วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ชอบการสอน การถ่ายทอดให้น้องๆเข้าใจในสิ่งที่เรารัก
ชอบคุย มีจิตเมตตาเด็ก รักเด็ก
ประสบการณ์สอน 5 ปี
-ติวการบ้านทุกวิชาอสช. บางรัก (EP) อนุบาล1จนถึงประถมศึกษาปีที่2
-ติวม.3 คณิต วิทยาศาสตร์ แกรมม่า(ภาษาอังกฤษ)
ติวสอบเข้าเตรียมอุดม สามเสน ศึกษานารี และสตรีวิทยาค่ะ
-ติวเพิ่ม ม.ปลาย ฟิสิกส์ เคมี โรงเรียนสามเสน บางปะกอก สารสาสน์ประชาอุทิศ และสารสาสน์วิเทศศึกษา ติดมหาลัยชั้นนำ (วิศวะ ลาดกระบัง จุฬา )
มีความรักและความเมตตาต่อลูกศิษย์มีความเสียสละ หมั่นเพียรศึกษาปรับปรุงวิธีการสอนเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอมีความเข้าใจและเอาใจใส่ตัวศิษย์ทุกคนเป็นกำลังใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนที่ใฝ่รู้เป็นแบบอย่างที่ดีมีจรรยาบรรณ มีจิตวิญญาณของความเป็นครูสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดีมีวิธีการสอนที่หลากหลายมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีความยุติธรรมยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงการยอมยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน
ประสบการณ์สอนมากกว่า 3 ปี ผู้สอนสอบผ่านการสอบวัดระดับภาษาจีน HSK5 และ TOCFL Level 3 แลกเปลี่ยน ณ Guangxi University of Foreign ประเทศจีน 1 ปี เคยเป็นวิทยากร ล่าม organizer จัดงานสัมพันธ์ไทย-จีน เคยได้ทุนปริญญาโท 100% ณ National Changhua University of Education ไต้หวัน รีวิวจากผู้เรียนจริงมีมากกว่า 30+ รีวิว สามารถขอดูได้ค่ะ
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 25 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
• ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด เพราะการเรียนแบบกลุ่มใหญ่ ในโรงเรียนนั้นคุณครูไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนได้ทั่วถึง ส่วนตัวนักเรียนเองเมื่อมีข้อสงสัยอาจจะไม่กล้าถามเพราะกลัวเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ล้อเลียนว่าเรียนไม่เก่งหรือเรียนไม่รู้เรื่อง ทำให้ต้องปล่อยความสงสัยนั้นไป แต่การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัว นักเรียนมีความกล้าที่จะถามหรือและขอครูอธิบายซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ เพราะไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับตามองหรือตัดสินว่าตัวเองไม่ฉลาด
• นักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น เพราะการเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ เมื่อมีสิ่งรบกวนเช่น เพื่อนพูดคุยกันหรือแอบกินขนมในห้องเรียน นักเรียนจะหลุดโฟกัสจากเนื้อหาได้ง่าย เพราะสมาธิถือเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีสมาธินักเรียนจะเข้าใจเนื้อบทเรียนหาตรงหน้าได้มากขึ้น เมื่อเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนการทำข้อสอบจะไม่ใช่เรื่องยากและทำให้ผลการเรียนดียิ่งขึ้น
• นักเรียนสามารถนำสิ่งที่ติวเตอร์ส่วนตัวสอนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่น เทคนิคต่าง ๆ ในการทำข้อสอบ วิธีการจำที่ดี ติวเตอร์ส่วนตัวสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้เด็กนักเรียนได้โดยตรงเพื่อที่นักเรียนจะนำไปใช้เพื่อให้การเรียนของนักเรียนนั้นดีขึ้น
1) เวลาเรียน ระบุเวลาเรียนให้ชัดเจน โดยอาจจะให้สอดคล้องกับตารางเรียนหรือตารางกิจกรรมที่โรงเรียน หรือเรียนในวันหยุดประจำสัปดาห์
2) สถานที่ อาจจะเป็นที่บ้าน ห้องสมุด หรือ คาเฟ่ Café ใกล้บ้าน ต้องมั่นใจว่าไม่ใช่สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือรถสัญจรไปมาเสียงดัง
3) แผนการเรียนการสอน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง รวมถึงตัวนักเรียนเอง ควรวางแผนร่วมกับผู้สอน ว่าควรเป็นไปในรูปแบบใดเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนและมีประสิทธิภาพที่สุด
4) ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรแจ้งให้ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ทราบถึงลักษณะบางประการของผู้เรียนที่อาจเป็นอุปสรรคในการเรียน เพื่อให้ครูผู้สอนปรับวิธีการสอนรวมถึงเตรียมสื่อการสอนเหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
5) ค่าจ้างและกำหนดการจ่าย คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรตกลงเรื่องค่าจ้างกับติวเตอร์ให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำเรียนสอน เช่นค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ค่าจ้างเป็นรายคอร์ส หรือเป็นรายเดือน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ
อาหารขึ้นชื่อ ปลาสลิดบางบ่อ
หากพูดผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรปราการ หลายคนคงต้องนึกถึง "ปลาสลิดบางบ่อ" มาเป็นอันดับแรก แม้ปลาสลิดจะเป็นปลาที่นิยมเลี้ยงในพื้นที่อื่น ๆ แต่ปลาสลิดบางบ่อมีเอกลักษณ์ตรงที่เป็นปลาตากแห้งที่มีรสชาติอร่อย เนื้อปลาหวานไม่มีกลิ่นโคลน ไม่มีกลิ่นคาวมากนัก ขนาดปลามีความพอดีเหมาะแก่การรับประทาน ทำให้ผู้ที่มีโอกาสมาถึงจังหวัดสมุทรปราการ จะต้องหาซื้อกลับไปรับประทานหรือซื้อไปเป็นของฝากอย่างแน่นอน ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ปลาสลิดในอำเภอบางบ่อมีตัวโต สวยและเนื้อแน่นนั้น เนื่องมาจากสภาพภูมิศาสตร์หรือระบบนิเวศที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวอำเภอบางบ่อนิยมเลี้ยงปลาสลิดไว้ในบ่อธรรมชาติ บ่อดินหรือบ่อข้างนา นอกจากจะเป็นการประหยัดต้นทุนแล้ว ยังทำให้ปลาสลิดได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นพืชน้ำ สาหร่าย แพลงก์ตอนและสารอาหารอื่น ๆ จึงทำให้ปลาสลิดมีตัวโตเนื้อแน่นและเป็นที่ต้องการของตลาด อย่างไรก็ตาม บ่อธรรมชาติส่วนใหญ่นิยมใช้วิธีการฟันหญ้ารอบบ่อ เพื่อใส่ลงไปในบ่อ เป็นการหมักให้เกิดแพลงก์ตอนหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติที่ปลาสลิดชอบ การเลี้ยงตามวิถีชาวบ้านดั้งเดิม เพื่อคงความเป็นปลาสลิดบางบ่อแท้ๆ ไม่ให้กลายพันธุ์ กรมประมงได้เข้ามาส่งเสริมเกษตรกรกลุ่มอนุรักษ์ปลาสลิดบางบ่อ การเลี้ยงปลาสลิดไว้ในบ่อธรรมชาติต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10-12 เดือน จึงจะได้ผลผลิตประมาณ 7-10 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม แม้จะเลี้ยงปลาสลิดไว้ในบ่อธรรมชาติ แต่ชาวประมงในอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการส่วนใหญ่ก็จะมีการให้อาหารเสริมแก่ปลาสลิด โดยเฉพาะ 2 เดือนก่อนจับขาย จะช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากกว่า 400-500 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้ปลาสลิดบางบ่อเปรียบเสมือนเป็นแบรนด์ของอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการแม้ว่าปัจจุบันพื้นที่เลี้ยงปลาสลิดของอำเภอบางบ่อมีจำนวนลดลง เนื่องจากความเจริญทางสังคมและอุตสาหกรรมที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีคุณภาพลดจำนวนลง ซึ่งปลาสลิดเป็นปลาที่จะต้องอาศัยน้ำจืดและระบบนิเวศที่มีคุณภาพในการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีเกษตรกรเลี้ยงปลาสลิดบางบ่อลดน้อยลง แต่ยังคงมีกลุ่มเกษตรกรบางส่วนที่ยังคงยึดอาชีพเลี้ยงปลาสลิดเพื่อนำมาแปรรูปตากแห้งขาย ทั้งหมดนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปลาสลิดบางบ่อ ในอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จึงเป็นที่นิยมของตลาดและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของการเพาะเลี้ยงปลาสลิด และการจำหน่ายปลาสลิดบางบ่อ
ขั้นตอนสู่ความสำเร็จในการติว
หากเด็กประสบปัญหาหรืออุปสรรคในการเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองควรรีบแก้ไขในทันที การปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังย่อมไม่ดีต่อเด็กอย่างแน่นอน ต่อไปนี้คือ 6 ขั้นตอนในการช่วยให้เด็กก้าวผ่านอุปสรรคให้ได้
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบความเป็นจริง
สังเกตว่าอะไรคือปัญหาหรืออุปสรรคในการเรียน เด็กอาจจะง่วงหรือดูเหนื่อย บางที่เด็กอาจจจะต้องเข้านอนเร็วขึ้น เด็กสุขภาพไม่ดี อาจจะเป็นเพราะการกินอาหารฟาสต์ฟู้ดมากเกินไป หรือบางทีการที่เขาทำการบ้านไม่เสร็จ อาจจะเป็นเพราะเขามีตารางงานหรือการบ้านมากเกินไปและเหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมนอกหลักสูตรมากเกินไป”
ขั้นตอนที่ 2: รับมุมมอง
พูดคุยกับเด็กรวมถึงครูประจำชั้นเพื่อรับทราบปัญหา เช่น เขาส่งการบ้านตรงเวลาหรือไม่? เขาเสียสมาธิเมื่อครูสอนหรือไม่? เขาดูไม่มีความสุขในโรงเรียนหรือไม่? เขามีพฤติกรรมก่อกวนในชั้นเรียนหรือไม่? การขาดแรงจูงใจหรือพฤติกรรมการแสดงอาจเป็นสัญญาณว่าเด็กมีปัญหาในการทำความเข้าใจหรือประมวลผลข้อมูล บางครั้งแค่ย้ายเด็กไปเรียนในชั้นเรียนที่เล็กกว่าก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ หากไม่สามารถทำได้ ให้ถามเขาว่าสามารถย้ายที่นั่งไปแถวหน้าใกล้กับครูได้หรือไม่ ซึ่งอาจป้องกันการเสียสมาธิขณะเรียนของเขาได้
ขั้นตอนที่ 3: พิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุด
เมื่อผู้ปกครองตัดสินใจใช้การเรียนเสริมนอกห้องเรียนเพื่อช่วยพัฒนาการเรียนของเด็ก ต้องพิจารณาว่าควรใช้รูปแบบใดที่จะเหมาะสมกับเด็กมากที่สุด เด็กบางคนรู้สึกสบายใจที่เรียนแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ที่บ้านของตนเอง เด็กบางคนอาจจะชอบเรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และมีสมาธิเมื่อเรียนในบรรยากาศแบบห้องเรียน
ขั้นตอนที่ 4: หาข้อมูลอ้างอิง
วิธีการที่จะหาติวเตอร์ได้ตรงใจและมั่นใจว่าเป็นติวเตอร์คุณภาพ คือการสอบถามจากผู้ที่เคยใช้บริการ ลองตรวจสอบกับครูที่โรงเรียน สำนักงานโรงเรียน และผู้ปกครองคนอื่นๆ เพื่อหารายชื่อติวเตอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โรงเรียนอาจมีรายชื่อผู้สอนที่ทำงานกับนักเรียนเป็นประจำ และอาจคุ้นเคยกับครูและหลักสูตรของโรงเรียนด้วย
ขั้นตอนที่ 5: พบปะ
ลองหาเวลาไปพบกับติวเตอร์หรือไปที่ศูนย์การเรียนรู้กับเด็ก เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนการสอน นอกจากความรู้ติวเตอร์ควรมีประสบการณ์และความสามารถในการรับมือกับข้อจำกัดของเด็กแต่ละคนได้ดี
ขั้นตอนที่ 6: วางแผนร่วมกัน
ติวเตอร์ที่มีทักษะทำมากกว่าแค่ตรวจการบ้าน ติวเตอร์จะประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของผู้เรียน และเตรียมบทเรียนเป็นรายบุคคล ติวเตอร์ควรให้การสนับสนุนในเชิงบวกเพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกดีกับตัวเองและมีความพยายาม ถามติวเตอร์ว่ามีการทำการบ้านเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานในห้องเรียนหรือไม่ และติวเตอร์จะประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนอย่างไร เธอใช้การทดสอบที่ได้มาตรฐานหรือการประเมินรูปแบบอื่นๆ หรือไม่? บ่อยแค่ไหน?
ายามของเขา ถามว่าติวเตอร์ทำการบ้านเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานในห้องเรียนปกติของลูกคุณหรือไม่ และเธอประเมินความก้าวหน้าอย่างไร เธอใช้การทดสอบที่ได้มาตรฐานหรือการประเมินรูปแบบอื่นๆ หรือไม่? บ่อยแค่ไหน?
ขั้นตอนที่ 7: ตั้งค่าตารางเวลาสำหรับความคืบหน้า
ความสัมพันธ์ในการสอนส่วนใหญ่ใช้เวลาหลายเดือนถึงหนึ่งปี (ประชุมสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง) อย่ารอนานก่อนที่จะขอความคิดเห็น พูดคุยกับลูกของคุณและติวเตอร์ทุกครั้ง เธอสนุกกับเซสชั่นหรือไม่? เกรดของเธอดีขึ้นหรือไม่? เธอมีความมั่นใจมากขึ้นกับเรื่องนี้หรือไม่? เธอรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับโรงเรียนโดยทั่วไปหรือไม่? การสังเกตอย่างไม่เป็นทางการนี้ รวมกับความคิดเห็นของครูของเธอ จะช่วยให้คุณระบุได้ว่าความสัมพันธ์นั้นใช้ได้ผลหรือไม่ แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ? อาจใช้เวลาหลายเดือนในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเด็ก แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าบางอย่างไม่ได้ผล อย่าอายที่จะพูดถึงข้อกังวลของคุณกับครูสอนพิเศษ ถ้าเขาไม่ตอบสนอง ให้หาคนใหม่
การร่วมมือระหว่างผู้เรียนกับติวเตอร์
เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองตัดสินใจพัฒนาทักษะการเรียนของเด็กให้ดีขึ้นโดยใช้วิธีการให้เด็กเรียนเสิรมกับติวเตอร์ กุญแจสำคัญที่จะทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ คือการสื่อสารระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครอง เด็ก และติวเตอร์ ซึ่งต้องทำงานประสานกันดังนี้
1. วางแผนการเรียนการสอนร่วมกัน พ่อแม่ผู้ปกครองและผู้เรียนควรแจ้งให้ติวเตอร์ทราบล่วงหน้าว่ากำลังวางแผนอะไรและคาดหวังอะไรจากการเรียนเสริมกับติวเตอร์ เพื่อที่ติวเตอร์จะได้จัดการเรียนการสอนได้อย่างตรงจุด
2. ให้ความสำคัญกับผู้เรียน การที่พ่อแม่ผู้ปกครองตัดสินใจให้บุตรหลานของตนเรียนเสริมกับติวเตอร์ อาจจะทำให้เด็กรู้สึกว่าที่ตนต้องเรียนเสริมเป็นเพราะตัวเองทำได้ไม่ดีพอ หรือหัวไม่ดี พ่อแม่ผู้ปกครองควรชี้แจงด้วยความอ่อนโยนและเอาใจใส่ให้เด็กเห็นถึงผลด้านบวกที่เด็กจะได้รับจากการเรียนเสริม
3. ติดตามผลกับติวเตอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าในการเรียนและความพัฒนาของผู้เรียน ดูว่าผู้เรียนตอบสนองต่อการสอนได้ดีเพียงใดและความคืบหน้าในโรงเรียนเป็นอย่างไร
4. ให้กำลังผู้เรียน การให้เด็กได้รับมือกับอุปสรรคอาจเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้เขาทำงานผ่านความยากลำบากได้ แต่ผู้ปกครองต้องรับฟังข้อกังวลของผู้เรียนและกระตุ้นให้เขาพูดคุยกับผู้สอนเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้
5. แบ่งปันข้อมูล ผู้ปกครองต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนศูนย์กลางหรือผู้ประสานงานระหว่างติวเตอร์ เด็ก และโรงเรียน รายงานความคืบหน้าในการเรียน เพื่อช่วยให้ติวเตอร์ไม่พลาดสิ่งที่เกิดขึ้นในชั้นเรียน และสามารถปรับวิธีการสอนตามพัฒนาการของผู้เรียนประสิทธิภาพของผู้เรียนลูกของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้เธอรู้ว่าเมื่อใดควรติดต่อครูเพื่อขอข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง