ติวเตอร์ ใน บางขุนเทียน, กรุงเทพมหานคร

บางขุนเทียน ถิ่นบ้าน นามมี

เทียนว่าเทียนแสงสี สว่างเหย้า

เย็นยามพระสุริยสี ลาโลก ลงแม่

เทียนแม่จุดจักเข้า สู่ห้องหาใคร

“นิราศนรินทร์” ของนายนรินทรธิเบศร์ มหาดเล็กพระราชวังบวร แต่งขึ้นคราวตามเสด็จสมเด็จบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์เสด็จยกกองทัพหลวงไปรบพม่า ซึ่งยกเข้ามาตีเมืองถลางและเมืองชุมพร ประมาณปี พ.ศ. 2352 ช่วงต้นรัชกาลที่ 2

คำขวัญของเขต “บางขุนเทียน ลวงพ่อไปล่วัดกำแพง แหล่งโรงงานอุตสาหกรรม วัฒนธรรมมอญบางกระดี่ พื้นที่ทะเลกรุงเทพ” เขตบางขุนเทียนมีพื้นที่ทั้งหมด 120.687 ตารางกิโลเมตร มีประชากรทั้งหมด 186,144 คน เขตบางขุนเทียน เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร โดยสภาพพื้นที่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขตเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และการค้า มีเขตอุตสาหกรรม แต่ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตเกษตรกรรมและมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เนื่องจากเป็นเขตเดียวของกรุงเทพมหานคร ที่มีพื้นที่ติดทะเลอ่าวไทยระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร มีหลักเขตที่ 28 ติดต่อกับ จ.สมุทรปราการ และหลักเขตที่ 29 ติดต่อกับ จ.สมุทรสาคร (หลักเขตติดตั้งริมถนนพระรามที่ 2) และยังมีป่าชายเลนหลงเหลืออยู่ หลังจากที่ได้มีการรวมจังหวัดธนบุรีและจังหวัดพระนครเป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรีและเปลี่ยนเป็นกรุงเทพมหานคร แบ่งพื้นที่ออกเป็นเขตและแขวงแทนอำเภอและตำบล อำเภอบางขุนเทียนจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร มีเขตการปกครอง 7 แขวง ได้แก่ แขวงบางขุนเทียน แขวงบางค้อ แขวงจอมทอง แขวงบางมด แขวงท่าข้าม แขวงบางบอน และแขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ตั้งอยู่ทางใต้สุดของกรุงเทพมหานคร มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่การปกครองต่าง ๆ เรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับเขตบางบอนและเขตจอมทอง มีทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย คลองวัดสิงห์ คลองสนามชัย คลองวัดกก คลองบัว (คลองตาเปล่ง) และคลองตาสุกเป็นเส้นแบ่งเขต ทิศตะวันออก ติดต่อกับเขตทุ่งครุและอำเภอพระสมุทรเจดีย์ (จังหวัดสมุทรปราการ) มีคลองบางมด คลองรางแม่น้ำ คลองรางด้วน (คลองสวน) คลองรางกะนก คลองนา คลองหัวกระบือ และคลองขุนราชพินิจใจ (คลองกง) เป็นเส้นแบ่งเขต ทิศใต้ จรดอ่าวไทย ทิศตะวันตกติดต่อกับตำบลพันท้ายนรสิงห์และตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีแนวแบ่งเขตการปกครองระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรสาคร คลองบางเสาธง แนวแบ่งเขตการปกครองระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรสาคร คลองสอง คลองแยกพะเนียง คลองตาแม้น คลองแสมดำใต้ และคลองแสมดำเหนือเป็นเส้นแบ่งเขต

ถ้หากเราพูดถึง ทะเลกรุงเทพฯ หลายคนคงจะนึกถึงที่นี่ เขตบางขุนเทียน สุดทางของกรุงเทพที่ติดกับทะเล เราอาจจะเรียกได้ว่าเป็น ที่เที่ยวกรุงเทพที่ให้ความรู้สึกของการไปทะเลได้ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลต่างจังหวัดลองไปสัมผัส บางขุนเทียน หรือ ป่าชายเลนบางขุนเทียนกัน ที่นี่นับว่าเป็นป่าชายเลนแหล่งสุดท้ายของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ ป่าชายเลนของเขตบางอยู่ติดฝั่งทะเลอ่าวไทย มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กิจกรรมยอดนิยมที่เมื่อมาเที่ยวบางขุนเทียน คือการเช่าเรือออกไปชมทะเล สูดดมกลิ่นอายของธรรมชาติและป่าโกงกาง สำหรับสายปั่น ลองมาปั่นจักรยานบนสะพานไม้ยาวกว่า 2 กิโลเมตร และชมธรรมชาติในป่าชายเลน สะพานไม้ที่ต่อออกไปในทะเลยาวกว่า 300 เมตร ที่สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศป่าชายเลน รวมทั้งพืชและสัตว์น้อยใหญ่ที่สำคัญแห่งเดียวของกรุงเทพฯ ด้วย

ความที่บางขุนเทียน มีพื้นที่ติดชายทะเลทางฝั่งอ่าวไทย เลยทำให้ตัวแบ่งเขตระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดข้างเคียงนั้นอยู่กลางทะเล ซึ่งมีสองเขต คือหลักเขตที่ 28 แบ่งระหว่างกรุงเทพฯ และกับสมุทรปราการ และหลักเขตที่ 29 แบ่งระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุทรสาคร โดยทั้งสองหลักเขตนี้ห่างกัน 5 กิโลเมตร ที่หลักเขตนี้ไปตั้งอยู่กลางทะเลได้ เพราะคลื่นได้พัดเอาตะกอนของแนวพื้นดินหายไป และกำลังเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติครั้งสำคัญที่ทำลายผืนดินของประเทศให้สูญหายไปเฉลี่ยปีละประมาณ 25 เมตร หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท พื้นที่ชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนมีระยะทางยาวกว่า 4.7 กิโลเมตร และกว่า 20 ปีที่ผ่านมาพื้นที่ถูกคลื่นเซาะไปแล้วกว่า 900 เมตร อีกทั้งยังเกิดการทรุดตัวของดินปีละกว่า 1-2 เซนติเมตร กว่าจะรู้ตัวปรากฏการณ์เหล่านี้ก็ทำให้หลักเขตไปอยู่กลางทะเลเสียแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปชมหลัก สามารถติดต่อเรือท่องเที่ยวได้จากท่าเรือวัดประชาบำรุง (วัดลูกวัว) และท่าเรือโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ หลักเขตที่ 28 วันนี้กลายเป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวของบางขุนเทียน สำหรับจุดชมวิวไฮไลท์ของบริเวณ ป่าชายเลนบางขุนเทียนนั้น จะอยู่ปลายสะพานที่เป็นจุดชมวิวทะเล ระหว่างทางจะเป็นเหมือนอุโมงค์ต้นไม้ สามารถแวะถ่ายรูป ในมุมสวยๆ ก่อนจะเดินไปถึงจุดชมวิวทะเลนั้น ปากทางออกสวยงามมากและพอพ้นบริเวณอุโมงค์ไม้ ก็จะมาพบศาลานั่งเล่นอยู่สองข้าง และแน่นอนว่าสุดปลายของทางเดินจะมองเห็นผืนน้ำทะเลอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ จะเห็นฝูงนกกระยาง นกนางนวล กำลังพักผ่อนและหาอาหารอยู่บริเวณแนวชายฝั่ง ก่อนกลับแวะทานอาหารทะเล ชมวิวทะเลสสวยๆ ครบหนึ่งวันพักผ่อนทะเลกรุงเทพ

1. เข้าใจจุดมุ่งหมายของการสอนหรือการบรรยาย

ผู้สอนหรือผู้บรรยายต้องเข้าใจก่อนว่า จุดประสงค์ในการบรรยายแต่ละครั้งนั้นเพื่ออะไร ต้องการให้ผู้ฟังบรรยายได้อะไรจากนำเสนอ เช่น เป็นการบรรยายเพื่อนำเสนอข้อมูลหรือเนื้อหาใหม่ๆ เกี่ยวกับบทเรียน การบรรยายเพื่อสร้างความกระจ่างในบทเรียนที่ผ่านมา หรือเป็นการให้คำแนะนำสำหรับงานครั้งต่อๆ ไป เพื่อให้ผู้บรรยายหรือผู้สอนได้เตรียมเนื้อหาให้สอดคล้องกับการบรรยายแต่ละครั้ง ให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุด

2. เตรียมสื่อการสอน

ตรวจสอบสิ่งที่คุณต้องนำไปในการบรรยายหรือบทช่วยสอนแต่ละครั้ง เช่น งานพิมพ์ของการอ่าน หนังสือเรียน บันทึกย่อของคุณ คำตอบสำหรับคำถามล่วงหน้า…ฯลฯ

3. ลงมือทำ

การได้มีส่วนร่วมระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เช่น การบรรยายเชิงปฏิบัติการหรือเวิร์กช็อป ให้ผู้เรียนได้ลองลงมือทำ หรือทำการนำเสนอเนื้อหาโดยสรุปตามความเข้าใจของผู้เรียน เพื่อที่ผู้สอนจะได้รู้ว่า ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนนั้นๆ หรือไม่ มีโอกาสให้ความรู้เพิ่มเติมหรือแก้ไขความเข้าใจที่ผู้เรียนอาจหลงประเด็น

4. ตรวจสอบแผนการเรียนของคุณ

ดูแผนการศึกษาหรือหลักสูตรของคุณ และตรวจสอบวันครบกำหนดที่คุณจะมาถึงหลังจากการสอนหรือการบรรยายของคุณ บางทีคุณอาจมีเรียงความที่จะครบกำหนดในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาในหัวข้อเดียวกันกับหัวข้อในชั้นเรียน ถ้าใช่ ให้ใช้เวลาสิบนาทีทบทวนคำถามเรียงความของคุณเพื่อดูว่าคุณเข้าใจหรือไม่

การบรรยายมีแนวโน้มที่จะเป็นชั้นเรียนด้านเดียวที่คุณและเพื่อนนักเรียนของคุณจะนั่งและจดบันทึกในขณะที่วิทยากรพูดถึงหัวข้อเฉพาะหรือนำเสนอ ชั้นเรียนนี้มีข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้นการให้นักเรียนจดบันทึกจึงเป็นสิ่งจำเป็น เตรียมเนื้อหาให้พร้อม นำเสนอให้ง่ายและเข้าใจ