ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน คลองสาน, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน คลองสาน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริพร เพ็ชรรัตน์
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ประสบการณ์สอน (ปี) : สอนมาแล้ว3ปี ปัจจุบันสอนติวเข้ามัธยม1,4 และประถม

รายละเอียด : (ตัวอย่าง)

- คณิต ระดับอนุบาล ประถม สอบเข้าม.1

- คณิต ม.2 ม.4 สอบเข้าเตรียมทหาร

- วิทย์ ประถม และสอบเข้าม.1

- สังคม ประถม สอบเข้าม.1 และสอบเข้าม.4 เตรียมอุดม

- ภาษาไทย อนุบาล ประถม สอบเข้าม.1 และ ม.4เตรียมอุดม

- อังกฤษ อนุบาล ประถม และสอบเข้าม.1

- จีน ปูพื้นฐาน ประถม

เป็นติวเตอร์สอนตามบ้านมา3ปี เป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้ารร.บดินทรเดชา และเป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้าเตรียมทหารลานทอง

ผลงาน / รางวัล :

สอบผ่านการวัดระดับภาษาจีน HSK5

สอบชิงทุนไปเรียนจีนระดับป.ตรีผ่าน (เหตุไม่ได้ไปเพราะติดโควิด)

สอนติวนร.สอบติดม.1 รร.สวนกุหลาบนนท์ได้

สอนติวนร.สอบติดม.1ห้องกิฟต์ได้ รร.สาธิต

สอนติวนร.สอบติดม.4รร.เตรียมอุดมได้

***สามารถให้ติวเตอร์ส่งแนบรูปสอนหรือคลิปการสอนให้ได้ค่ะ***

(สามารถทดลองสอนได้ค่ะ)(มีรีวิวของผู้ปกครอง ติวเตอร์ใจดีมากค่ะสอนเด็กพิเศษได้ค่ะ ใจเย็น)

แสดงเพิ่มเติม
Jarinpon Wongviriyasakoon
Jarinpon Wongviriyasakoon
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ชนกานต์ อภินันท์ต
ชนกานต์ อภินันท์ต
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ชื่อพี่เรน เรียนจบจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาขา คณิตศาสตร์การจัดการ หลักสูตรไทยควบอังกฤษ IMMA มีประสบการณ์สอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 3 - มหาวิทยาลัยค่ะ วิชาที่ถนัดคือคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มีประสบการณ์สอนติวสอบแข่งขัน วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ - ตะลุยโจทย์ เข้าม.1 รร.สวนกุหลาบนนทบุรี - ตะลุยข้อสอบ O-NET ป.6/ ม.3/ ม.6 - ตะลุยข้อสอบ PAT1 - ตะลุยข้อสอบวิชาสามัญคณิตศาสตร์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เว็บ เว็บนี้มีราคาแสดงไว้ชัดเจน จดไว้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตอนแรก พอไปดูเว็บอื่น บางเว็บไม่ยอมบอกราคาไว้ ทำให้ต้องติดต่อหาเจ้าหน้าที่หลายขั้นตอน เสียเวลามากค่ะ สุดท้ายตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะนอกจากราคาจะดีงามแล้ว ยังได้ติวเตอร์ดี มีประสบการณ์ คุ้มค่ากับที่จ่ายไปจริง ๆ ค่ะ
Saijai
สาลิณี อนันชัยกูร
3 ปีที่แล้ว
พี่ติวเตอร์เก่งมาก ๆ ทำให้เราเข้าใจคำศัพท์ได้ง่าย ๆ วิธีการใช้ในประโยคในเวลาไม่กี่เดือน ตอนแรกจะจำศัพท์ไม่ค่อยได้ เพราะศัพท์เยอะมาก แต่พอท่องศัพท์และหัดใช้ ตอนนี้ดีขึ้นมากเลย คะแนนก็ดีขึ้น
Saijai
ชนกานต์ วรธีรนนท์
3 ปีที่แล้ว
กำลังจะเตรียมตัวสอบ TOEIC ไปสมัครงานค่ะ ก่อนหน้านี้มองหาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษแถวบ้านแต่หายากมากเพราะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เลยลองเสิร์ชหาใน google ดู มาเจอของใส่ใจ เห็นว่ามีเรียนพิเศษแบบออนไลน์ด้วยก็เลยตัดสินใจเลือกใช้บริการเลยค่ะ ถือว่าสะดวกกว่ามาก ๆ แถมติวเตอร์สอนเข้าใจง่ายด้วย
Saijai
ไอด้า พิทักษ์ยิ่ง
3 ปีที่แล้ว
เข้า google ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษ เพราะจะเตรียมตัวสอบ TOEIC มาเจอกับเว็บใส่ใจ หน้าเพจอ่านง่ายมากๆ มีข้อมูลติวเตอร์ พร้อมรูปภาพและคำบรรยาย แสดงราคาไว้ชัดเจน สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยก่อนเลือกติวเตอร์ได้ แถมยังมีรีวิวจากคนที่เคยเรียนให้อ่านประกอบการตัดสินใจด้วย เริ่ดมาก บอกเลย
Saijai
สนธยา ไทรน้อย
4 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์ของใส่ใจใช้งานง่ายมาก ๆ ครับ เราลองใช้บริการติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการจ้างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วด้วยครับ มีระบบการจ่ายเงินที่น่าเชื่อถือ โดยรวมประทับใจครับ
Saijai
ภูริทัศ จินดาโชติ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไร
อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไร คำตอบคือเรียนภาษาอังกฤษนั้นไม่ยากแต่ต้องใช้ความพยายาม ต้องตั้งใจเรียน ทบทวน ฝึกหัดให้บ่อย ๆ ในปัจจุบันเรามีตัวช่วยให้เลือกว่าจะทำอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่เราจะนำตัวเองให้ไปถึงจุด ๆ นั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คือการนำตัวเองไปสู่สังคมที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น

1. มีความกระตือรือร้น อ่านภาษาอังกฤษจากสื่อรอบ ๆ ข้าง ข่าวในโทรศัพท์มือถือ อาจจะเริ่มเลือกอ่านในสิ่งที่เราชอบ เพื่อจะได้เข้าใจง่าย จากนั้น หัดฟัง พูด เขียนภาษาอังกฤษ ให้ได้มากที่สุดทั้งในและนอกห้องเรียน อาจจะเป็นการฟังเพลงที่เราชอบ ดูหนังฝรั่งที่ใช้ ภาษาต้นฉบับ (ภาษาอังกฤษ) เป็นต้น
2. เมื่อเจอคำศัพท์ให้จด จำ และนำไปใช้ให้บ่อยๆ แล้วเราจะจำได้เอง บางคนใช้วิธี แปะกระดาษไว้ที่ห้องนอน ห้องน้ำ แล้วฝึกอ่านออกเสียงไปด้วย เมื่อเราคุ้นเคยแล้วเราจะจำได้เอง ได้ทั้งคำศัพท์ได้ทั้งการอ่านออกเสียง เดี๋ยวนี้เราบันทึกคำศัพท์ไว้ได้ในโทรศัพท์มือถือ เจอ จด จากนั้นก็จำ แล้วนำไปใช้
3. พยายามใช้สื่อต่าง ๆ ใกล้ตัวเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เช่น โทรศัพท์มือถือ/เกม ให้ใช้เมนูทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ แรก ๆ อาจจะติด ๆ ขัด ๆ แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ รับรองว่าคล่องแน่นอน
4. ไม่รู้ต้องถาม ถามผู้รู้ เช่นคุณครู เจ้าของภาษา หรือถ้าไม่อยากถามคน ลองคนหาจากเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) เช่น Google สมัยนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสิร์ชเอนจินนั้นมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคนไทย และคนทั่วโลก ไม่ว่าเราจะต้องการข้อมูลอะไรสามารถหาได้ทั้งนั้น
5. ทำความรู้จักเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติ คุณครูชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนและคุณครูชาวต่างชาติเข้ามาเรียน มาสอน มาใช้ชีวิตในประเทศไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนไทยที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น โดยธรรมชาติคนไทยอาจจะเป็นคนขี้อายและไม่ค่อยมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ ถ้าเราพูดบ่อย ๆ เราจะชิน แล้วค่อยพัฒนาไปในระดับต่อไป
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริงหรือไม่
บทเรียนแรกของการเรียนภาษาอังกฤษ คือต้องก้าวข้ามความกลัว เพราะต่อให้เราเรียนภาษาอังกฤษมามากแค่ไหน แต่ถ้าเรากลัวจนไม่กล้าเอามาใช้ ทำให้การเรียนนั้นสูญเปล่า ความกลัวที่ว่าอาจเกิดจากการกลัวความผิดพลาด จนทำให้ความก้าวหน้าหยุดชะงัก เราสามารถแก้ปัญหาความกลัวได้โดยการด้วยการฝึกใช้บ่อย ๆ การฝึกใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำทำอย่างไร เราอาจเริ่มต้นจากการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดความตื่นเต้น ลดความประหม่า เพราะเป็นการฝึกฝนภาษาแบบตัวต่อตัว ไม่มีใครคอยจับตามาอง เมื่อเราได้ฝึกฝนและการทำซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน จนเกิดเป็นความเคยชินและกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปได้ เมื่อเราเริ่มต้นเราไม่ต้องสนใจว่ามันผิดหรือถูก ติวเตอร์จะเป็นคนคอยแนะนำและแก้ ประโยค ศัพท์ สอนทริคให้จำง่าย ติวเตอร์ยังสามารถพัฒนาสำเนียงเราได้ เพราะเมื่อหูของเราคุ้นชิน โดยธรรมชาติเราสามารถปรับสำเนียงให้เป็นไปตามคู่สนทนานั้น จากที่เราเริ่มใช้ศัพท์และประโยคที่ถูกต้องไปทีละนิด จนเกิดเป็นการพัฒนาให้กับตัวเราเอง เมื่อเราผ่านบทเรียนแรกกับติวเตอร์แล้ว บทเรียนต่อไปเราไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เปิดโอกาสให้กับตัวเอง กล้าที่จะสื่อสาร กล้าที่จะเขียนภาษาอังกฤษ ฝึกจดบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีติวเตอร์ส่วนตัวคอยชี้แนะ ในที่สุดเราได้ทักษะครบ ฟัง พูด อ่านและเขียน และภาษาอังกฤษสำหรับเราจะเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
ทำไมเด็กไทยจึงมีปัญหาการสื่อสารภาษาอังกฤษ และควรแก้ไขอย่างไร
ในปัจจุบันภาษาอังกฤษนั้นได้กลายมาเป็นภาษาสากลที่ผู้คนทั่วโลกใช้สื่อสารกันไปแล้ว แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิด อาจทำให้มีข้อบกพร่องในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอยู่บ้าง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเจอกันบ่อยมีดังนี้

1. คลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างน้อย และความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ไม่แม่นยำมากพอ การที่เด็กไทยขาดความรู้เรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษและโครงสร้างของประโยคนั้นอาจทำให้มีปัญหาในการสื่อสาร เพราะไม่สามารถนึกคำศัพท์บางคำออก และไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นประโยคได้นั่นเอง ซึ่งวิธีการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้คือหมั่นฝึกท่องคำศัพท์เพื่อช่วยเพิ่มพูนคลังคำศัพท์ให้มากยิ่งขึ้น อีกวิธีคือการจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่พบเจอลงในสมุดโน้ตเพื่อช่วยให้ง่ายต่อการจดจำมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการเรียบเรียงโครงสร้างของประโยค คือการเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องไวยากรณ์ โดยวิธีที่สามารถช่วยได้คือการดูหนังหรือวิดิโอต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับการใช้รูปแบบประโยคที่หลากหลายนั่นเอง
2. เด็กไทยส่วนใหญ่มักไม่มีความมั่นใจที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุยสื่อสาร เพราะบางครั้งกลัวว่าหากพูดคำไหนออกไปแล้วจะออกเสียงไม่ถูกต้อง บวกกับนิสัยของคนไทยที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ยิ่งทำให้เด็กไทยหลาย ๆ คนไม่มีความกล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร วิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้สามารถเริ่มได้ที่ตัวเราเอง โดยการฝึกพูดหน้ากระจกบ่อย ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง บางครั้งควรจดจำประโยคและสำเนียงจากในหนังหรือวิดีโอภาษาอังกฤษต่าง ๆ มาพูดตาม และหากมีโอกาสควรลองสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยตรงได้จะยิ่งดี นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว การเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก็ถือเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่จะสามารถพัฒนาทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้เช่นกัน
TOEIC, TOEFL และ IELTS มีความสำคัญอย่างไร ใส่ใจมีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่สอน TOEIC, TOEFL และ IELTS หรือไม่
TOEIC TOEFL IELTS มีความสำคัญต่อการทำงานอย่างไร

การทดสอบทั้ง 3 แบบนั้นเป็นการทดสอบทางด้านภาษา ในโลกการทำงานปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทมีการติดต่อทำธุรกิจกับต่างประเทศ การรับคนเข้าทำงานจึงมีการทดสอบความสามารถด้านภาษาและผลคะแนนการสอบวัดความรู้ทางภาษาจึงมีความสำคัญ ก่อนหน้านี้หลายคนอาจมองว่าคะแนนของทั้งสามสถาบันนี้ ถูกใช้เพื่อประกอบการสมัครงานในสาย งานบริการ งานสายการบิน งานท่องเที่ยวและการโรงแรมเท่านั้น แต่ปัจจุบันผลคะแนนจะถูกแนบไปกับประวัติการทำงานเพื่อช่วยยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการใช้ภาษา นอกจากนี้ผลการสอบวัดระดับภาษายังช่วยปรับเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือโอกาศไปทำงานในสาขาต่างประเทศ

ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ คะแนน TOEIC ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ ตั้งแต่ 450 / 550 / 650 คะแนน ส่วนงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการบินมักจะรับที่ 800 + คะแนน การสอบ TOEIC จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนทำงาน (โดยผลสอบ TOEIC มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่สอบ) คะแนน TOEFL ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ 79/120 (สำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย) ส่วนคะแนน IELTS ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ 5.5 หรือ 6.5 ขึ้นไป (สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในต่างประเทศหรือฝึกอบรม หรือฝึกอบรมในต่างประเทศ ในสหรราชอาณาจักร ออสเตรเลียหรือ นิวซีแลนด์ เป็นต้น) ที่ใส่ใจ (SAIJAI) มีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่สอน TOEIC, TOEFL และ IELTS เพื่อย่นระยะทางไปสู่จุดหมาย สรุปเทคนิค กลยุทธิ์และวิธีการทำข้อสอบให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วยให้คุณสอบได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น