ดูแลผู้สูงอายุ ใน หนองจอก, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน หนองจอก, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Suttinee  Munin
Suttinee Munin
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

น.ส. ศุทธินี เหมือนอินทร์อายุ 22 ปี ศาสนา พุทธ เรียนจบ ผู้ช่วยพยาบาล pn เคยทำงาน opd ดูแลผู้สูงอายุ กุมารเวชกรรมที่อยู่ เจริญนคร 55 เขต คลองสาน กรุงเทพมหานครมีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้ม ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม
วลดา ดาวเรือง
วลดา ดาวเรือง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะหนูจบผู้ช่วยพยาบาลหนูมั่นใจว่ามีจิตใจอ่อนโยนและใจเย็นมากๆค่ะเคยดูแลผู้ป่วยติดเตียงในโรงพยาบาลได้ดีมากๆค่ะและยังสามารถทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าวขับรถหรือไปทำธุระให้ได้ค่ะ คุยกันได้ก่อนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พัชญ์ณัฐฏ์ หวยสูงเนิน
พัชญ์ณัฐฏ์ หวยสูงเนิน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรับผิดชอบงาน ไม่เทงานแม้จะยาก จริงใจ พูดตรง

แสดงเพิ่มเติม
สิริมา ทวีสิทธิ์
สิริมา ทวีสิทธิ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 51 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมามากกว่า5ปี สามารถขับรถพาไปหาหมอ อยู่เป็นเพื่อน เฝ้าไข้

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม
ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ขยันทำงาน รับผิดชอบ มีจรรยาบรรณ ใส่ใจดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 25 ปี

เคยดูแลคุณย่าเมื่อสองปีก่อนระหว่างการเป็นนักเรียนกับผู้ให้การดูเเล

แสดงเพิ่มเติม
Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม
นวพร   พานา
นวพร พานา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ประสบการณ์ 6 ปีกว่า

เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มง่ายเข้ากับคนป่วยได้ดี ไม่มีหงุดหงิดใส่คนไข้ เป็นคนใจเย็น ชวนพูดชวนคุย

แสดงเพิ่มเติม
อทิตยา บางชัยภูมิ
อทิตยา บางชัยภูมิ
Saijai อายุ 48 ปี

ค่าจ้างพิจารณาตามความเหมาะสมชอบดูแลผู้สูงอายุ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
วชิราภรณ์ ขาวอุบล
วชิราภรณ์ ขาวอุบล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่นชื่อนก อายุ 36 ปี ประวัติการทำงานเคยทำงานที่โรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย 10 ปีแผนกห้องผ่าตัด 4 ปี แผนก ICU 6 ปีดูแลผู้สูงอายุ 2 ปี

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ไวพจน์ หมู่ขำ
ไวพจน์ หมู่ขำ
Saijai อายุ 33 ปี

14,000ต่อเดือน ใจเย็นสะอาดเรียบร้อย ใส่ใจและรักในงานที่ทำ เชื่อว่าความสามารถของตัวเองจะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายออกมาดีที่สุด

แสดงเพิ่มเติม
รุ่งเพชร ก๊กรัมย์
รุ่งเพชร ก๊กรัมย์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

พร้อมดูแล​ห่วงใย​เอาใจใส่ผู้สูงอายุ

ใจเย็น​เพียบพร้อม​สามารถทำกายภาพบำบัด​นวดแขนขา​พาเดิน​หรือทำนา​สั่งได้ทุกอย่าง

พร้อมดูแลครอบครัวท่านดุจพ่อแม่

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย นวดได้ ภาษาได้ อาหารได้ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
5 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
5 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

หนองจอก ครัวของกรุงเทพฯ

“ธารน้ำใสสะอาด พฤษชาติเขียวขจี” สองวรรคแรกในคำขวัญเขตหนองจอก สะท้อนภาพการเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ที่เป็นทุ่งกว้าง มีลำคลองตัดผ่านหลายสาย จึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับการทำเกษตรกรรม ทั้งสวนผัก ผลไม้ และนาข้าว หนองจอก ดินแดนชายขอบกรุงเทพฯ จนบางครั้งถูกเรียกว่า"บ้านนอก..กรุงเทพฯ" เป็นแหล่งปลูกข้าวที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองหลวง และที่นี่คือพื้นที่ปลูกข้าวหอมปทุม ข้าวของพวกเรา"ชาวนาบางกอก" เขตหนองจอกนั้นเดิม ตั้งขึ้นเป็นอำเภอเมื่อ พ.ศ. 2440 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ตั้งถิ่นฐานเดิมเป็นชาวมุสลิมที่อพยพมาจากภาคใต้ของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2445 ได้กลายเป็นอำเภอของจังหวัดมีนบุรีที่ตั้งขึ้นใหม่ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงปี พ.ศ. 2473-2574 จังหวัดมีนบุรีจึงถูกยุบในปี พ.ศ. 2474 และหนองจอกถูกย้ายไปจังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ย้ายไปอยู่ภายใต้กรุงเทพมหานครในปีหน้า เนื่องจากความไม่สะดวกในการเดินทางระหว่างหนองจอกและฉะเชิงเทรา ในปี 2549 ประชากรประมาณ 75% เป็นมุสลิมในขณะที่ 22% เป็นชาวพุทธ ชื่อหนองจอก แปลว่า บึงน้ำ อาชีพเกษตรกรรมยังคงเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเศรษฐกิจหนองจอก ข้าว ผัก ผลไม้ และปศุสัตว์เป็นผลิตภัณฑ์หลัก มีชื่อเสียงในเรื่องไก่ชนและกรงนก คลองหลายแห่งถูกขุดเพื่อการชลประทานและการขนส่งอีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีเกษตร (คนเมือง) อาณาเขตที่ติดกับจังหวัดปทุมธานีและฉะเชิงเทรา เชื่อมโยงระหว่างคนสองลุ่มน้ำคือเจ้าพระยาและบางปะกง เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ยังเต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจีและยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายของวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวบ้านย่านชานกรุง ที่ยังคงหลงเหลือให้ศึกษา การสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำหรับ “คนเมือง” โดยหวังให้คนทั่วไปได้รับรู้คุณค่าของเกษตรกรรมมากขึ้น ปัจจุบันศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ฯ จึงเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาท่องเที่ยวเรียนรู้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นที่พักปอดชั้นดีของคนเมืองได้แล้ว ยังมีโอกาสได้สร้างประสบการณ์และเรียนรู้ในภาคเกษตรกรรม อันเป็นเรื่องที่แทบจะขาดหายไปในชีวิตคนเมืองและเพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ว่าทุกบ้านสามารถมีพื้นที่เกษตรเล็กๆ เป็นของตัวเองได้ เช่น การเรียนรู้วิธีการปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารเคมีไว้ใช้ในครัวเรือน ที่มีให้เรียนรู้กันหลายชนิด ตั้งแต่จำพวกไม้เล็ก ๆ ปลูกง่าย เช่น ผักวอเตอร์เครส ต้นหอม กะเพรา โหระพา หรือพวกที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น มะละกอ ฟักทอง มะเขือชนิดต่างๆ โดยจะให้คำแนะนำในการปลูกทุกขั้นตอน อีกทั้งมีเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าให้ด้วย หากสนใจนำไปปลูกที่บ้าน เกษตรกรชาวหนองจอกกล่าวไว้ว่า “พื้นที่การเกษตรที่นี่ มันจะเหลือน้อยลงไป ผู้คนเข้ามามากยิ่งขึ้น แล้วเราจะทำอย่างไรให้พื้นที่น้อยนี้ ให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น” จากแปลงนา แปลงผักของกรุงเทพมหานคร



เกษียณอายุในประเทศไทย: สิ่งที่ชาวต่างชาติต้องรู้เกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย

ชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตวัยเกษียณที่เมืองไทย เพราะประเทศไทยมีเหตุผลดึงดูดให้ผู้สูงอายุจากหลากหลายประเทศเข้ามาใช้ชีวิตปั้นปลายที่นี่ เริ่มด้วยค่ารักษาพยาบาลที่ไม่สูงมาก ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลักษณะภูมิอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี ที่สำคัญคือ ไมตรีจิตของคนไทยที่เป็นมิตรและโอบอ้อมอารี ทำให้ประเทศไทยเป็นทางออกสำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติหลายคนประมาณ 7% ของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยมากคือ ชาวจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น อินเดีย และเยอรมัน โดยมีผู้อพยพจำนวนมากมาจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทำไมประเทศไทยจึงเป็นจุดหมายปลายทางของผู้สูงอายุต่างชาติ ต่อไปนี้คือเหตุผลสั้นๆ บางประการ:

ค่าครองชีพต่ำ

ค่าที่อยู่อาศัยและค่าขนส่งที่ไม่แพงเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าอาหารนำเข้าอาจมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย และเสื้อผ้าแบรนด์เนมและสินค้าฟุ่มเฟือยก็มีราคาแพง แต่ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมีราคาไม่สูง ทำให้ผู้สูงอายุชาวต่างชาติหลายคนสามารถประหยัดงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพไปได้มาก ในความเป็นจริง ค่าครองชีพในประเทศไทยถูกกว่าในสหรัฐอเมริกา 43% และถูกกว่าสหราชอาณาจักร 47%

สภาพอากาศและที่ตั้ง

ความสวยงามของชายหาดในประเทศไทยเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก เช่น ป่าตอง อ่าวนาง และกะรน มีสถานที่ที่ดี ๆ อีกหลายที่ แม้ว่าในช่วงฤดูมรสุมตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม ถึง ตุลาคม ที่ทะเลอาจจะมีคลื่นสูงและหาดลดความงามไปบ้าง แต่ช่วงเดือนอื่นนอกฤดูมรสุมชายหาดและเกาะต่าง ๆ จะมีความสวยงามมาก

วัฒนธรรมท้องถิ่น

ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ยังมีชนบทและสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ที่มีความงดงามและน่าค้นหา

ที่กล่าวมาแล้วเป็นแค่บางส่วนที่ทำให้ผู้สูงอายุจากนานาประเทศตัดสินใจย้ายมาใช้ชีวิตวัยเกษียณในประเทศไทย



วีซ่าสำหรับผู้สูงวัยชาวต่างชาติ

ประเทศไทยได้รับความนิยมไปทั่วโลกในด้านความสวยงามของทัศนียภาพ ทิวทัศน์ที่ดึงดูดสายตา และบรรยากาศความเงียบสงบของชายหาดอีกด้วย นอกจากนี้ เหตุผลอื่นๆ อีกหลายประการทำให้ปรเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติของการเกษียณอายุสำหรับผู้สูงอายุ

สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทย ประเทศไทยมีวีซ่าประเภท “Non-Immigrant Visa “OA” (Long Stay) ” วีซ่าเกษียณอายุ สำหรับต่างชาติที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถยื่นขอวีซ่าเกษียณอายุได้ การอนุมัติการขอวีซ่าจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขบางประการตามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ การอนุมัติวีซ่าจะมีอายุ 1 ปี และสามารถต่ออายุได้หลายครั้งเท่าที่ต้องการ คุณสมบัติหนึ่งของผู้ขอวีซ่าเกษียณอายุคือ ต้องมีเงินฝากธนาคารอย่างน้อย 800,000 บาทในบัญชีธนาคารกับธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทย นอกจากนี้ ผู้ขอวีซ่าอาจต้องมีใบรับรองจากตำรวจและใบรับรองแพทย์สำหรับกรณีที่เลือก นอกจากนี้ ผู้ถือวีซ่าจะต้องตัวต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทุก ๆ 90 วันด้ว