วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันพยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง
วัดศรีเอี่ยม
วัดศรีเอี่ยม เป็นวัดดั้งเดิมที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบางนา มีชื่อเดิมว่า วัดศรีเอี่ยมวัฒนาราม สมัยก่อนที่นี่เคยเป็นสำนักสงฆ์ แต่ในปี พ.ศ. 2508 คุณขาบ อ่องเอี่ยมและบุตร ได้มีจิตศรัทธาทำการถวายที่ดินให้พระครูศรีวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดบางนาในสมัยนั้นเพื่อสร้างเป็นวัด โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2517
ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 อาจารย์สุขุมและภรรยาได้ถวายที่ดินเพื่อขยายวัด แด่พระอธิการประเสริฐ สุตธมโม เพิ่มอีก 6 ไร่เศษโดยยังใช้ชื่อวัดว่า วัดศรีเอี่ยมวัฒนาราม
กล่าวกันว่าชื่อของวัด คำว่า ศรี น่าจะมาจาก พระครุศรีวรพินิจ และคำว่า เอี่ยม มาจากนามสกุลของ คุณแม่ขาบ แล้วมีการเติมคำว่าวัฒนาต่อท้าย ซึ่งน่าจะหมายถึง พระครูศรีวรพินิจและตระกูลอ่องเอี่ยม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและร่วมพัฒนาวัดนี้ขึ้นมานั่นเอง ต่อมาชาวบ้านติดเรียกชื่อวัด
นี้สั้นๆ จึงเหลือแค่ วัดศรีเอี่ยม จนถึงปัจจุบัน
จุดเด่นของ วัดศรีเอี่ยม คือ พระอุโบสถที่สร้างขึ้นเป็นสีขาว มี 2 ชั้น และมีซุ้มประตูและหน้าต่าง รวมทั้งหลังคาเป็นสีทอง มีความวิจิตรตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศรีมงคลนวภูมิ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระพุทธรูปและพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาทิเช่น หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ หลวงพ่อโอภาสี และ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็นต้น จึงทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่เขตบางนาเองหรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
การเดินทางมายัง วัดศรีเอี่ยม หากอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนบางนา-ตราดฝั่งขาออก เลี้ยวตรงทางเชื่อมถนนศรีนครินทร์ บริเวณ กม.4 จะพบวัดศรีเอี่ยม ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ แนะนำว่าหากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถแท็กซี่ จะสะดวกที่สุด
ที่อยู่ : 111 หมู่ 11 ถ.บางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
วัดบางนานอก
วัดบางนานอก กล่าวกันว่าน่าจะก่อสร้างขึ้นราวๆ ปี พ.ศ. 2400 แต่ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้างที่ชัดเจน โดยชื่อเดิมของวัดที่ชาวบ้านเรียกกันคือ วัดปากคลองบางนา หลังจากนั้นจึงมีการเปลี่ยนชื่อไปตามสถานที่ตั้งของวัดซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอยู่ด้านนอกของเขตบางนาในสมัยนั้น จึงเรียกกันว่า วัดบางนานอก จนถึงปัจจุบัน
จุดเด่นของ วัดบางนานอก ที่เป็นที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มาเที่ยวชมและสักการะวัดแห่งนี้คือ ปูชนียวัตถุและโบราณวัตถุ อันได้แก่ พระประธานอุโบสถหลังเก่า อายุมากกว่า 100 ปี ขนาดหน้าตักกว้าง 1.5 เมตร และสูง 1.13 เมตร และยังมี พระพุทธรูปยืนทรงเครื่อง ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่มีขนาดเท่าคนจริง รวมทั้ง หงส์สัมฤทธิ์และ ธรรมาสน์-บุษบก ฯลฯ
ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโบสถ์ในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ของวัดแห่งนี้ จนทำให้หลังคาของโบสถ์ถล่มลงมา เนื่องจากโบสถ์หลังดังกล่าวมีอายุเก่าแก่มาก จึงมีบางส่วนที่ขาดการซ่อมแซมทำนุบำรุงและเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ขึ้นในครั้งนี้
การเดินทางไปยัง วัดบางนานอก ภายในกรุงเทพฯ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานีบางนา ฝั่งตรงข้ามศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เดินออกจากสถานีจะเจอกับวัดบางนาในก่อน แล้วต่อแท๊กซี่ รถสองแถว หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไปที่ วัดบางนานอก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 - 10 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันนั้นๆ ด้วย
ที่อยู่ ริมถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
ดูแลทั้งกายใจ ให้ผู้สูงอายุแข็งแรง
ผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มคนที่นอกจากจะมีปัญหาทางสุขภาพกายแล้ว ยังมีปัญหาทางด้านจิตใจอีกด้วย เนื่องจากร่างกายที่ไม่แข็งแรงและเสื่อมสภาพ ส่งผลกระทบต่อจิตใจจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ ผู้สูงอายุ มีอายุที่ยืนยาว มาดูสิ่งที่ต้องรู้เมื่อดูแลผู้สูงอายุกันดีกว่า
1 หมั่นสังเกตอาการผิดปกติทางร่างกายของผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นผู้ที่ร่างกายอ่อนแอและป่วยได้ง่าย อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม ดังนั้นควรหมั่นเช็คความผิดปกติในร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดโรค เช่น บาดแผลที่หายยากและเรื้อรัง ท้องอืดหรือท้องเสียเรื้อรัง เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ ฯลฯ หากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยโรค
2 ไม่ควรให้ผู้สูงอายุซื้อยากินเอง เนื่องจากผู้สูงอายุบางท่านอาจมีความรู้ความเข้าใจที่ผิด ทำให้รับประทานยาเกินขนาดหรือรับประทานยาเก่าที่หมดอายุแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
3 ชักชวนให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมที่เหมาะสม ทำให้ผ่อนคลายและลดความเครียดไปในตัว เช่น การออกไปพบปะเพื่อนฝูงวัยเดียวกัน หรือไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกับกลุ่มผู้สูงอายุวัยเดียวกัน การที่ผู้สูงอายุมีกิจกรรมหรืองานอดิเรกจะช่วยชะลอความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งยังลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าอีกด้วย
4 เลือกอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุมีการเผาผลาญที่ลดลง ดังนั้น จึงควรเลือกอาหารที่มีพลังงานน้อยและย่อยง่าย ควรลดการบริโภคอาหารในกลุ่มของแป้ง น้ำตาล และไขมันลง รวมถึงอาหารประเภทผัดและทอดที่ใช้น้ำมัน เน้นอาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อปลามากขึ้น และเปลี่ยนมาใช้วิธีปรุงโดย การต้ม นึ่ง ย่าง หรือ อบ แทน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง