ครูฝึกทักษะ

ครูฝึกทักษะ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นิสัยส่วนตัว เป็นมิตร เข้ากับคนง่าย มีอารมณ์ขัน

แสดงเพิ่มเติม
พันธิภา พงษ์วิจารย์
พันธิภา พงษ์วิจารย์
Saijai อายุ 27 ปี

ร่าเริงเป็นกันเองค่ะ เข้ากับเด็กได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
อธิยา หมัดยู่โซะ
อธิยา หมัดยู่โซะ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
อาซีซี ยีด้ำ
อาซีซี ยีด้ำ
Saijai อายุ 26 ปี
ธนพล ตามประกอบ
ธนพล ตามประกอบ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

เรียนจบ ป.ตรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติ ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับข้อมูล Data

แสดงเพิ่มเติม
พงศธร เฉยวิชิต
พงศธร เฉยวิชิต
Saijai อายุ 33 ปี

ทำงานที่บริษัท future-tech(asia) ประสบการณ์การทำงาน6ปี ทำงานในตำแหน่งproduction engineer

นิสัยส่วนตัว รอบคอบ ใจเย็น เป็นมิตรกับสิ่งรอบตัวทุกอย่าง

แสดงเพิ่มเติม
นาดา ฮาลาบี
นาดา ฮาลาบี
Saijai อายุ 27 ปี
Awatif Adae
Awatif Adae
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

สวัสดีค่ะ อาวาติ๊ฟเคยทำงานที่ Language Center ที่ เมือง Kuala Lumpur อยู่ประมาณ2 ปี แล้วถ้ามีเวลากลับบ้าน ช่วงปิดเทอมก็จะสอนน้องๆแถวบ้านนะคะ เป็นสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีนเบื้องต้น. อาวาติ๊ฟเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย สามารถควบคุมน้องๆๆ ระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาได้ มีเทคนิคการสอนที่ให้น้องๆเข้าใจได้ง่าย

แสดงเพิ่มเติม
วณิชญา ไชยหาบุตร
วณิชญา ไชยหาบุตร
Saijai อายุ 25 ปี

เคยฝึกสอนที่โรงเรียนสาธิตเกษตร และเรียนคณะศึกษาศาสตร์ สาขาธุรกิจและคอมพิวเตอร์

แสดงเพิ่มเติม
เอมี่ อินทะวงค์
เอมี่ อินทะวงค์
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำงานและชอบพบปะทำความรู้จักกับคนใหม่ๆเสมอ

แสดงเพิ่มเติม
ยัสมี ดาแวปูตะ
ยัสมี ดาแวปูตะ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

รีวิวล่าสุด

ได้ครูสอนต่อยมวยใกล้บ้าน ไปเรียนสะดวก ชอบมาก
Saijai
วรพล อันประเสริฐ
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายมากเลยครับ ตั้งแต่ขั้นตอนติดต่อหาครูสอน กรอกข้อมูล เช็คราคาและเงื่อนไขต่าง ๆ ผมได้ครูสอนว่ายน้ำที่มีประสบการณ์ ใจเย็นมาก ๆ ด้วยครับ
Saijai
ชลธี พัฒนวงศ์สันต์
3 ปีที่แล้ว
ได้ครูสอนกีตาร์จากเว็บใส่ใจ สอนดีครับ ราคาไม่แพงด้วย คอนเฟิร์ม
Saijai
ชยน ช่วยชัยชนะ
3 ปีที่แล้ว
ผมเรียนทำอาหารกับเชฟที่จองผ่านใส่ใจ เชฟบอกสูตรละเอียดหมดเลย เราเลือกเรียนแบบออนไลน์นะ เพราะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ คิดว่าคุ้มอยู่กับราคาที่จ่าย เพราะสิ่งที่เราเรียนเราสามารถเอามาต่อยอดได้ คิดอยู่ว่าอยากจะเปิดร้านอาหารที่มีทั้งอาหารคาวและหวาน เราคิดว่าจะเอาสิ่งที่เรียนไปปรับใช้ในธุรกิจที่เราอยากทำครั้งนี้ได้
Saijai
อดิศักดิ์ ฤาพิทักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลงเรียนทำของหวานค่ะ ชอบมาก ๆ ครูสอนสอนดีคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เชฟบอกสูตรหมดเลยวิธีการทำ ขั้นตอน เคล็ดลับต่าง ๆ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้เปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ในย่านสุขุมวิท ได้นำสิ่งที่เรียนมา มาต่อยอดได้ดีเลยค่ะ
Saijai
นรีกุล วงศ์นารี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ครูฝึกทักษะ

ทักษะเสริมอะไรบ้างที่คุณควรมีเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน
ในสังคมของการทำงานถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งในยุคของวิกฤตไวรัสระบาดเช่นนี้ ทำให้หลาย ๆ องค์กรต้องแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนพนักงานให้เหลือน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานบางคนที่มีศักยภาพไม่เพียงพอ แต่ถ้าหากมีทักษะเสริมเหล่านี้ก็จะช่วยพลิกให้วิกฤตเป็นโอกาสได้ ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานกับองค์กรต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยต่อยอดในการเริ่มทำธุรกิจของตนเองได้ในอนาคตเช่นกัน

1. ทักษะทางด้านกีฬา ในปัจจุบันนี้มีกีฬาที่คนนิยมเล่นมากมาย เช่น ฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งการเล่นกีฬานอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว การพัฒนาทักษะทางด้านนี้สามารถช่วยให้เรามีความชำนาญมากยิ่งขึ้น และสามารถทำงานเกี่ยวกับผู้ฝึกสอนกีฬา โค้ช หรือเทรนเนอร์ได้เช่นกัน
2. ทักษะการทำอาหาร การเรียนทำอาหารถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนมักนิยมกันในสมัยนี้ หากคุณมีทักษะในด้านการทำอาหาร คุณสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานในอนาคต หรือประกอบกิจการทางด้านร้านอาหารได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองอีกด้วย
3. ทักษะการขับรถ แน่นอนว่าการขับรถนั้นเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการขับขี่อย่างปลอดภัยนั้นมีความสำคัญต่อทั้งตัวเราเอง และผู้อื่นที่อยู่บนท้องถนนเช่นกัน การฝึกขับรถอย่างถูกกฎวิธีจะช่วยทำให้เราตระหนักถึงวินัยจราจรและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น
4. ทักษะด้านดนตรี ซึ่งทักษะทางด้านนี้สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพทางด้านการศึกษา เช่น คุณครูสอนดนตรี เป็นต้น หรืออาชีพทั่วไปที่เกี่ยวกับด้านดนตรี เช่น นักดนตรีทั่วไป ผู้ประพันธ์เพลง บรรเลงดนตรีประกอบภาพยนตร์ ฯลฯ
ทักษะที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้มีอะไรบ้าง
ยุคสมัยนี้การแข่งขันในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการเรียน หรือการทำธุรกิจก็ตาม ดังนั้นความถนัดและทักษะในสิ่ง ๆ เดียวอาจไม่เพียงพอเสียแล้ว เราจึงจำเป็นต้องขวนขวายและเรียนรู้ทักษะเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างทักษะเสริมที่สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้นั้นมีดังต่อไปนี้

1. ทักษะด้านกีฬา สำหรับคนที่มีใจรักและชื่นชอบในการเล่นกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ หากคุณมีทักษะความสามารถในด้านนี้ ก็อาจช่วยให้คุณทำอาชีพเกี่ยวกับกีฬาได้เช่นกัน เช่น โค้ชหรือผู้ฝึกสอนกีฬา เทรนเนอร์ในฟิตเนส ครูสอนวิชาพละศึกษา วิทยากรที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย นักกายภาพบำบัด เป็นต้น
2. ทักษะด้านการทำอาหาร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะการมีทักษะในการทำอาหารที่ดีนั้นจะช่วยต่อยอดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของเราในอนาคตได้ โดยส่วนใหญ่คนที่เรียนการทำอาหารจากสถาบันชื่อดังต่าง ๆ ก็มีจุดประสงค์ที่จะเปิดธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง หรือบางคนที่ชื่นชอบในการทำอาหารจนมีฝีมือการทำอาหารที่ดีเยี่ยมก็สามารถประกอบอาชีพเชฟได้เช่นกัน
3. ทักษะด้านการขับรถ สำหรับบางคนที่ขับรถเป็น รู้กฎจราจรเป็นอย่างดี สามารถเปิดโรงเรียนสอนขับรถเองได้เลย และหากบางคนที่มีใจรักในงานบริการด้วยนั้นก็สามารถทำอาชีพพนักงานขับรถเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้เช่นกัน
4. ทักษะด้านดนตรี บางคนอาจมีใจรักในการร้องเพลงและการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก หากหมั่นฝึกฝนและพัฒนาทักษะไปเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เรากลายเป็นคุณครูสอนร้องเพลง หรือนักดนตรีมืออาชีพเลยก็ว่าได้
การเรียนในรูปแบบออนไลน์สามารถใช้กับการเรียนทักษะเสริมได้หรือไม่
เรียนออนไลน์หรือเรียนแบบตัวต่อตัว สนใจเรียนแบบไหน มีผู้ให้บริการทุกรูปแบบค่ะ

1. การเรียนแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ทำอาหาร ขับรถ หรือ ดนตรี ก็สามารถเลือกเรียนออนไลน์ได้ อาจจะมีการสอนออนไลน์แบบกลุ่ม หรือแบบเดี่ยวซึ่งราคาแตกต่างกันออกไป โดยในช่วงแรกที่ต้องเรียนเกี่ยวกับทฤษฎี กฎ กติกา มารยาทต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะ ต้องอาศัยการจดข้อมูลต่าง ๆ สามารถเรียนทางออนไลน์ได้โดยยังไม่ต้องเรียนแบบตัวต่อ อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน หรือให้ติวเตอร์เข้ามาสอนซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2. การเรียนแบบตัวต่อตัว เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนรู้ช้าหรือยังไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการเรียนทักษะเสริมมากนัก หรืออาจจะเน้นสอนในส่วนของภาคปฏิบัติ หลังจากเรียนทฤษฎีไปแล้ว เพื่อให้สัมฤทธิผลมากขึ้นจึงควรเรียนแบบตัวต่อตัว เพราะการเรียนแบบตัวต่อตัวแบบมีบริการสอนถึงบ้าน หรือใกล้บ้านตามสถานที่ที่สะดวก ผู้สอนจะอยู่อย่างใกล้ชิดและสามารถสังเกตจุดอ่อนหรือจุดแข็งของผู้เรียนและสามารถแก้ไขได้ถูกจุด อีกทั้งทักษะบางอย่างต้องลงมือปฏิบัติจริงจึงจะรู้ว่าที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ ตัวอย่างเช่น
- กีฬาฟุตบอล ให้ลองลงสนามจริง ซ้อมวิ่ง ซ้อมรับ-ส่งลูก ซ้อมกันเป็นทีม และลองฝึกยิงลูกโทษ
- การทำอาหาร ต้องลองฝึกทำจริงๆ เพื่อที่จะได้ทดสอบว่าอาหารที่ทำออกมามีรสชาติอย่างไร
- ขับรถ แน่นอนว่าการขับรถต้องลองขับบนท้องถนน เริ่มแรกอาจฝึกขับบนถนนจำลองก่อนเพื่อให้คุ้นชินกับการขับรถ หลังจากนั้นจึงขับออกไปบนถนนจริงโดยมีผู้สอนนั่งในรถไปด้วย
- ดนตรี การเล่นดนตรีก็ต้องมีการทดสอบเล่นเครื่องดนตรีนั้นๆ ว่าเล่นได้ถูกต้องหรือไม่

ดังนั้นลองไตร่ตรองดูว่าคุณเลือกที่จะเรียนแบบออนไลน์หรือแบบตัวต่อตัว และจะยอมลงทุนจ่ายกับการเรียนของตัวคุณเองอย่างไรดี เพราะการลงทุนในการศึกษาทักษะต่างๆนั้น คุณจะได้ผลตอบแทนแบบไม่มีวันสิ้นสุด เพราะความรู้จะอยู่กับคุณไปตลอด
คุณสามารถคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะได้อย่างไร
เพื่อให้การเรียนทักษะเสริมต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ใส่ใจจะมาแนะนำวิธีการคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะที่จะช่วยรับประกันคุณภาพในการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้ดังนี้

1. พิจารณาจากคุณสมบัติเบื้องต้น ประวัติและข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ของครูผู้สอน เช่น ข้อมูลการศึกษาหรือข้อมูลการทำงาน เป็นต้น
2. การสัมภาษณ์จะยิ่งช่วยให้เราสามารถพิจารณาเลือกครูฝึกสอนที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อได้พูดคุยเราจะสามารถสังเกตได้ว่าทัศนคติของครูฝึกนั้นเป็นอย่างไรจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ ดังนั้นลองสัมภาษณ์ครูฝึกโดยการพูดคุยและยกตัวอย่างต่าง ๆ มา เช่น ครูฝึกมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์แบบนี้ และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง เป็นต้น
3. พิจารณาเลือกครูฝึกที่มีประสบการณ์ ในการสอนทักษะเสริมนั้นจำเป็นต้องได้ผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เพราะความแม่นยำในการฝึกสอนจะยิ่งช่วยให้การเรียนทักษะเสริมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ครูฝึกสอนขับรถก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการฝึกสอนและขับรถมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งยังต้องมีความรู้ในเรื่องกฎต่าง ๆ บนท้องถนนอย่างแม่นยำอีกด้วย
4. มีความเข้าใจในเนื้อหาที่จะต้องสอนเป็นอย่างดี เพราะเมื่อใดที่ผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วก็จะสามารถนำความรู้ความเข้าใจเหล่านั้นไปถ่ายทอดต่อให้กับผู้เรียนได้อย่างถูกต้องนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น การทำอาหาร ที่จำเป็นต้องมีขั้นตอน สูตร และวิธีในการทำหารที่ละเอียดและถูกต้อง เป็นต้น

หากเราเลือกครูฝึกสอนทักษะโดยพิจารณาจากคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้แล้วก็จะทำให้การเรียนทักษะเสริมของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง