ดูแลเด็ก ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

กัญญารัตน์  สาธรณ์
กัญญารัตน์ สาธรณ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ดิฉันชื่อหวาน ค่ะรักเด็กชอบอยู่กับเด็ก มีความอดทนสูงเป็นคนใจเย็นค่ะ มีประสบการการทำงานcall center มา2ปี6เดือนค่ะวันหยุดมีสอนพิเศษวิชาสังคมภาษาไทยให้เด็กอนุบาลกับน้องวัยประถม เคยเลี้ยงหลานมา3ปี สามารถสอนหนังสือเพิ่มเติมให้น้องได้ค่ะหากทางผู้ปกครองของน้องต้องการ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati

Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
กุลวาณีย์ พันธ์สน
กุลวาณีย์ พันธ์สน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
rasita pimpakorn
rasita pimpakorn
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
รวี คินิมาน
รวี คินิมาน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

ดิฉันเป็นครูที่มีจรรยาบรรณที่ดีรักและจริงใจกับเด็กและนายจ้างทำงานอย่างเต็มที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันมีปัญหาอะไรสามารถแนะนำและปรึกษากันได้ค่ะ ถ้าเป็นรายชั่วโมง 300/ชั่วโมง

แสดงเพิ่มเติม
ธนัชชา  แก้วผลึก
ธนัชชา แก้วผลึก
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงมา 1 ปี ค่ะ ดูแลเด็กได้ทุกวัย ตั้งแต่ 6 เดือน

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

อดทน มีความตั้งใจในการทำงาน ขยัน

แสดงเพิ่มเติม
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ญาณิศา  เฟื่องฟู
ญาณิศา เฟื่องฟู
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์

การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Beya Ruangdech
Beya Ruangdech
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สามารถเล่นกับเด็ก ๆ เสริมพัฒนาการทุก ๆ ด้าน

แสดงเพิ่มเติม
Thipsuda Pornsurat
Thipsuda Pornsurat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.

สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
จิตฤดี สุวรรณมณี
จิตฤดี สุวรรณมณี
Saijai อายุ 38 ปี

I am a girl,love and care the kid I like the kid that same my family.I think I can do the job is good.

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ใจเย็น มีความรู้ด้านศิลปะ ช่วยเสิรมสร้างพัฒนาเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

สถานีกลางบางซื่อ สถานีรถไฟแห่งใหม่ของไทย

สถานีกลางบางซื่อ สถานีรถไฟแห่งใหม่ของไทย ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน สถานีแห่งนี้ จะเป็นศูนย์กลางทางรถไฟแห่งใหม่ของประเทศไทย โดยจะแทนที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่มีอยู่เดิมเป็นสถานีปลายทางสำหรับบริการรถไฟทางไกลทั้งหมดจากกรุงเทพฯ สถานีอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 (ซึ่งระบบรถไฟใหม่นี้ถูกวางเอาไว้ในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยในปี 2558-2565) เมื่อเสร็จแล้วจะแทนที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อที่มีอยู่และรวมเข้ากับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ บางซื่อจะเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีชานชาลา 26 แห่ง ซึ่งมีความยาวประมาณ 600 เมตร สถานีจะมีพื้นที่ใช้สอย 274,192 ตร.ม. การก่อสร้างสถานีมูลค่า 15,000 ล้านบาท กำลังสร้างบนพื้นที่ 2,325 ไร่ของที่ดินของ รฟท. และจะมีคลังซ่อมบำรุงสำหรับทั้งดีเซลและรถไฟฟ้า ทางยกระดับจะเชื่อมสถานีกับสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และถือได้ว่าสถานีรถไฟระบบใหม่นี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยการเชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางสำคัญ ๆ ที่เปรียบเสมือนเส้นทางหลักในการเข้าถึงแหล่งเศรษฐกิจที่น่าสนใจระดับแนวหน้าของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น รถไฟทางไกลและรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท จำกัด เป็นผู้ให้บริการที่มุ่งตรงยังชานเมือง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ 1. รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-รังสิต รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2562 2. รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-ตลิ่งชัน ในอนาคตมีแผนจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเส้นทางสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link) หรือแม้กระทั่งสายรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อของสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภาเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยกันนั้น สถานีจะมีสี่ชั้น สามชั้นบน และหนึ่งใต้พื้นดิน: ชั้นใต้ดิน : MRT สถานีบางซื่อ บนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และที่จอดรถ 1,624 คัน

ชั้นล่าง: อาคารเทียบเครื่องบินพร้อมพื้นที่จำหน่ายตั๋วและรอผู้โดยสาร นี่จะเป็นพื้นที่ปรับอากาศแห่งเดียวในสถานี

ชั้นสอง: ชานชาลารถไฟ 12 ราง แปดรางจะให้บริการรถไฟดีเซลทางไกล สี่รางจะให้บริการรถไฟโดยสาร SRT Red Dark และ Light Red Line

ชั้นสาม : ชานชาลารถไฟความเร็วสูง 10 ราง ทั้งสี่เส้นทางจะให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์และรถไฟความเร็วสูงดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภาที่เชื่อมท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา หกรางถูกสงวนไว้สำหรับการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง (HSR) ในอนาคตไปยังหนองคาย หัวหิน และเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีการวางแผนเป็นอนุสรณ์สถาน 186,030 ตร.ม. ถึงรัชกาลที่ 5 หรือที่เรียกว่า "บิดาแห่งการรถไฟแห่งประเทศไทย" แม้ว่าคาดว่าจะเปิดหลังจากสถานี



5 วิธีที่จะทำให้การเรียนทางไกลได้ผลในวัยเรียน

1. ปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของเด็ก การเรียนผ่านหน้าจอหรือเรียนออนไลน์ ครูผู้สอนควรให้เด็กแสดงวิดีโอของตัวเอง เพื่อให้ได้ยินเสียงและเห็นเด็กระหว่างการเรียน โดยครูไม่ได้เป็นผู้สอนแต่เพียงคนเดียว ควรให้เด็กแต่ละคนมีส่วนร่วมโต้ตอบ การเรียนออนไลน์อาจไม่เหมาะกับเด็กเล็ก จึงควรหากิจกรรมระหว่างเรียนเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็ก และสร้างความสนุกสนานระหว่างเรียน ไม่ควรเป็นการเรียนที่ตึงเครียดเกินไป

2. ใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์: เด็กอายุระหว่าง 2 ถึง 7 ปียังอยู่ในวัยที่กำลังพัฒนา ซึ่งยังไม่เหมาะสมกับการเรียนรู้ผ่านหน้าจอ ดังนั้นครูผู้สอนต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และพยายามดึงดูดความสนใจของเด็ก โดยอาจจะให้เด็กและผู้ปกครองได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ ผลัดกันแสดงผลงานการประดิษฐ์ หรือทำวิดีโอสำรวจบริเวณบ้านของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนไปกับการเรียนนั้น ๆ

3. ผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วม: ไม่ควรปล่อยให้เด็กเรียนออนไลน์ตามลำพัง ผู้ปกครองควรมีความรับผิดชอบอื่นนอกเหนือจากการสนับสนุนบทเรียน ควรจัดให้มีการเข้าร่วมการประชุมเสมือนจริงเพื่อติดตามและได้พูดคุยถึงความท้าทาย หรือผู้ปกครองอาจมีข้อเสนอแนะให้กับครูผู้สอนได้นำมาปรับใช้เพื่อให้การเรียนเกิดผลยิ่งขึ้น

4. การสร้างความสัมพันธ์ทางไกลเป็นสิ่งสำคัญ: ความสัมพันธ์คือรากฐานของโรงเรียนของเรา แม้ว่าเราจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่เราสามารถติดต่อและแสดงความห่วงใยได้ คุณครูอาจจัดทำตารางการรับผิดชอบในการเขียนอีเมลรายวันถึงผู้ปกครองหรือนักเรียน เพื่อให้ได้สื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ

5. ดนตรีเป็นสิ่งมหัศจรรย์: เด็ก ๆ ตอบสนองต่อการร้องเพลงและการเต้นออนไลน์ได้ดี สำหรับเด็ก การเข้าร่วมในเพลงหรือการเต้นรำเป็นวิธีที่ง่ายในการมีส่วนร่วมกับหน้าจอ เพราะพวกเขาสามารถทำตามผู้นำได้



เคล็ดลับสำคัญ ในการสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กเล็ก

การสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กเล็กอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะเด็กเล็กมีความสนใจแค่ช่วงสั้นๆ เรามีเคล็ดลับ 4 ข้อที่จะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กได้ผล

1. ทำความเข้าใจในวิธีที่เด็กเล็กเรียนรู้ พูดให้เข้าใจง่ายขึ้น คือผู้สอนต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กเล็ก และต้องเข้าใจว่าแม้เด็กจะอยู่ในวัยเดียวกัน แต่เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เด็กบางคนยังไม่สามารถกระโดดหรือยืนด้วยขาข้างเดียวได้ เด็กบางคนยังจับดินสอไม่เป็น การทำความเข้าใจเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ และช่วยให้เราตระหนักว่ากิจกรรมที่เปลี่ยนแปลงและผสมผสานเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกระตุ้นให้เด็กๆ ในทางกลับกัน การคาดหวังให้เด็กเล็กให้ความสนใจเป็นระยะเวลานานในบทเรียนที่เน้นครูเป็นศูนย์กลาง นั้นจะเป็นได้ได้ยาก ดังนั้นวางแผนชั้นเรียนของคุณ แต่เตรียมปล่อยวางและปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามความต้องการของเด็ก

2. ทำความเข้าใจว่าการเล่นกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเด็กให้เรียนรู้อย่างไร ในช่วงปีแรกๆ เด็กๆ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ทุกสิ่ง พยายามทำบทเรียนของคุณให้น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีตัวการ์ตูนที่ชั้นเรียนชื่นชอบ คุณสามารถสร้างเรื่องราวหรือสถานการณ์กับพวกเขาได้ ประดิษฐ์เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวละครทำในช่วงสุดสัปดาห์ พวกเขาเล่นฟุตบอลหรือวาดภาพ? พวกเขากินอะไรเป็นอาหารกลางวัน - แอปเปิลหรือแฮมเบอร์เกอร์? มีโอกาสมากมายที่จะแนะนำภาษาใหม่ให้กับกิจกรรมประเภทนี้ เมื่อเป็นตัวการ์ตูนที่เด็กคุ้นเคย เด็กทำให้เด็กสนุกและคิดภาพตามได้ง่ายขึ้น การเรียนรู้ผ่านการเล่นในลักษณะนี้จะช่วยให้เด็กๆ สนุกสนานไปกับการเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. พูดคุยกับเด็กและให้กำลังใจ แสดงความสนใจในสิ่งที่พวกเขากำลังทำ และอย่าลืมแสดงความชื่นชมเมื่อเด็กได้ใช้ความพยายามในการทำภารกิจที่รับมอบหมาย ไม่ว่าภารกิจนั้นจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ให้แน่ใจว่าคุณสนับสนุนเด็กเพื่อให้พวกเขารู้สึกมั่นใจ การชื่นชมในความพยายามของพวกเขาเมื่อพวกเขาพบบางสิ่งที่ยากลำบากเพื่อที่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมความคิดในการเติบโต นั่นคือความเต็มใจที่จะเปิดรับการเรียนรู้

4. ปรับตัวเข้ากับเด็กและเห็นอกเห็นใจ การสร้างความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญมากในห้องเรียน จะช่วยให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้จัดการกับความรู้สึกของตนเอง และส่งเสริมการแบ่งปัน การผลัดกันเล่น และเป็นเพื่อนที่ดี สร้างความสัมพันธ์กับเด็กโดยอิงจากสิ่งที่พวกเขาสนใจ มันจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าพวกเขาชอบอะไรและสนใจอะไร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ