ดูแลผู้สูงอายุ ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 29 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
4 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราที่บ้านมีข้อดีอย่างไรบ้าง ใส่ใจขออธิบายข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้

1) การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับลูกหลานที่มีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุของตน หลาย ๆ คนอาจมีงานหรือภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา การจ้างคนดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพจึงเหมือนการได้ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามที่คุณไม่สะดวกด้วยเช่นกัน
2) ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลที่ศูนย์ดูแล บ้านพักคนชราหรือ เนอสซิ่งโฮม(Nursing Home)แล้ว จำนวนผู้สูงอายุที่มีมากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามาก
3) ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านต่าง ๆ เพราะผ่านการฝึกอบรมการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะการดูแลกิจวัตรประจำวัน เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดตัว หรือความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และยังสามารถพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเพื่อให้ไม่รู้สึกเหงาด้วยเช่นกัน
4) ผู้สูงอายุไม่รู้สึกแปลกสถานที่เนื่องจากความเคยชินเพราะได้อยู่ที่บ้าน และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่างไกลจากลูกหลาน อีกทั้งยังคงได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่สำคัญสภาพแวดล้อมภายในบ้านสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และไม่วิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อรับรู้ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากต้องการคนเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของคุณ ทางใส่ใจมีบริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่น่าไว้ใจให้คุณ

ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับ สวนลุมพินี ปทุมวัน

สวนลุมพินี เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพ ตั้งอยู่กลางเมืองที่ แยกศาลาแดง ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร มีขนาดใหญ่และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ บนเนื้อที่ 360 ไร่ ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468

ชื่อเดิมเรียกว่า “ทุ่งศาลาแดง” เป็นพระราชมรดกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ทรงพระราชทานไว้ เพื่อจัดงาน “สยามรัฐพิพิธภัณฑ์” เป็นงานแสดงพิพิธภัณฑ์สรรพสินค้า และทรัพยากรธรรมชาติ เมื่องานจบ จึงให้งดจัดงาน และมีพระราชดำริให้จัดสถานที่นี้เป็นสวนพฤกษชาติ ไว้ให้ประชาชนไว้พักผ่อนและศึกษาหาความรู้ และทรงพระราชทานชื่อว่า "สวนลุมพินี" หมายถึง สถานที่ประสูติแห่งพระพุทธเจ้า ณ ตำบลลุมพินีวัน ประเทศเนปาล เมื่อรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต รัชกาลที่ 7 ทรงสร้างสวนสาธารณะนี้ต่อจนสำเร็จ และได้สร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ไว้ด้านหน้าสวน เพื่อการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่าน

จุดเด่นภายในสวนลุมพินี

-พระบรมรูปรัชกาลที่ 6

-กิจกรรมดูนกในเมือง

-ลานตะวันยิ้ม

-สโมสรพลเมืองอาวุโสแห่งเมืองกรุงเทพฯ

-ศูนย์สร้างโอกาสเด็กสวนลุมพินี (Home of hope)

-ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (BMA Apprentice School)

-ห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี

-ศูนย์เยาวชนลุมพินี

-ศูนย์อาหารศรีไทยเดิม

-ธรรมะในสวน

-ดนตรีในสวน

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะสะดวกกว่ารถประจำทาง

รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

สถานีสีลม ระยะทาง 100 เมตร ถึงสวนลุมพินี

รถไฟฟ้า BTS

สถานีศาลาแดง ออกทางออก 5 ตรงทางถนนพระราม 4 เดินข้ามถนนมา ก็จะเจอกับสวนลุมพินี

รถประจำทางที่ผ่าน

ถนนพระรามที่4 (สวนลุมพินี) : 4, 14, 45, 46, 47, 50, 67, 74, 76, 141, 113, 115, 505

ถนนราชดำริ (สวนลุมพินี) : 14, 15, 50, 74, 76, 77, 162, 504, 505, 514, 547

ถนนวิทยุ (สวนลุมพินี) : 13, 17, 50, 62, 76, 505

ถนนสารสิน (สวนลุมพินี) : 14, 50, 505



เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อดูแลผู้สูงอายุในเมืองกรุง

เนื่องด้วยแนวโน้มของจำนวนประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ตลาดผู้สูงอายุเป็นตลาดที่นักธุรกิจสนใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม ใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับฐานลูกค้ากลุ่มนี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองกรุง ที่ลูกหลานต่างมีภาระหน้าที่ต้องทำงาน มักจะสรรหาสิ่งเหล่านี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุ

ตัวอย่างเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในอนาคตสำหรับผู้สูงอายุ

1. หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ – มีหลายจุดประสงค์ เช่น ช่วยในการอุ้ม ช่วยให้ความบันเทิง ช่วยเตือนเวลาพบแพทย์ หรือรับประทานยา แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่อนาคตราคาจะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ ในประเทศไทยนั้น ได้มีการนำหุ่นยนต์มาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น โครงการ “จุฬาอารีมอบหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ”

2. เหรียญ QR code เพื่อช่วยผู้สูงอายุกลับบ้าน – ประเทศจีนเริ่มใช้เหรียญนี้ สำหรับช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีปัญหา เรื่องความทรงจำ เป็นอัลไซเมอร์ เมื่อออกจาบ้านแล้วหลงลืม ไม่สามารถจำทางกลับบ้านเองได้ โดยใช้เทคโนโลยี QR code ฝังข้อมูลผู้สูงอายุไว้ เมื่อผู้พบเห็นเจอ สามารถนำมือถือขึ้นมาสแกน QR code และให้ความช่วยเหลือส่งผู้สูงอายุกลับบ้านได้

3. เยลลี่สำหรับผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาในการกลืนอาหาร – ผู้สูงอายุมักมีการสำลักอาหาร เนื่องจากมีปัญหาจากโรควัยชรา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการใช้ฟันปลอม ไม่มีฟันในการบดเคี้ยว มะเร็งช่องปาก ผ่านทำคีโม ฉายรังสี หรือบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ทำให้กลืนอาหารได้ลำบาก นวัตกรรมนี้จะเป็นการนำเยลลี่ที่มีสารสกัดจากสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น ใบแปะก๊วย แคลเซียม โอเมก้า พรีไบโอติกไฟเบอร์ ซึ่งตัวเนื้อจะนุ่ม ลื่น กลืนง่าย เพียงแค่ใช้ลิ้นดุนให้แตกไม่ทำให้สำลักง่าย

เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี และยังมีการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายในอนาคตอันใกล้



อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุในชีวิตประจำวัน

ประชากรไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากความคิดของคนวัยกลางคนในปัจจุบันนี้ ส่วนมากเลือกที่จะไม่แต่งงาน บ้างก็แต่งงานแต่ไม่ต้องการมีลูก เพราะมีคิดว่าการมีลูกนั้นต้องมีใช้ค่าใช้จ่ายสูง

ปั้นปลายชีวิตส่วนใหญ่จะมองหาบ้านพักคนชราเป็นที่พึ่งสุดท้าย และหาอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ นานา เพื่อช่วยเหลือในการดำรงชีวิต

ด้วยยุคดิจิทัลที่มาเข้ามามีบทบาทในชีวิต จึงมีการคิดค้นเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายทั้งหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือผู้สูงอายุ เช่น

1) เครื่องช่วยพยุงตัวนั่งชักโครก สำหรับโถสุขภัณฑ์

เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งกับชักโครกโดยไม่ต้องใช้เครื่องจักรใด ๆ ในการขุดเจาะทั้งสิ้น ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหากล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ปัญหาหัวเข่า ปัญหากระดูกช่วงขา ที่ไม่สามารถลุกนั่งชักโครกได้เหมือนคนทั่วไป อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยดันสะโพกขึ้นลงทั้งก่อนและหลังใช้ชักโครก ทำให้ลดแรงในการลุกนั่ง สามารถปรับความเอียงของฝาชักโครกได้ รองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม และช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลขณะพยุงตัวผู้สูงอายุ ลดการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ห้องน้ำอีกด้วย

2) อุปกรณ์ช่วยเดิน รถเข็นหัดเดิน

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเกี่ยวกับการเดิน การทรงตัว สำหรับผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติด้านการเดินและกระดูกเชิงกราน ให้สามารถยืนและช่วยเหลือตัวเองได้ รองรับน้ำหนักได้ถึง 110 กิโลกรัม

3) เตียงตื่นตัว หรือเตียงโจอี้

เป็นผลงานวิจัยของชาวไทย จากสำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งเตียงนี้จะช่วยผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาเรื่องการลุก นั่ง ยืน ในการเข้านอน ให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้