วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันดิฉันมีประสบการณ์การทำงานโรงแรมระดับ 5 ดาว ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ U.A.E (Dubai) ในแผนกอาหารและเครื่องดื่ม มากว่า 20 ปี สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ชอบทำอาหารและเบเกอรี่ เป็นคนสุภาพ ซื่อสัตย์ มีความอนทดต่อแรงกดดัน คิดบวก ตรงต่อเวลา ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตนเอง ใส่ใจในรายละเอียด ชอบความสะอาด เป็นคนไม่พูดมาก สวดมนต์นั่งสมาธิเป็นประจำ อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นเท่าทีความสามารถของตนจะทำได้
พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
ดูแลใส่ใจผู้สูงวัยในช่วงโควิด 19
ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ ได้ง่ายมากกว่าคนในวัยอื่น ๆ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงตามวัย แม้ว่าสุขภาพโดยรวมจะแข็งแรงสมบูรณ์ดีก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นในช่วงโควิด-19 ระบาดควรให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุเป็นพิเศษ ควรต้องทำอย่างไร
- ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารที่สะอาดถูกสุขลักษณะปรุงสุกใหม่ ๆ ตามหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง” เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงและควรให้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
- ให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยท่าทางง่ายๆ เช่น การเดิน หรือแกว่งแขนออกกำลังกายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย
- หากผู้สูงอายุ มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะและการไปในที่แออัด และควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อกลับถึงบ้านควรอาบน้ำสระผมทำความสะอาดร่างกายและของใช้ที่ติดตัวกลับมาจากนอกบ้าน รวมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
- ให้ผู้สูงอายุล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่นาน 20 วินาที หากไม่สะดวกล้างมือด้วยสบู่ สามารถใช้แอลกอฮอล์เจลได้
- งดให้ผู้สูงอายุออกไปรวมกลุ่ม ร่วมกิจกรรม หรือไปที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก เพื่อความปลอดภัย
วัดลาดพร้าว วัดใหญ่ใจกลางกรุง
วัดลาดพร้าว สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2413 โดยชาวบ้านลาดพร้าวได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาดพร้าวในสมัยนั้น โดยเริ่มต้นสร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นมาประมาณ 2-3 หลังก่อน แล้วได้นิมนต์พระอาจารย์เพิ่ม มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัด ในระยะแรกนี้ยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2417 คณะสงฆ์และชาวบ้านลาดพร้าวได้เห็นสมควรให้มีการย้ายวัดมาอยู่ที่วังลาดพร้าว เพราะสถานที่เดิมเป็นที่ดอนไม่สะดวกต่อการที่ พระสงฆ์และสามเณรจะใช้น้ำ จึงได้ย้ายวัดมาสร้างใหม่ที่วังลาดพร้าว เพราะที่แห่งใหม่นี้อยู่ใกล้แหล่งน้ำมากกว่าจึงสะดวกต่อการใช้น้ำ และเป็นสถานที่ตั้งวัดในปัจจุบันนั่นเอง
วัดลาดพร้าว เป็นวัดที่มีความเงียบสงบและมีความสวยงาม เมื่อเข้าไปภายในวัดจะพบกับพระวิหารที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับยืน 3 องค์ บนชั้น 2 ของอาคาร
จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ ปราสาทซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า ที่ได้อัญเชิญมาจาก ประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์ดาวดึงส์เหนือเศียรพระเจ้าเปิดโลก
ชั้นล่างของวิหารจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการทำบุญ มีรูปปั้นเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อโต เจ้าแม่กวนอิม และพระพรหมวัดลาดพร้าว เป็นต้น
ส่วนชั้นสองของพระวิหาร มีหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง เป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่กลางวิหาร ส่วนภายในวิหารทางวัดได้สร้างพระพุทธรูปจำลองไว้มากมาย อาทิเช่น หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อเพชร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม นำมาประดิษฐานไว้ เรียกได้ว่ามา วัดลาดพร้าวเพียงวัดเดียว สามารถไหว้พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ได้เกือบทั้งประเทศ
การเดินทาง : จากถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าถนนโชคชัย 4 ผ่านโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว-วังหิน บริเวณสี่แยกตรงไปประมาณ 800 เมตร จะเห็นวัดลาดพร้าวอยู่ทางด้านซ้ายมือ ติดกับศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์
ที่ตั้ง : หมู่ 9 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ร้าน เฝอ' 54 เฝอหม้อไฟ ที่ใครๆ ก็ต้องมาลอง
ร้านอาหารสไตล์เวียดนาม ร้านนี้มีชื่อว่า เฝอ' 54 ซึ่งอาหารของที่ร้านมีการประยุกต์ฺให้เป็น เฝอ' หม้อไฟ สไตล์ L.A. โดยได้ไอเดียมาจากตอนที่เจ้าของร้านได้ไปเรียนที่อเมริกา และได้ลองรับประทานอาหารเวียดนามที่เรียกว่า เฝอ แล้วรู้สึกติดใจในรสชาติของอาหารเวียดนามจานนี้เป็นอย่างมาก และที่ชอบมากสุดจะเป็นน้ำจิ้ม ที่มีรสชาติแปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร จึงได้นำมาประยุกต์ให้เป็น เฝอ' หม้อไฟ สไตล์ L.A.
เฝอ' 54 มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน ภายในร้าน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ จึงทำให้ร้านเฝอ' 54 นั้นดูแปลกใหม่และน่าสนใจมาก แต่ด้วยปัญหาของพื้นที่ร้านที่ไม่ได้กว้างมากนัก ทำให้ร้านยังคงมีปัญหาในเรื่องพื้นที่รองรับลูกค้าที่อาจจะน้อยไปสักนิด ถ้าเทียบกับปริมาณลูกค้าในแต่ละวัน และลูกค้าอาจจะต้องเสียเวลาในการต่อแถวเพื่อรอคิว
เมนูอาหารของร้าน เฝอ' 54 จะมีอยู่ประมาณ 35 เมนู โดยแต่ละเมนูก็มีราคาย่อมเยา และนี่เป็นอีกสาเหตุที่มีคนมาอุดหนุนร้านนี้อย่างไม่ขาดสาย และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของทางร้านก็คือ น้ำจิ้มรสเด็ดของร้าน เฝอ' 54
เพราะเป็นน้ำจิ้มที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นเองโดยนำสูตรของเฝอแบบเวียดนามมาประยุกต์กับรสชาติแบบไทยๆ เรียกว่า เป็นสูตรน้ำจิ้มที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ยิ่งเมื่อได้รับประทานกับเมนูอาหารสดของที่ร้าน เฝอ' 54 ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป
การเดินทาง มาที่ร้าน เฝอ' 54 ถ้าอยู่แถวลาดพร้าว-โชคชัย4-วังหิน สามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวหรือรถสองแถว หรือแนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ เพราะร้านจะอยู่ประมาณกลางซอยโชคชัย 4 หรือโชคชัย 4 แยก 54 โดยสามารถนั่งรถมาได้ทั้ง 2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นถนน ลาดพร้าว และถนน เกษตร-นวมินทร์ เมื่อมาถึงโชคชัย 4 แยก 54 ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมถนน
ที่อยู่ : 688 ลาดพร้าววังหิน 60 ถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง