ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

สถานีต่อไปบางซื่อ

ในความหมายของประโยคนี้ไม่ได้เป็นเพียงการบอกชื่อสถานีที่รถไฟจะจอด แต่หากเป็นสถานีที่เป็นความหวังก้าวต่อไปของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในอนาคตอันใกล้นี้ทางหน่วยงานรัฐบาลยังมีแผนพัฒนาให้บางซื่อกลายเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมสำคัญของประเทศ กับโครงการ การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเดินทางของประเทศ เชื่อมต่อกรุงเทพมหานคร กับพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย ด้วยระบบรางสู่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก (EEC) และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เช่น ลาว จีน และมาเลเซีย ทำให้ในอนาคตบางซื่อจะกลายเป็นมหานคร พลิกโฉมพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็น Smart City

วันนี้หากเรามองออกไปทั่วๆ กรุงเทพฯ แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นกับเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนในเมืองหลวง กำลังขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสเหนือพื้นดินและรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ด้านล่าง ทำให้การเดินทางทั่วเมืองง่ายขึ้นด้วยเครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ ไม่มีที่ไหนที่จะชัดเจนไปกว่าบางซื่อ ที่ซึ่งมีการก่อสร้างจำนวนมากกำลังสร้างสถานีรถไฟหลักของกรุงเทพฯ นั่นคือสถานีรถไฟกลางบางซื่อ มาแทนที่หัวลำโพง ทุกคนทุกเครื่องจักรกำลังเร่งมือ เพื่อไปถึงจุดหมาย บางซื่อถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการศึกษา เศรษฐกิจ และการคมนาคมขนส่ง สถานที่ราชการหลายแห่งอยู่ใกล้อาคารรัฐสภาหลังใหม่ เนื่องจากพื้นที่ในตัวเมืองจำนวนมากถูกจำกัดด้วยพื้นที่ที่ดิน การเคลื่อนย้ายสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นนี้ไปยังเขตชานเมืองจึงเป็นบรรทัดฐาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบางซื่อจะคงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาในพื้นที่ และด้วยองค์ประกอบของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผุดขึ้นมากมาย เช่น เกตเวย์ แอท บางซื่อ พื้นที่ค้าปลีกแห่งนี้จะช่วยยกระดับชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อเติมเต็มความต้องการในการช้อปปิ้งของคุณ จึงไม่น่าแปลกใจที่กรุงเทพฯ กำลังเป็นเป้าสายตาของนักลงทุน เนื่องจากการปรับปรุงเน้นไปที่โครงข่ายระบบขนส่งมวลชนซึ่งเป็นอนาคตของโหมดการคมนาคมในเมืองหลวงมากกว่ารถยนต์ คาดว่าบางซื่อจะคงไว้ซึ่งความสงบและบุคลิกที่ผ่อนคลาย ผู้ที่เลือกอาศัยอยู่ที่นี่ยังสามารถลิ้มลองอาหารริมทางในท้องถิ่นในบรรยากาศที่เงียบกว่า แต่ยังได้สัมผัสกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้งแห่งใหม่อีกด้วย



ข้อมูลทั่วไป

เขตบางซื่อ ในอดีตพื้นที่ของภาคประชาชนส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ ที่ได้มีการจับจองพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยมายาวนาน ทิศตะวันออกจรดเขตจตุจักร ทิศใต้เขตพญาไท ทิศใต้ เขตดุสิต เขตบางพลัด เขตบางกรวย ข้ามเจ้าพระยาไปทางทิศตะวันตก และเมืองนนทบุรีทางทิศเหนือ เขตบางซื่อเป็นหนึ่งในแปดเขตของกรุงเทพฯ (เขต) ที่จัดตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการปฏิรูปการปกครองในปี พ.ศ. 2481 บางซื่อถูกลดหย่อนจากอำเภอเป็นตำบล จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอดุสิต ในปี พ.ศ. 2515 ส่วนหนึ่งของการสร้างเขตปกครองพิเศษของกรุงเทพฯ โดยที่ตำบลในกรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแขวง และอำเภอในกรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเขต บางซื่อกลายเป็นแขวงบางซื่อภายใต้เขตดุสิต บางซื่อกลายเป็นเขตในปี พ.ศ.2523

"บางซื่อ" หมายถึง 'ชุมชนผู้ศรัทธา' ปรากฏในบทกวีของสุนทรภู่ "การเดินทางสู่พระบาท" ที่เขียนเมื่อ พ.ศ. 2350 เชื่อกันว่าชื่อมาจากนิทานพื้นบ้านเรื่อง "พระเจ้าอู่ทอง" เมื่อมีคนถามถึงขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ของพระเจ้าอู่ทอง (ไม่ใช่พระเจ้าอู่ทองแห่งอยุธยา) ชาวบ้านตอบด้วยความจริงใจ (ซื่อๆ) จึงเป็นที่มาของชื่อบางซื่อ เขตบางซื่อมี สะพานพระราม 6 เป็นสะพานแรกที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดทำการเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2466 และได้รับการตั้งชื่อตามพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) สะพานรางรถไฟยาว 442 เมตร (1,450 ฟุต) และกว้าง 10 เมตร (33) เดิมมีทางรถไฟรางเดียวไปทางทิศตะวันตกและทางใต้ของประเทศไทยและเป็นถนนเลนเดียว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สะพานได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร เนื่องจากถูกใช้โดยชาวญี่ปุ่นที่ยึดครอง สะพานที่สร้างขึ้นใหม่ได้เปิดขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2496

นอกจากนั้นยังมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเป็นมหาวิทยาลัยที่สำคัญในเขตบางซื่อ จากเดิมที่ดินการเกษตรที่เป็นมรดกพร้อมกับส่งต่อที่ดินเหล่านี้ให้รุ่นลูกหลาน ซึ่งในยุคถัดมาที่ความเป็นสวนลดน้อยลง บริเวณติดริมถนนสายหลัก กลายเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อทำการค้า ส่วนพื้นที่ในตรอกซอกซอยปรับเปลี่ยนเป็นอาคารบ้านเรือนในแบบสร้างเองเข้ามาแทน ความเป็นชุมชนก็หนาแน่นขึ้นบนพื้นที่น้อยกว่า 12 ตารางกิโลเมตร เขตบางซื่อมาประชากรอาศัยอยู่โดยประมาณ 126,000 คน



ประเภทกิจกรรมสนุก ๆ ที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ

1. การแข่งขันเกมและกีฬา

การออกกำลังกายหรือการเล่นเกมในลักษณะของการแข่งขัน จะช่วยลดความเบื่อหน่ายและกระตุ้นให้ผู้เล่นตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา รู้สึกอยากเล่นหรืออยากทำกิจกรรมมากกว่าการที่ต้องทำอะไรอยู่คนเดียว โดยเฉพาะหากผู้สูงอายุคุณสามารถเอาชนะอุปสรรคหรือแข่งขันกับผู้อื่นด้วยวิธีที่เป็นมิตร อย่างเช่น กอล์ฟ มินิกอล์ฟ ว่ายน้ำเทนนิส แบดมินตัน หรือ โบว์ลิ่งในร่ม เป็นต้น

2. การเต้นรำ คาราโอเกะ และศิลปะการแสดงอื่นๆ

การเต้นรำ ถือเป็นการออกกำลังกายที่สามารถสร้างความแข็งแรง และสร้างสมาธิให้กับผู้สูงอายุได้ดีอีกวิธีหนึ่ง เพราะการเต้นรำต้องอาศัยการขยับร่างกายให้ประสานสอดคล้องไปกับท่วงทำนองและเสียงดนตรี ส่วนการได้ร้องเพลงคาราโอเกะกับคนวัยเดียวกัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสนุกและมีอารมณ์ขัน ไม่ต้องพยายามทำทุกอย่างจนจริงจังหรือตึงเครียดจนเกินไปจนหมดสนุก การทำกิจกรรมต่างๆ ในวัยสูงอายุมีจุดประสงค์หลักคือ การได้เข้าสังคม ส่งเสริมสุขภาพ และคลายความเหงา

3. การเข้าสังคมและการชุมนุมทางสังคมอื่น ๆ

การเข้าสังคมอาจเป็นการเติมพลังให้กับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผู้สูงอายุได้หวนคิดถึงอดีตหรือพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาสนใจ การสนทนาที่ดีอาจช่วยทำให้อารมณ์ดี ร่าเริง ดังนั้นควรส่งเสริมให้ผู้อายุ ได้พบปะกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรือให้เข้าร่วมในชมรมหรือคลับในชุมชน

4. เกมและปริศนาแบบดั้งเดิม เกมกระดานและเกมไพ่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเข้าสังคมและได้รับประโยชน์จากความท้าทายที่สนุกสนานของการแข่งขันที่เป็นมิตร และปริศนาสามารถช่วยขัดเกลาจิตใจของคุณและให้ความรู้สึกถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จ พิจารณาตัวเลือกเช่น: อูโนะ บิงโก หมากฮอส หมากฮอสจีน โดมิโน ปริศนาอักษรไขว้ จิ๊กซอว์ ปริศนาค้นหาคำ

5. ปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ เช่นเดียวกับคน สัตว์ต้องการและต้องการความสนุกสนาน ดังนั้นการเล่นกับพวกเขาจึงสามารถเป็นประโยชน์ร่วมกันได้ นอกจากนี้ การหาสัตว์เพื่อโต้ตอบด้วยมักเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าคุณจะไม่มีสัตว์เลี้ยงก็ตาม ตัวอย่างเช่น สถานสงเคราะห์สัตว์หลายแห่งยินดีต้อนรับผู้สูงอายุที่ต้องการให้ความสนใจที่มีคุณภาพแก่สุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ