ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วลดา ดาวเรือง
วลดา ดาวเรือง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะหนูจบผู้ช่วยพยาบาลหนูมั่นใจว่ามีจิตใจอ่อนโยนและใจเย็นมากๆค่ะเคยดูแลผู้ป่วยติดเตียงในโรงพยาบาลได้ดีมากๆค่ะและยังสามารถทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าวขับรถหรือไปทำธุระให้ได้ค่ะ คุยกันได้ก่อนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
3 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

สถานีต่อไปบางซื่อ

ในความหมายของประโยคนี้ไม่ได้เป็นเพียงการบอกชื่อสถานีที่รถไฟจะจอด แต่หากเป็นสถานีที่เป็นความหวังก้าวต่อไปของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในอนาคตอันใกล้นี้ทางหน่วยงานรัฐบาลยังมีแผนพัฒนาให้บางซื่อกลายเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมสำคัญของประเทศ กับโครงการ การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเดินทางของประเทศ เชื่อมต่อกรุงเทพมหานคร กับพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย ด้วยระบบรางสู่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก (EEC) และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เช่น ลาว จีน และมาเลเซีย ทำให้ในอนาคตบางซื่อจะกลายเป็นมหานคร พลิกโฉมพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็น Smart City

วันนี้หากเรามองออกไปทั่วๆ กรุงเทพฯ แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นกับเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนในเมืองหลวง กำลังขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสเหนือพื้นดินและรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ด้านล่าง ทำให้การเดินทางทั่วเมืองง่ายขึ้นด้วยเครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ ไม่มีที่ไหนที่จะชัดเจนไปกว่าบางซื่อ ที่ซึ่งมีการก่อสร้างจำนวนมากกำลังสร้างสถานีรถไฟหลักของกรุงเทพฯ นั่นคือสถานีรถไฟกลางบางซื่อ มาแทนที่หัวลำโพง ทุกคนทุกเครื่องจักรกำลังเร่งมือ เพื่อไปถึงจุดหมาย บางซื่อถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการศึกษา เศรษฐกิจ และการคมนาคมขนส่ง สถานที่ราชการหลายแห่งอยู่ใกล้อาคารรัฐสภาหลังใหม่ เนื่องจากพื้นที่ในตัวเมืองจำนวนมากถูกจำกัดด้วยพื้นที่ที่ดิน การเคลื่อนย้ายสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นนี้ไปยังเขตชานเมืองจึงเป็นบรรทัดฐาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบางซื่อจะคงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาในพื้นที่ และด้วยองค์ประกอบของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผุดขึ้นมากมาย เช่น เกตเวย์ แอท บางซื่อ พื้นที่ค้าปลีกแห่งนี้จะช่วยยกระดับชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อเติมเต็มความต้องการในการช้อปปิ้งของคุณ จึงไม่น่าแปลกใจที่กรุงเทพฯ กำลังเป็นเป้าสายตาของนักลงทุน เนื่องจากการปรับปรุงเน้นไปที่โครงข่ายระบบขนส่งมวลชนซึ่งเป็นอนาคตของโหมดการคมนาคมในเมืองหลวงมากกว่ารถยนต์ คาดว่าบางซื่อจะคงไว้ซึ่งความสงบและบุคลิกที่ผ่อนคลาย ผู้ที่เลือกอาศัยอยู่ที่นี่ยังสามารถลิ้มลองอาหารริมทางในท้องถิ่นในบรรยากาศที่เงียบกว่า แต่ยังได้สัมผัสกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้งแห่งใหม่อีกด้วย



ข้อมูลทั่วไป

เขตบางซื่อ ในอดีตพื้นที่ของภาคประชาชนส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ ที่ได้มีการจับจองพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยมายาวนาน ทิศตะวันออกจรดเขตจตุจักร ทิศใต้เขตพญาไท ทิศใต้ เขตดุสิต เขตบางพลัด เขตบางกรวย ข้ามเจ้าพระยาไปทางทิศตะวันตก และเมืองนนทบุรีทางทิศเหนือ เขตบางซื่อเป็นหนึ่งในแปดเขตของกรุงเทพฯ (เขต) ที่จัดตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการปฏิรูปการปกครองในปี พ.ศ. 2481 บางซื่อถูกลดหย่อนจากอำเภอเป็นตำบล จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอดุสิต ในปี พ.ศ. 2515 ส่วนหนึ่งของการสร้างเขตปกครองพิเศษของกรุงเทพฯ โดยที่ตำบลในกรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแขวง และอำเภอในกรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเขต บางซื่อกลายเป็นแขวงบางซื่อภายใต้เขตดุสิต บางซื่อกลายเป็นเขตในปี พ.ศ.2523

"บางซื่อ" หมายถึง 'ชุมชนผู้ศรัทธา' ปรากฏในบทกวีของสุนทรภู่ "การเดินทางสู่พระบาท" ที่เขียนเมื่อ พ.ศ. 2350 เชื่อกันว่าชื่อมาจากนิทานพื้นบ้านเรื่อง "พระเจ้าอู่ทอง" เมื่อมีคนถามถึงขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ของพระเจ้าอู่ทอง (ไม่ใช่พระเจ้าอู่ทองแห่งอยุธยา) ชาวบ้านตอบด้วยความจริงใจ (ซื่อๆ) จึงเป็นที่มาของชื่อบางซื่อ เขตบางซื่อมี สะพานพระราม 6 เป็นสะพานแรกที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดทำการเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2466 และได้รับการตั้งชื่อตามพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) สะพานรางรถไฟยาว 442 เมตร (1,450 ฟุต) และกว้าง 10 เมตร (33) เดิมมีทางรถไฟรางเดียวไปทางทิศตะวันตกและทางใต้ของประเทศไทยและเป็นถนนเลนเดียว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สะพานได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร เนื่องจากถูกใช้โดยชาวญี่ปุ่นที่ยึดครอง สะพานที่สร้างขึ้นใหม่ได้เปิดขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2496

นอกจากนั้นยังมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเป็นมหาวิทยาลัยที่สำคัญในเขตบางซื่อ จากเดิมที่ดินการเกษตรที่เป็นมรดกพร้อมกับส่งต่อที่ดินเหล่านี้ให้รุ่นลูกหลาน ซึ่งในยุคถัดมาที่ความเป็นสวนลดน้อยลง บริเวณติดริมถนนสายหลัก กลายเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อทำการค้า ส่วนพื้นที่ในตรอกซอกซอยปรับเปลี่ยนเป็นอาคารบ้านเรือนในแบบสร้างเองเข้ามาแทน ความเป็นชุมชนก็หนาแน่นขึ้นบนพื้นที่น้อยกว่า 12 ตารางกิโลเมตร เขตบางซื่อมาประชากรอาศัยอยู่โดยประมาณ 126,000 คน



ประเภทกิจกรรมสนุก ๆ ที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ

1. การแข่งขันเกมและกีฬา

การออกกำลังกายหรือการเล่นเกมในลักษณะของการแข่งขัน จะช่วยลดความเบื่อหน่ายและกระตุ้นให้ผู้เล่นตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา รู้สึกอยากเล่นหรืออยากทำกิจกรรมมากกว่าการที่ต้องทำอะไรอยู่คนเดียว โดยเฉพาะหากผู้สูงอายุคุณสามารถเอาชนะอุปสรรคหรือแข่งขันกับผู้อื่นด้วยวิธีที่เป็นมิตร อย่างเช่น กอล์ฟ มินิกอล์ฟ ว่ายน้ำเทนนิส แบดมินตัน หรือ โบว์ลิ่งในร่ม เป็นต้น

2. การเต้นรำ คาราโอเกะ และศิลปะการแสดงอื่นๆ

การเต้นรำ ถือเป็นการออกกำลังกายที่สามารถสร้างความแข็งแรง และสร้างสมาธิให้กับผู้สูงอายุได้ดีอีกวิธีหนึ่ง เพราะการเต้นรำต้องอาศัยการขยับร่างกายให้ประสานสอดคล้องไปกับท่วงทำนองและเสียงดนตรี ส่วนการได้ร้องเพลงคาราโอเกะกับคนวัยเดียวกัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสนุกและมีอารมณ์ขัน ไม่ต้องพยายามทำทุกอย่างจนจริงจังหรือตึงเครียดจนเกินไปจนหมดสนุก การทำกิจกรรมต่างๆ ในวัยสูงอายุมีจุดประสงค์หลักคือ การได้เข้าสังคม ส่งเสริมสุขภาพ และคลายความเหงา

3. การเข้าสังคมและการชุมนุมทางสังคมอื่น ๆ

การเข้าสังคมอาจเป็นการเติมพลังให้กับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผู้สูงอายุได้หวนคิดถึงอดีตหรือพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาสนใจ การสนทนาที่ดีอาจช่วยทำให้อารมณ์ดี ร่าเริง ดังนั้นควรส่งเสริมให้ผู้อายุ ได้พบปะกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรือให้เข้าร่วมในชมรมหรือคลับในชุมชน

4. เกมและปริศนาแบบดั้งเดิม เกมกระดานและเกมไพ่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเข้าสังคมและได้รับประโยชน์จากความท้าทายที่สนุกสนานของการแข่งขันที่เป็นมิตร และปริศนาสามารถช่วยขัดเกลาจิตใจของคุณและให้ความรู้สึกถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จ พิจารณาตัวเลือกเช่น: อูโนะ บิงโก หมากฮอส หมากฮอสจีน โดมิโน ปริศนาอักษรไขว้ จิ๊กซอว์ ปริศนาค้นหาคำ

5. ปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ เช่นเดียวกับคน สัตว์ต้องการและต้องการความสนุกสนาน ดังนั้นการเล่นกับพวกเขาจึงสามารถเป็นประโยชน์ร่วมกันได้ นอกจากนี้ การหาสัตว์เพื่อโต้ตอบด้วยมักเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าคุณจะไม่มีสัตว์เลี้ยงก็ตาม ตัวอย่างเช่น สถานสงเคราะห์สัตว์หลายแห่งยินดีต้อนรับผู้สูงอายุที่ต้องการให้ความสนใจที่มีคุณภาพแก่สุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ