ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
หทัยรัตน์ มีฮาด
หทัยรัตน์ มีฮาด
Saijai อายุ 28 ปี

ชอบร้องเพลง ทำอาหาร งานบ้านงานเรือน สนุกสนาน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

สิ่งน่ารู้ของเขตบางพลัด

เนื่องด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของ “เขตบางพลัด” ที่เป็นพื้นที่มีอาณาเขตตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีลำคลองลายสายผ่านและกั้นเขต อีกทั้งยังมีสวนต่าง ๆ ในบริเวณนี้ จนทำให้ผู้คนที่อพยพมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ ประเทศไทยเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับประเทศพม่าครั้งที่ 2 ในปีพุธศักราช 2310 ได้พลัดหลง ศูนย์หายไปกันไปบ่อยครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อเขตบางพลัดจวบจนถึงทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวของที่มาของชื่อนั้นเป็นเพียงความเชื่อ และข้อสันษฐานที่เล่าต่อ ๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่นอน

ปัจจุบันเขตบางพลัดมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 11.360 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของฝั่งธนบุรี มีทิศตะวันออกติดกับเขตบางซื่อ เขตดุสิต และเขตพระนครโดยมีแม่น้ำพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานครเป็นตัวขั้นเขต ทิศเหนือติดกับ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ทิศตะวันตกติดกับเขตตลิ่งชัน และทิศใต้ติดกับเขตบางกอกน้อย ถูกแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 4 แขวง ได้แก่ แขวงบางพลัด แขวงบางอ้อ แขวงบำหรุ และแขวงบางยี่ขัน โดยประชากรมีความหนาแน่นในพื้นที่แขวงบางยี่ขัน ซึ่งเป็นแขวงที่อยู่ฝั่งตะวันออกของเขตพื้นที่และติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้พื้นที่ฝั่งนี้เป็นแหล่งที่ตั้งของวัดหลายแห่งที่มักถูกสร้างอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สมัยอดีต อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย โครงการบ้านริมน้ำ คอนโด ต่าง ๆ และยิ่งไปกว่านั้นมีการคมนาคมในเขตบางพลัดนับว่าเจริญมากเพราะมีเส้นทางการเดินทางหลากหลายตัวเลือก ทั้งถนนสายหลัก สายรอง ทางลัด สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รถไฟสายใต้ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน (โดยมีสถานีบางพลัด บางอ้อ ให้บริการ) ถือเป็นอีกหนึ่งเขตที่ตอบโจทย์ด้านชีวิตความเป็นอยู่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสนใจในการสร้างที่พักอาศัย ดังนั้นมูลค่าที่ดินในเขตบางพลัดนี้ ต้องเพิ่มสูงขึ้นตามความเจริญเหล่านี้อย่างแน่นอน



สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตบางพลัด

กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาขั้นตรงกลางระหว่างพื้นที่ฝั่งพระนครที่อยู่ทางทิศตะวันออก และฝั่งธนบุรีที่อยู่ทิศตะวันตก แยกออกจากกัน โดยมีการสะพานสำคัญ ๆ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หลายแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการข้ามฝั่งไปแต่ละเขตและแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งสะพานที่ถูกสร้างอยู่ในพื้นที่เขตบางพลัด โดยเรียงตามลำดับก่อนหลังการสร้างมีดังนี้

1) สะพานพระราม6 เป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานแรกของประเทศไทย ที่เชื่อมระหว่างเขตบางพลัดกับเขตบางซื่อ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเชื่อมทางรถไฟฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้ติดต่อกัน ตัวสะพานมีความยาว 442.08 เมตร กว้าง 10 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 10 เมตร ปัจจุบันถูกแปรสภาพในส่วนของถนนเป็นทางรถไฟทางคู่ช่วง ชุมทางบางซื่อ – นครปฐม และต้องให้ผ่านทีละขบวนเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้หนักเกินและพังทลายลง เนื่องจากเป็นสะพานที่สร้างตั้งแต่ ธันวาคม พ.ศ. 2465 สร้างเสร็จเมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2469ใช้เวลาสร้างประมาณ 4 ปี และให้ไปใช้เส้นทางถนนบนสะพานพระราม 7 แทน

2) สะพานกรุงธน จุดประสงค์ในการสร้างสะพานนี้ นอกจากเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมระหว่างแขวงบางพลัดและบางยี่ขัน ในเขตบางพลัด กับแขวงวชิรบาล เขตดุสิต ยังเป็นสะพานที่ช่วยระบายการจราจรที่คับคั่งบนสะพานพระพุทธยอดฟ้าอีกด้วย สะพานนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่า สะพานซังฮี้ เพราะเริ่มจากถนนราชวิถีหรือถนนซังฮี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี จากวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2497 - ปลายปี พ.ศ. 2500 ใช้งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 24 ล้านบาท เป็นรูปแบบสะพานแบบปิดตายช่วงต่อเนื่อง ด้วยเหล็กและคอนกรีต เป็นสะพานเหล็กยาว 6 ช่วง มีความยาวทั้งหมดรวมทั้งตัวสะพานและเชิงลาดทั้งสองฝั่งโดยรวม 648.90 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 7.50 เมตร มีช่องจราจรทั้งหมด 4 ช่อง และทางเท้ากว้าง 2.5 เมตร

3) สะพานพระราม7 เชื่อมเขตบางพลัดและอำเภอบางกรวยเข้ากับเขตบางซื่อ สร้างเพื่อเปิดใช้แทนสะพานพระราม 6 ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อ มกราคม พ.ศ. 2533 – กันยายน พ.ศ. 2535 ด้วยค่าก่อสร้างโดยประมาณพันล้านบาท ตัวสะพานมีความยาว 290 เมตร กว้าง 29.10 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 8.9 เมตร มีจำนวนช่องจราจร 6 ช่อง

4) สะพานพระราม8 เป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรเสาเดี่ยว 3 ราบ ด้วยคอนกรีตเสริมแรง ถูกจัดอันดับให้เป็นสะพานที่ยาวที่สุด และมีหอชมที่วิวที่สูงที่สุดในโลก ตัวสะพานมีความยาว 475 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 160 เมตร เชื่อมระหว่างแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัดกับแขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2542 – 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 มีเส้นทางทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีกับถนนวิสุทธิกษัตริย์ ที่สำคัญเป็นสะพานที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่ต้องการแก้ปัญหาจราจรติดขัดบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสะพานกรุงธน



ผู้สูงอายุกับการนอนหลับ

“ผู้สูงอายุมีความต้องการการนอนหลับประมาณ 6.5 ชั่วโมงต่อวัน จากผลวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับพบว่าระยะเวลาของการนอนไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของการนอนหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยสูงอายุ ซึ่งพบว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ได้รับปัญหาจากการนอนไม่หลับและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวมากกว่าร้อยละ 50” อ้างอิงจาก จิตสังคมผู้สูงอายุ

จากบทความข้างต้น ผู้สูงอายุเป็นวัยที่อวัยวะของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ปัญหาการนอนหลับยากของผู้สูงอายุเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่คนรอบข้างต้องช่วยดูแลกันเป็นพิเศษ เพราะหากชั่วโมงในการนอนหลับไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นสาเหตุของการเจ็บไข้ ได้ป่วย ตามมา ซึ่งพบว่าผู้สูงอายุใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการนอนให้หลับ เนื่องจากการที่ร่างกายสร้าง melatonin และ growth hormone ลดลง และมักสร้างลดลงในช่วงอายุหลัง 60 ปี เมื่อมีการเจอแสงแดดลดลง และมีการตื่นบ่อย เพราะปวดปัสสาวะในยามดึก และนอนหลับต่อไปอีกได้ยาก ซึ่งวิธีการแก้ไขนอกจากการพึ่งยาทางการแพทย์แล้ว ยังไม่มีวิธีการรักษาแบบไม่ใช้ยา ในแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างถาวร มีแค่วิธีช่วยบำบัดและบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งคนรอบข้างสามารถช่วยท่านแก้ปัญหาได้ เช่น

- ไม่ควรดื่มน้ำ ก่อนนอน 4-5 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดปัสสาวะบ่อยในกลางดึก

- จัดเตรียมห้องน้ำ ให้ใกล้ห้องนอนมากที่สุด หรือให้ท่านได้ปัสสาวะก่อนนอน

- ไม่ควรกินอาหารย่อยยากก่อนนอน และควรกินมื้อเย็นแต่พอดี ไม่อิ่มไปและน้อยเกินไป เพราะบางครั้งการที่ต้องตื่นมากินด้วยความหิว ส่งผลทำให้ระบบการย่อยและนอนหลับยาก

- ควรออกกำลังกาย ช่วงเช้าและช่วงบ่าย และไม่ควรทำก่อนนอนเพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัว

- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงมื้อเย็น

- คนรอบข้างควรอธิบายผู้สูงอายุให้งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ โดยอ้างอิงถึงเหตุผล ข้อเสีย

- พาท่านออกไปพบเจอแสงแดด เป็นการกระตุ้นระบบสายตา ว่าเป็นช่วงตอนกลางวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการงีบหลับกลางวัน

- จัดสิ่งแวดล้อม ห้องนอน ไม่ให้สว่างเกินไป ปรับอุณหภูมิไม่ให้หนาวหรือร้อนเกินไป ลดการทำกิจกรรมมีเสียงให้ท่านได้ยิน เช่น เปิดเพลง ดูทีวี

- ดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอนเพราะในนมมีกรดอะมิโน เป็นยานอนหลับทางธรรมชาติ