ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 52 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
อริสสา กลิ่นล่ำทวีทรัพย์
อริสสา กลิ่นล่ำทวีทรัพย์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ใจดี คุย ให้คำปรึกษาได้ ตรงต่อเวลา รับผิดชอบงาน รักความสะอาด

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ ชื่อรภัทร เมธินรัตน์ หรือแอมมี่นะคะ ตอนนี้อายุ 27 ค่ะ จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความสนใจเกี่ยวกับจิตวิทยาจึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของจิตวิทยาเด็ก จนถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ซึ่งเชื่อว่าทักษะที่ได้เรียนรู้มา สามารถนำมาทำงานด้านนี้ หรือที่เกี่ยวข้องได้อย่างดี มีความรู้รอบตัว มีสกิลการสื่อสารที่ทำให้สามารถพูดคุยได้กับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุได้ทุกเรื่อง เป็นคนมีความสามารถที่หลากหลาย สามารถทำงานได้ multi skills มีความอดทน เข้ากับผู้อื่นได้งาน มีความตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบสูง

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
2 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
2 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
2 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

สิ่งน่ารู้ของเขตบางพลัด

เนื่องด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของ “เขตบางพลัด” ที่เป็นพื้นที่มีอาณาเขตตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีลำคลองลายสายผ่านและกั้นเขต อีกทั้งยังมีสวนต่าง ๆ ในบริเวณนี้ จนทำให้ผู้คนที่อพยพมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ ประเทศไทยเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับประเทศพม่าครั้งที่ 2 ในปีพุธศักราช 2310 ได้พลัดหลง ศูนย์หายไปกันไปบ่อยครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อเขตบางพลัดจวบจนถึงทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวของที่มาของชื่อนั้นเป็นเพียงความเชื่อ และข้อสันษฐานที่เล่าต่อ ๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่นอน

ปัจจุบันเขตบางพลัดมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 11.360 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของฝั่งธนบุรี มีทิศตะวันออกติดกับเขตบางซื่อ เขตดุสิต และเขตพระนครโดยมีแม่น้ำพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานครเป็นตัวขั้นเขต ทิศเหนือติดกับ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ทิศตะวันตกติดกับเขตตลิ่งชัน และทิศใต้ติดกับเขตบางกอกน้อย ถูกแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 4 แขวง ได้แก่ แขวงบางพลัด แขวงบางอ้อ แขวงบำหรุ และแขวงบางยี่ขัน โดยประชากรมีความหนาแน่นในพื้นที่แขวงบางยี่ขัน ซึ่งเป็นแขวงที่อยู่ฝั่งตะวันออกของเขตพื้นที่และติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้พื้นที่ฝั่งนี้เป็นแหล่งที่ตั้งของวัดหลายแห่งที่มักถูกสร้างอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สมัยอดีต อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย โครงการบ้านริมน้ำ คอนโด ต่าง ๆ และยิ่งไปกว่านั้นมีการคมนาคมในเขตบางพลัดนับว่าเจริญมากเพราะมีเส้นทางการเดินทางหลากหลายตัวเลือก ทั้งถนนสายหลัก สายรอง ทางลัด สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รถไฟสายใต้ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน (โดยมีสถานีบางพลัด บางอ้อ ให้บริการ) ถือเป็นอีกหนึ่งเขตที่ตอบโจทย์ด้านชีวิตความเป็นอยู่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสนใจในการสร้างที่พักอาศัย ดังนั้นมูลค่าที่ดินในเขตบางพลัดนี้ ต้องเพิ่มสูงขึ้นตามความเจริญเหล่านี้อย่างแน่นอน



สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตบางพลัด

กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาขั้นตรงกลางระหว่างพื้นที่ฝั่งพระนครที่อยู่ทางทิศตะวันออก และฝั่งธนบุรีที่อยู่ทิศตะวันตก แยกออกจากกัน โดยมีการสะพานสำคัญ ๆ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หลายแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการข้ามฝั่งไปแต่ละเขตและแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งสะพานที่ถูกสร้างอยู่ในพื้นที่เขตบางพลัด โดยเรียงตามลำดับก่อนหลังการสร้างมีดังนี้

1) สะพานพระราม6 เป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานแรกของประเทศไทย ที่เชื่อมระหว่างเขตบางพลัดกับเขตบางซื่อ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเชื่อมทางรถไฟฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้ติดต่อกัน ตัวสะพานมีความยาว 442.08 เมตร กว้าง 10 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 10 เมตร ปัจจุบันถูกแปรสภาพในส่วนของถนนเป็นทางรถไฟทางคู่ช่วง ชุมทางบางซื่อ – นครปฐม และต้องให้ผ่านทีละขบวนเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้หนักเกินและพังทลายลง เนื่องจากเป็นสะพานที่สร้างตั้งแต่ ธันวาคม พ.ศ. 2465 สร้างเสร็จเมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2469ใช้เวลาสร้างประมาณ 4 ปี และให้ไปใช้เส้นทางถนนบนสะพานพระราม 7 แทน

2) สะพานกรุงธน จุดประสงค์ในการสร้างสะพานนี้ นอกจากเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมระหว่างแขวงบางพลัดและบางยี่ขัน ในเขตบางพลัด กับแขวงวชิรบาล เขตดุสิต ยังเป็นสะพานที่ช่วยระบายการจราจรที่คับคั่งบนสะพานพระพุทธยอดฟ้าอีกด้วย สะพานนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่า สะพานซังฮี้ เพราะเริ่มจากถนนราชวิถีหรือถนนซังฮี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี จากวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2497 - ปลายปี พ.ศ. 2500 ใช้งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 24 ล้านบาท เป็นรูปแบบสะพานแบบปิดตายช่วงต่อเนื่อง ด้วยเหล็กและคอนกรีต เป็นสะพานเหล็กยาว 6 ช่วง มีความยาวทั้งหมดรวมทั้งตัวสะพานและเชิงลาดทั้งสองฝั่งโดยรวม 648.90 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 7.50 เมตร มีช่องจราจรทั้งหมด 4 ช่อง และทางเท้ากว้าง 2.5 เมตร

3) สะพานพระราม7 เชื่อมเขตบางพลัดและอำเภอบางกรวยเข้ากับเขตบางซื่อ สร้างเพื่อเปิดใช้แทนสะพานพระราม 6 ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อ มกราคม พ.ศ. 2533 – กันยายน พ.ศ. 2535 ด้วยค่าก่อสร้างโดยประมาณพันล้านบาท ตัวสะพานมีความยาว 290 เมตร กว้าง 29.10 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 8.9 เมตร มีจำนวนช่องจราจร 6 ช่อง

4) สะพานพระราม8 เป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรเสาเดี่ยว 3 ราบ ด้วยคอนกรีตเสริมแรง ถูกจัดอันดับให้เป็นสะพานที่ยาวที่สุด และมีหอชมที่วิวที่สูงที่สุดในโลก ตัวสะพานมีความยาว 475 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 160 เมตร เชื่อมระหว่างแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัดกับแขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2542 – 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 มีเส้นทางทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีกับถนนวิสุทธิกษัตริย์ ที่สำคัญเป็นสะพานที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่ต้องการแก้ปัญหาจราจรติดขัดบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสะพานกรุงธน



ผู้สูงอายุกับการนอนหลับ

“ผู้สูงอายุมีความต้องการการนอนหลับประมาณ 6.5 ชั่วโมงต่อวัน จากผลวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับพบว่าระยะเวลาของการนอนไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของการนอนหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยสูงอายุ ซึ่งพบว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ได้รับปัญหาจากการนอนไม่หลับและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวมากกว่าร้อยละ 50” อ้างอิงจาก จิตสังคมผู้สูงอายุ

จากบทความข้างต้น ผู้สูงอายุเป็นวัยที่อวัยวะของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ปัญหาการนอนหลับยากของผู้สูงอายุเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่คนรอบข้างต้องช่วยดูแลกันเป็นพิเศษ เพราะหากชั่วโมงในการนอนหลับไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นสาเหตุของการเจ็บไข้ ได้ป่วย ตามมา ซึ่งพบว่าผู้สูงอายุใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการนอนให้หลับ เนื่องจากการที่ร่างกายสร้าง melatonin และ growth hormone ลดลง และมักสร้างลดลงในช่วงอายุหลัง 60 ปี เมื่อมีการเจอแสงแดดลดลง และมีการตื่นบ่อย เพราะปวดปัสสาวะในยามดึก และนอนหลับต่อไปอีกได้ยาก ซึ่งวิธีการแก้ไขนอกจากการพึ่งยาทางการแพทย์แล้ว ยังไม่มีวิธีการรักษาแบบไม่ใช้ยา ในแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างถาวร มีแค่วิธีช่วยบำบัดและบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งคนรอบข้างสามารถช่วยท่านแก้ปัญหาได้ เช่น

- ไม่ควรดื่มน้ำ ก่อนนอน 4-5 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดปัสสาวะบ่อยในกลางดึก

- จัดเตรียมห้องน้ำ ให้ใกล้ห้องนอนมากที่สุด หรือให้ท่านได้ปัสสาวะก่อนนอน

- ไม่ควรกินอาหารย่อยยากก่อนนอน และควรกินมื้อเย็นแต่พอดี ไม่อิ่มไปและน้อยเกินไป เพราะบางครั้งการที่ต้องตื่นมากินด้วยความหิว ส่งผลทำให้ระบบการย่อยและนอนหลับยาก

- ควรออกกำลังกาย ช่วงเช้าและช่วงบ่าย และไม่ควรทำก่อนนอนเพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัว

- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงมื้อเย็น

- คนรอบข้างควรอธิบายผู้สูงอายุให้งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ โดยอ้างอิงถึงเหตุผล ข้อเสีย

- พาท่านออกไปพบเจอแสงแดด เป็นการกระตุ้นระบบสายตา ว่าเป็นช่วงตอนกลางวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการงีบหลับกลางวัน

- จัดสิ่งแวดล้อม ห้องนอน ไม่ให้สว่างเกินไป ปรับอุณหภูมิไม่ให้หนาวหรือร้อนเกินไป ลดการทำกิจกรรมมีเสียงให้ท่านได้ยิน เช่น เปิดเพลง ดูทีวี

- ดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอนเพราะในนมมีกรดอะมิโน เป็นยานอนหลับทางธรรมชาติ