ดูแลเด็ก ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

นิสัย : ใจเย็น รักเด็ก รักผู้สูงอายุ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ใส่ใจ สะอาด พูดน้อย ไม่จุกจิก

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 29 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 56 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
จิตฤดี สุวรรณมณี
จิตฤดี สุวรรณมณี
Saijai อายุ 37 ปี

I am a girl,love and care the kid I like the kid that same my family.I think I can do the job is good.

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

เข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
3 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

สถานีกลางบางซื่อ สถานีรถไฟแห่งใหม่ของไทย

สถานีกลางบางซื่อ สถานีรถไฟแห่งใหม่ของไทย ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน สถานีแห่งนี้ จะเป็นศูนย์กลางทางรถไฟแห่งใหม่ของประเทศไทย โดยจะแทนที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่มีอยู่เดิมเป็นสถานีปลายทางสำหรับบริการรถไฟทางไกลทั้งหมดจากกรุงเทพฯ สถานีอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 (ซึ่งระบบรถไฟใหม่นี้ถูกวางเอาไว้ในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยในปี 2558-2565) เมื่อเสร็จแล้วจะแทนที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อที่มีอยู่และรวมเข้ากับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ บางซื่อจะเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีชานชาลา 26 แห่ง ซึ่งมีความยาวประมาณ 600 เมตร สถานีจะมีพื้นที่ใช้สอย 274,192 ตร.ม. การก่อสร้างสถานีมูลค่า 15,000 ล้านบาท กำลังสร้างบนพื้นที่ 2,325 ไร่ของที่ดินของ รฟท. และจะมีคลังซ่อมบำรุงสำหรับทั้งดีเซลและรถไฟฟ้า ทางยกระดับจะเชื่อมสถานีกับสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และถือได้ว่าสถานีรถไฟระบบใหม่นี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยการเชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางสำคัญ ๆ ที่เปรียบเสมือนเส้นทางหลักในการเข้าถึงแหล่งเศรษฐกิจที่น่าสนใจระดับแนวหน้าของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น รถไฟทางไกลและรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท จำกัด เป็นผู้ให้บริการที่มุ่งตรงยังชานเมือง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ 1. รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-รังสิต รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2562 2. รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-ตลิ่งชัน ในอนาคตมีแผนจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเส้นทางสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link) หรือแม้กระทั่งสายรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อของสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภาเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยกันนั้น สถานีจะมีสี่ชั้น สามชั้นบน และหนึ่งใต้พื้นดิน: ชั้นใต้ดิน : MRT สถานีบางซื่อ บนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และที่จอดรถ 1,624 คัน

ชั้นล่าง: อาคารเทียบเครื่องบินพร้อมพื้นที่จำหน่ายตั๋วและรอผู้โดยสาร นี่จะเป็นพื้นที่ปรับอากาศแห่งเดียวในสถานี

ชั้นสอง: ชานชาลารถไฟ 12 ราง แปดรางจะให้บริการรถไฟดีเซลทางไกล สี่รางจะให้บริการรถไฟโดยสาร SRT Red Dark และ Light Red Line

ชั้นสาม : ชานชาลารถไฟความเร็วสูง 10 ราง ทั้งสี่เส้นทางจะให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์และรถไฟความเร็วสูงดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภาที่เชื่อมท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา หกรางถูกสงวนไว้สำหรับการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง (HSR) ในอนาคตไปยังหนองคาย หัวหิน และเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีการวางแผนเป็นอนุสรณ์สถาน 186,030 ตร.ม. ถึงรัชกาลที่ 5 หรือที่เรียกว่า "บิดาแห่งการรถไฟแห่งประเทศไทย" แม้ว่าคาดว่าจะเปิดหลังจากสถานี



5 วิธีที่จะทำให้การเรียนทางไกลได้ผลในวัยเรียน

1. ปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของเด็ก การเรียนผ่านหน้าจอหรือเรียนออนไลน์ ครูผู้สอนควรให้เด็กแสดงวิดีโอของตัวเอง เพื่อให้ได้ยินเสียงและเห็นเด็กระหว่างการเรียน โดยครูไม่ได้เป็นผู้สอนแต่เพียงคนเดียว ควรให้เด็กแต่ละคนมีส่วนร่วมโต้ตอบ การเรียนออนไลน์อาจไม่เหมาะกับเด็กเล็ก จึงควรหากิจกรรมระหว่างเรียนเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็ก และสร้างความสนุกสนานระหว่างเรียน ไม่ควรเป็นการเรียนที่ตึงเครียดเกินไป

2. ใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์: เด็กอายุระหว่าง 2 ถึง 7 ปียังอยู่ในวัยที่กำลังพัฒนา ซึ่งยังไม่เหมาะสมกับการเรียนรู้ผ่านหน้าจอ ดังนั้นครูผู้สอนต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และพยายามดึงดูดความสนใจของเด็ก โดยอาจจะให้เด็กและผู้ปกครองได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ ผลัดกันแสดงผลงานการประดิษฐ์ หรือทำวิดีโอสำรวจบริเวณบ้านของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนไปกับการเรียนนั้น ๆ

3. ผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วม: ไม่ควรปล่อยให้เด็กเรียนออนไลน์ตามลำพัง ผู้ปกครองควรมีความรับผิดชอบอื่นนอกเหนือจากการสนับสนุนบทเรียน ควรจัดให้มีการเข้าร่วมการประชุมเสมือนจริงเพื่อติดตามและได้พูดคุยถึงความท้าทาย หรือผู้ปกครองอาจมีข้อเสนอแนะให้กับครูผู้สอนได้นำมาปรับใช้เพื่อให้การเรียนเกิดผลยิ่งขึ้น

4. การสร้างความสัมพันธ์ทางไกลเป็นสิ่งสำคัญ: ความสัมพันธ์คือรากฐานของโรงเรียนของเรา แม้ว่าเราจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่เราสามารถติดต่อและแสดงความห่วงใยได้ คุณครูอาจจัดทำตารางการรับผิดชอบในการเขียนอีเมลรายวันถึงผู้ปกครองหรือนักเรียน เพื่อให้ได้สื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ

5. ดนตรีเป็นสิ่งมหัศจรรย์: เด็ก ๆ ตอบสนองต่อการร้องเพลงและการเต้นออนไลน์ได้ดี สำหรับเด็ก การเข้าร่วมในเพลงหรือการเต้นรำเป็นวิธีที่ง่ายในการมีส่วนร่วมกับหน้าจอ เพราะพวกเขาสามารถทำตามผู้นำได้



เคล็ดลับสำคัญ ในการสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กเล็ก

การสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กเล็กอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะเด็กเล็กมีความสนใจแค่ช่วงสั้นๆ เรามีเคล็ดลับ 4 ข้อที่จะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กได้ผล

1. ทำความเข้าใจในวิธีที่เด็กเล็กเรียนรู้ พูดให้เข้าใจง่ายขึ้น คือผู้สอนต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กเล็ก และต้องเข้าใจว่าแม้เด็กจะอยู่ในวัยเดียวกัน แต่เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เด็กบางคนยังไม่สามารถกระโดดหรือยืนด้วยขาข้างเดียวได้ เด็กบางคนยังจับดินสอไม่เป็น การทำความเข้าใจเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ และช่วยให้เราตระหนักว่ากิจกรรมที่เปลี่ยนแปลงและผสมผสานเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกระตุ้นให้เด็กๆ ในทางกลับกัน การคาดหวังให้เด็กเล็กให้ความสนใจเป็นระยะเวลานานในบทเรียนที่เน้นครูเป็นศูนย์กลาง นั้นจะเป็นได้ได้ยาก ดังนั้นวางแผนชั้นเรียนของคุณ แต่เตรียมปล่อยวางและปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามความต้องการของเด็ก

2. ทำความเข้าใจว่าการเล่นกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเด็กให้เรียนรู้อย่างไร ในช่วงปีแรกๆ เด็กๆ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ทุกสิ่ง พยายามทำบทเรียนของคุณให้น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีตัวการ์ตูนที่ชั้นเรียนชื่นชอบ คุณสามารถสร้างเรื่องราวหรือสถานการณ์กับพวกเขาได้ ประดิษฐ์เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวละครทำในช่วงสุดสัปดาห์ พวกเขาเล่นฟุตบอลหรือวาดภาพ? พวกเขากินอะไรเป็นอาหารกลางวัน - แอปเปิลหรือแฮมเบอร์เกอร์? มีโอกาสมากมายที่จะแนะนำภาษาใหม่ให้กับกิจกรรมประเภทนี้ เมื่อเป็นตัวการ์ตูนที่เด็กคุ้นเคย เด็กทำให้เด็กสนุกและคิดภาพตามได้ง่ายขึ้น การเรียนรู้ผ่านการเล่นในลักษณะนี้จะช่วยให้เด็กๆ สนุกสนานไปกับการเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. พูดคุยกับเด็กและให้กำลังใจ แสดงความสนใจในสิ่งที่พวกเขากำลังทำ และอย่าลืมแสดงความชื่นชมเมื่อเด็กได้ใช้ความพยายามในการทำภารกิจที่รับมอบหมาย ไม่ว่าภารกิจนั้นจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ให้แน่ใจว่าคุณสนับสนุนเด็กเพื่อให้พวกเขารู้สึกมั่นใจ การชื่นชมในความพยายามของพวกเขาเมื่อพวกเขาพบบางสิ่งที่ยากลำบากเพื่อที่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมความคิดในการเติบโต นั่นคือความเต็มใจที่จะเปิดรับการเรียนรู้

4. ปรับตัวเข้ากับเด็กและเห็นอกเห็นใจ การสร้างความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญมากในห้องเรียน จะช่วยให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้จัดการกับความรู้สึกของตนเอง และส่งเสริมการแบ่งปัน การผลัดกันเล่น และเป็นเพื่อนที่ดี สร้างความสัมพันธ์กับเด็กโดยอิงจากสิ่งที่พวกเขาสนใจ มันจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าพวกเขาชอบอะไรและสนใจอะไร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ