ดูแลเด็ก ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 57 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม

ผ่านหลักสูตร คุรุศาสตร๋มหาบัณฑิตด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
เอกนารี ดาบาง
เอกนารี ดาบาง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 29 ปี

เป็นคนรักเด็กมีความใส่ใจในการเจริญเติบโตเเละพัฒนาของเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ชุมชนดินแดง

เมื่อชีวิตดำเนินมาถึงวัยหนึ่ง ส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิต คือการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ทั้งเพื่อความเป็นส่วนตัว เพื่อสร้างครอบครัวและเพื่อสร้างฐานะ และบ้านยังเป็นที่ที่สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย การจะมีบ้านสักหลัง หรือคอนโดสักห้องมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเป็นตัวแปรในการเลือกที่อยู่อาศัย หนึ่งในปัจจัยหลัก คืองบประมาณหรือรายได้ของผู้ซื้อ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าเราจะมีบ้านแบบใด บ้านตั้งอยู่ในชุมชนแบบใด หลายคนยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อความสบายใจ ว่าบ้านที่ตนเลือกนั้นตั้งอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ในที่นี้หมายถึงอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย และมีเพื่อนบ้านที่น่ารัก แต่อีกหลายคนอาจไม่สารถเลือกได้โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งทำงานและมีรายได้ไม่มากนัก อาจต้องจำยอมอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือชุมชนที่ไม่สะดวกและไม่ปลอดภัยนัก

หากพูดถึงชุมชนที่เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่เข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ยุค 60 ปีก่อน มีชุมชนหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงเทพมหานครที่ชื่อว่า “ชุมชนดินแดง” พื้นที่บริเวณนี้แต่เดิมเคยเป็นบริเวณที่ทิ้งขยะของกรุงเทพมหานคร แต่มีผู้ซึ่งหาโอกาสของชีวิต เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นชุมชนแออัด และเมื่อกรุงเทพมหานครต้องการใช้พื้นที่จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีรายได้น้อยราวปี พ.ศ. 2503 รัฐบาลจึงมีโครงการสร้างแฟลต ให้เช่า 5,000 หน่วย ในชื่อ “โครงการอาคารสงเคราะห์ดินแดง” รูปแบบการก่อสร้างอาคาร สร้างเป็นอาคารแฟลตสูง 5 ชั้น อยู่อาศัย 4 ชั้น และชั้นล่างสุดเป็นใต้ถุนโล่ง มีบันไดสองข้างอาคาร มีทางเดินร่วม โดยมีหน่วยพักอาศัยอยู่ด้านเดียว (Single Loaded Corridor) ซึ่งแต่ละห้องมีพื้นที่ใช้สอย 38-39 ตารางเมตร มีส่วนอเนกประสงค์ ครัว ห้องน้ำ ระเบียง มีช่องสำหรับเปิดทิ้งขยะลงปล่อง 1 ปล่อง ต่อ 2 หน่วยห้องพัก สามารถรองรับผู้มีรายได้ครัวเรือน ไม่เกิน 1,500 บาท/เดือน จ่ายค่าเช่าเพียง 100-125 บาท/เดือน เพื่อรองรับการอพยพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดเดิมบนพื้นที่ทิ้งขยะของกรุงเทพมหานคร และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการที่พักอาศัยในช่วงเวลานั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2516 การเคหะแห่งชาติได้เข้ามาดูแลและรับโอนแฟลตดินแดงจากกรมประชาสงเคราะห์ และได้สร้างที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นรวมเป็น 94 อาคาร โดยมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 36,000 คน วันเวลาผ่านไปจวบจนปัจจุบันแฟลตดินแดงรุ่นแรก นับเป็นอาคารที่มีอายุการใช้งานอย่างยาวนานถึง 50 ปี เปรียบเทียบเป็นมนุษย์ก็คงอยู่ในช่วงอายุที่รอวันร่วงโรย 50 ปีผ่านมาสภาพอาคารและโครงสร้างทรุดโทรม เป็นอันตรายต่อผู้พักอาศัย

ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของคนที่อยู่อาศัยในแฟลตดินแดง ทางการเคหะแห่งชาติจึงได้ว่าจ้าง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) เข้าศึกษาตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของอาคารในเคหะชุมชนดินแดงทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2546 และปี พ.ศ. 2550 โดยจากการตรวจสอบพบว่า ร้อยละ 60 ของอาคารทั้งหมด มีสภาพเก่าทรุดโทรม และชำรุดเสียหายอย่างรุนแรง โครงการปรับปรุงฟื้นฟูชุมชนดินแดงดำเนินงานผ่านมาถึง 5 รัฐบาล รวมระยะเวลามากกว่า 16 ปีไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งในการสร้างความเข้าใจแก่ผู้อาศัย คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ลงมติว่าเห็นชอบในหลักการแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง พ.ศ. 2559 – 2567 ซึ่งอนาคตชุมชนชาวดินแดงก็จะได้ที่อยู่ใหม่ที่มั่นคงในเร็ววันนี้



วิธีจัดการกับพฤติกรรมก้าวร้าวของลูก

พ่อแม่ควรให้ความสำคัญและให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ได้เหมาะสมตามวัย เมื่อเด็กมีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธ ไม่พอใจ หรือ และอ่อนไหวกับสิ่งเร้าต่างๆ เด็กบางคนใช้เวลาในการควบคุมตนเองนานกว่าคนอื่น แล้วคุณจะทราบได้อย่างไรว่าพฤติกรรมก้าวร้าวหรือรุนแรงของลูก ไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของช่วงการเรียนรู้ และคุณจะช่วยอะไรได้บ้าง

ก่อนอื่นเรามาดูว่า เด็กส่วนใหญ่แสดงท่าทางแบบนี้หรือไม่

การแสดงออกหรือพฤติกรรมของเด็ก ขึ้นอยู่กับวัยเป็นสำคัญ นักจิตวิทยาเด็กกล่าวว่า "เราจะไม่เห็นพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กวัยหัดเดิน” เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังไม่มีทักษะในการสื่อสารด้วยภาษาพูด จึงแสดงออกทางกายมากกว่า ตัวอย่างเช่น การผลักเพื่อนบนสนามเด็กเล่นอาจถือเป็นเรื่องปกติ เราไม่จำเป็นต้องเรียกว่าความก้าวร้าว เว้นแต่ว่าเด็กจะแสดงออกอย่างก้าวร้าวและรุนแรง

คุณรู้จักความก้าวร้าวที่แท้จริงได้อย่างไร

เมื่อถึงวัยหนึ่งที่เด็กโตพอที่จะมีทักษะทางคำพูดในการสื่อสารความรู้สึกของตน ประมาณอายุ 7 ขวบ การแสดงอารมณ์ก้าวร้าวทางกายก็จะลดลง หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลาที่ต้องกังวล

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรละเลย

หากเด็กมีพฤติกรรม เช่นทำลายข้าวของ ตั้งใจก่อกวนหรือสร้างความให้กับคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจาก อาการสมาธิสั้น ความวิตกกังวล ความบกพร่องทางการเรียนรู้ และความหมกมุ่น จนกลายเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด พ่อแม่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่เนิ่นๆ

เริ่มต้นด้วยการปรึกษากับกุมารแพทย์ และหากจำเป็นแพทย์จะส่งต่อให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อวินิจฉัยและรักษาปัญหาที่อาจก่อให้เกิดความก้าวร้าวได้

พ่อแม่จะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยลูก

กลยุทธ์เหล่านี้เพื่อช่วยให้ลูกของคุณควบคุมความก้าวร้าวของเขาหรือเธอให้อยู่ในความสงบ “เมื่อเด็กแสดงอารมณ์ออกมามาก และพ่อแม่ตอบสนองด้วยอารมณ์ที่มากขึ้น ก็จะเพิ่มความก้าวร้าวของเด็กได้” ให้พยายามจำลองการควบคุมอารมณ์สำหรับบุตรหลานของคุณแทน อย่ายอมแพ้ต่อความโกรธเคืองหรือพฤติกรรมก้าวร้าว ตัวอย่างเช่น เวลาไปซื้อของตามห้างแล้วลูกงอแง ร้องไห้เสียงดัง เพราะอยากได้ของเล่น พ่อแม่ต้องไม่ยอมซื้อให้ เพื่อเป็นการบอกลูกว่าหากลูกทำตัวไม่น่ารัก จะไม่ได้ของที่ต้องการ ในทางตรงกันข้ามพ่อแม่ควรกล่าวชมเมื่อลูกทำตัวน่ารัก และควรสอนให้เด็กรู้จักชื่นชมและขอบคุณเมื่อได้รับการปฏิบัติที่ดีจากผู้อื่น

ช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะแสดงออกทางอารมณ์ด้วยการใช้คำพูดแทนการแสดงทางพฤติกรรม เช่น เมื่อเด็กแสดงอาการไม่พอใจ พ่อแม่อาจพูดว่า “แม่รู้เลยว่าหนูกำลังโกรธมาก” ซึ่งการทำแบบนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กพูดออกว่า “โกรธ” แทนการแสดงท่าทางฉุนเฉียวที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวได้



วิธีหยุดบุตรหลานของคุณจากความรุนแรง

เราจะป้องกันไม่ให้เด็กใช้ความรุนแรงได้อย่างไร ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้ปกครองผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อเด็ก ควรทำเพื่อหยุดการใช้ความรุนแรงในเด็ก และวัยรุ่น

เป็นแบบอย่างที่ดี การวิจัยพบว่าเด็ก ๆ ต้องการผู้ใหญ่ที่เอาใจใส่อย่างน้อยห้าคนเพื่อช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขและมีสุขภาพดี ไม่ใช่แค่พ่อแม่เท่านั้นที่มีผลกระทบต่อลูก ปู่ย่า ตายาย ป้า น้าอา ครูที่ปรึกษาและเพื่อนในครอบครัวสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ ของเราได้ โดยการสร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกเขาที่ส่งเสริมให้พวกเขาเป็นคนที่ใจดี เห็นอกเห็นใจ และมีจริยธรรม

มีมโนธรรม คือสอนให้เด็กรู้จักผิดชอบชั่วดี ซึ่งสามารถทำได้โดย

1) ปรับตัวให้เข้ากับพวกเขา

2) ไม่ใช้ความรุนแรงในครอบครัว

3) เป็นที่พักพิงที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา

4) แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด เราทุกคนเคยทำผิดพลาดในฐานะพ่อแม่ แต่การยอมรับและขอโทษอย่างเปิดเผยสำหรับความผิดพลาดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าลูก ๆ เมื่อทำผิดต้องกล้ายอมรับและหาทางแก้ไข ไม่ควรตำหนิแต่ควรแสดงความห่วงใยและแก้ปัญหาไปด้วยกัน

มีความเห็นอกเห็นใจ สอนให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยกตัวอย่างเหตุการณ์สมมุติ ลูกของคุณตีเด็กอีกคนที่เล่นด้วยกัน คุณอาจจะบังคับให้ลูกขอโทษเด็กคนนั้น ลูกอาจจะขอโทษเพราะถูกคุณบังคับแต่เขาไม่ได้รู้สึกเห็นใจ การขอโทษจึงไม่มีความหมายหากเด็กไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริง ๆ ดังนั้นแทนที่คุณจะบังคับให้ลูกพูดขอโทษ ให้ลองคุยกับลูกว่า ลูกจะรู้สึกอย่างไรถ้าเราเป็นคนที่ถูกตี สิ่งนี้ช่วยให้เด็กเข้าใจและรู้สึกเห็นอกเห็นใจว่าการทำร้ายใครบางคนหมายถึงอะไร

แสดงความสนใจ โดยเฉพาะในวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่มีความเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายที่กำลังเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่ ด้านสังคมที่เด็กอาจต้องเจอเพื่อนใหม่หรือมีเพื่อนเพศตรงข้าม เด็กไม่สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ตามลำพัง และต้องการความเอาใจใส่และคำแนะนำจากพ่อแม่และผู้ปกครอง หากพ่อแม่เพิกเฉย เด็กอาจแสดงพฤติกรรมด้านลบเพื่อเรียกร้องความสนใจ พ่อแม่ควรเข้าใจ พยายามพูดคุยแบบเปิดใจแบบมีเหตุผล เคารพการตัดสินใจ รับฟัง คอยอยู่เคียงข้าง ไม่ใช่เอาแต่ตำหนิ ดุด่า เมื่อเกิดปัญหา

สร้างความภูมิใจและความนับถือตนเอง

ช่วยให้บุตรหลานของคุณค้นพบสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีและชื่นชมความสำเร็จเหล่านั้นอย่างแท้จริง เพื่อให้เขารู้สึกถึงคุณค่าในตนเองหรือความภาคภูมิใจในตนเองที่