ติวเตอร์ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ชนัฐกานต์ ฟักเฟื่องผล
ชนัฐกานต์ ฟักเฟื่องผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

พี่อยู่ มศว ปี2 เอกการสอนฟิสิกส์โดยตรง ฟิสิกส์ 1-2 A เกรดจบม.ปลาย 3.96 มีประสบการณ์สอน 2 ปีเต็ม มีทั้งสอนแบบติว สอนเนื้อหาในห้องเรียน สอนมามากมาย ทั้งสาธิตมก สาธิตมศว(น้องม.5คนนี้ได้เกรด4ฟิสิกส์) เตรียมวิศวะมจพ และอีกมากมายค่า

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เครียดมากช่วงที่ลูกชายต้องตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย ดูเค้าไม่พร้อมเลย ไม่มีทางสอบแข่งกับคนอื่นได้แน่ ๆ ผมเป็นห่วงมาก ๆ จนตัดสินใจจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนที่บ้าน เหมือนสวรรค์มาโปรด ลูกพร้อมขึ้นมาก คนเป็นพ่อก็สบายใจครับ
Saijai
พงษ์เทพ รัตนาพล
4 ปีที่แล้ว
เราเรียน BA และต้องเรียน Fundamental of Financial Accounting เพราะเป็นวิชาบังคับของมหาวิทยาลัย แต่เราทำได้ไม่ดีเลย เสิร์จหาติวเตอร์ระดับมหาวิทยาลัยจนเจอเว็บใส่ใจ เลยลองใช้บริการดู เพราะเรทไม่สูงมาก พี่ที่สอนเขามีเทคนิคนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด เรารู้สึกว่าพี่เข้าอธิบายเข้าใจง่ายมาก ไฟนอลที่ผ่านมาเราได้ B+ ดีใจมาก ๆ รู้สึกประทับใจมาก ติวเตอร์สอนดี พี่ติวเตอร์เขาเก่งมาก ๆ ที่สำคัญคือพวกเราเรียนพิเศษกันแบบออนไลน์ด้วยค่ะ
Saijai
อังคณา บุษย์บำเพ็ญ
5 ปีที่แล้ว
ช่วงที่ลูกต้องสอบ IELTS เพื่อไปยื่นต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศก็ได้ติวเตอร์ที่จองกับใส่ใจมาช่วยติวให้นี่แหละค่ะ ผลคือลูกสอบได้ระดับ 8 รู้สึกประทับใจมาก เพราะติวเตอร์มีเทคนิคในการสอนที่ดีและเห็นผลจริงค่ะ
Saijai
กนกวรรณ สุประเสิรฐ
5 ปีที่แล้ว
ตอนนี้ลูกผมอยู่ป.6 ผมก็ไม่ทราบว่าระบบเค้าเป็นยังไง เลยให้ลูกเรียนกับติวเตอร์แบบเข้มข้น เหนื่อยมากครับ ถ้ามาอัดทีหลัง โชคดีที่ติวเตอร์ ดูแลดี สอนดีกระชับ และเน้นแนวสอบบดินทร ผมต้องปรึกษาติวเตอร์ตลอดให้คำแนะนำดี เหมือนทำงานเป็นทีมเดียวกัน ติวเตอร์ ลูก และคุณพ่อ มีแผนมีเป้าหมายดีเลยครับ คิดว่ามีเวลาอีก 4 เดือนลูกทำได้แน่นอน ขอบคุณครับ ใส่ใจทีม
Saijai
เนติภล ชอบจินดา
5 ปีที่แล้ว
ลูกชายเรียนอยู่ม.6 สามสัปดาห์ก่อนเลยมองหาที่เรียนพิเศษวิทย์-คณิตเพิ่มให้เขา ไปเจอโพสต์ของใส่ใจในเฟซบุ๊ก เห็นมีบริการติวเตอร์ส่วนตัวด้วย ลองดูประวัติติวเตอร์หลายๆคน จนลองนัดสัมภาษณ์ไป 3 คน โชคดีมากที่ตัดสินใจเลือกถูกคน รู้สึกประทับใจกับระบบและติวเตอร์ที่จองผ่านใส่ใจมากเลยค่ะ
Saijai
พิมพ์ชนก เปี่ยมสุข
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์

คุณพ่อคุณแม่ควรจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนที่บ้านหรือให้ลูกเรียนตามสถาบันกวดวิชาดีกว่า
ใส่ใจมี 5 ข้อดีของการเรียนพิเศษที่บ้านเพื่อช่วยในการประกอบการตัดสินของพ่อแม่และผู้ปกครองดังนี้ค่ะ

1) การเรียนแบบตัวต่อตัว ติวเตอร์หรือครูผู้สอนสามารถวางแผนการเรียนการสอนและกำหนดจุดมุ่งหมายร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งตัวนักเรียนเอง เพื่อให้การสอนเข้ากันได้ดีกับนักเรียนและดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ของผู้เรียนมากที่สุด
2) การเรียนแบบส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ดีเพราะนักเรียนจะมีความกล้าในการตั้งคำถามมากขึ้น ด้านตัวติวเตอร์เองสามารถอธิบายและตอบข้อสงสัยของนักเรียนได้อย่างละเอียดจนกว่าจะเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวนักเรียนและส่งผลให้นักเรียนนับถือตัวเองมากขึ้นมาก
3) ความสะดวกในการจัดตารางเรียนและประหยัดเวลาในการเดินทาง การสอนแบบส่วนตัวเป็นรูปแบบการสอนที่มีความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายอย่างมาก นักเรียนสามารถจัดตารางเรียนและเลือกสถานที่เรียนให้สอดคล้องกับตารางเรียนที่โรงเรียนหรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ในบางกรณีครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์อาจตกลงกับนักเรียนที่จะทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกของทั้งสองฝ่าย
4) การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวนั้นนักเรียนจะมีสมาธิและโฟกัสกับเนื้อหามากกว่าการเรียนในกลุ่มใหญ่ ๆ โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มที่เป็นเด็กเวลาอยู่กับเพื่อน ๆ มักจะพูดคุยกัน และเล่นสนุกกันมากกว่าสนใจบทเรียนตรงหน้า
ดังนั้นหากคุณพ่อและคุณแม่ต้องการหาติวเตอร์ส่วนตัวให้ลูก ๆ นั้น ใส่ใจมีบริการค้นหาติวเตอร์คุณภาพที่ใช้พร้อมรอให้บริการแล้วค่ะ
ทักษะที่ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีควรมี
คุณสมบัติอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรมองหาจากครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เมื่อต้องการจ้างมาสอนพิเศษลูก ๆ ที่บ้าน มาดูกันเลยค่ะ

1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
เรียนพิเศษหรือเรียนเสริมส่วนตัวที่บ้านจะช่วยให้เด็กมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่อย่างไร
ในสมัยนี้การเรียนเสริม เรียนพิเศษหรือการกวดวิชานั้นมีหลากหลายทางเลือก และการจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวถือเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับนักเรียนที่ต้องการความส่วนตัวในการเรียนและหวังผลลัพธ์ที่ดี การเรียนพิเศษตัวต่อตัวช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นอย่างไร ใส่ใจมีคำตอบมาให้คุณค่ะ

• เมื่อเรียนพิเศษตัวต่อตัว นักเรียนจะมีความใกล้ชิดกับติวเตอร์ ในด้านของนักเรียนหากมีข้อสงสัยนักเรียนสามารถสอบถามติวเตอร์ได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่ ๆ อีกด้วย ส่วนในด้านของติวเตอร์เมื่อรับงานสอนพิเศษตัวต่อตัวแล้ว เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้นักเรียนอย่างสุดความสามารถ และติวเตอร์เองจะมุ่งเน้นความใส่ใจไปที่เด็กนักเรียนคนเดียวจึงทำให้เด็กได้รับความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อนักเรียนเข้าใจในสิ่งที่ติวเตอร์สอน นักเรียนจะสามารถทำข้อสอบที่โรงเรียนได้และได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
• การเรียนพิเศษนั้นนักเรียนจะได้ฝึกทำข้อสอบ หรือแบบฝึกหัดและสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียนเพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้

ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ส่วนตัวนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวนักเรียน อีกทั้งยังทำให้นักเรียนนั้นมีผลการเรียนที่ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อตกลงที่นักเรียนต้องตกลงกับติวเตอร์ก่อนเริ่มเรียนมีอะไรบ้าง
มีเหตุผลมากมายว่าทำไมเด็กไทยส่วนใหญ่ในยุคนี้ต่างใช้เวลาไปกับการเรียนพิเศษ ซึ่งหลัก ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะ เรียนในห้องเรียนแล้วไม่เข้าใจ หรืออาจจะเรียนเสริมเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สนามสอบที่มีการแข่งขันสูงเพื่อที่จะต่อยอดในระดับการศึกษาที่สูงและดีขึ้น

อย่างไรก็ดีในปัจจุบันนี้มีหลากหลายทางเลือกสำหรับการเรียนเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันกวดวิชา หรือ การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวก็ดี วันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณที่กำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ว่าควรตกลงอะไรกับติวเตอร์ มาดูกันค่ะ

• สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตกลงกับติวเตอร์คือสถานที่เรียนและเวลาเรียน การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวคุณสามารถเลือกสถานที่เรียนและเวลาได้ตามความสะดวก อย่างไรก็ดีหากต้องการจะเรียนที่บ้านหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่นร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือห้องสมุดคุณพ่อคุณแม่หรือตัวนักเรียนจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบทุกครั้งเพื่อความชัดเจนทั้งสองฝ่าย
• แน่นอนว่าการจ้างติวเตอร์นั้นคุณหวังเพื่อที่จะได้รับความใส่ใจจากติวเตอร์ ดังนั้นก่อนทำการเรียนทุกครั้งนักเรียนจะต้องพูดคุยกับติวเตอร์ถึงเรื่องการเรียน หากคุณต้องการให้ติวเตอร์สอนคุณในเนื้อหาบทเรียนไหนเป็นพิเศษนักเรียนจะต้องบอกติวเตอร์เพื่อที่ติวเตอร์ เพราะติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองในด้านการเรียนที่ดีขึ้น
• ค่าจ้าง ก่อนทำการจ้างคุณพ่อคุณแม่จะต้องตกลงค่าจ้างกับติวเตอร์ตามชั่วโมงที่จ้างสอน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวเพื่อลูก ๆ ของคุณจะได้สะดวกในการเรียน ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ

ทำความรู้จักกับเขตบางพลัด

บางพลัด พื้นที่ใกล้ย่านปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี ชุมชนเก่าแก่ ที่มีตำนานเล่าขานว่า เป็นย่านที่มีผู้คนอพยพมาจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แก่พม่า เมื่อปี พ.ศ.2310 และมีการพลัดหลงจากกัน จนเป็นที่มาของชื่อบางพลัด ซึ่งหมายถึง การพลัดหลง หรือหลงถิ่น

จากเดิมบางพลัดมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอบางกอกน้อย ภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่การปกครองของกรุงเทพใหม่ ทำให้บางพลัดแยกตัวมาเป็นอำเภอ หรือเขตในปัจจุบัน มีด้วยกัน 4 แขวงการปกครองคือ บางพลัด บางอ้อ บางบำหรุ และบางยี่ขัน

พูดถึง บางพลัด ในปัจจุบัน จัดเป็นย่านที่มีผู้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีองค์ประกอบสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตอย่างครบครัน ทั้งสถาบันการศึกษา สถานพยาบาล ที่พักอาศัย แหล่งงานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และย่านนี้ยังอยู่ใกล้โซนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานควาย จตุจักร ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เลือกอาศัยอยู่ในย่านนี้ และพื้นที่ใกล้เคียง บางพลัดยังเป็นย่านที่เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนราชวิถี นอกจากนี้ยังมีถนนที่เชื่อมไปยังจังหวัดนนทบุรีอีกด้วย เนื่องจากเป็นชุมชนเก่าแก่ ทำให้ย่านนี้มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มากมายด้วยกันได้แก่ มัสยิดบางอ้อ มัสยิดเก่าแก่ที่สร้างปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ผสมกับวัฒนธรรมของอิสลาม ทำให้มัสยิดแห่งนี้สวยงามเป็นอย่างมาก วัดคฤหบดี วัดโด่งดังย่านจรัญสนิทวงศ์ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่อุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมแบบสมัยรัชกาลที่ 3 ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา แต่เป็นวัดที่มีพระแซกคำ

บางพลัดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย ให้ทุกคนไปเที่ยวชม



การเดินทางในบางพลัด

การเดินทางในบางพลัดค่อนข้างมีความคล่องตัว เนื่องจากบริเวณนี้มีถนนตัดผ่านไม่กี่สาย และสภาพแวดล้อมโดยรวมทำให้พื้นที่บริเวณนี้ไม่กว้าง ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกสำหรับรถส่วนตัว แต่สำหรับการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ผู้เดินทางอาจต้องมีการวางแผนเผื่อเวลาไว้บ้าง เพราะมีรถบางประเภท และบางสายที่ไม่ได้วิ่งผ่านย่านนี้โดยตรง อีกทั้งบางช่วงเวลามีรถให้บริการน้อย มาดูตัวเลือกสำหรับการเดินทางในบางพลัด ว่าสามารถเดินทางแบบใดบ้าง

1.ทางรถยนต์ ย่านนี้มีถนนเส้นหลักอยู่ 2 สายคือ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนที่ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา และ ถนนสิรินธร ตัวเชื่อมกับถนนราชวิถีเพื่อข้ามไปฝั่งพระนคร โดยถนนทุกสายมีช่องจราจรที่ใหญ่ สภาพจราจรถือว่าคล่องตัวมาก แต่ในส่วนของพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่น อาจมีการชะลอตัวบ้าง ดังนั้นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุด

2.รถเมล์ มีรถเมล์ที่สำคัญหลายสายได้แก่ 18 : อู่ท่าอิฐ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, 110 : พระราม 6- เทเวศร์, อ้อมน้อย-สถานีขนส่งผู้โดยสายกรุงเทพ(เอกมัย), 175 : ท่าน้ำภาษีเจริญ-ท่าน้ำนนทบุรี, 203 : อู่ท่าอิฐ-สนามหลวง, 539 : ศรีอยุธยา-พุทธมณฑลสาย 4, 710 : วงกลมอรุณอมรินทร์-ถนนกาญจนาภิเษก

3.รถไฟฟ้า ในบางพลัดมี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วง บางซื่อ-ท่าพระ และรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สายบางซื่อ-ตลิ่งชัน ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้ผู้คนในย่านนี้ ในบางครั้งหากไม่มีรถสาธารณะผ่าน สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่จุดต่อ จะสะดวกมากขึ้น อย่างที่ทราบกันว่าเมื่อมีรถไฟฟ้าเกิดในพื้นที่ จะส่งผลให้การขนส่งรูปแบบอื่นพัฒนาตามไปด้วย

4.เรือ ถนนจรัญสนิทวงศ์สามารถเข้าถึงท่าเรือได้อย่างง่ายดาย และสามารถใช้บริการเรือข้ามฟาก หรือนั่งเรือโดยสารไปทางนนทบุรีได้เหมือนกัน มีท่าเรือโดยสารเปิดให้บริการหลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ ท่าเรือสะพานกรุงธน ท่าเรือวัดเทพากร ท่าเรือวัดเทพนารี เป็นต้น

5.วินมอเตอร์ไซค์ สำหรับวินมอเตอร์ไซค์สามารถพบเห็นได้ทุกที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะปากซอย ซึ่งบริเวณถนนเส้นจรัญสนิทวงศ์มีคิววินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่มากมาย เนื่องจากเป็นเขตชุมชนหนาแน่น และมีสถานที่สำคัญต่างๆ

นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น การเดินทางในบางพลัด ยังมีการให้บริการขนส่ง อีกหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น รถตู้ แท็กซี่ รถสองแถว เป็นต้น



เรียนพิเศษตัวต่อต่อ กับ โรงเรียนกวดวิชา อันไหนดีกว่ากัน

การเรียนพิเศษในปัจจุบัน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีบทบาทสำคัญจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่างยอมรับว่าการเรียนพิเศษเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาไปแล้ว ถึงแม้ว่าการเรียนพิเศษจะถูกมองว่าเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำให้การศึกษามากขึ้น แต่การเรียนพิเศษกลับได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างสวนทางกัน ไม่เพียงแต่สถาบันกวดวิชาเท่านั้นที่ได้รับความนิยม การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน น้องๆ หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ถ้าจะเลือกเรียนพิเศษควรเรียนแบบไหนดี ระหว่าง เรียนพิเศษตัวต่อต่อ กับ โรงเรียนกวดวิชา วันนี้พี่มีคำแนะนำดีๆ มาฝาก

1.การเรียนพิเศษกับสถาบันกวดวิชา ข้อดีคือจะได้รับสูตรลัด ทริคต่างๆ และเทคนิคดีๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้องเพลงจำคำศัพท์ คิดเลขทางลัด อีกทั้งสถาบันกวดวิชาจะมีการรวบรวมข้อสอบเก่า จัดเป็นหมวดหมู่ตามยากง่าย และช่วยเก็งข้อสอบในแต่ละปี หากตั้งใจขยันทบทวนและทำแบบฝึกหัด จะช่วยให้น้องๆ ได้ความรู้จากการเรียนกวดวิชาไปเยอะ ส่วนการเรียนแบบตัวต่อตัว เหมาะสมกับน้องๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อาจจะไม่ชอบเรียนกับคนเยอะๆ อย่างสถาบันกวดวิชา หรือเมื่อเรียนหลายคนแล้วไม่เข้าใจ การเรียนแบบตัวต่อตัว จะช่วยได้ และช่วยลดความกดดันอีกด้วย

2.การเรียนพิเศษกับโรงเรียนกวดวิชามักจะสอนเป็นห้องใหญ่ จำนวนเด็กต่อละห้องจะต่างกันออกไป มีทั้งสอนสดและผ่านวิดีโอ หากสมาธิหลุดเมื่อไร จะตามเนื้อหาที่ติวเตอร์กำลังสอนอยู่ไม่ทันแน่ อีกทั้งเมื่อเกิดคำถาม ข้อสงสัย บางคนไม่กล้าถามเนื่องจากไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนร่วมห้องเรียน สำหรับการเรียนตัวต่อตัว จะต้องยอมรับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับสถาบันกวดวิชา ติวเตอร์บางคนไม่ได้มีเทคนิคการสอนที่ดีเท่าสถาบันกวดวิชา อาจเรียนไม่สนุกเท่าสถาบันกวดวิชาเพราะไม่ได้เจอเพื่อน

น้องๆ สามารถวางแผนการเลือกเรียนพิเศษได้ ตามความต้องการ ความเหมาะสม และความสะดวกของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านค่าใช้จ่าย การเดินทาง เทคนิคการสอนของติวเตอร์ และความพร้อมของทางบ้านหรือผู้ปกครอง ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเรียนพิเศษ และให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ไป