วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
สอนหลักสูตรการศึกษา เรียนออนไลน์ ติวเตอร์คณิตศาสตร์ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ติวเตอร์ภาษาไทย ติวเตอร์วิทยาศาสตร์ เรียนภาษาต่างประเทศ ติว GAT ติว PAT ครูฝึกทักษะบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ความใส่ใจ หลายท่านอาจค้านว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์คือความรู้และประสบการณ์ ซึ่งมีส่วนถูก แต่ถ้ามองในมุมของนักเรียน นักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งด้านสติปัญญา การคิด การตัดสินใจ และความสามารถในการเรียนรู้ ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีต้องมีความเข้าใจในตัวนักเรียน เพื่อหาเทคนิค วางแผนการสอนที่เหมาะสม มีวิธีการสื่อสาร และสามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้อย่างเต็มที่
2) ความรู้ความชำนาญในเนื้อหาที่สอน ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องมีความรู้และความชำนาญในเนื้อหาวิชาที่สอนเป็นอย่างดี ต้องสามารถตอบคำถามและอธิบายในสิ่งที่นักเรียนสงสัยได้
3) ความยืดหยุ่น ในที่นี้หมายถึงครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนเทคนิคการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนมากที่สุด
4) ความอดทน ในกรณีที่นักเรียนมีข้อสงสัยในเนื้อหาที่เรียน นักเรียนอาจจะถามคำถามเดิมซ้ำๆ ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องไม่แสดงความรำคาญทั้งน้ำเสียงและท่าทาง
5) เป็นผู้ฟังที่ดี ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่ถ่ายทอดความรู้ด้วยการสื่อสารเพียงฝั่งเดียว กระบวนการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อให้นักเรียนมีโอกาสโต้ตอบ โต้แย้ง และหาข้อสรุปร่วมกัน ดังนั้นหากจะมองหาครูสอนพิเศษสักคนคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมดูคุณสมบัติและทักษะเหล่าของติวเตอร์เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ
1) เหตุผลหลัก ๆ ของการเรียนพิเศษคือ นักเรียนอาจจะไม่เข้าใจการเรียนในห้องเรียนจึงตัดสินใจเรียนเสริมเพื่อจะได้เรียนให้ทันเพื่อน ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์จะช่วยทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น เมื่อนักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียน นักเรียนจะเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนมากขึ้น
2) นักเรียนได้ฝึกทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัด และสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียน เพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้
3) ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด การเรียนแบบกลุ่มใหญ่ในโรงเรียนคุณครูอาจไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนทุกคนได้ เมื่อนักเรียนมีข้อสงสัย ไม่เข้าใจเนื้อหา และไม่กล้าที่จะยกมือถามครูผู้สอน หากนักเรียนจ้างครูพิเศษมาสอนที่บ้าน นักเรียนสามารถถามหรือพูดคุยกับคุณครูสอนพิเศษได้ตลอด และหากนักเรียนอยากให้คุณครูเน้นเนื้อหาใดเป็นพิเศษก็สามารถบอกคุณครูผู้สอนได้เลย เพื่อที่นักเรียนจะได้เข้าใจวิชานั้น ๆ มากขึ้น
ดังนั้นการเรียนพิเศษนั้นสามารถช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันนี้มีหลากหลายทางเลือกสำหรับการเรียนเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันกวดวิชา หรือ การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวก็ดี วันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณที่กำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ว่าควรตกลงอะไรกับติวเตอร์ มาดูกันค่ะ
• สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตกลงกับติวเตอร์คือสถานที่เรียนและเวลาเรียน การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวคุณสามารถเลือกสถานที่เรียนและเวลาได้ตามความสะดวก อย่างไรก็ดีหากต้องการจะเรียนที่บ้านหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่นร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือห้องสมุดคุณพ่อคุณแม่หรือตัวนักเรียนจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบทุกครั้งเพื่อความชัดเจนทั้งสองฝ่าย
• แน่นอนว่าการจ้างติวเตอร์นั้นคุณหวังเพื่อที่จะได้รับความใส่ใจจากติวเตอร์ ดังนั้นก่อนทำการเรียนทุกครั้งนักเรียนจะต้องพูดคุยกับติวเตอร์ถึงเรื่องการเรียน หากคุณต้องการให้ติวเตอร์สอนคุณในเนื้อหาบทเรียนไหนเป็นพิเศษนักเรียนจะต้องบอกติวเตอร์เพื่อที่ติวเตอร์ เพราะติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองในด้านการเรียนที่ดีขึ้น
• ค่าจ้าง ก่อนทำการจ้างคุณพ่อคุณแม่จะต้องตกลงค่าจ้างกับติวเตอร์ตามชั่วโมงที่จ้างสอน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวเพื่อลูก ๆ ของคุณจะได้สะดวกในการเรียน ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ
ห้วยขวางในวันที่โตขึ้น
ย้อนกลับไปประมาณ 30 ปีที่แล้ว เขตห้วยขวาง ยังคงเป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ที่กลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนเข้ามาบุกเบิกขยับขยาย ตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่นี้ เริ่มต้นทำการค้าขนาดเล็ก เช่น สวนอาหาร เต็นท์รถยนต์ และธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เวลาผ่านไปจนกิจการเหล่านั้นมีความเติบโต และได้ขยายตัวเป็นกิจการขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ กลายเป็นแหล่งงานสำคัญที่ดึงคนทำงานให้เข้ามาอยู่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ เขตหัวยขวางมากขึ้น
เขตห้วยขวาง มีพื้นที่ 15.033 ตร.กม. และมีประชากร 84,233 คน พื้นที่ของเขตห้วยขวางตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของฝั่งพระนคร มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่การปกครองต่าง ๆ เขตห้วยขวางอยู่ทางใต้ของ เขตจตุจักรและเขตลาดพร้าว มีคลองน้ำแก้วและคลองลาดพร้าวเป็นเส้นแบ่งเขต และอยู่ทิศตะวันตกของเขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ และเขตสวนหลวง มีคลองลาดพร้าวและคลองแสนแสบเป็นเส้นแบ่งเขตและอยู่ทางทิศเหนือของ เขตวัฒนา มีคลองแสนแสบเป็นเส้นแบ่งเขต ด้วยกันนั้นเขตห้วยขวางอยู่ทางทิศตะวันออกของ เขตราชเทวีและเขตดินแดง มีถนนอโศก-ดินแดงและถนนรัชดาภิเษกเป็นเส้นแบ่งเขต การเดินทางในย่านห้วยขวางในปัจจุบันมีความสะดวกมาก สามารถที่จะเชื่อมต่อตามถนนรองสายต่าง ๆ ไปสู่ถนนสายหลักได้ทั้ง ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต ไปย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ไปเกษตรนวมินทร์ หรือจะไปทางกรุงเทพฯ ตะวันตก เช่น นนทบุรี บางบัวทอง สะดวกมากขึ้นเช่นกัน นอกจากถนนสายหลัก เช่น ถนนรัชดาภิเษก และถนนเพชรบุรี การเดินทางในเขตห้วยขวางยังมี เส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล พาดผ่านในเขตห้วยขวาง ซึ่งประกอบด้วย สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีห้วยขวาง และสถานีสุทธิสาร ตามลำดับกับ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้าง และ รถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเช่นเดียวกัน ห้วยขวางยังคงมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตต่อเนื่องได้อีก ยิ่งหากกรุงเทพมหานครมีแผนจะปรับสีผังเองย่านนี้ให้สอดคล้องกับปริมาณคนอยู่อาศัยจริง ยิ่งเป็นตัวแปรที่จะส่งเสริมย่านนี้ให้ขยายตัว มีความเป็นนิว ไชน่าทาวน์ เนื่องจากมีชาวจีนที่เป็นคนรุ่นใหม่นิยมมาใช้ชีวิตและอยู่อาศัยย่านห้วยขวางมากขึ้น ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนหน้าตาให้รองรับกลุ่มลูกค้าชาวจีน ทั้งป้ายหน้าร้าน สินค้าที่นำมาขาย นับวันการเจริญเติบโตเพื่อลองรับการเข้ามาของคนรุ่นใหม่จะยิ่งทำให้ย่านนี้แข็งแรงมากขึ้น
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยและชื่อภาษาอังกฤษว่า "THAILAND CULTURAL CENTRE" ตั้งอยู่บน ถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้กับทางแยกกับถนนรัชดาภิเษก ในเขตห้วยขวาง ประวัติความเป็นมาของ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบดำเนินการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยขึ้น สร้างขึ้นโดยได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยรัฐบาลไทยจะรับผิดชอบในการจัดเตรียมสถานที่ในการก่อสร้าง จัดสาธารณูปโภค และงบประมาณในการดำเนินการต่อไป เปิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2530 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา สิ่งอำนวยความสะดวกที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานที่จัดงานประกอบด้วยหอประชุมสองแห่งและเวทีกลางแจ้งหนึ่งแห่ง และใช้สำหรับการแสดงสดต่างๆ ตลอดทั้งปี ห้องโถงใหญ่เป็นหอประชุมขนาด 2,000 ที่นั่ง และใช้สำหรับการนำเสนอบนเวที คอนเสิร์ต และการประชุม ห้องโถงขนาดเล็กเป็นหอประชุมอเนกประสงค์ขนาด 500 ที่นั่ง ซึ่งรวมเข้ากับอัฒจันทร์กลางแจ้งขนาด 1,000 ที่นั่ง อาคารสังคมศึกษาและนิทรรศการรองรับห้องสมุดวัฒนธรรมและนิทรรศการถาวรชีวิตไทย นอกจากนี้ยังมีศาลาญี่ปุ่นและศาลาไทยอีกด้วย การเดินทางที่สะดวกที่สุดน่าจะเป็นการเดินทางด้วย MRT มีสถานีชื่อศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนสายอื่นและเดินประมาณ 700 เมตร จากอาคารศูนย์วัฒนธรรม สถานีได้รับการออกแบบให้เป็นทางแยกสำหรับเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต รถไฟฟ้าสายสีส้มมีกำหนดวิ่งจากบางกะปิ ไปบางบำหรุ จุดตัดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทุกวันนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ได้เป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มีบทบาทหน้าที่สำคัญทางด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางในการให้บริการทางการศึกษา ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยสาขาต่าง ๆ แก่เยาวชนและประชาชนชาวไทย เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทย เกิดความรักหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ และช่วยกันรักษาไว้เป็นศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของชาติสืบต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันในบรรดาประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากจะมีบทบาทหน้าที่อันสำคัญในการเป็นแหล่งกลาง ของการจัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับให้เช่าหรือบริการ เพื่อการแสดงออกซึ่งกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่เยาวชน และประชาชนสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดประชุมสัมมนาระดับชาติ และนานาชาติด้วย
การสอนพิเศษช่วยนักเรียนอย่างไร หรือ การเรียนเพิ่มเติมกับติวเตอร์สามารถช่วยนักเรียนได้ไหม
มีหลายเหตุผลที่พ่อแม่ส่วนหนึ่งไม่สามารถสอนการบ้านลูกเองได้ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการเรียนการศึกษาหรือเนื้อหาวิชาเรียน ที่แตกต่างจากตอนที่พ่อแม่เป็นนักเรียน หรือปัญหาในเทคนิคการสื่อสาร เช่น บางครั้งพ่อแม่เข้าใจโจทย์แต่ไม่สามารถอธิบายให้ลูกเข้าใจได้ พยายามอธิบายตามความเข้าใจของตนแต่ลูกก็ยังไม่เข้าใจ จนหมดความอดทน กลายเป็นหงุดหงิด อารมณ์เสีย ส่งผลให้ตัวเด็กเกิดความเครียดและกดดัน ทำให้การสอนการบ้านหรือสอนหนังสือเป็นงานที่ดูจะเกินความสามารถของเป็นพ่อแม่หลายๆ คน จนทำให้ต้องมองหาตัวช่วยอย่างการเรียนพิเศษหรือครูสอนพิเศษ เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในวิชา เพิ่มความมั่นใจ และสร้างทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญให้แก่ลูก
ประโยชน์ของการสอนพิเศษคืออะไร?
โปรแกรมกวดวิชาสามารถช่วยให้บุตรหลานของคุณพัฒนาทักษะการเรียนและการเรียนรู้ที่จะช่วยให้บุตรหลานของคุณประสบความสำเร็จตลอดชีวิต มีข้อดีหลายประการของบริการกวดวิชา: ประสบการณ์การเรียนรู้แบบตัวต่อตัวและไม่เหมือนใคร ลูกของคุณจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นรายบุคคลซึ่งเขาหรือเธอไม่สามารถหาได้ในห้องเรียนตลอดเวลา ผู้สอนสามารถปรับแต่งบทเรียนและกิจกรรมเฉพาะสำหรับบุตรหลานของคุณ
ความสนใจแบบตัวต่อตัว
ผู้สอนจะได้เรียนรู้รูปแบบการเรียนรู้ของบุตรหลานคุณและสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการสอนได้ตามนั้น พวกเขาทำหน้าที่เป็นครูส่วนตัวของลูกคุณเอง
ปรับปรุงผลการเรียน
การสอนพิเศษจะช่วยเตรียมบุตรหลานของคุณให้พร้อมสำหรับการทดสอบและการสอบ ในขณะที่ผู้สอนจะทำงานร่วมกับบุตรหลานของคุณในประเด็นปัญหาเฉพาะ คะแนนและความเข้าใจในวิชาของบุตรหลานของคุณจะดีขึ้นอย่างมากเมื่อทำงานกับติวเตอร์
ปรับปรุงทัศนคติต่อการเรียนรู้และโรงเรียน
การเรียนรู้จะกลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับลูกของคุณ ด้วยกำลังใจและคำชมอย่างต่อเนื่อง ลูกของคุณจะไม่รู้สึกหนักใจหรือท้อแท้กับโรงเรียนอีกต่อไป
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองและการเรียนรู้ด้วยตนเอง
การเรียนพิเศษ เป็นตัวกระตุ้นให้บุตรหลานของคุณมีความคิดริเริ่ม และขวนขวายที่จะอะไรด้วยตัวเอง รู้จักจัดสรรเวลา และใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากขึ้น
เพิ่มความนับถือตนเองและความมั่นใจ
ความภาคภูมิใจในตนเองและความมั่นใจของบุตรหลานของคุณจะเพิ่มขึ้นผ่านการสอนพิเศษ เพราะเข้าใจเนื้อหา เรียนทันเพื่อน กล้าตอบเมื่อครูถาม ทำให้ไม่รู้สึกด้อยไปกว่าคนอื่น
ปรับปรุงนิสัยการทำงานและการเรียน
ผ่านการสอนพิเศษ ลูกของคุณจะได้เรียนรู้การทำงานและนิสัยการเรียนที่เขาหรือเธอจะใช้ไปตลอดชีวิต ทักษะเหล่านี้จะช่วยเตรียมบุตรหลานของคุณให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทั้งในและนอกโรงเรียน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง