ดูแลผู้สูงอายุ ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราที่บ้านมีข้อดีอย่างไรบ้าง ใส่ใจขออธิบายข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้

1) การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับลูกหลานที่มีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุของตน หลาย ๆ คนอาจมีงานหรือภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา การจ้างคนดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพจึงเหมือนการได้ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามที่คุณไม่สะดวกด้วยเช่นกัน
2) ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลที่ศูนย์ดูแล บ้านพักคนชราหรือ เนอสซิ่งโฮม(Nursing Home)แล้ว จำนวนผู้สูงอายุที่มีมากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามาก
3) ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านต่าง ๆ เพราะผ่านการฝึกอบรมการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะการดูแลกิจวัตรประจำวัน เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดตัว หรือความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และยังสามารถพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเพื่อให้ไม่รู้สึกเหงาด้วยเช่นกัน
4) ผู้สูงอายุไม่รู้สึกแปลกสถานที่เนื่องจากความเคยชินเพราะได้อยู่ที่บ้าน และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่างไกลจากลูกหลาน อีกทั้งยังคงได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่สำคัญสภาพแวดล้อมภายในบ้านสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และไม่วิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อรับรู้ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากต้องการคนเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของคุณ ทางใส่ใจมีบริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่น่าไว้ใจให้คุณ

ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ดูแลใส่ใจผู้สูงวัยในช่วงโควิด 19

ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ ได้ง่ายมากกว่าคนในวัยอื่น ๆ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงตามวัย แม้ว่าสุขภาพโดยรวมจะแข็งแรงสมบูรณ์ดีก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นในช่วงโควิด-19 ระบาดควรให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุเป็นพิเศษ ควรต้องทำอย่างไร

- ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารที่สะอาดถูกสุขลักษณะปรุงสุกใหม่ ๆ ตามหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง” เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงและควรให้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

- ให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยท่าทางง่ายๆ เช่น การเดิน หรือแกว่งแขนออกกำลังกายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย

- หากผู้สูงอายุ มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะและการไปในที่แออัด และควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อกลับถึงบ้านควรอาบน้ำสระผมทำความสะอาดร่างกายและของใช้ที่ติดตัวกลับมาจากนอกบ้าน รวมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที

- ให้ผู้สูงอายุล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่นาน 20 วินาที หากไม่สะดวกล้างมือด้วยสบู่ สามารถใช้แอลกอฮอล์เจลได้

- งดให้ผู้สูงอายุออกไปรวมกลุ่ม ร่วมกิจกรรม หรือไปที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก เพื่อความปลอดภัย



วัดลาดพร้าว วัดใหญ่ใจกลางกรุง

วัดลาดพร้าว สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2413 โดยชาวบ้านลาดพร้าวได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาดพร้าวในสมัยนั้น โดยเริ่มต้นสร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นมาประมาณ 2-3 หลังก่อน แล้วได้นิมนต์พระอาจารย์เพิ่ม มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัด ในระยะแรกนี้ยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2417 คณะสงฆ์และชาวบ้านลาดพร้าวได้เห็นสมควรให้มีการย้ายวัดมาอยู่ที่วังลาดพร้าว เพราะสถานที่เดิมเป็นที่ดอนไม่สะดวกต่อการที่ พระสงฆ์และสามเณรจะใช้น้ำ จึงได้ย้ายวัดมาสร้างใหม่ที่วังลาดพร้าว เพราะที่แห่งใหม่นี้อยู่ใกล้แหล่งน้ำมากกว่าจึงสะดวกต่อการใช้น้ำ และเป็นสถานที่ตั้งวัดในปัจจุบันนั่นเอง

วัดลาดพร้าว เป็นวัดที่มีความเงียบสงบและมีความสวยงาม เมื่อเข้าไปภายในวัดจะพบกับพระวิหารที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับยืน 3 องค์ บนชั้น 2 ของอาคาร

จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ ปราสาทซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า ที่ได้อัญเชิญมาจาก ประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์ดาวดึงส์เหนือเศียรพระเจ้าเปิดโลก

ชั้นล่างของวิหารจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการทำบุญ มีรูปปั้นเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อโต เจ้าแม่กวนอิม และพระพรหมวัดลาดพร้าว เป็นต้น

ส่วนชั้นสองของพระวิหาร มีหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง เป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่กลางวิหาร ส่วนภายในวิหารทางวัดได้สร้างพระพุทธรูปจำลองไว้มากมาย อาทิเช่น หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อเพชร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม นำมาประดิษฐานไว้ เรียกได้ว่ามา วัดลาดพร้าวเพียงวัดเดียว สามารถไหว้พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ได้เกือบทั้งประเทศ

การเดินทาง : จากถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าถนนโชคชัย 4 ผ่านโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว-วังหิน บริเวณสี่แยกตรงไปประมาณ 800 เมตร จะเห็นวัดลาดพร้าวอยู่ทางด้านซ้ายมือ ติดกับศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์

ที่ตั้ง : หมู่ 9 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ



ร้าน เฝอ' 54 เฝอหม้อไฟ ที่ใครๆ ก็ต้องมาลอง

ร้านอาหารสไตล์เวียดนาม ร้านนี้มีชื่อว่า เฝอ' 54 ซึ่งอาหารของที่ร้านมีการประยุกต์ฺให้เป็น เฝอ' หม้อไฟ สไตล์ L.A. โดยได้ไอเดียมาจากตอนที่เจ้าของร้านได้ไปเรียนที่อเมริกา และได้ลองรับประทานอาหารเวียดนามที่เรียกว่า เฝอ แล้วรู้สึกติดใจในรสชาติของอาหารเวียดนามจานนี้เป็นอย่างมาก และที่ชอบมากสุดจะเป็นน้ำจิ้ม ที่มีรสชาติแปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร จึงได้นำมาประยุกต์ให้เป็น เฝอ' หม้อไฟ สไตล์ L.A.

เฝอ' 54 มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน ภายในร้าน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ จึงทำให้ร้านเฝอ' 54 นั้นดูแปลกใหม่และน่าสนใจมาก แต่ด้วยปัญหาของพื้นที่ร้านที่ไม่ได้กว้างมากนัก ทำให้ร้านยังคงมีปัญหาในเรื่องพื้นที่รองรับลูกค้าที่อาจจะน้อยไปสักนิด ถ้าเทียบกับปริมาณลูกค้าในแต่ละวัน และลูกค้าอาจจะต้องเสียเวลาในการต่อแถวเพื่อรอคิว

เมนูอาหารของร้าน เฝอ' 54 จะมีอยู่ประมาณ 35 เมนู โดยแต่ละเมนูก็มีราคาย่อมเยา และนี่เป็นอีกสาเหตุที่มีคนมาอุดหนุนร้านนี้อย่างไม่ขาดสาย และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของทางร้านก็คือ น้ำจิ้มรสเด็ดของร้าน เฝอ' 54

เพราะเป็นน้ำจิ้มที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นเองโดยนำสูตรของเฝอแบบเวียดนามมาประยุกต์กับรสชาติแบบไทยๆ เรียกว่า เป็นสูตรน้ำจิ้มที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ยิ่งเมื่อได้รับประทานกับเมนูอาหารสดของที่ร้าน เฝอ' 54 ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป

การเดินทาง มาที่ร้าน เฝอ' 54 ถ้าอยู่แถวลาดพร้าว-โชคชัย4-วังหิน สามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวหรือรถสองแถว หรือแนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ เพราะร้านจะอยู่ประมาณกลางซอยโชคชัย 4 หรือโชคชัย 4 แยก 54 โดยสามารถนั่งรถมาได้ทั้ง 2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นถนน ลาดพร้าว และถนน เกษตร-นวมินทร์ เมื่อมาถึงโชคชัย 4 แยก 54 ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมถนน

ที่อยู่ : 688 ลาดพร้าววังหิน 60 ถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ