ดูแลผู้สูงอายุ ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

ดูแลใส่ใจผู้สูงวัยในช่วงโควิด 19

ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ ได้ง่ายมากกว่าคนในวัยอื่น ๆ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงตามวัย แม้ว่าสุขภาพโดยรวมจะแข็งแรงสมบูรณ์ดีก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นในช่วงโควิด-19 ระบาดควรให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุเป็นพิเศษ ควรต้องทำอย่างไร

- ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารที่สะอาดถูกสุขลักษณะปรุงสุกใหม่ ๆ ตามหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง” เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงและควรให้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

- ให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยท่าทางง่ายๆ เช่น การเดิน หรือแกว่งแขนออกกำลังกายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย

- หากผู้สูงอายุ มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะและการไปในที่แออัด และควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อกลับถึงบ้านควรอาบน้ำสระผมทำความสะอาดร่างกายและของใช้ที่ติดตัวกลับมาจากนอกบ้าน รวมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที

- ให้ผู้สูงอายุล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่นาน 20 วินาที หากไม่สะดวกล้างมือด้วยสบู่ สามารถใช้แอลกอฮอล์เจลได้

- งดให้ผู้สูงอายุออกไปรวมกลุ่ม ร่วมกิจกรรม หรือไปที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก เพื่อความปลอดภัย



วัดลาดพร้าว วัดใหญ่ใจกลางกรุง

วัดลาดพร้าว สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2413 โดยชาวบ้านลาดพร้าวได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาดพร้าวในสมัยนั้น โดยเริ่มต้นสร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นมาประมาณ 2-3 หลังก่อน แล้วได้นิมนต์พระอาจารย์เพิ่ม มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัด ในระยะแรกนี้ยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2417 คณะสงฆ์และชาวบ้านลาดพร้าวได้เห็นสมควรให้มีการย้ายวัดมาอยู่ที่วังลาดพร้าว เพราะสถานที่เดิมเป็นที่ดอนไม่สะดวกต่อการที่ พระสงฆ์และสามเณรจะใช้น้ำ จึงได้ย้ายวัดมาสร้างใหม่ที่วังลาดพร้าว เพราะที่แห่งใหม่นี้อยู่ใกล้แหล่งน้ำมากกว่าจึงสะดวกต่อการใช้น้ำ และเป็นสถานที่ตั้งวัดในปัจจุบันนั่นเอง

วัดลาดพร้าว เป็นวัดที่มีความเงียบสงบและมีความสวยงาม เมื่อเข้าไปภายในวัดจะพบกับพระวิหารที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับยืน 3 องค์ บนชั้น 2 ของอาคาร

จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ ปราสาทซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า ที่ได้อัญเชิญมาจาก ประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์ดาวดึงส์เหนือเศียรพระเจ้าเปิดโลก

ชั้นล่างของวิหารจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการทำบุญ มีรูปปั้นเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อโต เจ้าแม่กวนอิม และพระพรหมวัดลาดพร้าว เป็นต้น

ส่วนชั้นสองของพระวิหาร มีหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง เป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่กลางวิหาร ส่วนภายในวิหารทางวัดได้สร้างพระพุทธรูปจำลองไว้มากมาย อาทิเช่น หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อเพชร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม นำมาประดิษฐานไว้ เรียกได้ว่ามา วัดลาดพร้าวเพียงวัดเดียว สามารถไหว้พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ได้เกือบทั้งประเทศ

การเดินทาง : จากถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าถนนโชคชัย 4 ผ่านโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว-วังหิน บริเวณสี่แยกตรงไปประมาณ 800 เมตร จะเห็นวัดลาดพร้าวอยู่ทางด้านซ้ายมือ ติดกับศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์

ที่ตั้ง : หมู่ 9 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ



ร้าน เฝอ' 54 เฝอหม้อไฟ ที่ใครๆ ก็ต้องมาลอง

ร้านอาหารสไตล์เวียดนาม ร้านนี้มีชื่อว่า เฝอ' 54 ซึ่งอาหารของที่ร้านมีการประยุกต์ฺให้เป็น เฝอ' หม้อไฟ สไตล์ L.A. โดยได้ไอเดียมาจากตอนที่เจ้าของร้านได้ไปเรียนที่อเมริกา และได้ลองรับประทานอาหารเวียดนามที่เรียกว่า เฝอ แล้วรู้สึกติดใจในรสชาติของอาหารเวียดนามจานนี้เป็นอย่างมาก และที่ชอบมากสุดจะเป็นน้ำจิ้ม ที่มีรสชาติแปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร จึงได้นำมาประยุกต์ให้เป็น เฝอ' หม้อไฟ สไตล์ L.A.

เฝอ' 54 มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน ภายในร้าน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ จึงทำให้ร้านเฝอ' 54 นั้นดูแปลกใหม่และน่าสนใจมาก แต่ด้วยปัญหาของพื้นที่ร้านที่ไม่ได้กว้างมากนัก ทำให้ร้านยังคงมีปัญหาในเรื่องพื้นที่รองรับลูกค้าที่อาจจะน้อยไปสักนิด ถ้าเทียบกับปริมาณลูกค้าในแต่ละวัน และลูกค้าอาจจะต้องเสียเวลาในการต่อแถวเพื่อรอคิว

เมนูอาหารของร้าน เฝอ' 54 จะมีอยู่ประมาณ 35 เมนู โดยแต่ละเมนูก็มีราคาย่อมเยา และนี่เป็นอีกสาเหตุที่มีคนมาอุดหนุนร้านนี้อย่างไม่ขาดสาย และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของทางร้านก็คือ น้ำจิ้มรสเด็ดของร้าน เฝอ' 54

เพราะเป็นน้ำจิ้มที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นเองโดยนำสูตรของเฝอแบบเวียดนามมาประยุกต์กับรสชาติแบบไทยๆ เรียกว่า เป็นสูตรน้ำจิ้มที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ยิ่งเมื่อได้รับประทานกับเมนูอาหารสดของที่ร้าน เฝอ' 54 ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป

การเดินทาง มาที่ร้าน เฝอ' 54 ถ้าอยู่แถวลาดพร้าว-โชคชัย4-วังหิน สามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวหรือรถสองแถว หรือแนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ เพราะร้านจะอยู่ประมาณกลางซอยโชคชัย 4 หรือโชคชัย 4 แยก 54 โดยสามารถนั่งรถมาได้ทั้ง 2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นถนน ลาดพร้าว และถนน เกษตร-นวมินทร์ เมื่อมาถึงโชคชัย 4 แยก 54 ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมถนน

ที่อยู่ : 688 ลาดพร้าววังหิน 60 ถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ