ครูฝึกทักษะ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

ครูฝึกทักษะ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สุวรรณา กัลกัตตาวาลา
สุวรรณา กัลกัตตาวาลา
Saijai อายุ 39 ปี

ฉันมีร้านอาหารฮาลาลที่ภูเก็ตเปิดบริการมาแล้ว 8 ปี อาหารที่ร้านมี สเต็ก พิซซ่า สปาเก็ตตี้ พาสต้า homemade สลัด และอาหารไทย ซอสต่างๆ รวมทั้งน้ำสลัด ทางร้านทำเองเป็นสูตรเฉพาะของเรา ไม่ใช้ของสำเร็จรูป เน้นความสะอาดและรสชาติแบบที่คนไทยชื่นชอบ

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สามารถฝึกทักษะศิลปะให้น้องๆได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เสริมสร้างสมาธิ

แสดงเพิ่มเติม
ชนิตสิรี โทณวณิก
ชนิตสิรี โทณวณิก
Saijai อายุ 28 ปี

สามารถสอนพื้นฐานเตรียมความพร้อมก่อนเข้าคณะสถาปัตยกรรมออกแบบภายในได้ สอนแต่งภาพ ตัดต่อ ออกแบบโลโก้ กราฟฟิคได้ จากโปรแกรม ps ai มีความใจเย็น ปรับตัวได้ดี

แสดงเพิ่มเติม

รับสอนศิลปะเด็กตั้งแต่อายุ2ขวบขึ้นไป วาด ปั้น คลาส ประดิษฐ์ ครอบคลุม ทุก งานศิลปะ ฝึกพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมือมัดเล็ก ฝึก สมาธิ ในการทำงานและเสริมสร้างจินตนาการสร้างสรรค์

แสดงเพิ่มเติม
วรรณิภา กูหมัด
วรรณิภา กูหมัด
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ถนัดภาษาอินโดอีกหนึ่งภาษาค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

เคยเป็นนักกีฬาตัวแทนเขต 1 นนทบุรี ผลงาน เหรียญทองแดงกีฬาเยาวชนแห่งชาติ

แสดงเพิ่มเติม
เอกภพ ตรีขันธ์
เอกภพ ตรีขันธ์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 35 ปี
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่พูดคำหยาบ อัธยาศัยดี ตั้งใจทำงานที้ได้รับมอบหมาย ไม่ยุ่งอบายมุข สอนประจำได้

แสดงเพิ่มเติม
เอมี่ อินทะวงค์
เอมี่ อินทะวงค์
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำงานและชอบพบปะทำความรู้จักกับคนใหม่ๆเสมอ

แสดงเพิ่มเติม
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนใจเย็นค่ะ สามารถสอนเด็กเล็กได้ มีเทคนิคช่วยให้น้อง ๆ ตั้งใจเรียน ค่ะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

สนใจอยากทำขนมไทย บนเว็บใส่ใจมีคนสอนด้านนี้หลายคน ราคามิตรภาพมาก ๆ สนใจเลยค่ะ เราจองเวลาเรียนตามที่เราสะดวก โอเคมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
วีณา กลิ่นขจร
3 ปีที่แล้ว
ได้ครูสอนทำขนมฝีมือดีจากเว็บนี้ มีเทคนิคการสอนทำขนมได้รสชาติออกมาอร่อยไม่แพ้กับที่ดัง ๆ เลย ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
Saijai
กชอร มัฑนวัลลพย์
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายมากเลยครับ ตั้งแต่ขั้นตอนติดต่อหาครูสอน กรอกข้อมูล เช็คราคาและเงื่อนไขต่าง ๆ ผมได้ครูสอนว่ายน้ำที่มีประสบการณ์ ใจเย็นมาก ๆ ด้วยครับ
Saijai
ชลธี พัฒนวงศ์สันต์
4 ปีที่แล้ว
ผมเรียนทำอาหารกับเชฟที่จองผ่านใส่ใจ เชฟบอกสูตรละเอียดหมดเลย เราเลือกเรียนแบบออนไลน์นะ เพราะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ คิดว่าคุ้มอยู่กับราคาที่จ่าย เพราะสิ่งที่เราเรียนเราสามารถเอามาต่อยอดได้ คิดอยู่ว่าอยากจะเปิดร้านอาหารที่มีทั้งอาหารคาวและหวาน เราคิดว่าจะเอาสิ่งที่เรียนไปปรับใช้ในธุรกิจที่เราอยากทำครั้งนี้ได้
Saijai
อดิศักดิ์ ฤาพิทักษ์
4 ปีที่แล้ว
ส่งลูกไปเรียนว่ายน้ำกับครูกร น้องวินชอบมาก ตื้นเต้นทุกครั้งเวลาไปเรียน ครูกรก็น่ารัก ลูกสนุกใหญ่เลย
Saijai
มนัญชยา ภาภิลัย
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ครูฝึกทักษะ

ทักษะเสริมอะไรบ้างที่คุณควรมีเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน
ในสังคมของการทำงานถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งในยุคของวิกฤตไวรัสระบาดเช่นนี้ ทำให้หลาย ๆ องค์กรต้องแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนพนักงานให้เหลือน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานบางคนที่มีศักยภาพไม่เพียงพอ แต่ถ้าหากมีทักษะเสริมเหล่านี้ก็จะช่วยพลิกให้วิกฤตเป็นโอกาสได้ ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานกับองค์กรต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยต่อยอดในการเริ่มทำธุรกิจของตนเองได้ในอนาคตเช่นกัน

1. ทักษะทางด้านกีฬา ในปัจจุบันนี้มีกีฬาที่คนนิยมเล่นมากมาย เช่น ฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งการเล่นกีฬานอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว การพัฒนาทักษะทางด้านนี้สามารถช่วยให้เรามีความชำนาญมากยิ่งขึ้น และสามารถทำงานเกี่ยวกับผู้ฝึกสอนกีฬา โค้ช หรือเทรนเนอร์ได้เช่นกัน
2. ทักษะการทำอาหาร การเรียนทำอาหารถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนมักนิยมกันในสมัยนี้ หากคุณมีทักษะในด้านการทำอาหาร คุณสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานในอนาคต หรือประกอบกิจการทางด้านร้านอาหารได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองอีกด้วย
3. ทักษะการขับรถ แน่นอนว่าการขับรถนั้นเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการขับขี่อย่างปลอดภัยนั้นมีความสำคัญต่อทั้งตัวเราเอง และผู้อื่นที่อยู่บนท้องถนนเช่นกัน การฝึกขับรถอย่างถูกกฎวิธีจะช่วยทำให้เราตระหนักถึงวินัยจราจรและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น
4. ทักษะด้านดนตรี ซึ่งทักษะทางด้านนี้สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพทางด้านการศึกษา เช่น คุณครูสอนดนตรี เป็นต้น หรืออาชีพทั่วไปที่เกี่ยวกับด้านดนตรี เช่น นักดนตรีทั่วไป ผู้ประพันธ์เพลง บรรเลงดนตรีประกอบภาพยนตร์ ฯลฯ
ทักษะที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้มีอะไรบ้าง
ยุคสมัยนี้การแข่งขันในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการเรียน หรือการทำธุรกิจก็ตาม ดังนั้นความถนัดและทักษะในสิ่ง ๆ เดียวอาจไม่เพียงพอเสียแล้ว เราจึงจำเป็นต้องขวนขวายและเรียนรู้ทักษะเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างทักษะเสริมที่สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้นั้นมีดังต่อไปนี้

1. ทักษะด้านกีฬา สำหรับคนที่มีใจรักและชื่นชอบในการเล่นกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ หากคุณมีทักษะความสามารถในด้านนี้ ก็อาจช่วยให้คุณทำอาชีพเกี่ยวกับกีฬาได้เช่นกัน เช่น โค้ชหรือผู้ฝึกสอนกีฬา เทรนเนอร์ในฟิตเนส ครูสอนวิชาพละศึกษา วิทยากรที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย นักกายภาพบำบัด เป็นต้น
2. ทักษะด้านการทำอาหาร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะการมีทักษะในการทำอาหารที่ดีนั้นจะช่วยต่อยอดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของเราในอนาคตได้ โดยส่วนใหญ่คนที่เรียนการทำอาหารจากสถาบันชื่อดังต่าง ๆ ก็มีจุดประสงค์ที่จะเปิดธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง หรือบางคนที่ชื่นชอบในการทำอาหารจนมีฝีมือการทำอาหารที่ดีเยี่ยมก็สามารถประกอบอาชีพเชฟได้เช่นกัน
3. ทักษะด้านการขับรถ สำหรับบางคนที่ขับรถเป็น รู้กฎจราจรเป็นอย่างดี สามารถเปิดโรงเรียนสอนขับรถเองได้เลย และหากบางคนที่มีใจรักในงานบริการด้วยนั้นก็สามารถทำอาชีพพนักงานขับรถเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้เช่นกัน
4. ทักษะด้านดนตรี บางคนอาจมีใจรักในการร้องเพลงและการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก หากหมั่นฝึกฝนและพัฒนาทักษะไปเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เรากลายเป็นคุณครูสอนร้องเพลง หรือนักดนตรีมืออาชีพเลยก็ว่าได้
การเรียนในรูปแบบออนไลน์สามารถใช้กับการเรียนทักษะเสริมได้หรือไม่
เรียนออนไลน์หรือเรียนแบบตัวต่อตัว สนใจเรียนแบบไหน มีผู้ให้บริการทุกรูปแบบค่ะ

1. การเรียนแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ทำอาหาร ขับรถ หรือ ดนตรี ก็สามารถเลือกเรียนออนไลน์ได้ อาจจะมีการสอนออนไลน์แบบกลุ่ม หรือแบบเดี่ยวซึ่งราคาแตกต่างกันออกไป โดยในช่วงแรกที่ต้องเรียนเกี่ยวกับทฤษฎี กฎ กติกา มารยาทต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะ ต้องอาศัยการจดข้อมูลต่าง ๆ สามารถเรียนทางออนไลน์ได้โดยยังไม่ต้องเรียนแบบตัวต่อ อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน หรือให้ติวเตอร์เข้ามาสอนซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2. การเรียนแบบตัวต่อตัว เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนรู้ช้าหรือยังไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการเรียนทักษะเสริมมากนัก หรืออาจจะเน้นสอนในส่วนของภาคปฏิบัติ หลังจากเรียนทฤษฎีไปแล้ว เพื่อให้สัมฤทธิผลมากขึ้นจึงควรเรียนแบบตัวต่อตัว เพราะการเรียนแบบตัวต่อตัวแบบมีบริการสอนถึงบ้าน หรือใกล้บ้านตามสถานที่ที่สะดวก ผู้สอนจะอยู่อย่างใกล้ชิดและสามารถสังเกตจุดอ่อนหรือจุดแข็งของผู้เรียนและสามารถแก้ไขได้ถูกจุด อีกทั้งทักษะบางอย่างต้องลงมือปฏิบัติจริงจึงจะรู้ว่าที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ ตัวอย่างเช่น
- กีฬาฟุตบอล ให้ลองลงสนามจริง ซ้อมวิ่ง ซ้อมรับ-ส่งลูก ซ้อมกันเป็นทีม และลองฝึกยิงลูกโทษ
- การทำอาหาร ต้องลองฝึกทำจริงๆ เพื่อที่จะได้ทดสอบว่าอาหารที่ทำออกมามีรสชาติอย่างไร
- ขับรถ แน่นอนว่าการขับรถต้องลองขับบนท้องถนน เริ่มแรกอาจฝึกขับบนถนนจำลองก่อนเพื่อให้คุ้นชินกับการขับรถ หลังจากนั้นจึงขับออกไปบนถนนจริงโดยมีผู้สอนนั่งในรถไปด้วย
- ดนตรี การเล่นดนตรีก็ต้องมีการทดสอบเล่นเครื่องดนตรีนั้นๆ ว่าเล่นได้ถูกต้องหรือไม่

ดังนั้นลองไตร่ตรองดูว่าคุณเลือกที่จะเรียนแบบออนไลน์หรือแบบตัวต่อตัว และจะยอมลงทุนจ่ายกับการเรียนของตัวคุณเองอย่างไรดี เพราะการลงทุนในการศึกษาทักษะต่างๆนั้น คุณจะได้ผลตอบแทนแบบไม่มีวันสิ้นสุด เพราะความรู้จะอยู่กับคุณไปตลอด
คุณควรมีวิธีการคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะต่าง ๆ อย่างไร
ครูสอนทักษะ เช่น ครูสอนว่ายน้ำ ครูสอนทำอาหาร โค้ชฟุตบอล โค้ชเทนนิส ครูสอนขับรถ ฯลฯ นอกจากจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในทักษะนั้น ๆ แล้ว ต้องมีคุณสมบัติอะไรอีกบ้างที่จะทำให้สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. มีทัศนคติและวิธีคิดแบบผู้สอน ต้องเข้าใจว่าตนเองมีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียนที่แต่ละคนมีความสามารถให้การเรียนรู้แตกต่างกัน ต้องมีวิธีการนำเสนอและอธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจ
2. สามารถการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ขั้นตอนการนำเสนอที่น่าสนใจ ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติต่อ เช่น เชฟ (Chef) กระบวนการทำอาหารมีหลายขั้นตอนที่จะดึง จุดเด่นของวัตถุดิบหรือเมนูที่เชฟจะนำเสนอ ถ้ากระบวนการนำเสนอเข้าใจง่าย ผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะได้
3. ต้องมีจิตวิทยาที่สามารถดึงความสนใจให้ผู้เรียนมีใจจดจ่อกับการเรียน แต่ไม่เครียดจนเกินไป
4. มีวินัย เพราะทักษะทุกอย่างจะเกิดขึ้นและดีได้ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นครูผู้สอนเองต้องเป็นผู้รักษาระเบียบวินัย เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้เรียน
5. ติดตามผล เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนได้รับความรู้และนำไปใช้ได้จริง