วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
สอนหลักสูตรการศึกษา เรียนออนไลน์ ติวเตอร์คณิตศาสตร์ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ติวเตอร์ภาษาไทย ติวเตอร์วิทยาศาสตร์ เรียนภาษาต่างประเทศ ติว GAT ติว PAT ครูฝึกทักษะบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันมีประสบการณ์ล่ามและแปลตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เคยไปอยู่ที่ประเทศแคนาดาและประเทศญี่ปุ่น ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษอยู่ในระดับ advance ค่ะ ส่วนตัวชอบภาษาและพูดได้มากกว่า 4 ภาษา แต่ก็สามารถสอนวิชาอื่นๆได้เช่นกัน เพราะเคยสอนทั้งคนไทยและคนต่างชาติค่ะ ไม่จำกัดแค่วิชาภาษาต่างประเทศเท่านั้น ใครที่ชอบเรียนและพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้โดยเฉพาะเกี่ยวกับต่างประเทศ ติดต่อได้เลยค่า
อารีรัตน์ ภักดีย่อง ชื่อเล่น ดรีม นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4
ด้านภาษา
-มีประสบการณ์สอนภาษาฝรั่งเศสให้กับนักเรียนชั้นมอปลายที่ต้องการสอบรายบท เช่นเรื่อง cod coi, subjontive, etc.
-มีประสบการณ์สอนภาษาฝรั่งเศสให้กับน้องปี 1 ที่ต้องการซิ่วและสอบ pat7.1 อีกครั้ง
-มีประสบการณ์สอนภาษาไทยให้กับชาวฝรั่งเศสในคลาสส่วนตัว
ด้านดนตรี
-มีประสบการณ์การเล่นกีต้าร์มากกว่า 5 ปี และอูคูเลเล่มากกว่า 3 ปี
-มีประสบการณ์การสอนอูคูเลเล่นักเรียนชั้นป.4 ตั้งแต่ไม่มีพื้นฐานจนปัจจุบันสามารถเล่นได้เป็นเพลง อ่านคอร์ดเป็น รู้จังหวะของเพลง
-สอนอูเลเล่ให้น้องชั้นม.4 ตั้งแต่ไม่ทีพื้นฐานด้านดนตรีจนสามารถเข้าใจจังหวะเพลง สามารถจับและเปลี่ยนคอร์ดได้คล่องแคล่วมากขึ้น รู้การเปลี่ยนคอร์ดในเพลง
-ปัจจุบันรับสอนกีต้าร์และอูคูเลเล่ให้กับนักเรียนคลาสส่วนตัว
ลักษณะนิสัยของติวเตอร์
-เป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี สามารถ entertain น้องๆให้สนุกไปกับการเรียนได้
-สามารถอธิบายเนื้อหาที่ยากให้เข้าใจได้อย่างง่าย โดยการยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ
-มีคลังคำศัพท์และความรู้รอบตัว
-มีไฟล์เอกสารส่งให้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
-มีกิจกรรมให้ทำระหว่างเรียน
-สามารถปรึกษาได้ในเวลาที่ไม่เข้าใจ
วรินธร โขพิมพ์ ชื่อเล่นไอซ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์
- มีประสบการณ์การสอนพิเศษกับทางสถาบัน IQEQ Town Tutorial School สอนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลาย
- มีประสบการณ์ทางด้านภาษามามากกว่า 10 ปี เรียนในห้องเรียน Intensive English Program ในระดับชั้นประถมศึกษา ห้องเรียนพิเศษ 2 ภาษา English Program ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ ห้องเรียนสายการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่น ในมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันศึกษาอยู่คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่
- เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ Nishinomiyakofu High School ประเทศญี่ปุ่น
- รับเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ โดยมีนนักเรียนญี่ปุ่นมาอยู่ที่บ้าน
- มีโอกาสไป Summer กับโครงการ Hanamaru ณ จังหวัด Shimane ประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะและนิสัยของติวเตอร์
- สอนในรูปแบบพี่สอนนอน
- มีกิจกรรมให้ทำตลอด เน้นการสนานาในชีวิตจริง
- มีไฟล์เอกสารส่งให้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ใจดี และใจเย็น รักเด็ก
- ปรึกษาได้ทุกอย่าง สามารถถามได้ตลอดเวลาที่ไม่เข้าใจ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
• เมื่อเรียนพิเศษตัวต่อตัว นักเรียนจะมีความใกล้ชิดกับติวเตอร์ ในด้านของนักเรียนหากมีข้อสงสัยนักเรียนสามารถสอบถามติวเตอร์ได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่ ๆ อีกด้วย ส่วนในด้านของติวเตอร์เมื่อรับงานสอนพิเศษตัวต่อตัวแล้ว เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้นักเรียนอย่างสุดความสามารถ และติวเตอร์เองจะมุ่งเน้นความใส่ใจไปที่เด็กนักเรียนคนเดียวจึงทำให้เด็กได้รับความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อนักเรียนเข้าใจในสิ่งที่ติวเตอร์สอน นักเรียนจะสามารถทำข้อสอบที่โรงเรียนได้และได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
• การเรียนพิเศษนั้นนักเรียนจะได้ฝึกทำข้อสอบ หรือแบบฝึกหัดและสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียนเพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้
ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ส่วนตัวนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวนักเรียน อีกทั้งยังทำให้นักเรียนนั้นมีผลการเรียนที่ดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันนี้มีหลากหลายทางเลือกสำหรับการเรียนเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันกวดวิชา หรือ การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวก็ดี วันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณที่กำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ว่าควรตกลงอะไรกับติวเตอร์ มาดูกันค่ะ
• สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตกลงกับติวเตอร์คือสถานที่เรียนและเวลาเรียน การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวคุณสามารถเลือกสถานที่เรียนและเวลาได้ตามความสะดวก อย่างไรก็ดีหากต้องการจะเรียนที่บ้านหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่นร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือห้องสมุดคุณพ่อคุณแม่หรือตัวนักเรียนจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบทุกครั้งเพื่อความชัดเจนทั้งสองฝ่าย
• แน่นอนว่าการจ้างติวเตอร์นั้นคุณหวังเพื่อที่จะได้รับความใส่ใจจากติวเตอร์ ดังนั้นก่อนทำการเรียนทุกครั้งนักเรียนจะต้องพูดคุยกับติวเตอร์ถึงเรื่องการเรียน หากคุณต้องการให้ติวเตอร์สอนคุณในเนื้อหาบทเรียนไหนเป็นพิเศษนักเรียนจะต้องบอกติวเตอร์เพื่อที่ติวเตอร์ เพราะติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองในด้านการเรียนที่ดีขึ้น
• ค่าจ้าง ก่อนทำการจ้างคุณพ่อคุณแม่จะต้องตกลงค่าจ้างกับติวเตอร์ตามชั่วโมงที่จ้างสอน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวเพื่อลูก ๆ ของคุณจะได้สะดวกในการเรียน ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ
33 จตุจักร
33 จตุจักร
ตัวเลข 33 คือเนื้อที่ของ เขตจตุจักร หนึ่งในห้าสิบเขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร มีประชากรอยู่ประมาณ หนึ่งแสนห้าหมื่นห้าพันคน บนพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตร อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยกว่าหนึ่งแสนสองพันครัวเรือน ซึ่งเขตจตุจักรนี้ได้ขยายออกมาจากแขวงลาดยาวในปี พ.ศ.2532 เพื่อความสะดวกในการบริหารงานของหน่วยงานราชการและการปกครองท้องถิ่น
แม้มีพื้นที่เล็กเพียงแค่ 33 ตารางกิโลเมตรแต่มีสวนสาธารณะหลักๆ อยู่ถึง 3 แห่ง ได้แก่ สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนวชิรเบญจทัศ หากรวมพื้นที่ของสวนสาธารณะทั้ง 3 สวนเข้าด้วยกันแล้ว จะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมถึง 727 ไร่ ทั้งนี้เมื่อปี พ.ศ.2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระกระแสรับสั่งว่าสมควรที่จะรวม 3 สวนให้เป็นสวนเดียวกัน และในปี พ.ศ.2546 และทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงให้ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย และเป็นสถานที่พักผ่อน เป็นสวนกลางกรุง เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพมหานคร
ในพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตรของเขตจตุจักร เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยถึง 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ตั้งอยู่ในแขวงลาดยาว มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ตั้งอยู่ในแขวงจอมพล มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตบางเขน ตั้งอยู่ในแขวงเสนานิคม และมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ตั้งอยู่ในแขวงจันทรเกษม เป็นหนึ่งเขตที่เป็นศูนย์กลางการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน
ในพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตรนี้ ปัจจุบันมี รถไฟฟ้า ผ่านกว่า 12 สถานีและกำลังก่อสร้างอีก สามเส้นทาง (สามสาย) คือ
รถไฟฟ้ามหานคร มี 4 สถานีในสายเฉลิมรัชมงคล คือ สถานีกำแพงเพชร สถานีสวนจตุจักร สถานีพหลโยธิน และสถานีลาดพร้าว
รถไฟฟ้าบีทีเอส มี 8 สถานีในสายสุขุมวิท คือ สถานีหมอชิต สถานีห้าแยกลาดพร้าว สถานีพหลโยธิน 24 สถานีรัชโยธิน สถานีเสนานิคม สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถานีกรมป่าไม้ และ สถานีบางบัว ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของสายสุขุมวิทในปัจจุบัน
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (กำลังก่อสร้าง) รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงเข้ม (กำลังก่อสร้าง) รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน (อยู่ระหว่างการดำเนินงาน)
ในพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตรนี้ มีตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นชื่อที่ทำให้เรารู้จักเขตนี้ นั่นคือตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดในกรุงเทพมหานคร มีจำนวนแผงค้าทั้งหมดมากกว่า 8,000 ร้าน โดยแบ่งออกเป็น 27 โครงการสินค้าและสามารถจัดประเภทได้เป็น 8 ประเภท ซึ่งได้แก่ ประเภทผักและผลไม้ เครื่องแต่งกาย มุมสัตว์เลี้ยง ต้นไม้ที่หลากหลาย อาหารปรุง อาหารสำเร็จรูป อาหารสด และประเภทเบ็ดเตล็ด
ในพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตรของเขตจตุจักร ยังมีอีกหลายเรื่องราว หลายสถานที่ ที่น่าสนใจคอยต้อนรับผู้มาเยือน
เมื่อการเรียนนอกโรงเรียน ถูกให้ความสำคัญ เท่ากับในโรงเรียน
เมื่อการเรียนนอกโรงเรียน ถูกให้ความสำคัญ เท่ากับในโรงเรียน
เมื่อมาถึงวัยหนึ่ง เด็กต้องต่อสู้ทางการศึกษาเพื่อจะได้ที่นั่งในโรงเรียนที่วางแผนไว้ นั้นอาจเป็นความฝันของเด็กเองหรือเป็นความหวังของพ่อแม่ ในทุกๆ ปีการศึกษาจะมีนักเรียนประมาณ 500,000 คน จำนวนนักเรียนเหล่านี้มีส่วนในการขับเคลื่อน อุตสาหกรรม โรงเรียนกวดวิชาที่มี มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท สำหรับประเทศไทยนั้น โรงเรียนกวดวิชาเป็นผลพลอยได้จากการศึกษาในโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงขึ้นในทุกๆ ปี หากมองภาพกว้างๆ ของการศึกษา การแข่งขันมีอยู่ในทุกระดับชั้น และการศึกษาของไทยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการสอบคัดเลือก ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเกรดเฉลี่ยของนักเรียนมัธยมปลายคิดเป็น 20% ในขณะที่การสอบมาตรฐานคิดเป็น 80% ที่เหลือ เนื่องจากโครงสร้างการแข่งขันนี้นักเรียนจึงเลือกโปรแกรมของมหาวิทยาลัยโดยพิจารณาจากคะแนน วิชาเอกที่ต้องได้คะแนนสูงสุดคือการแพทย์และวิศวกรรม ส่วนวิชาที่คะแนนต่ำที่สุดคือวิชาการเรียนการสอน การเรียนพิเศษจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้นักเรียนได้รู้แนวข้อสอบใหม่ๆ มากขึ้น ได้มีโอกาสทบทวนบทเรียนที่ตกหล่นจากห้องเรียน ด้วยวิธีที่ผ่านการสรุปมาแล้วและใช้ได้ผลรุ่นแล้ว รุ่นเล่า เพื่อโอกาสในการชิงพื้นที่เข้าไปเรียนในระดับต่อไป
นักเรียนหลายคน ยังคงต้องเดินทางไปโรงเรียนกวดวิชาเพื่อชมบทเรียนที่ถ่ายทำ จากวิดีโอแต่ละรายการมีลิขสิทธิ์ ที่แสดงได้เฉพาะที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งนั้นเท่านั้น และค่าใช้จ่ายของบทเรียนเหล่านี้มีราคาค่อนข้างสูง เช่น หลักสูตรวิชาเดียวในโรงเรียนกวดวิชาที่มีชื่อเสียงอาจมีราคา 3,000 ถึง 8,000 บาท ซึ่งมากกว่าสองถึงสามเท่าของค่าเล่าเรียนสำหรับทั้งภาคการศึกษาในโรงเรียนของรัฐทั่วไป การจ้างติวเตอร์ตัวต่อตัวมาสอนเองเลยก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ทั้งลดความตึงเครียดจากความรู้สึกแปลกแยก อีกทั้งยังสามารถกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนของผู้เรียนได้ และสามารถเลือกครูที่สามารถสื่อสารเข้าใจกับเราได้
สุดท้ายการเรียนพิเศษนั้น ไม่ได้เป็นเพียงค่านิยม การเรียนพิเศษจะมีประโยชน์ แก้ไขข้อที่ไม่เข้าใจ ทำให้นักเรียนไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ได้ เป็นการสร้างลักษณะนิสัยให้รู้จักขวนขวายหาความรู้เพื่อให้ได้ความรู้ให้เพียงพอ ที่จะทำให้เราผ่านการทดสอบในทุกๆ ระดับชั้น การวางแผนทั้งวิชา และวิธีการที่จะเรียนและงบประมาณค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง เพราะการลงทุนเพื่อการศึกษา คือการลงทุนที่ มีเป้าหมายเพื่ออนาคตของเราเอง
ลูกเราพร้อมไปโรงเรียนหรือยัง
ลูกเราพร้อมไปโรงเรียนหรือยัง
การเริ่มเข้าโรงเรียนถือเป็นก้าวสำคัญ เป็นการเริ่มต้นก้าวออกไปสู่โลกกว้างของลูก และอาจกล่าวได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่สำหรับพ่อแม่และบุตรหลานของเรา ว่าแต่พวกเขาพร้อมหรือยัง แล้วเราจะช่วยให้พวกเขาเตรียมพร้อมมากขึ้นได้อย่างไร เราได้รับคำแนะนำจากคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน พร้อมคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากนักจิตวิทยาการศึกษา
มีสัญญาณอะไร หรือลูกต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรที่จะก้าวออกจากพ่อแม่แล้วไปใช้ชีวิตกับเพื่อนและคุณครู
แรกเริ่มเลย ลูกอาจจะลังเลที่จะก้าวเดินออกไปหาเพื่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณ หรือความต้องการมีเพื่อนเล่น ลูกจะสามารถเข้าหาเพื่อน และนี่เป็นสัญญาณที่ดีว่าพวกเขาพร้อมแล้ว คุณแม่ท่านหนึ่งกล่าวว่า “เราน่าจะรู้ว่าลูกของเราพร้อมที่จะสนุกกับโรงเรียนหรือไม่” “เพราะพวกเขาจะมีความสุขในการผูกมิตรกับเด็กคนอื่น ๆ และเป็นอิสระมากขึ้น ตื่นเต้นกับการเรียนรู้และอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกใบนี้ เด็กที่พร้อมทางอารมณ์คือคนที่มีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และเด็กนั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถ: รับฟังผู้อื่น สังเกตคนอื่น ๆ แบ่งปันกับผู้อื่น (อย่างน้อยก็บางครั้ง!) และ เล่นกับคนอื่น ๆ”
เวลาเข้าสังคมกับเพื่อนๆ หรือมีผู้ใหญ่มาทักทาย ลองสังเกตดูว่า ลูกของเรามีความมั่นใจในการพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ สามารถบอกผู้ใหญ่ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรโดยร้องขอสิ่งที่พวกเขาต้องการ และพวกเขาสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ได้หรือไม่ เพราะเมื่อไม่มีพ่อแม่แล้วผู้ช่วยลูกที่ใกล้ที่สุดคือคุณครู การขอความช่วยเหลือง่ายๆ หรือทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้ก็ลดความกังวลของพ่อแม่ลงไปได้
คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรกังวลว่าลูกจะสามารถจดจำหรือสร้างตัวอักษรได้ เพราะเบื้องต้นแล้ว การสื่อสารจะมาพร้อมๆ กับ ความสนุกสนานกับเรื่องราวที่คุณครูเล่าให้ฟัง เรียนรู้วิธีถือหนังสือ มีการพูดคุยเกี่ยวกับภาพที่เห็น เพราะจะนำไปสู่การแสดงความคิด ซึ่งอาจเป็นความคิดในอดีต (เรื่องราวที่เคยพบเห็น เคยฟัง) ปัจจุบัน (สิ่งที่เป็นอยู่) และอนาคต (จินตนาการ) จากนั้น เมื่ออยู่ในสังคม การฟังและสนใจในสิ่งที่คนอื่นพูด ก็เป็นการฝึกการปรับตัว เมื่อกลับมาบ้าน พ่อแม่อาจจะได้ยินคำว่า “เพื่อนเล่าว่า” การถือแปรงทาสี ดินสอและดินสอสีเป็นส่วนหนึ่งของการต้อนรับเข้าสู่ระดับ อนุบาล และพร้อมกับทักษะใหม่ ๆ ในการจัดการสิ่งของและเครื่องมือขนาดเล็กเช่นกรรไกร หรือ ดินน้ำมัน”
มีคำกล่าวอยู่ว่า “เด็กสองคนไม่เหมือนกัน” – หมายถึงเด็กแต่ละคนมีการพัฒนาในอัตราที่แตกต่างกัน หากพ่อแม่มีความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมในการเรียนของบุตรหลานโปรดขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ คุณครูที่มีประสบการณ์ ค่อยๆ ให้ลูกปรับตัว แล้วทุกๆ วันก็จะเป็นความสนุก ความสุขของลูกๆ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง