ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศุภมาศ ฟ้าธรณีแสง
ศุภมาศ ฟ้าธรณีแสง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
นวพร   พานา
นวพร พานา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ประสบการณ์ 6 ปีกว่า

เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มง่ายเข้ากับคนป่วยได้ดี ไม่มีหงุดหงิดใส่คนไข้ เป็นคนใจเย็น ชวนพูดชวนคุย

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 36 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Pailin Sangmaneepang
Pailin Sangmaneepang
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

สิ่งน่ารู้ของเขตบางพลัด

เนื่องด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของ “เขตบางพลัด” ที่เป็นพื้นที่มีอาณาเขตตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีลำคลองลายสายผ่านและกั้นเขต อีกทั้งยังมีสวนต่าง ๆ ในบริเวณนี้ จนทำให้ผู้คนที่อพยพมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ ประเทศไทยเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับประเทศพม่าครั้งที่ 2 ในปีพุธศักราช 2310 ได้พลัดหลง ศูนย์หายไปกันไปบ่อยครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อเขตบางพลัดจวบจนถึงทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวของที่มาของชื่อนั้นเป็นเพียงความเชื่อ และข้อสันษฐานที่เล่าต่อ ๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่นอน

ปัจจุบันเขตบางพลัดมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 11.360 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของฝั่งธนบุรี มีทิศตะวันออกติดกับเขตบางซื่อ เขตดุสิต และเขตพระนครโดยมีแม่น้ำพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานครเป็นตัวขั้นเขต ทิศเหนือติดกับ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ทิศตะวันตกติดกับเขตตลิ่งชัน และทิศใต้ติดกับเขตบางกอกน้อย ถูกแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 4 แขวง ได้แก่ แขวงบางพลัด แขวงบางอ้อ แขวงบำหรุ และแขวงบางยี่ขัน โดยประชากรมีความหนาแน่นในพื้นที่แขวงบางยี่ขัน ซึ่งเป็นแขวงที่อยู่ฝั่งตะวันออกของเขตพื้นที่และติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้พื้นที่ฝั่งนี้เป็นแหล่งที่ตั้งของวัดหลายแห่งที่มักถูกสร้างอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สมัยอดีต อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย โครงการบ้านริมน้ำ คอนโด ต่าง ๆ และยิ่งไปกว่านั้นมีการคมนาคมในเขตบางพลัดนับว่าเจริญมากเพราะมีเส้นทางการเดินทางหลากหลายตัวเลือก ทั้งถนนสายหลัก สายรอง ทางลัด สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รถไฟสายใต้ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน (โดยมีสถานีบางพลัด บางอ้อ ให้บริการ) ถือเป็นอีกหนึ่งเขตที่ตอบโจทย์ด้านชีวิตความเป็นอยู่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสนใจในการสร้างที่พักอาศัย ดังนั้นมูลค่าที่ดินในเขตบางพลัดนี้ ต้องเพิ่มสูงขึ้นตามความเจริญเหล่านี้อย่างแน่นอน



สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตบางพลัด

กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาขั้นตรงกลางระหว่างพื้นที่ฝั่งพระนครที่อยู่ทางทิศตะวันออก และฝั่งธนบุรีที่อยู่ทิศตะวันตก แยกออกจากกัน โดยมีการสะพานสำคัญ ๆ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หลายแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการข้ามฝั่งไปแต่ละเขตและแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งสะพานที่ถูกสร้างอยู่ในพื้นที่เขตบางพลัด โดยเรียงตามลำดับก่อนหลังการสร้างมีดังนี้

1) สะพานพระราม6 เป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานแรกของประเทศไทย ที่เชื่อมระหว่างเขตบางพลัดกับเขตบางซื่อ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเชื่อมทางรถไฟฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้ติดต่อกัน ตัวสะพานมีความยาว 442.08 เมตร กว้าง 10 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 10 เมตร ปัจจุบันถูกแปรสภาพในส่วนของถนนเป็นทางรถไฟทางคู่ช่วง ชุมทางบางซื่อ – นครปฐม และต้องให้ผ่านทีละขบวนเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้หนักเกินและพังทลายลง เนื่องจากเป็นสะพานที่สร้างตั้งแต่ ธันวาคม พ.ศ. 2465 สร้างเสร็จเมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2469ใช้เวลาสร้างประมาณ 4 ปี และให้ไปใช้เส้นทางถนนบนสะพานพระราม 7 แทน

2) สะพานกรุงธน จุดประสงค์ในการสร้างสะพานนี้ นอกจากเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมระหว่างแขวงบางพลัดและบางยี่ขัน ในเขตบางพลัด กับแขวงวชิรบาล เขตดุสิต ยังเป็นสะพานที่ช่วยระบายการจราจรที่คับคั่งบนสะพานพระพุทธยอดฟ้าอีกด้วย สะพานนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่า สะพานซังฮี้ เพราะเริ่มจากถนนราชวิถีหรือถนนซังฮี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี จากวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2497 - ปลายปี พ.ศ. 2500 ใช้งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 24 ล้านบาท เป็นรูปแบบสะพานแบบปิดตายช่วงต่อเนื่อง ด้วยเหล็กและคอนกรีต เป็นสะพานเหล็กยาว 6 ช่วง มีความยาวทั้งหมดรวมทั้งตัวสะพานและเชิงลาดทั้งสองฝั่งโดยรวม 648.90 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 7.50 เมตร มีช่องจราจรทั้งหมด 4 ช่อง และทางเท้ากว้าง 2.5 เมตร

3) สะพานพระราม7 เชื่อมเขตบางพลัดและอำเภอบางกรวยเข้ากับเขตบางซื่อ สร้างเพื่อเปิดใช้แทนสะพานพระราม 6 ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อ มกราคม พ.ศ. 2533 – กันยายน พ.ศ. 2535 ด้วยค่าก่อสร้างโดยประมาณพันล้านบาท ตัวสะพานมีความยาว 290 เมตร กว้าง 29.10 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 8.9 เมตร มีจำนวนช่องจราจร 6 ช่อง

4) สะพานพระราม8 เป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรเสาเดี่ยว 3 ราบ ด้วยคอนกรีตเสริมแรง ถูกจัดอันดับให้เป็นสะพานที่ยาวที่สุด และมีหอชมที่วิวที่สูงที่สุดในโลก ตัวสะพานมีความยาว 475 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 160 เมตร เชื่อมระหว่างแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัดกับแขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2542 – 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 มีเส้นทางทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีกับถนนวิสุทธิกษัตริย์ ที่สำคัญเป็นสะพานที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่ต้องการแก้ปัญหาจราจรติดขัดบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสะพานกรุงธน



ผู้สูงอายุกับการนอนหลับ

“ผู้สูงอายุมีความต้องการการนอนหลับประมาณ 6.5 ชั่วโมงต่อวัน จากผลวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับพบว่าระยะเวลาของการนอนไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของการนอนหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยสูงอายุ ซึ่งพบว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ได้รับปัญหาจากการนอนไม่หลับและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวมากกว่าร้อยละ 50” อ้างอิงจาก จิตสังคมผู้สูงอายุ

จากบทความข้างต้น ผู้สูงอายุเป็นวัยที่อวัยวะของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ปัญหาการนอนหลับยากของผู้สูงอายุเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่คนรอบข้างต้องช่วยดูแลกันเป็นพิเศษ เพราะหากชั่วโมงในการนอนหลับไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นสาเหตุของการเจ็บไข้ ได้ป่วย ตามมา ซึ่งพบว่าผู้สูงอายุใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการนอนให้หลับ เนื่องจากการที่ร่างกายสร้าง melatonin และ growth hormone ลดลง และมักสร้างลดลงในช่วงอายุหลัง 60 ปี เมื่อมีการเจอแสงแดดลดลง และมีการตื่นบ่อย เพราะปวดปัสสาวะในยามดึก และนอนหลับต่อไปอีกได้ยาก ซึ่งวิธีการแก้ไขนอกจากการพึ่งยาทางการแพทย์แล้ว ยังไม่มีวิธีการรักษาแบบไม่ใช้ยา ในแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างถาวร มีแค่วิธีช่วยบำบัดและบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งคนรอบข้างสามารถช่วยท่านแก้ปัญหาได้ เช่น

- ไม่ควรดื่มน้ำ ก่อนนอน 4-5 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดปัสสาวะบ่อยในกลางดึก

- จัดเตรียมห้องน้ำ ให้ใกล้ห้องนอนมากที่สุด หรือให้ท่านได้ปัสสาวะก่อนนอน

- ไม่ควรกินอาหารย่อยยากก่อนนอน และควรกินมื้อเย็นแต่พอดี ไม่อิ่มไปและน้อยเกินไป เพราะบางครั้งการที่ต้องตื่นมากินด้วยความหิว ส่งผลทำให้ระบบการย่อยและนอนหลับยาก

- ควรออกกำลังกาย ช่วงเช้าและช่วงบ่าย และไม่ควรทำก่อนนอนเพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัว

- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงมื้อเย็น

- คนรอบข้างควรอธิบายผู้สูงอายุให้งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ โดยอ้างอิงถึงเหตุผล ข้อเสีย

- พาท่านออกไปพบเจอแสงแดด เป็นการกระตุ้นระบบสายตา ว่าเป็นช่วงตอนกลางวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการงีบหลับกลางวัน

- จัดสิ่งแวดล้อม ห้องนอน ไม่ให้สว่างเกินไป ปรับอุณหภูมิไม่ให้หนาวหรือร้อนเกินไป ลดการทำกิจกรรมมีเสียงให้ท่านได้ยิน เช่น เปิดเพลง ดูทีวี

- ดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอนเพราะในนมมีกรดอะมิโน เป็นยานอนหลับทางธรรมชาติ