ดูแลผู้สูงอายุ ใน ทุ่งครุ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ทุ่งครุ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ทุ่งครุ ที่ฉันรู้จัก

เขตทุ่งครุ เป็นหนึ่งใน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร โดยมีคำขวัญประจำเขตที่น่าสนใจคือ “หลวงพ่อโอภาสีที่ศักดิ์สิทธิ์ สัตว์เศรษฐกิจแพะแกะไก่ปลา นกเขาชวาเสียงดี กล้วยไม้หลากสีหลายพันธุ์ มะม่วงนวลจันทร์เลิศรส ส้มบางมดเลื่องชื่อลือนาม” เราลองมาดูว่าสิ่งที่ขึ้นชื่อตามคำขวัญนี้ ในพื้นที่ 30 ตารางกิโลเมตร มีอะไรน่าสนใจบ้าง

หลวงพ่อโอภาสี หรือ พระมหาชวน (พ.ศ. 2441 - 31 ตุลาคม พ.ศ. 2498) หลวงพ่อโอภาสี สมัยสงครามอินโดจีน พระเกจิอาจารย์จะปลุกเสกวัตถุมงคลมากมายที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยสำหรับวัตถุมงคลในตอนนั้นของท่านคือ ผ้าประเจียด เชื่อกันว่าผ้าประเจียด ะคุ้มครองทหารไทยในการต่อสู้ในสงคราม และพระเครื่องนั้นผู้ที่บูชาจะต้องเป็นคนที่รักษาศีลธรรมด้วย วัตถุมงคลของท่านก็จะมีเพียงรุ่นเดียวคือ เหรียญครุฑแยกเสมา ประชาชนและลูกศิษย์ของท่านต่างเคราพหลวงพ่อท่านเป็นอย่างมาก

สัตว์เศรษฐกิจแพะ แกะ ไก่ ปลา ใครจะรู้บ้างว่าเขตทุ่งครุ ยังมีของดีที่ขึ้นชื่อไม่แพ้ส้มบางมดอีกสิ่งหนึ่งคือ “แพะ” ซึ่งนับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ชาวชุมชนทุ่งครุนิยมเลี้ยง เนื่องจากบริเวณนี้ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม ถ้าเด็กเกิดมาใหม่จะต้องรับขวัญเด็ก ด้วยการแจกทานเนื้อแพะ ชาวบ้านจึงนิยมเลี้ยงทั้งแพะนม และแพะเนื้อ กระทั่งนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนนี้อย่างมาก “แพะ” จึงเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเกษตรกรในเขตทุ่งครุ นอกจากนั้นยังมี ปลา แกะ และไก่อีกด้วย

นกเขาชวาเสียงดี สนามแข่งเสียงนกเขาชวา ทุ่งครุ เป็นสนามใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ชาวบ้านที่นิยมเลี้ยงยกเขาชวาจะนำนกเขามาแข่งกันที่สนามนี้ นอกจากการเลี้ยงนกยังมีกลุ่มชาวบ้านที่มีฝีอในการทำกรงนกเขาอีกด้วย

กล้วยไม้หลากสีหลายพันธุ์ ในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมาสวนกล้วยไม้ของไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มชาวเกษตรกร เนื่องจากในช่วงนั้นการส่งออกกล้วยไม้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงส่งผลให้เกษตรกรหลายคนเริ่มผันตัวมาทำสวนกล้วยไม้ในการส่งออก เป็นพวกไม้ประดับตามบ้าน ตระกูลม็อคคาล่า แอสโคเซ็นด้า สกุลหวาย และตระกูลออนซิเดียม เป็นหลัก แต่ตระกูลกล้วยไม้เหล่านี้มันจะแยกย่อยออกไป

มะม่วงนวลจันทร์เลิศรส ส้มบางมดเลื่องชื่อลือนาม เขตทุ่งครุ ถือเป็นพื้นที่เขตชานเมืองในกรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งการทำเกษตรกรรม สร้างผลผลิตที่เลื่องชื่อลือนามของเขตทุ่งครุที่ใครๆ ต่างก็ต้องรู้จัก ซึ่งคงหนีไม่พ้น ส้มบางมด นั้นเอง พื้นที่เขตทุ่งครุก็ยังคงมีพื้นที่เกษตรกรรม และปศุสัตว์อยู่ไม่น้อย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกมะพร้าวน้ำหอม ส้มบางมด มะม่วงนวลจันทร์ โดยผลไม้จากเขตทุ่งครุเป็นผลไม้ที่ได้รับน้ำกร่อย จึงทำให้มีรสชาติที่แปลกออกไป ซึ่งก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของผลผลิตทางการเกษตรอย่างหนึ่ง ของเขตทุ่งครุ



ส้มบางมดแท้ ที่ทุ่งครุ

“ส้มบางมด” คือ ส้มเขียวหวานที่มาจากแหล่งที่ขึ้นชื่อว่าปลูกส้มเขียวหวานกันมากและมีชื่อเสียงในประเทศไทย คือ แขวงบางมดในเขตทุ่งครุและเขตจอมทองของกรุงเทพมหานคร อยู่ในตระกูลส้มแมนดาริน (ส้มแมนดารินคือส้มที่ เปลือกร่อนปอกง่าย เช่นส้มเขียวหวาน ส้มสีทอง ส้มโชกุน ส้มญี่ปุ่น ส้มจีน )นิยมปลูกแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอดีต มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น ส้มกำนันจุล ส้มเพชรบูรณ์ ส้มสีทองจังหวัดน่าน ส้มศรีสัชนาลัย ส้มบางมด ส้มรังสิต ส้มกลุ่มนี้คือ ส้มเขียวหวานทั้งหมด แต่ปลูกในระดับอุณหภูมิที่ไม่เหมือนกัน ช่วงกลางคืนกับช่วงกลางวัน มีอุณหภูมิแตกต่างกันประมาณ 14 องศาเซลเซียส ผลส้มจะสร้างสีที่เข้มขึ้น” “ส้มบางมด” คือชื่อชนิดของส้มที่มีชื่อเสียงเหมือน ยี่ห้อที่ได้ยินมานาน เนื่องจากที่มาของแหล่งผลิตส้มที่มีชื่อเสียงมานาน แม้ยุคหลังจะเริ่มจางหาย หลงลืมกันไปบ้างแล้ว เพราะมีผลิตผลออกมาน้อย หรือ มีส้มชื่ออื่นมาแทนที่ในท้องตลาด แต่ในระยะเวลาหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าหากพูดถึง “ส้มเขียวหวาน” โดยเฉพาะแล้ว ต้องเป็นส้มบางมด ส้มบางมด ผลจะกลมแป้น ผิวมีสีเขียวอมเหลืองถึงเหลืองเข้ม ถ้าแก่จัดๆ จะมีสีออกส้มแดง ผลจะมีลายเหมือนสีหมากสุก เพราะชาวสวนจะปล่อยให้ไรแดงลง เปลือกจะบางนิ่ม ไม่แข็ง ขั้วจะสด เก็บเอาไว้ 5-6 วันก็ยังไม่เน่า ซังนิ่ม รสชาติจะหวานจัด หวานแหลมไม่เหมือนส้มที่อื่นๆ หวานจนมดขึ้นเหมือนอย่างชื่อบางมดเลย เพราะเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างนี้ ส้มบางมดจึงเป็น “ยี่ห้อ” “เป็นชื่อ” ที่ติดมีภาพจำเมื่อนึกถึงส้มเขียวหวาน ชื่อของส้มบางมดติดหูไม่แพ้ชื่อ “ส้มธนาธร” จากเชียงใหม่เลยทีเดียว

เมื่อก่อนพื้นที่ตรงเขตทุ่งครุนี้เป็นนา และพัฒนายกร่องมาปลูกส้ม ซึ่งที่บางมดนี้ปลูกส้มได้ดีก็ปลูกกันมาเรื่อยๆ เมื่ออดีตคลองบางมดแห่งนี้ดังมาก จะมีการวิ่งผลผลิตส้มจากสวน ขนกันเป็นลำเรือ ลำหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1,500 กิโลกรัม โดยจะนำไปขึ้นขายที่ปากคลองตลาด ไปขึ้นที่วัดกลาง และต่อมาก็มาขึ้นที่วัดพุทธบูชา เมื่อก่อนนั้นส้มจะขายที่กิโลละ 2 บาท แต่เดี่ยวนี้ส้มบางมดมีราคาดี ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท ที่ราคาแพงขึ้น เพราะว่ามันหาซื้อยาก ปรากฏข้อมูลในฐานข้อมูลจากท้องถิ่น “อำเภอบางมด” ว่า ชาวบางมดนำพันธุ์กิ่งตอนมาจากที่อื่น แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ปีพ.ศ. 2485 ส้มเขียวหวานตายจำนวนมากจึงไปสั่งกิ่งพันธุ์จากจันทบุรี คำถามก็มีต่อมาว่า “ทำไมต้องไปสั่งจากจันทบุรี” ครั้งรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มี พ่อค้าซื้อ พันธุ์กิ่งตอนส้มเขียวหวานจากบางกอก (กรุงเทพมหานคร) แล้วเอาไปปลูกที่จันทบุรี หลังจากนั้นก็พบว่าผิวส้มออกมาเป็นสีเหลือง เป็นเหตุให้ตั้งชื่อว่า “ส้มแสงจันทร์” เชื่อกันว่า เป็นแหล่งที่นำกิ่งพันธุ์ส้มกลับมาปลูกอีกครั้งหลังจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อพ.ศ. 2485 อีกครั้งที่น้ำท่วมคือเมื่อปี พ.ศ.2526 ครั้งนี้น้ำท่วมนานทำให้ต้นส้มตายลงไป ชาวสวนบางคนขายสวนไม่ทำต่อ บางคนยังกลับมาปลูกส้ม พ.ศ.2529 และยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน ประมาณ 7 สวน



4 วิธีเพื่อให้แข็งแรงเมื่ออายุมากขึ้น

รู้หรือไม่ว่าผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปอาจสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ต่อสิบปี และอัตราการสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังจากอายุ 70 ปี การรักษามวลกล้ามเนื้อตามอายุเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตที่มีความสุขและมีสุขภาพดี

ขั้นตอนที่ถูกต้องที่สามารถช่วยป้องกันหรือชะลอการสูญเสียกล้ามเนื้อได้ และรักษากล้ามเนื้อให้แข็งแรงเมื่ออายุมากขึ้น

1. ออกกำลังการเป็นประจำรวมถึงการฝึกด้วยแรงต้านเพื่อรักษากล้ามเนื้อและความแข็งแรง การออกกำลังกายในผู้สูงอายุควรเป็นการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ๆ เช่นการวิ่งเหยาะ ๆ ในกรณีที่ไม่มีอาการข้อเข่าเสื่อม การเดิน การเต้นแอโรบิก การรำมวยจีน การรำไม้พลอง เป็นต้น

2. โปรตีนเป็นสิ่งจำเป็น ผู้สูงอายุควรกินแหล่งโปรตีนที่ดีจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่ว ตั้งเป้าให้ได้รับโปรตีน 25-30 กรัมทุกมื้อ

3. ปรับสมดุลอาหาร รับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งเต็มไปด้วยผักผลไม้ธัญพืชโปรตีนและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงอายุที่มักจะมีปัญหาระบบขับถ่าย การได้รับอาหารที่มีกากและเส้นใยอาหาร จะช่วยลดอาการท้องผูก ซึ่งใยอาหารบางชนิดยังสามารถดูดซับของเสียแล้วถ่ายออกมาได้อีกด้วย เช่น ดูดซับไขมันหรือน้ำตาลส่วนเกิน ไม่ให้ดูดซึมเข้าร่างกาย ผู้สูงอายุจึงควรศึกษาเพื่อการได้รับใยอาหารในปริมาณที่เหมาะสม

4. ปรึกษาแพทย์ พูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของเกี่ยวกับโภชนาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สูงอายุป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือพักฟื้นจากการผ่าตัดเพื่อจัดการการสูญเสียกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย