ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
อทิตยา บางชัยภูมิ
อทิตยา บางชัยภูมิ
Saijai อายุ 46 ปี

ค่าจ้างพิจารณาตามความเหมาะสมชอบดูแลผู้สูงอายุ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราที่บ้านมีข้อดีอย่างไรบ้าง ใส่ใจขออธิบายข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้

1) การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับลูกหลานที่มีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุของตน หลาย ๆ คนอาจมีงานหรือภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา การจ้างคนดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพจึงเหมือนการได้ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามที่คุณไม่สะดวกด้วยเช่นกัน
2) ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลที่ศูนย์ดูแล บ้านพักคนชราหรือ เนอสซิ่งโฮม(Nursing Home)แล้ว จำนวนผู้สูงอายุที่มีมากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามาก
3) ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านต่าง ๆ เพราะผ่านการฝึกอบรมการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะการดูแลกิจวัตรประจำวัน เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดตัว หรือความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และยังสามารถพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเพื่อให้ไม่รู้สึกเหงาด้วยเช่นกัน
4) ผู้สูงอายุไม่รู้สึกแปลกสถานที่เนื่องจากความเคยชินเพราะได้อยู่ที่บ้าน และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่างไกลจากลูกหลาน อีกทั้งยังคงได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่สำคัญสภาพแวดล้อมภายในบ้านสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และไม่วิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อรับรู้ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากต้องการคนเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของคุณ ทางใส่ใจมีบริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่น่าไว้ใจให้คุณ

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

เรื่องน่ารู้ของเขตบางแค

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “บางแค” คนส่วนใหญ่มักนึกถึง “สถานสงเคราะห์บ้านบางแค2” “โรงพยาบาลเกษมราษฎร์” “มหาวิทยาลัยธนบุรี” หรือ “ความหนาแน่นของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้” แต่ความจริงแล้วเขตนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายสิ่งด้วยกัน

เขตบางแค ตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของฝั่งธนบุรี ในอดีตมีชื่อเดิมว่า ตำบลหลักหนึ่ง ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ตำบลบางแค ตามชื่อคลองสายหนึ่งที่ไหลผ่านหมู่บ้าน มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตเกษตรกรรมผสมผสานเพราะมีอาณาบริเวณติดต่อกับลำคลองทั้ง 4 ทิศ โดยจากภาพรวมของลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ในย่านบางแคนี้ จะมักถูกมองว่า ผู้คนใช้การเดินทางโดยเรือเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วเขตนี้มีการขนส่งสาธารณะครบทุกรูปแบบให้เลือกใช้บริการไม่ว่าจะเป็น รถเมล์ รถแท็กซี่ หรือรถไฟฟ้าที่ทำให้ผู้คนเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ปัจจุบัน เขตบางแค ถูกแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 แขวง คือ แขวงบางแค แขวงบางแคเหนือ แขวงบางไผ่ และแขวงหลักสอง มีผู้คนอาศัยอยู่เกือบสองแสนคน ซึ่งมีมากเป็นอันดับ 3 ของกรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 44.456 ตารางกิโลเมตร มีถนนทางสายหลักในพื้นที่ 7 สาย คือ ถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3901และ 3902 ถนนพุทธมณฑล สาย 2 และสาย 3 และถนนกัลปพฤกษ์ ส่วนทางสายรองและทางลัดนั้นมีถึง 15 เส้นทางด้วยกัน ชุมชนบางแคมีความหลากหลายของศาสนา อันสังเกตได้จากมีสถานที่เคารพของแต่ทางศาสนา ทั้งวัด ศาลเจ้า และโบสถ์ มีตั้งอยู่หลายแห่งในเขตพื้นที่นี้ และจุดเด่นอีกอย่างของย่านนี้ นั่นคือ สถานศึกษาที่เรียงรายตลอดเส้นทาง มีตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และระดับอุดมศึกษา ที่มีให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองเลือกเส้นทางการศึกษาให้ลูกหลานได้อย่างหลากหลาย



สถานที่สำคัญในเขตบางแค

นับว่าเป็นความโชคดีของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตบางแค เพราะนอกจากจะมีเส้นทางการคมนาคมที่หลากหลาย และสถานที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานราชการ วัด โบสถ์ ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล สถานศึกษา บ้านพักคนชรา แหล่งเกษตรกรรม กลายเป็นพื้นที่ ที่มีทั้งแหล่งงาน และที่พักอาศัย ในหลากหลายวัย หลากหลายศาสนา มาอยู่รวมกัน มีประชากรอาศัยอยู่ในเขตนี้เกือบสองแสนคน โดยมีการกระจายตัวหนาแน่นอยู่กันบริเวณแขวงบางแค สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงดังกล่าว เช่น

-สวนเพชรกาญจนารมย์ สถานที่ที่เหมาะกับผู้คนทุกเพศ ทุกวัยในการเข้าใช้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดใด สวนแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมตัดกับถนนกาญจนาภิเษก ใต้สะพานข้ามทางแยกหน้าห้างเดอะมอลล์ บางแค แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ในอดีตสวนบริเวณนี้ถูกปล่อยให้รกร้าง เพราะเป็นพื้นที่ของกรมทางหลวง หลังจากนั้น >ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ปรับปรุงใหม่ด้วยงบประมาณกว่าสิบล้านบาทเพื่อปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับชาวบางแค สวนเพชรกาญจนารมย์ มีเนื้อที่ 9 ไร่เศษ บริเวณภายในสวนเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีลานกิจกรรม อุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้ง สนามฟุตซอล และทางวิ่งคอนกรีตรอบละประมาณ 500 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกาย และต้องการพักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น อีกทั้งกลางสวนมีบึงน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำในสถานการณ์น้ำท่วมได้เป็นอย่างดีของเขตพื้นที่นี้ และบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย

-โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี หากพูดถึงสถานศึกษาที่โด่งดังในย่านนี้ คงต้องนึกถึงโรงเรียนนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ 92 ถนนอัสสัมชัญ แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160 บนเนื้อที่ทั้งหมด 80 ไร่ 27 ตารางวา ปัจจุบันโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีมีอายุครบ 60 ปี ก่อตั้งโดยคณะภราดาเซนต์คาเบรียล เดิมเป็นโรงเรียนชายล้วน แต่ได้รับนักเรียนหญิงเข้ามาในช่วงปีพุทธศักราช 2552 จึงเปลี่ยนแปลงเป็นโรงเรียนสหศึกษานับแต่นั้นมา



ความต่างของการดูแลผู้สูงอายุเองกับจ้างผู้ดูแลแทน

เนื่องจากประเทศไทยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรช้าลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้สูงอายุคือประชากรกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดกรุงเทพมหานคร วัยสูงอายุ หรือ วัยชราตามกฎหมายไทยคือบุคคลที่มีอายุอยู่ในช่วงปลายของชีวิตตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ยิ่งไปกว่านั้นสัดส่วนประชากรสูงวัยในประเทศไทยจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคตข้างหน้า จนเป็น ‘สังคมผู้สูงอายุ’ อย่างเต็มตัว โดยอ้างอิงจาก มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย

การเรียนรู้ที่จะดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต นับเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถส่งผลดีทั้งตัวผู้สูงอายุเองและต่อคนรอบข้าง ไม่ว่าการดูแลแบบครอบครัว ซึ่งสามารถดูแลโดยลูกหลานที่สลับผลัดเปลี่ยนกันมาพูดคุย ใช้เวลาว่าง รับประทานอาหารหรือทำกิจกรรมในช่วงสุดสัปดาห์ด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเติมเต็มความรัก มีผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ สามารถทำให้ท่านรู้สึกถูกดูแลเอาใจใส่ ลดความรู้สึกอ้างว้างและการถูกทอดทิ้ง เพราะผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่จะกลัวการถูกปล่อยปละละเลย ถึงแม้ใจอยากฝากชีวิตไว้ให้ลูกหลานดูแลในบั้นปลายชีวิต แต่มักแสดงออกมาในรูปแบบที่ต่างออกไป เช่น รู้สึกกังวลว่าจะเป็นภาระให้ลูกหลาน มีการพูดประชด น้อยใจ หรืออารมณ์หงุดหงิดง่าย ดังนั้นการดูแลจากคนในครอบครัวจึงเป็นหัวใจสำคัญในการตัดความกังวลเหล่านี้ได้ดี อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดที่รู้ใจท่านมากที่สุด หากครอบครัวใดมีความพร้อมในการดูแล ควรร่วมมือ ผลัดกันดูแลท่านจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ซึ่งการดูแลผู้สูงอายุยังมีอีกหลากหลายรูปแบบตามลักษณะทางกายภาพของแต่ละคน เช่น บางคนอาจมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงที่คนในครอบครัวสามารถผลัดกันดูแลได้ บางคนอาจมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง หรือบางคนอาจจะมีความพิการบางส่วน ที่จำเป็นต้องได้รับการแนะนำ ดูแล จากผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ในสถานที่ที่เหมาะสม ถูกสุขลักษณะ จึงจะส่งผลดีต่อท่านมากกว่าการดูแลกันเอง

หากครอบครัวใดที่ไม่มีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุที่ต้องดูแลเป็นพิเศษดังกล่าวนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของสถานที่, เวลาการทำงานไม่ตรงกัน, สมาชิกในครอบครัวมีภาระหน้าที่ต้องทำงาน และตัวผู้สูงอายุเองต้องการอยู่กับครอบครัวไม่อยากถูกส่งตัวไปบ้านพักคนชรา หรือสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เพราะไม่อยากให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา สามารถมองหาแนวทางแก้ไขอื่น ๆ ได้ เช่น หาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ไว้ใจได้มาดูแลที่บ้านแทน แต่ก่อนทำการตัดสินใจต้อง สืบประวัติ ตกลงเรื่องลักษณะงานและค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่เกิดขึ้นในแบบที่ไม่คาดคิดในภายภาคหน้าได้ เช่น การทำร้ายร่างกาย, สิ่งของในบ้านหาย ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เกิดผู้ประกอบการด้านหาผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงอายุขึ้น เพื่อมาเป็นคนกลางช่วยหาลูกค้าและคนดูแลผู้สูงอายุให้ มีการทำสัญญาที่ถูกต้องตามกฎหมาย, ทำการฝึก อบรม ก่อนการเข้าทำงาน บางบริษัทมีบริการเสริมเช่น ทำงานบ้านควบคู่ไปด้วย ส่งผลดีต่อคนรอบข้างที่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานประจำ ที่เมื่อกลับมายังต้องทำงานบ้าน งานดูแลผู้สูงอายุอีก หากมีผู้ช่วยเหล่านั้นจะเป็นการแบ่งเบาความล้าเหล่านั้นได้ และมีเวลาที่เหลือจากการงานมาสร้างรอยยิ้ม และมอบความสุขให้กับช่วงเวลาที่เหลือในบั้นปลายชีวิตของผู้สูงอายุอีกด้วย