ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางนา, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางนา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เอมิกา  ปริยพนาดร
เอมิกา ปริยพนาดร
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

นิสัยส่วนตัวมีความเป็นกันเองสามารถช่วยเหลือคนอื่นไดในยามที่คนอื่นต้องการความช่วยเหลือจากเรา

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
5 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
5 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
5 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
5 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

วัดศรีเอี่ยม

วัดศรีเอี่ยม เป็นวัดดั้งเดิมที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบางนา มีชื่อเดิมว่า วัดศรีเอี่ยมวัฒนาราม สมัยก่อนที่นี่เคยเป็นสำนักสงฆ์ แต่ในปี พ.ศ. 2508 คุณขาบ อ่องเอี่ยมและบุตร ได้มีจิตศรัทธาทำการถวายที่ดินให้พระครูศรีวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดบางนาในสมัยนั้นเพื่อสร้างเป็นวัด โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2517

ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 อาจารย์สุขุมและภรรยาได้ถวายที่ดินเพื่อขยายวัด แด่พระอธิการประเสริฐ สุตธมโม เพิ่มอีก 6 ไร่เศษโดยยังใช้ชื่อวัดว่า วัดศรีเอี่ยมวัฒนาราม

กล่าวกันว่าชื่อของวัด คำว่า ศรี น่าจะมาจาก พระครุศรีวรพินิจ และคำว่า เอี่ยม มาจากนามสกุลของ คุณแม่ขาบ แล้วมีการเติมคำว่าวัฒนาต่อท้าย ซึ่งน่าจะหมายถึง พระครูศรีวรพินิจและตระกูลอ่องเอี่ยม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและร่วมพัฒนาวัดนี้ขึ้นมานั่นเอง ต่อมาชาวบ้านติดเรียกชื่อวัด

นี้สั้นๆ จึงเหลือแค่ วัดศรีเอี่ยม จนถึงปัจจุบัน

จุดเด่นของ วัดศรีเอี่ยม คือ พระอุโบสถที่สร้างขึ้นเป็นสีขาว มี 2 ชั้น และมีซุ้มประตูและหน้าต่าง รวมทั้งหลังคาเป็นสีทอง มีความวิจิตรตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศรีมงคลนวภูมิ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระพุทธรูปและพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาทิเช่น หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ หลวงพ่อโอภาสี และ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็นต้น จึงทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่เขตบางนาเองหรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

การเดินทางมายัง วัดศรีเอี่ยม หากอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนบางนา-ตราดฝั่งขาออก เลี้ยวตรงทางเชื่อมถนนศรีนครินทร์ บริเวณ กม.4 จะพบวัดศรีเอี่ยม ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ แนะนำว่าหากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถแท็กซี่ จะสะดวกที่สุด

ที่อยู่ : 111 หมู่ 11 ถ.บางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ



วัดบางนานอก

วัดบางนานอก กล่าวกันว่าน่าจะก่อสร้างขึ้นราวๆ ปี พ.ศ. 2400 แต่ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้างที่ชัดเจน โดยชื่อเดิมของวัดที่ชาวบ้านเรียกกันคือ วัดปากคลองบางนา หลังจากนั้นจึงมีการเปลี่ยนชื่อไปตามสถานที่ตั้งของวัดซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอยู่ด้านนอกของเขตบางนาในสมัยนั้น จึงเรียกกันว่า วัดบางนานอก จนถึงปัจจุบัน

จุดเด่นของ วัดบางนานอก ที่เป็นที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มาเที่ยวชมและสักการะวัดแห่งนี้คือ ปูชนียวัตถุและโบราณวัตถุ อันได้แก่ พระประธานอุโบสถหลังเก่า อายุมากกว่า 100 ปี ขนาดหน้าตักกว้าง 1.5 เมตร และสูง 1.13 เมตร และยังมี พระพุทธรูปยืนทรงเครื่อง ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่มีขนาดเท่าคนจริง รวมทั้ง หงส์สัมฤทธิ์และ ธรรมาสน์-บุษบก ฯลฯ

ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโบสถ์ในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ของวัดแห่งนี้ จนทำให้หลังคาของโบสถ์ถล่มลงมา เนื่องจากโบสถ์หลังดังกล่าวมีอายุเก่าแก่มาก จึงมีบางส่วนที่ขาดการซ่อมแซมทำนุบำรุงและเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ขึ้นในครั้งนี้

การเดินทางไปยัง วัดบางนานอก ภายในกรุงเทพฯ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานีบางนา ฝั่งตรงข้ามศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เดินออกจากสถานีจะเจอกับวัดบางนาในก่อน แล้วต่อแท๊กซี่ รถสองแถว หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไปที่ วัดบางนานอก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 - 10 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันนั้นๆ ด้วย

ที่อยู่ ริมถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ



ดูแลทั้งกายใจ ให้ผู้สูงอายุแข็งแรง

ผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มคนที่นอกจากจะมีปัญหาทางสุขภาพกายแล้ว ยังมีปัญหาทางด้านจิตใจอีกด้วย เนื่องจากร่างกายที่ไม่แข็งแรงและเสื่อมสภาพ ส่งผลกระทบต่อจิตใจจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ ผู้สูงอายุ มีอายุที่ยืนยาว มาดูสิ่งที่ต้องรู้เมื่อดูแลผู้สูงอายุกันดีกว่า

1 หมั่นสังเกตอาการผิดปกติทางร่างกายของผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นผู้ที่ร่างกายอ่อนแอและป่วยได้ง่าย อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม ดังนั้นควรหมั่นเช็คความผิดปกติในร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดโรค เช่น บาดแผลที่หายยากและเรื้อรัง ท้องอืดหรือท้องเสียเรื้อรัง เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ ฯลฯ หากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยโรค

2 ไม่ควรให้ผู้สูงอายุซื้อยากินเอง เนื่องจากผู้สูงอายุบางท่านอาจมีความรู้ความเข้าใจที่ผิด ทำให้รับประทานยาเกินขนาดหรือรับประทานยาเก่าที่หมดอายุแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

3 ชักชวนให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมที่เหมาะสม ทำให้ผ่อนคลายและลดความเครียดไปในตัว เช่น การออกไปพบปะเพื่อนฝูงวัยเดียวกัน หรือไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกับกลุ่มผู้สูงอายุวัยเดียวกัน การที่ผู้สูงอายุมีกิจกรรมหรืองานอดิเรกจะช่วยชะลอความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งยังลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าอีกด้วย

4 เลือกอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุมีการเผาผลาญที่ลดลง ดังนั้น จึงควรเลือกอาหารที่มีพลังงานน้อยและย่อยง่าย ควรลดการบริโภคอาหารในกลุ่มของแป้ง น้ำตาล และไขมันลง รวมถึงอาหารประเภทผัดและทอดที่ใช้น้ำมัน เน้นอาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อปลามากขึ้น และเปลี่ยนมาใช้วิธีปรุงโดย การต้ม นึ่ง ย่าง หรือ อบ แทน