ดูแลผู้สูงอายุ ใน กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

น.ส.พวงพันธุ์ พำประโคน
น.ส.พวงพันธุ์ พำประโคน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ เรื่องงาน ทำงานดูแลผู้สูงอายุมามากกว่า7ปี เข้าใจผู้สูงอายุมีอารมณ์แปรปรวนง่าย ผู้ให้บริการแบบเรา ต้องใจเย็น ดูแลเอาใจใส่คนป่วยมาก ดูแลเหมือนพ่อแม่ของเราค่ะ ทำงานแต่ล่ะเคสอยู่ยาวเป็น1+ปี นิสียของหนู คนพูดตรงๆ มีอะไรให้ถามได้เลย รักความสะอาด เป็นมิตรภาพกับทุกคนค่ะ เจ้าระเบียบ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาพัชญ์ สมบูรณ์ชัย
กัญญาพัชญ์ สมบูรณ์ชัย
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์การดูแลผู้สูงอายุมากกว่า3ปีเป็นคนพูดน้อยยอมรับฟังคำสอนกล่าวเตือนของผู้อื่น

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
ศิวานนท์ ทาอิ
ศิวานนท์ ทาอิ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

ผมไม่ได้จบ หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลท่านผู้สูงอายุครับ แต่ผมชอบที่จะนั่งฟัง หรือ ค่อยดูแลท่าน ทุกครั้งที่พบท่านผู้สูงอายุจะมีความรู้สึกเหมือนได้มาดูแลคนในครอบครัวครับ ปัจจุบันผมเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล และ เลขาประทานบริษัท ดีลโซลูชั่น จำกัด ครับ

แสดงเพิ่มเติม
แคลริสสา มาลีริรร์
แคลริสสา มาลีริรร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 34 ปี

ต่าบริการรายวัน วันละ 400 บาท มีรอยสักนอกร่มผ้าค่ะ สักเพราะความสวยงาม

แสดงเพิ่มเติม
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ขยันทำงาน รับผิดชอบ มีจรรยาบรรณ ใส่ใจดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
นวพร   พานา
นวพร พานา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ประสบการณ์ 6 ปีกว่า

เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มง่ายเข้ากับคนป่วยได้ดี ไม่มีหงุดหงิดใส่คนไข้ เป็นคนใจเย็น ชวนพูดชวนคุย

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
แสงอุษา   นวลศรี
แสงอุษา นวลศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เป็นคนใจเย็น ชอบทำอาหาร ดูแลต้นไม้ ผ่านการอบรม Caregiver

แสดงเพิ่มเติม
Sarawut Madcharoen
Sarawut Madcharoen
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
ธัญชนก นอศรี
ธัญชนก นอศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อธัญชนก นอศรี ชื่อเล่น นก

อายุ33ปี สูง150cm.น้ำหนัก48kg.

เป็นคนจ.ตาก

จบการศึกษาผู้ช่วยเหลือคนไข้(NA)จากรรรามบริรักษ์เชียงใหม่ ปี2554

ประสบการณ์ทำงานดูผู้สูงอายุทั้งเคสธรรมดา,ติดเตียงและระยะสุดท้ายรวม7ปี

อุปนิสัย..เป็นคนใจเย็น เอาใจใส่คนไข้

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศุภมาศ ฟ้าธรณีแสง
ศุภมาศ ฟ้าธรณีแสง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด

แสดงเพิ่มเติม
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
เนย แซ่โค้ว
เนย แซ่โค้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 23 ปี

มีประสบการณ์มากกว่า1ปี

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
3 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

กรุงเทพมหานคร มหานครของประเทศไทย

กรุงเทพมหานคร มหานครของประเทศไทย

กรุงเทพฯ กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางของการเติบโตและการพัฒนา ไม่เพียงเฉพาะของประเทศไทย อีกไม่นานทั้งระบบการขนส่ง การเติบโตของเมืองรอบข้าง จะทำให้ธุรกิจ และวิถีชีวิตของคนกรุงเทพ ทันสมัยและสะดวกมากยิ่งขึ้น คาดการณ์ว่าในปี พ.ศ.2566 (ค.ศ.2023) กรุงเทพจะมีโครงข่ายรถไฟยาวเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีความยาวเชื่อมต่อกรุงเทพและพื้นที่ข้างเคียง ถึง 464 กิโลเมตร โดยจะเพิ่มสัดส่วนการให้บริการจากหนึ่งล้านคนต่อวันเป็นห้าล้านคนต่อวัน ซึ่งจะลดปัญหาการจราจรคับคั่ง ลดเวลาการเดินทาง ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

นอกจากอนาคตอันใกล้ที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่เดินทางสะดวก รองรับประชากรกว่าสิบล้านคน กรุงเทพฯ ยังมีแผนที่จะเป็นมหานครสีเขียว ด้วยการเพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะ โดยมีเป้าหมายเพิ่มร่มไม้ในเมือง จากร้อยละ 14 เป็นร้อยละ 30 และสามารถเข้าถึงสวนสาธารณะ ได้ด้วยการเดินไม่เกิน 10 นาที เช่นสวนเลียบคลองสวนสาธารณะ คลองช่องนนทรี การปรับปรุงคุณภาพน้ำและเพิ่มพื้นที่สีเขียวตลอดสองทางริมคลอง จะทำให้มีพื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่วิ่งไปกลับ 9 กิโลเมตร แม้แคบแต่ยาวตลอด โดยหวังว่าร่มไม้ในเมืองจะช่วยลดปัญหามลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้แล้วภายในปี พ.ศ. 2565 สวนสาธารณะใหม่บนพื้นที่ 216 ไร่ กลางกรุงเทพฯ ซึ่งเดิมเคยเป็นสนามแข่งม้า โดยที่รู้จักในนามว่าสนามม้านางเลิ้ง หรือราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ที่จะทำให้กรุงเทพฯ มีพื้นที่สีเขียว นี่เป็นเพียงตัวอย่าง 2 ในหลายๆ โครงการที่จะทำให้กรุงเทพเป็น มหานครสีเขียว

มหานครอันเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว เมื่อสาธารณูปโภค ทุกอย่างเอื้ออำนวยแล้วจึงไม่น่าแปลกใจที่กรุงเทพฯ จะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ในปี พ.ศ.2562 (ค.ศ.2019) นิตยสาร Forbes (ฟอบส์) ได้จัดลำดับให้กรุงเทพ เป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยว มากกว่า ยี่สิบสองล้านคน ด้วยเหตุที่ เป็นเมืองที่มีการผสมผสานของวัฒนธรรม เช่นพระบรมมหาราชวัง วัดวาอาราม ไปจนถึงสถานบันเทิงเช่น บริเวณ ถนนข้าวสาร การจับจ่ายซื้อของตั้งแต่ตลาดนัด จนไปถึงห้างสรรพสินค้า รวมทั้งความหลากหลายทางวัฒนธรรมอาหาร ตั้งแต่ข้างทาง (Street food) ถึงระดับภัตตาคาร

นี่เป็นเพียงบางส่วนของมหานครที่ ชื่อว่า กรุงเทพมหานคร จุดหมายปลายทางของคนนับล้านคน



มองกรุงเทพฯ อย่างคูลๆ

มองกรุงเทพมหานครอย่างคูลๆ

นอกจากความที่เป็นมหานคร เมืองใหญ่ที่มีตึกสูง รถไฟฟ้า หรือทางด่วนพาดไปมามากมาย จนทำให้เราลืมว่ากรุงเทพฯ มีมุม มีเรื่องราวให้เราได้สัมผัสกรุงเทพฯ อย่างลึกซึ้ง หรืออย่างคูลๆ เราลองมาดูว่า 5 อย่างหรือ 5 สถานที่ ที่คุ้นตา คุ้นชื่อจะทำให้เราคูลๆ ได้

1. พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ความงดงามที่อยู่คู่กรุงเทพมหานครมากว่า 240 ปี เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งประเทศไทยด้วย ด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เราสามารถถ่ายภาพบอกเล่าเรื่องราวของเรา สร้างความภาคภูมิใจ ความคนไทย ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชม สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 เราสามารถเช้าชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าเช้าชม

2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง แม้ในกรุงเทพมีวัดมากกว่า 63 วัดอยู่ใน 50 เขต ของกรุงเทพฯ แต่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยพระปรางของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย และยังปรากฏอยู่บนสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกใฝ่ฝันที่จะถ่ายรูปมุมคูลๆ ที่นี่

3. ถนนข้าวสาร 99% ของนักเดินทางหนุ่มสาวยามค่ำคืนเดินทางสู่ถนนแห่งนี้ เพื่อหามุมพักผ่อนในแบบที่ตัวเองชอบ กับบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากกลางวัน ถนนข้าวสาร มองหามุมคูลๆ แบบที่เราชอบ แล้วไปบันทึกความทรงจำกัน

4. ตลาดนัดวันเสาร์-อาทิตย์ ตลาดนัดจตุจักร หลายคนอาจเคยไปมาแล้วแต่เชื่อว่ายังไม่ครบทั้งหมด ลองใช้เวลาเดินให้ช้าลง บางทีโชคชะตา อาจพาเราพบกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ก็ได้ 8,000 ร้านที่เปิดอยู่ กับการทีมีผู้มาจับจ่ายซื้อของกว่า 200,000 คนในทุกๆ วันเสาร์อาทิตย์ เราสามารถสร้างเรื่องราวคูลๆ ให้กับความทรงจำได้ไม่ยาก

5. กรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำ ไม่ให้เสียชื่อ เวนิสตะวันออก ตลาดน้ำตลิ่งชัน ด้วยความที่ยังคงเป็นธรรมชาติ ทำให้เรารู้สึกสดชื่น กับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งบ้านริมคลอง ตลาดน้ำ และ สวนกล้วยไม้ สวนผักผลไม้ รวมไปถึงของกิน อร่อยๆ ทำให้เรื่องรวมธรรมดาๆ กลายเป็นเรื่องราวคูลๆ ได้ นอกจากตลาดน้ำตลิ่งชันแล้ว ยังมีตลาดคลองลัดมะยมที่ยังคงเอกลักษณ์ แบบดั้งเดิมไว้ได้

ทั้งหมดเป็น 5 สถานที่ 5 กิจกรรม ที่จะทำให้เรารู้สึกภูมิใจและเข้าใจกรุงเทพมากขึ้น มองกรุงเทพฯ แบบคูลๆ แบบคุณๆ ดู ยังมีกรุงเทพฯ แบบคูลๆ อีกมากมายให้ค้นหา



สูงวัย ไร้กังวล ในกรุงเทพฯ

สูงวัย ไร้กังวล ในกรุงเทพฯ

ในปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมาได้มีการสำรวจพบว่า กรุงเทพฯ มีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) อยู่ที่ 1 ล้านคน นั่นหมายถึงในทุกๆ เขตพื้นที่ 10% ของประชากรเป็นผู้สูงอายุ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เราจะเดินทางสู่ “Super Aged Society” ที่จะมีประชากรสูงวัยมากกว่าจำนวนเด็กเกิดที่เกิดใหม่ (จริงๆ แล้วเราเริ่มเข้าสู่ Aged Society สังคมประชากรสูงวัย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543) เพื่อเป็นการรองรับ ทางกรุงเทพมหานคร ได้มีโครงการ 1 ชุมชน 1 ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟู จัดการดูแลผู้สูงอายุ และให้ความรู้ทำให้เข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น ป้องกันความอ้างว้าง เข้าสังคม ปกป้องศักดิ์ศรี ขณะเดียวกัน ทางกรุงเทพมหานครได้จัดให้มีสวนสาธารณะเพื่อผู้สูงอายุถึง 41 แห่งที่มีความร่มรื่น การเดินทางที่สะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมารองรับ เช่นสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) บนเนื้อที่กว่า 375 ไร่และมีเนื้อที่ติดกับอีก 2 สวนคือ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสริกิติ์ฯ และสวนจตุจักร เป็นต้น กทม.ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงฯ 10 ตารางเมตรต่อคน ภายใต้โครงการ Green Bangkok 2030

ทางด้านสถานพยาบาล โรงพยาบาลในเครือกรุงเทพมหานคร ดูแลโดยสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร โดยมีโรงพยาบาลในสังกัดทั้งหมด 11 แห่ง พร้อมให้บริการผู้สูงอายุ ที่น่าสนใจที่สุดคือโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ยังเป็นศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุที่มีความชำนาญ ในการดูแลเฉพาะด้านแก่ผู้สูงอายุแห่งแรกของเอเชีย สมกับเป็นมหานคร ซึ่งดำเนินงานต่อเนื่องมากว่า 8 ปี

ขณะเดียวกันเมื่อปี พ.ศ.2562 กรุงเทพมหานครยังเป็นเมืองสุขภาพดีที่สุดของโดยได้ลำดับที่ 13 จาก 44 ประเทศโดยการจัดลำดับของ The Healthy Lifestyle Cities Report โดยชนะเมืองใหญ่ๆ อย่าง กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และกรุงโตรอนโต ประเทศแคนนาดา โดยการจัดลำดับนี้ ดูจากราคาของน้ำดื่ม อายุขัยเฉลี่ย ปัญหามลภาวะในเมือง เป็นต้น

จากนี้ไปกรุงเทพมหานครมีหลากหลายโครงการที่จะดำเนินการภายใต้แนวคิด “มหานครสำหรับทุกคน” โดยเน้นการให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ให้ได้รับความสะดวก สบาย มีความเป็นอยู่ที่ดี และการเข้าถึงบริการ การเข้าถึงข้อมูล ด้านต่าง ๆ รวมไปถึงการสื่อสารบนโลกออนไลน์ Bangkok Enjoy Aging อาวุโส โก้เก๋า Bangkok Enjoy Aging อาวุโส โก้เก๋า ได้รวบรวมบทความ ข่าวสารข้อมูลของผู้สูงอายุ เพื่อให้ลูกหลาน หรือตัวผู้สูงอายุเอง ได้ปรึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูลขของตนเอง