ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

กว่าจะเป็น "บางเขน" ในวันนี้

บางเขนในอดีตมีอาณาเขตกว้างมาก เป็นย่านการค้าและอุตสาหกรรม แต่เดิมมีฐานะเป็นอำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร และมีอาณาเขตส่วนหนึ่งติดกับจังหวัดนนทบุรี มีคลองประปาเป็นแนวแบ่งเขตระหว่าง 2 จังหวัด ภายหลังจากการรวมกันของจังหวัดพระนคร และจังหวัดธนบุรี เป็นจังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี จนกลายมาเป็นกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน ส่งผลให้มีการแบ่งหน่วยการปกครองพร้อมกับเปลี่ยนฐานะการเรียกใหม่เป็นเขต แทนอำเภอ และแขวง แทนตำบล อำเภอบางเขน จึงยกฐานะมาเป็น เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร แบ่งการปกครองย่อยเป็น 8 แขวง เนื่องจากความเจริญทางเศรษฐกิจของพื้นที่บวกกับความหนาแน่นของประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้พื้นที่เขตบางเขน ต้องแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไปตั้งเป็นเขตดอนเมือง และเขตจตุจักร ส่วนทิศเหนือจัดตั้งเป็นเขตสายไหม ขณะเดียวกันก็ได้พื้นที่บางส่วนของเขตลาดพร้าวมาปกครองด้วย ต่อมาปี พ.ศ. 2540 มีคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทย ให้เปลี่ยนพื้นที่การปกครองของกรุงเทพ ส่งผลให้บางเขนต้องลดพื้นที่การปกครองลง รวมทั้งมีการปรับพื้นที่การปกครองของแต่ละเขตและแขวงของกรุงเทพใหม่ ส่งผลให้พื้นที่การปกครองของบางเขนแบ่งออกเป็น 2 แขวง ได้แก่ แขวงอนุสาวรีย์ และ แขวงท่าแร้ง โดยมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 42.123 ตารางกิโลเมตร บางเขนในปัจจุบันกลายเป็นเขตที่อยู่อาศัยที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพมหานครทางตอนเหนือ ทำให้มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของกรุงเทพมหานคร พูดถึงย่านชุมชนใหม่ของกรุงเทพตอนเหนืออย่าง บางเขน-หลักสี่ ที่มีจุดเด่นด้านการคมนาคม เนื่องจากบริเวณนี้เป็น Interchange ของถนนสายสำคัญหลายสาย เช่น ถนนรามอินทรา ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธินเป็นต้น ซึ่งทำให้การเดินทางในย่านนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆของกรุงเทพได้ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่อาศัยในเขตนี้ได้อย่างครบครันมีทั้งสถาบันการศึกษา สถานพยาบาล และเต็มไปด้วยแหล่งงานทั้งภาครัฐและเอกชน



3 วิธีช่วยชะลออาการชรา

ไม่แก่ได้ไหม? เชื่อว่าหลายคนคงจะอยากคงความหนุ่มความสาวเอาไว้กันทั้งนั้น แต่เราหลีกหนี การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ได้ พบว่าสิ่งที่ทำให้คนเราแก่เร็วคือ ความเจ็บป่วย โดยเฉพาะกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งเป็นต้น สาเหตุของการเกิดโรคเหล่านี้ล้วนมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งอาหารการกิน การพักผ่อน

มาดู 3 เคล็ดลับชะลอความแก่ และเพิ่มอายุให้ยืนยาวมีดังนี้

1. เริ่มจากอาหารการกินเป็นอันดับแรก ลดการบริโภคอาหารที่ทำจากแป้งและอาหารที่ปรุงด้วยน้ำตาลปริมาณมาก น้ำตาลกลายเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ทุกเมนูอาหาร ทั้งคาวและหวาน ในหนึ่งวันร่างกายของคนเราต้องการน้ำตาลในปริมาณแค่เพียงครึ่งช้อนชาต่อวัน หากบริโภคเกินความจำเป็น จะทำให้น้ำตาลสะสมในร่างกาย และเกิดโรคต่างๆ ตามมา ควรงดการบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์เพราะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกายได้ ให้เลือกบริโภคแต่ของมีประโยชน์เช่น ผักผลไม้ เนื่องจากมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการมากมาย

2.ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายเป็นยาที่ทำให้อายุยืนยาว เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ คงสมดุลของน้ำหนัก และยังลดความเครียดอันเป็นที่มาของความแก่เร็วได้อีกด้วย การออกกำลังกายที่ช่วยทำให้อ่อนเยาว์ เช่น การวิ่งเหยาะๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน การเล่นโยคะ จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย เผาผลาญแคลอรีระบบหัวใจทำงานดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายอ่อนกว่าวัยด้วย

3.พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง และเข้านอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม เพราะการนอนหลับสนิทต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมง เป็นเวลาที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันการชราได้ โดยเฉพาะโกรทฮอร์โมน ที่ช่วยต่อต้านความชรา เพิ่มความเยาว์วัย ก่อนเข้านอนควรปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ป้องกันคลื่นต่างๆที่มารบกวนคลื่นสมอง และปิดไฟก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับสบาย



3 ที่เที่ยวในบางเขน สำหรับพาผู้สูงอายุไปพักผ่อน

การได้เที่ยวกับครอบครัว ถือเป็นโอกาสที่แสนมีความสุข และประทับใจของผู้สูงอายุหลายๆ ท่าน ในช่วงวันหยุด ถือเป็นโอกาสดีในการพาท่านไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี อีกทั้งยังเป็นการผ่อนคลายและเป็นการใช้เวลาร่วมกันที่น่าจดจำ เรามี 3 สถานที่ในเขตบางเขนสำหรับพาผู้สูงอายุพักผ่อนหย่อนใจ แม้แต่ ผู้สูงอายุที่นั่งวีลแชร์ก็เที่ยวได้ รับรองว่าท่านจะต้องประทับใจ

1. เสถียรธรรมสถาน ตั้งอยู่ที่ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ สถานที่ปฏิบัติธรรมและแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ที่มี สวนธรรม ทั้งสวยและร่มเย็น สงบ ผู้คนส่วนใหญ่จะมาปลดปล่อยทิ้งความทุกข์ไว้ที่นี่ กลับบ้านไปจะมีแต่ความสุข มาที่นี่จะได้ทั้งธรรมะและธรรมชาติ เชื่อว่าผู้สูงอายุหลายท่านต้องชอบสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

2. สวนกีฬารามอินทรา สวนภูเขากลางกรุง สถานที่ออกกำลังกาย และพักผ่อนอันร่มรื่น ที่มีเนื้อที่กว่า 60 ไร่ แรกเริ่มที่แห่งนี้เป็นโครงการปลูกสวนป่า กทม ปลูกต้นไม้ยืนต้น แต่ด้วยพื้นที่ ที่กว้างขวางคล้ายภูเขาลูกเล็กๆ จึงพัฒนาต่อให้กลายเป็นสวนสาธารณะ สำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกาย จนกลายมาเป็นสวนกีฬาในปัจจุบัน กิจกรรมที่ผู้สูงอายุสามารถทำได้คือ ออกกำลังกาย พักผ่อน และสูดอากาศบริสุทธิ์ในเมืองกรุง ใช้เวลาวันหยุดร่วมกันกับครอบครัว

3. วัดศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดเริ่มแรกสมัยประชาธิปไตย เป็นอารามหลวงชั้นเอก ภายในวัดมีพระเจดีย์มหาธาตุซึ่งเป็นปูชนียสถานสำคัญที่คนนิยมมาเคารพบูชา บรรยากาศโดยรวมของที่นี่สงบ ร่มรื่น ถือเป็นสถานที่ ที่ได้ทั้งไปทำบุญ และการพักผ่อน เชื่อว่าผู้สูงอายุหลายๆท่านคงชอบการทำบุญไหว้พระ ขอพรเสริมสิริมงคลให้ชีวิต การเข้าวัดจึงถือเป็นกิจกรรมที่ผู้สูงอายุหลายๆ ท่านต้องการ