซึ่งภูมิแพ้ได้ ข้อนี้ควรสอบถามก่อนพิจารณาซื้อ

3. เด็กๆ หรือ ผู้ใหญ่วัยเกษียณมีเวลาให้สุนัขหรือแมวหรือไม่ ต้องสอบถามผู้เลี้ยงก่อนว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการที่ต้องเริ่มต้นดูแลชีวิตใหม่ เพราะการเลี้ยงนั้นสิ่งสำคัญคือเวลาและการดูแลเอาใจใส่จากผู้เลี้ยง อย่างสุนัขต้องการเดินและวิ่งเล่น อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุวัยเกษียณ

4. สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงรวมทั้งค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่ การต้องพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อรับวัคซีน ตามช่วงอายุเวลา การที่ต้องรักษาตามอาการไม่สบายล้วนเป็นรายจ่ายที่แฝงอยู่ เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาตามมา แบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายประจำวัน อาหารของสัตว์เลี้ยง ค่าใช้จ่ายตามขวบเวลาที่ต้องพบสัตวแพทย์ ผู้ให้ อาจลองคิดดูว่าผู้เลี้ยงมีความสะดวกและสามารถรับผิดชอบได้ไหม การเลี้ยงสัตว์ประเภทนั้นๆ กระทบต่อการใช้จ่ายส่วนตัวหรือไม่ เช่น การเลี้ยงสุนัขบางสายพันธุ์ ซึ่งต้องการอาหารปริมาณมาก ค่าใช้จ่ายต่อเดือนย่อมสูงตามไปด้วย

หากที่สุดแล้วคำตอบของเราและของผู้รับคือ “ใช่” สำหรับคำถามเหล่านี้ทั้งหมด เราอาจพิจารณาให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นของรางวัลได้ การทำเช่นนั้นเท่ากับเราให้เพื่อนที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิตและมอบสัญญาของชีวิตใหม่ให้กับสัตว์ที่พักพิงที่สมควรได้รับอีกด้วย



ซอยอารีย์ คือดอกไม้แซมผมของพญาไท

วันนี้หากนึกถึงเขตพญาไท อาจนึกถึงสถานที่ราชการ กระทรวงสำคัญๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตนี้ หากจะกล่าวถึงย่าน ‘พญาไท’ สำหรับใครหลายๆ คนคงจะนึกถึง เขต เขตหนึ่งที่สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว อาจจะกล่าวได้ว่าเขตพญาไทนี้ เป็นเขตรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ ชั้นในกับกรุงเทพฯ ชั้นนอก จึงทำให้เขตพญาไทเป็นแหล่งทำงานขนาดใหญ่ ทั้งส่วนราชการและเอกชน รวมถึงการเป็นทำเลในอนาคต ความสะดวก ความเพรียบพร้อมเหมือนความงามของหญิงสาว หากได้ดอกไม้มาแซมผมความงดงามก็มากยิ่งขึ้น อาคารที่ดูเคร่งขรึมบน ซอยอารีย์ถูกประดับด้วยความหลากหลายของ คาเฟ่ (Cafe) ร้านอาหาร แซมไรผมให้สวยงามมากขึ้น

หากเราพูดถึงเขตพญาไทก็ไม่อาจเลี่ยงที่จะกล่าวถึงถนนอีกสายที่ขับเคลื่อนเขตพญาไท ซอยอารีย์ ซอยอารีย์มีอายุมากว่า 80 ปี เหมือนเช่นกับทุกๆ เขตของกรุงเทพฯ ที่เมืองขยายจากศูนย์กลางออกมา เริ่มจากปี พ.ศ.2498 เริ่มมีตึกแถวแห่งแรกปรากฏบนถนนสายนี้ หลังจากที่มีการสร้างถนนจากอนุสาวรีย์ชัยไปยังสนามบินดอนเมือง สถานที่ราชการก็ตามมาก่อสร้างในปี พ.ศ.2516 เช่น กระทรวงการคลัง จึงทำให้บริเวณนี้มีความคึกคักขึ้น ด้วยเหตุบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นข้าราชการชั้นสูง จึงทำให้บ้านบริเวณนี้มีลักษณะเคร่งขึม โดยเฉพาะ ซอยราชครู ซึ่งเป็นศูนย์รวมของกลุ่มชนชั้นนำที่มีบทบาทในช่วงหลังปี พ.ศ.2490 เวลาผ่านไปความเคร่งขรึมของสถาปัตยกรรมยังคงอยู่ และได้ผสมผสานกับเมืองธุรกิจใหม่ จนเป็นที่น่าสนใจ ปัจจุบันย่านอารีย์เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้อยู่อาศัยและกลุ่มนักพัฒนาที่ดิน โดยมีโครงการติดถนนพหลโยธิน และใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์จำนวนมาก เพราะในอนาคตโครงข่ายรถไฟฟ้าจะเชื่อมโยงไปทั้งกรุงเทพฯ นอกจากนี้แล้ว อารีย์ได้เป็นย่านที่มีศักยภาพการ ‘เดินได้’ ดีเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ โดยสามารถมีจุดที่มี Good Walk Score สูงสุดถึง 85 จาก 100 คะแนน (อ้างอิงจาก https://www.walkscore.com/score/soi-ari-bangkok) โดยมีความหมายว่าเราสามารถเดินเข้าถึงสถานที่ ที่ดึงดูดการเดินทั้งหกประเภทด้วยการเดินได้ดีมากๆ ได้แก่ 1.ที่ทำงาน 2.สถานศึกษา 3.แหล่งช็อปปิ้ง 4.พื้นที่นันทนาการ 5.สถานที่บริการสาธารณะ 6.ธุรกรรม และระบบขนส่งสาธารณะ การเดินหาร้าน ที่ถูกใจ ณ ซอยอารีย์นี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องยากเลย การผสมผสานระหว่างยุคสองยุค หรือการถวิลหาอาคารที่ยังคงมีเสน่ห์แบบวันเก่าก่อน ที่ตั้งอยู่บนถนนแห่งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นเ มื่อระบบ สาธารณูปโภค พร้อม การขนส่งพร้อม ซอยอารีย์จึงเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่ง ของเขตพญาไท