ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ธัญมัย ทรงอธิกมาศ
ธัญมัย ทรงอธิกมาศ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

การสอน เน้นมีปฏิสัมพันธ์กับนักเรียน เน้นคิดวิเคราะห์ เน้นคีย์เวริ์ด และเน้นให้ นร หาหลักจำ หลักเข้าใจของนักเรียนแต่ะละคนเอง

แสดงเพิ่มเติม
Jarinpon Wongviriyasakoon
Jarinpon Wongviriyasakoon
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

ชื่อพี่เรน เรียนจบจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาขา คณิตศาสตร์การจัดการ หลักสูตรไทยควบอังกฤษ IMMA มีประสบการณ์สอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 3 - มหาวิทยาลัยค่ะ วิชาที่ถนัดคือคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มีประสบการณ์สอนติวสอบแข่งขัน วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ - ตะลุยโจทย์ เข้าม.1 รร.สวนกุหลาบนนทบุรี - ตะลุยข้อสอบ O-NET ป.6/ ม.3/ ม.6 - ตะลุยข้อสอบ PAT1 - ตะลุยข้อสอบวิชาสามัญคณิตศาสตร์

แสดงเพิ่มเติม
สิริกร สายขุน
สิริกร สายขุน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ชื่นชมการสอนของตัวติวเตอร์มากค่ะ จากที่ลูกสาวเป็นคนไม่กล้าแสดงออกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือทั่วไป หลังจากจ้างติวเตอร์ภาษาอังกฤษมาช่วยสอน ลูกมีผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและกล้าใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารมากขึ้นค่ะ
Saijai
ปาลิดา อัศวไกรภพ
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจติวเตอร์มาก ๆ ค่ะ ครูติวเตอร์สอนดีมาก ๆ เป็นกันเองสุด ๆ เลยค่ะ เวลาหนูไม่เข้าใจตรงไหน หนูก็จะถามติวเตอร์ เพราะภาษาอังกฤษหนูค่อนข้างอ่อน แต่ตอนนี้หนูรู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
Saijai
มนัสนันท์ รุจิรดาภรณ์
4 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์ของใส่ใจใช้งานง่ายมาก ๆ ครับ เราลองใช้บริการติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการจ้างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วด้วยครับ มีระบบการจ่ายเงินที่น่าเชื่อถือ โดยรวมประทับใจครับ
Saijai
ภูริทัศ จินดาโชติ
4 ปีที่แล้ว
ลูกเพิ่งเข้าเรียนโรงเรียนหลักสูตร2ภาษาครับ แต่ลูกมีปัญหาไม่กล้าพูดและใช้ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเพราะกลัวเรื่องแกรมม่าและการออกเสียงคำศัพท์มากๆ จนต้องตัดสินใจหาติวเตอร์มาช่วยสอน ซึ่งตัวของติวเตอร์ช่วยสอนและฝึกให้ลูกพูดสนทนาออกเสียง ตอนนี้ลูกมีความกล้าและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นมากเลยครับ
Saijai
ชาธิต ประทีบศาสตร์
4 ปีที่แล้ว
จริงๆ ก็กังวลนะ ถึงแม้เราได้ภาษามาบ้าง เกรดก็โอเคแต่อยากเพิ่มความมั่นใจ ได้ติวเตอร์ภาษาอังกฤษจากเว็บใส่ใจ สอนเข้าใจง่าย แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราแน่นขึ้น จากความกังวลเรื่อง TENSE ทั้ง12 ฝึกสนทนาและฟังจริงทุกรอบ แถมสอนการบ้านด้วย ตอนนี้สบายใจละ
Saijai
ญาณิน ธาดาวริศกุล
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไรบ้าง
ภาษาอังกฤษนั้นเรียกได้ว่าเป็นภาษาที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของภาษาที่ใช้สื่อสารกันบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาษากลางที่ผู้คนทั่วโลกสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันรองมาจากภาษาแม่ของแต่ละชนชาตินั่นเอง
ดังนั้นความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้คนในสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเราหมั่นฝึกฝนและพัฒนาภาษาอังกฤษอยู่บ่อย ๆ จะทำให้ภาษาอังกฤษนั้นไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

ใส่ใจขอแนะนำ 5 เคล็ดลับที่จะทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราพัฒนามากยิ่งขึ้นดังนี้

1. อ่านหนังสือหรือบทความที่เป็นภาษาอังกฤษถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับหลาย ๆ คน ควรเริ่มจากบทความสั้น ๆ จากนิตยสาร หรือหนังสือที่มีภาพประกอบ เพราะหนังสือเหล่านี้จะเลือกใช้คำศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป ทำให้เราสามารถจดจำและเข้าใจความหมายได้ง่ายขึ้น
2. หมั่นจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เจอในแต่ละครั้ง เพราะการจดคำศัพท์พร้อมความหมายเอาไว้ในสมุดโน๊ตจะช่วยให้เราคุ้นชินกับมันบ่อย ๆ เมื่อต้องเปิดสมุดในแต่ละครั้ง และจดจำไปเองในที่สุด
3. เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการดูและการฟัง ไม่ว่าจะเป็นข่าว การ์ตูน ซีรีส์ภาพยนตร์ต่าง ๆ เมื่อหูเริ่มคุ้นกับประโยคและสำเนียงการพูดแล้ว ยิ่งทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นในยามที่ต้องพูดคุยสื่อสารกับเจ้าของภาษาจริง ๆ
4. ฝึกพูดให้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะลองฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก หรือลองพูดกับเพื่อน ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น
5. อย่ากลัวที่จะลองพูดคุยกับเจ้าของภาษา เวลามีงานสังสรรค์พบปะผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ลองหาโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาหรือคนอื่น ๆ ดู และอย่ากลัวว่าจะพูดผิด บางครั้งหากเราพูดผิดและได้รับการแก้ไขจากคนรอบข้างจะยิ่งทำให้เรารู้ศักยภาพของตัวเองและไม่ลืมที่จะนำกลับไปพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริงหรือไม่
บทเรียนแรกของการเรียนภาษาอังกฤษ คือต้องก้าวข้ามความกลัว เพราะต่อให้เราเรียนภาษาอังกฤษมามากแค่ไหน แต่ถ้าเรากลัวจนไม่กล้าเอามาใช้ ทำให้การเรียนนั้นสูญเปล่า ความกลัวที่ว่าอาจเกิดจากการกลัวความผิดพลาด จนทำให้ความก้าวหน้าหยุดชะงัก เราสามารถแก้ปัญหาความกลัวได้โดยการด้วยการฝึกใช้บ่อย ๆ การฝึกใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำทำอย่างไร เราอาจเริ่มต้นจากการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดความตื่นเต้น ลดความประหม่า เพราะเป็นการฝึกฝนภาษาแบบตัวต่อตัว ไม่มีใครคอยจับตามาอง เมื่อเราได้ฝึกฝนและการทำซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน จนเกิดเป็นความเคยชินและกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปได้ เมื่อเราเริ่มต้นเราไม่ต้องสนใจว่ามันผิดหรือถูก ติวเตอร์จะเป็นคนคอยแนะนำและแก้ ประโยค ศัพท์ สอนทริคให้จำง่าย ติวเตอร์ยังสามารถพัฒนาสำเนียงเราได้ เพราะเมื่อหูของเราคุ้นชิน โดยธรรมชาติเราสามารถปรับสำเนียงให้เป็นไปตามคู่สนทนานั้น จากที่เราเริ่มใช้ศัพท์และประโยคที่ถูกต้องไปทีละนิด จนเกิดเป็นการพัฒนาให้กับตัวเราเอง เมื่อเราผ่านบทเรียนแรกกับติวเตอร์แล้ว บทเรียนต่อไปเราไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เปิดโอกาสให้กับตัวเอง กล้าที่จะสื่อสาร กล้าที่จะเขียนภาษาอังกฤษ ฝึกจดบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีติวเตอร์ส่วนตัวคอยชี้แนะ ในที่สุดเราได้ทักษะครบ ฟัง พูด อ่านและเขียน และภาษาอังกฤษสำหรับเราจะเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
จุดอ่อนของเด็กไทยในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร และควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
อะไรคือจุดอ่อนของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ปัจจุบันหลายโรงเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลและต่อเนื่องในทุกระดับชั้น แต่ทำไมภาษาอังกฤษยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับน้อง ๆ หลาย ๆ คน จากการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งได้สรุปสาเหตุไว้คร่าว ๆ ดังนี้ว่า

1. ขาดการฝึกฝน ขาดคำศัพท์ เพราะส่วนใหญ่นักเรียน จะเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน แต่เวลาที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย การเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่ให้ทำข้อสอบได้ ดังนั้นเด็กนักเรียนไทยส่วนหนึ่งเรียนภาษาอังกฤษเพื่อจะใช้ในห้องสอบ ทักษะอื่น ๆ และคำศัพท์นอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียนแทบจะไม่ได้ใช้เลย ทางแก้ไขคือน้อง ๆ นักเรียน ต้องฝึกฝน เรียนรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคำศัพท์แล้วพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจมีการรวมกลุ่มหรือชมรม ห้องเรียนพิเศษที่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าในห้องเรียน
2. เป็นเหตุต่อเนื่องจากข้อแรก คือขาดความมั่นใจเพราะกลัวพูดผิด กลัวพูดออกไปแล้วสื่อสารไม่ได้เลยไม่กล้าที่จะพูด บวกกับนิสัยของคนไทยที่ขี้อาย เกรงใจ เขิน ไม่กล้าแสดงออก จนไม่กล้าพูด ทางแก้ไขคือ เมื่อมีโอกาสได้ใช้ภาษาควรแสดงความสามารถและพยายามสื่อสารทั้งด้วยคำพูด น้ำเสียงและท่าทางประกอบกัน เมื่อผ่านไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อ ๆไปจะตามมา ที่สำคัญต้องจำคำศัพท์ให้ได้มาก ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น
3. การเรียนการสอนที่ไม่ถูกหลัก ทำให้ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้เด็กไทยของเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล และได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ปี แต่คนไทยเรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากการศึกษาข้อมูลทำให้พบว่า การสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก โดยที่เราเริ่มต้นสอนทักษะภาษาอังกฤษจากการอ่าน การเขียน ก่อนที่จะเรียนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเมื่อทำไม่ได้เลยรู้สึกไม่สนุก ไม่อยากเรียน ครูผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก เช่นเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง แล้วค่อย ๆ แทรกเนื้อหาหลักไวยากรณ์หรือคำศัพท์ลงไป นักเรียนจะซึมซับความรู้เหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยทั้งหมดนอกจากตัวของน้อง ๆ นักเรียนเอง ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ถ้าปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนสามารถทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ และได้ช่วยพัฒนาจุดอ่อนของน้องๆนักเรียนอย่างตรงจุด จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TOEIC, TOEFL และ IELTS มีความสำคัญอย่างไร ใส่ใจมีติวเตอร์สอนหรือไม่
TOEIC (Test of English for International Communication) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “โทอิก” เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ต้องการจะสมัครงานจำพวกการบิน การโรงแรม งานท่องเที่ยว ขนส่ง รวมไปถึงบริษัทเอกชนอีกหลายแห่ง โดยการสอบโทอิกนี้จะเน้นไปที่การวัดระดับทักษะการฟังและการอ่านเป็นหลัก ปัจจุบันนี้การสอบโทอิกได้แบ่งออกเป็น 2 พาร์ทด้วยกันคือ การฟังและการอ่าน (TOEIC Listening and Reading Test) และพาร์ท การพูดและการฟัง (TOEIC Speaking and Writing Tests) ซึ่งข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย รวมทั้งสิ้น 990 คะแนน

TOEL (Test of English as a Foreign Language) หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า “โทเฟิล” หรือ “โทเฟล” นั่นเอง เป็นแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร หรือภาษาประจำชาติ การสอบชนิดนี้จะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือ การอ่าน การพูด การฟัง และการเขียน รวมทั้งสิ้น 120 คะแนน โทเฟลยังสามารถใช้ยื่นในการสอบเข้าเรียนในต่างประเทศอย่างอเมริกาได้อีกด้วย

IELTS (International English Language Testing System) นิยมเรียกกันว่า “ไอเอลส์” เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่มีความสนใจทั่วไป หรือผู้ที่ต้องการจะเรียนต่อหรือสมัครงานในต่างประเทศฝั่งยุโรป โดยจะมีการสอบทั้งหมด 9 ระดับด้วยกัน แน่นอนว่าการทดสอบทั้ง 3 อย่างนี้เป็นการทดสอบเกี่ยวกับภาษา สำหรับผู้ที่สนใจจะสมัครเรียนหรือทำงานต่อในสายงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เช่น การบิน การโรงแรม ท่องเที่ยว หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ ผลสอบเหล่านี้จะช่วยยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ และเปิดโอกาสในการทำงานให้กับคุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง