วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันพยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน
เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
ความเป็นมา
ชื่อพระโขนง คงไม่ได้เพี้ยนมาจาก ผ้าขนหนู เป็นแน่แท้ และเชื่อได้ว่าหลายๆ คนคงคุ้นชื่อ ‘พระโขนง’ มาจากตำนานหรือภาพยนตร์ที่สร้างหลายครั้งครา บางคนเคยกลัวจนไม่กล้าเก็บมะนาวใต้แคร่อย่าง “แม่นาค พระโขนง” หรือถ้าทันสมัยขึ้นมาหน่อยก็จะได้ยินในอีกชื่อว่า “พี่มาก พระโขนง” ซึ่งถ้าดูจากในหนังจะเห็นเลยว่า วิถีคนในอดีต เดินทางด้วยเรือเป็นหลัก ถ้าหากใช้คำวัยรุ่นสมัยนี้ก็คงพายเรือมาขิงกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงย่านพระโขนงเท่านั้น แทบทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯทั้งสองฝั่ง ต่างล้วนใช้การเดินทางทางน้ำเป็นการเดินทางหลัก ในปัจจุบันพระโขนงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทั้งด้านคมนาคมที่รถไฟฟ้า BTS เข้ามาแทนที่การเดินทางรูปแบบเดิม ๆ และเปลี่ยนรูปแบบที่อยู่อาศัยจากบ้านเรือนยกใต้ถุนสูง กลายเป็นคอนโดมิเนียมสูงเทียมฟ้า เขตพระโขนงบนพื้นที่ที่น้อยกว่า 18 ตารางกิโลเมตร ที่มีประชากรไม่หนาแน่นมากนักหากเทียบกับเขตอื่นๆ ของกรุงเทพฯพระโขนงมีประชากรอยู่ที่ 88000 คน (พ.ศ2563) พระโขนง เป็นอีกหนึ่งเขตที่มีความน่าสนใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย เพราะเติบโตมาจากย่านเมืองเก่าที่มีเรื่องราวหลากหลาย ที่เหมือนชะลอรอเวลาที่จะก้าวตามเขตพื้นที่อื่นๆ อย่างแรกที่จะสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้าสู่เขตย่านพระโขนง ก็คือกลิ่นอายของเมืองเก่าที่น่าจะเคยเฟื่องฟูมาก ๆ ในอดีต แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรและพื้นที่ข้างเคียงจะมีความเจริญมากมายขนาดไหน แต่เขตพระโขนงก็ยังสามารถคงเสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบท้องถิ่นย้อนยุคเอาไว้ได้ พร้อมกับปล่อยให้ความเจริญค่อยๆ เข้ามาผสมผสานกับตัวตนของย่านได้อย่างกลมกลืน บรรยากาศมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่เดินจับจ่ายใช้สอยภายในเขต ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ จะมีนักท่องเที่ยวหรือคนที่เข้ามาทำงานไม่มากนัก เราจึงได้เห็นความผูกพันบางอย่างของผู้คนกับย่านสะท้อนออกมาด้วย เขตพระโขนงนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงพยาบาล (โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาล เทพธารินทร์) ธนาคาร อนาคตอันใกล้นี้ จะมีรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทหรือสายสีเขียวเข้มวิ่งผ่าน และจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทา ท้ายที่สุดแล้วพระโขนง หนึ่งในย่านที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถนนเส้นนี้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณเพลินจิตเพลินจิตยาวไปจนถึงเขตพระโขนงและบางนาก่อนจะเข้าสู่จังหวัดทางภาคตะวันออก
วิธีช่วยคนที่คุณรักด้วยภาวะสมองเสื่อมให้นอนหลับฝันดี
หากพ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่คุณรักป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมและดูเหมือนพวกเขาไม่เคยนอนหลับสบายเลย ให้ตระหนักว่าปัญหาการนอนหลับนั้นพบได้บ่อยมากในหมู่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ในความเป็นจริงผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมประมาณ 25 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ประสบปัญหาการนอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เชื่อว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบางรายประสบปัญหารูปแบบการนอนหลับที่ไม่ต่อเนื่องเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสมองที่มีสภาวะสมองลงและส่งผลต่อจังหวะการนอน
แม้จะไม่สามารถควบคุมภาวะความเสื่อมของสมองได้ แต่มีวิธีช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับสบายตลอดคืน ดังนี้
1. หยุดหายใจขณะหลับ
ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่ามากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในสถานพยาบาลระยะยาวต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคนี้เป็นโรคเกี่ยวกับการหายใจที่ทำให้คนเราตื่นขึ้นได้มากถึง 30 ครั้งทุก ๆ ชั่วโมง โดยหอบหายใจขณะหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
หากสาเหตุของการนอนไม่หลับที่ไม่ต่อเนื่องเกิดจากการหยุดหายใจขณะหลับ ให้ทำการรักษาอาการหยุดหายใจเพื่อช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
2. ส่งเสริมการออกกำลังกายและการรับแสงแดดในตอนเช้า
มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าทั้งการออกกำลังกายและการรับแสงแดดในช่วงเช้าช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมนอนหลับได้ดีขึ้น ผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุสามารถช่วยให้คนที่คุณรักได้รับทั้งแสงและการออกกำลังกาย โดยพาพวกเขาไปเดินเล่นในตอนเช้าหรือตอนบ่าย เมื่อผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายมากขึ้นในระหว่างวัน พลังงานจะลดลงและสิ่งนี้สามารถช่วยให้สงบลงในเวลากลางคืน
3. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่อาจรบกวนการนอนหลับ
หากผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุกำลังใช้ยาหลายชนิดเพื่อช่วยควบคุมอาการสมองเสื่อม ให้ตระหนักว่ายาบางชนิดอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้ ผู้ดูแลต้องลองสังเกตว่าอาการนอนหลับไม่หลับของผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุเริ่มขึ้นไม่นานหลังจากที่พวกเขาเริ่มใช้ยาตัวใหม่ นั่นอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของยาที่รบกวนการนอน
ลองปรึกษาแพทย์เพื่อปรับตัวยาหรือเวลารับประทานยา บางครั้งการปรับเปลี่ยนเวลารับประทานยา เช่น การทานในตอนเช้าแทนที่จะเป็นตอนเย็น การลดขนาดยาลงเล็กน้อย หรือการเปลี่ยนใช้ยาอื่น อาจทำให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน
4. ดูแลภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
การดูแลภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุช่วยตอนกลางคืนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุนอนหลับสบาย แต่ยังช่วยป้องกันการติดเชื้ออีกด้วย เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนังและทางเดินปัสสาวะ หากจำเป็นผู้ดูแลควรตรวจสอบและเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก ๆ 3 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนผู้ดูแลควรเปิดไฟแสงสลัวขณะตรวจดูอุจจาระและปัสสาวะ และทำการเปลี่ยนผ้าอ้อมอย่างนุ่มนวลและรวดเร็วเพื่อให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุนอนหลับอย่างสบาย
ผู้ดูแลผู้สูงอายุคือเพื่อนใหม่ในวัยเกษียณ
หากคุณมีพ่อแม่สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง เมื่อสมาชิกในครอบครัวไม่สามารถอยู่ดูแลผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านอาจเป็นบริการที่เป็นประโยชน์ ผู้สูงอายุจะได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันและมีเพื่อนแก้เหงา
ประโยชน์จากการใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
1. การแจ้งเตือนยา
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวจะมีปัญหาในการจดจำว่าควรทานยาทุกวันเมื่อใด การขาดยาที่สำคัญอาจมีผลร้ายแรง ข้อดีอย่างหนึ่งของการมีผู้ช่วยดูแลที่บ้านคือพวกเขาจะเก็บบันทึกเวลาและตารางการใช้ยาในแต่ละวันการเตือนความจำเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องความจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุจะได้รับประโยชน์อย่างมาก
2. ความช่วยเหลือในการดูแลเรื่องส่วนตัวและอาบน้ำ
3. เตรียมอาหาร
ผู้ดูแลผู้สูงอายุจะช่วยดูแลเรื่องการรับประทานอาหารของผู้สูงอายุ รวมถึงการเตรียมอาหารและดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุไม่ละเลยการกินอย่างเหมาะสม ผู้ดูแลจะช่วยสังเกตว่าอาหารประเภทใดหรือเมนูอะไรที่ผู้สูงอายุโปรดปรานและร่วมรับประทานอาหารเป็นเพื่อนกันผู้สูงอายุ สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุกินอาหารอย่างมีความสุขและช่วยลดอาการเบื่ออาหารได้
4. ดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อย
การรักษาบ้านให้เป็นระเบียบอาจเป็นงานน่าเบื่อสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวหรือติดเตียงชั่วคราว ดังนั้นผู้ดูแลผู้สูงอายุสามารถแบ่งเบางานบางอย่างรวมถึงการทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น ล้างจาน ปัดฝุ่น ปูเตียง หรือซักผ้า
5. ช่วยจัดการธุระนอกบ้าน
ผู้ดูแลผู้สูงอายุช่วยเป็นธุระซื้อของที่จำเป็น ทำธุระทั่วไป และยังสามารถเป็นเพื่อนผู้สูงอายุไปหาหมอหรือนัดสำคัญอื่นๆ ได้อีกด้วย
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง