ดูแลเด็ก ใน บางนา, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางนา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

อดทน มีความตั้งใจในการทำงาน ขยัน

แสดงเพิ่มเติม

ผ่านหลักสูตร คุรุศาสตร๋มหาบัณฑิตด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักเด็ก ถึงแม้ตัวเองจะไม่มีบุตร เคยรับเลี้ยงเด็กในซอยวัยก่อนเข้าเรียน เพราะพ่อแม่เด็กต้องทำงาน จะซื้อของเล่นและพาไปเที่ยวในละแวกใกล้ หรือถ้าพ่อแม่อนุญาตก็พาไปไกลได้ ชอบซื้อขนมและสิ่งของต่างๆแจกเด็กในซอย

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
ญาณิศา  เฟื่องฟู
ญาณิศา เฟื่องฟู
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์

การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น มีความรู้ด้านศิลปะ ช่วยเสิรมสร้างพัฒนาเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 23 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ชลาลัย แสงอร่าม
ชลาลัย แสงอร่าม
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ ชื่อกิ๊ฟนะคะ เป็นคนรักเด็กถึงไม่มีลูกเป็นของตัวเองแต่มีหลานที่รักมากๆ ค่ะ เราจะดูแลลูกหลานคุณให้เหมือนดูแลหลานเราเลยค่ะ ปัจุบันทำงานประจำอยู่อยากหารายได้เพิ่ม โดยดูแลเด็กหลังเลิกเรียน หรือ เสาร์ อาทิตย์ ฝากพิจารณาด้วยนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
ภาวิณี  พรมสี
ภาวิณี พรมสี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบและต้องใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็ก อายุ 1 ปี 5 เดื่อน และ 2 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ความน่าสนใจ ของทำเลย่านบางนา

ใครจะคิดว่าเขตบางนา ชานเมืองที่ครั้งหนึ่งมีแต่อุตสาหกรรม และโรงงานเต็มไปหมด วันนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เป็นทำเลที่มีศักยภาพแนวหน้าของกรุงเทพฝั่งตะวันออก ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเขตบางนากันก่อน บางนา

เป็นเขตหนึ่งของกรุงเทพมหานครที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่หนาแน่นมาก ทั้งแหล่งการค้า บริการ อุตสาหกรรม ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนติดกับจังหวัดสมุทรปราการและยังเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าไปภาคตะวันออกสู่นิคมอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยองเป็นต้น ส่งผลให้ย่านนี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ที่มีนายทุนจากหลายแห่งเข้าไปลงทุน อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้บางนาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มาจากโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ที่เชื่อมต่อมาจากสุขุมวิทตอนกลาง ขยายตัวมาจนถึงเขตบางนา ส่งผลให้เกิดความเจริญดังกล่าว บางนาถือเป็นทำเลที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และเชื่อว่าในอนาคตจะเป็นย่านที่มีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากสิ่งต่างๆที่อำนวยความสะดวกสบายและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมี โครงการเมกะโปรเจคของรัฐบาล โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศให้ก้าวเข้าสู่เวทีโลกอย่าง Eastern Economic Corridor : EEC หรือระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วส่งผลให้บางนามีโอกาสในการเติบโตและขยายตัวเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่า ไม่มีพื้นที่ไหนในกรุงเทพที่มีการสร้างเมกะโปรเจคที่หนาแน่นอย่างกับบางนา นอกจากนี้บางนายังเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากและมีสถานศึกษาชั้นนำโดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติเช่น Verso International School บางกอกพัฒนา และยังมีแหล่งงานเพียงพอที่สามารถรองรับการเติบโตของประชากรได้เป็นอย่างดี



Mega HarborLand สนามเด็กเล่นในร่มแห่งใหม่ ที่ใหญ่ที่สุด

พูดถึงสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ต้องยกให้ ฮาร์เบอร์แลนด์ เกาะมหาสนุก สาขา เมกาบางนา โดยใช้ชื่อว่า The MEGA Family Playground Complex ซึ่งมาในธีม “Happy Farm” ฟาร์มสนุก สีสันสดใส เต็มไปด้วยผักผลไม้ ที่มีพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร ที่รวมเครื่องเล่นไว้มากมายเพื่อสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กๆ พร้อมกับความสนุกสนาน และยังมีพื้นที่สำหรับครอบครัวให้มาสนุกร่วมกันไปพร้อมกับเด็กๆ ภายในมีด้วยกัน 8 โซน แต่ละโซนมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. ZONE HarborLand โซนใหญ่ที่สุด ที่รวมของเล่นไว้อย่างมากมาย ทั้งสไลเดอร์ บ้านบอลที่มีหลายรูปแบบ ซึ่งเครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อกัน ให้สามารถปีนป่ายเต็มที่ ช่วยพัฒนาระบบกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของเด็กๆ โดยเครื่องเล่นทุกชนิด ตกแต่งเป็นลายผลไม้ทั้งหมด

2. ZONE Rollerland ลานสเก็ตที่ร่ม ออกแบบมาเพื่อให้เด็กๆ ได้เล่นสเก็ตกันอย่างปลอดภัย มาพร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน็อก สนับเข่า สนับศอก หากน้องๆคนไหนเล่นไม่เป็น จะมีครูฝึกพิเศษให้ 15 นาที

3. ZONE Laser Battle โซนนี้จะเป็นเกมเลเซอร์ ที่มาจากประเทศออสเตรเลีย เหมาะกับสายบู๊ ที่ชอบเกมยิง โดยจะมีเสื้อเกราะและปืนเป็นของตัวเอง ก่อนการเล่นจะมีการแบ่งทีมกันก่อน 1 ทีมรองรับได้มากถึง 30 คน

4. ZONE Jump Z สนามแทรมโพลีน สำหรับกระโดดสูง ที่มีกิจกรรมภายในหลากหลายรูปแบบ ทั้งกระโดดโยนบอล เกมมวยทะเลเป็นต้น ไม่ต้องกลัวว่าจะล้มแล้วเจ็บตัวเนื่องจากเป็นเบาะลม

5. ZONE MotorCity เมืองจำลองที่แรกในเอเชียก็ว่าได้ ภายในจะโซนแยกย่อยออกไป เช่น โซนขับรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับเด็กเล็ก โซนฝึกขับรถบนสนามจำลองเป็นต้น

6. ZONE bit.playground สวนสนุกดิจิทัล ที่มีด้วยกัน 10 ด่าน แต่ละด้านก็จะสนุกสนานต่างกันออกไป ซึ่งจะฉายเลเซอร์ลงบนพื้น เสมือนว่าเราอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง มีหลายด่านให้เด็กๆ ได้ลองสนุกกัน

อีก 2 โซนได้แก่ ZONE GameLand แหล่งรวมตู้เกม และเกมสนุกสนาน และ ZONE AdventureLand ที่มาพร้อมความสนุกอย่างการปีนไต่เชือกด่านต่างๆ ซึ่ง 2 โซนนี้คาดว่าจะสร้างในอนาคตอันใกล้นี้



ควรสอนอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกรู้จักการเข้าสังคม

เด็กแต่ละคนจะมีนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ทั้งบุคลิกภาพ ความชอบ อารมณ์ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ มาจากปัจจัยหลายๆ อย่างบวกกับสภาพแวดล้อมโดยตรงของตัวเด็ก โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นตัวหล่อหลอมทุกๆ อย่างให้กับเด็ก

เนื่องจากปัจจุบันครอบครัวส่วนใหญ่จะอยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยว แยกออกมาเพื่อความเป็นส่วนตัว ปัญหาที่เชื่อว่าหลายครอบครัวกังวลคือ การเข้าสังคมของลูก ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับเด็กโดยตรงได้ในอนาคต กับสังคมในโรงเรียน และสังคมการทำงาน เนื่องจากต้องมีการพูดคุยสื่อสารกันอยู่แล้ว มาดู 4 วิธีที่จะทำให้เด็กเข้าสังคมได้และเป็นที่รักของผู้อื่น

1.ให้ลูกทำความคุ้นเคยกับการเข้าสังคมตั้งแต่ยังเด็ก ลักษณะครอบครัวในปัจจุบันที่เป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เด็กไม่มีโอกาสในการเข้าสังคมในระหว่างก่อนเข้ารับการศึกษา ต้องรอจนถึงวัยเรียนถึงจะได้เจอกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ หรือญาติสนิท วิธีที่จะทำให้เด็กคุ้นเคยกับผู้อื่นได้ดีเช่น การพาเด็กไปพบกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงในวัยเดียวกัน ญาติพี่น้องรุ่นราวคราวเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ลูกได้มีเวลาร่วมกับเพื่อนแบบอิสระ

2.เลี้ยงลูกแบบสบาย ไม่ประคบประหงมจนเกินไป และไม่เข้าไปแก้ปัญหาจากการกระทบกระทั่งกับเด็กคนอื่น เพื่อช่วยให้เด็กมีทักษะในการจัดการปัญหา ปรับตัว เข้าใจนิสัยของตนเอง เพื่อเรียนรู้ผลพฤติกรรมจากการกระทำของตนเองช่วยให้เด็กดูแลตัวเองได้ แต่บางครั้งหากเด็กมีอาการกังวลหรือปัญหาเกินกว่าจะแก้ได้ ผู้ปกครองก็ควรช่วยแก้ พร้อมกับสอน แนะนำแนวทางที่ถูกต้องควบคู่ไปด้วย

3.พาลูกไปเจอสังคมที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เพียงสังคมในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนในโรงเรียนเพียงเท่านั้น พาไปเจอสังคมของเพื่อนพ่อแม่ หรือเมื่อมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจเช่น งานอีเว้นท์ต่างๆ ควรพาเด็กไปเข้าร่วม ช่วยให้สังคมของลูกเปิดกว้างมากขึ้น

4.สอนให้ลูกคิดว่า การพูดคุยกับคนไม่ใช่เรื่องน่าอาย โดยเฉพาะการพูดจาแบบเป็นมิตร สุภาพเรียบร้อย ยิ่งเราเป็นเด็กช่างพูด ช่างจาผู้คนจะรักและเอ็นดูเรา

ที่สำคัญเรื่องมารยาทในการแสดงออก ควรสอนให้เด็กแสดงออกอย่างเหมาะสมและถูกกาลเทศะ ไม่ส่งเสริมการแสดงออกที่ดูเกินหน้าเกินตาเด็กในวัยเดียวกัน เพราะเด็กอาจถูกมองว่าเป็นเด็กแก่แดดได้ แต่ไม่ควรปิดกั้น ควรสอนในเชิงของความเป็นเหตุเป็นผล อธิบายและสร้างความเข้าใจ ที่สำคัญผู้ปกครองควรปลูกฝังลูกตั้งแต่ยังเล็กว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด เหมือนสุภาษิตคำพังเพยที่ว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก”