ดูแลผู้สูงอายุ ใน สายไหม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน สายไหม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ปัจุบันทำงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประสบการณ์ด้านนี้ 3 ปี เข้าเวรดึกได้ค่ะ ฟีดได้ รับวัคซีนโควิค 4 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 37 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 50 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
5 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
5 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
5 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
5 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

ทำความรู้จักเขตสายไหม

เขตสายไหม ตั้งอยู่ตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ที่มีพื้นที่ติดกับถนนพหลโยธิน ลำลูกกา (จังหวัดปทุมธานี) เขตคลองสามวา เขตบางเขน และเขตดอนเมือง และอยู่ใกล้กับพื้นที่ของหน่วยงานราชการทหารหลายแห่ง รวมถึงใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย ซึ่งความเจริญเติบโตของเขตสายไหม เกิดมาจากพื้นที่ใกล้เคียง ที่มีทั้งหน่วยงานราชการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้มายาวนาน จากเขตบางเขน และจากเขตดอนเมือง ทำให้เขตสายไหม เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่หมู่บ้านจัดสรร และชุมชนอยู่อาศัยจำนวนมาก และหากประเมินตามเขตการปกครองแล้ว เขตสายไหม เป็น 1 ใน 50 เขตการปกครองของกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และในปี พ.ศ.2563 เขตสายไหมมีประชากรอาศัย อยู่โดยประมาณที่ 207,272 คน บนพื้นที่มากกว่า 50 ตารางกิโลเมตร

"สายไหม" เดิมเป็นชื่อของหมู่บ้านหนึ่งในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ภายหลังในพื้นที่เขตบางเขนมีความเจริญมากขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม สาธารณูปโภค รวมทั้งมีประชากรหนาแน่นขึ้น เพื่อประโยชน์แก่การปกครอง การให้บริการของรัฐ และความสะดวกของประชาชน กระทรวงมหาดไทยจึงประกาศเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตบางเขน แยกพื้นที่ 3 แขวงทางตอนเหนือของเขตมาจัดตั้งเป็น เขตสายไหม ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2540 และกรุงเทพมหานครได้ประกาศเปลี่ยนแปลงพื้นที่แขวงคลองถนนเพื่อความชัดเจนในการปกครองเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน โดยประกาศทั้งสองฉบับให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ขณะที่ถนนสายไหม เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย เช่น ถนนจันทรุเบกษา เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน ถนนกาญจนาภิเษก ถนนหทัยราษฎร์ ถนนสุขาภิบาล ถนนสุขาภิบาล 5 (ออเงิน) ถนนเทพรักษ์ (พหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช) ทางพิเศษฉลองรัช เชื่อมกับย่านวัชรพล และย่านรามอินทราได้ ด้วยจำนวนประชากรที่ขยายตัวต่อเนื่อง จึงดึงกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบดิสเคาน์สโตร์ หรือโมเดิร์นเทรนด์รายใหญ่ ๆ ทุกรายให้เข้ามาเปิดสาขาให้บริการบนย่านนี้จำนวนมาก ประกอบกับการที่ย่านนี้ใกล้กับโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่ง (โรงพยาบาลสายไหม (Saimai Hospital) ใกล้กับสถานศึกษาจำนวนมาก และการเดินทางที่สะดวก จึงยิ่งดึงให้คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทางตอนเหนือของกรุงเทพฯเลือกพื้นที่เขตนี้



เคล็ดลับสำหรับผู้สูงอายุคลายความวิตกกังวล

ผู้สูงอายุ มีโอกาสเป็นโรควิตกกังวลได้มากกว่าภาวะซึมเศร้า แต่โรควิตกกังวลมักไม่เป็นที่รู้จักเนื่องจากคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุมากกว่า ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถรับมือกับความวิตกกังวลจะมีปัญหากับชีวิตประจำวัน และมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยทางกาย หกล้ม ซึมเศร้า ความทุพพลภาพ การแยกทางสังคม และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากขึ้น

อาการวิตกกังวลเป็นอย่างไร

แม้ว่าความวิตกกังวลในช่วงสั้น ๆ เป็นการตอบสนองตามธรรมชาติต่อภัยคุกคามหรืออันตราย แต่คนอาจมีปัญหาความวิตกกังวลหากรู้สึกกลัวหรือกังวลบ่อยครั้ง จนมีปัญหาการนอนหลับ และไม่กล้าทำสิ่งต่างๆ ในระหว่างวัน จนส่งผลกระทบกับสุขภาพจิต

อาการวิตกกังวลที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ ความวิตกกังวลหรือความกลัวที่ไม่มีเหตุผลและมากเกินไป ย้ำคิดย้ำทำเพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงกิจกรรมประจำ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ทางสังคม หัวใจเต้นเร็ว หายใจตื้น ตัวสั่น คลื่นไส้และเหงื่อออก

โชคดีที่ความวิตกกังวลสามารถจัดการและรักษาได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย

การฝึกโยคะ ไม่ได้เป็นแค่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่เป็นการฝึกลมหายใจด้วย และการหายใจลึก ๆ สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้

เคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยลดความวิตกกังวลด้วยการปล่อยสารเคมีในสมองที่ให้ความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่าเอ็นดอร์ฟิน

2. เข้าสังคม

ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว การอยู่กับครอบครัว และพบปะเพื่อนฝูง จะช่วยให้ผู้สูงอายุรับมือกับความเครียดและความวิตกกังวลได้ดีขึ้น

3. กินอิ่มนอนหลับ

ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่สมดุลโดยไม่อดอาหาร และการนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้ผู้สูงอายุจัดการกับความเครียด และรู้สึกสงบขึ้น

4. ฟังเพลงหรือสวดมนต์

การฟังเพลง ร้องเพลง หรือสวดมนต์ร่วมกับผู้อื่นให้ความเพลิดเพลิน สร้างสมาธิและความรู้สึกเข้าสังคม จะช่วยคลายความวิตกกังวลในผู้สูงอายุ

5. หลีกเลี่ยงคาเฟอีน

รู้หรือไม่ว่าคาเฟอีนในกาแฟ ชา น้ำอัดลม และช็อกโกแลตสามารถเพิ่มระดับความวิตกกังวลได้ ลองดื่มเครื่องดื่มอื่น เช่น ชาสมุนไพร หรือเติมผลไม้ เช่น มะนาว ส้ม หรือสตรอเบอร์รี่ลงในน้ำ

6. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หากผู้สูงอายุได้ลองวิธีการเหล่านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถลดความวิตกกังวลได้ ให้พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและการบำบัดพฤติกรรม



วิธีช่วยให้ผู้สูงอายุรับมือกับความเครียดและความโดดเดี่ยวทางสังคม

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19อาจสร้างความเครียดให้คนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษเพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะรับเชื้อได้ง่ายและมีอาการรุนแรง มีการจำกัดการเข้าเยี่ยมผู้สูงอายุในศูนย์ดูแล และมีการกักตัวในบางพื้นทที่ ความวิตกกังวลในผู้สูงอายุอาจเกิดจากสาเหตุข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น หรืออาจเกิดจากเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ว่าความเครียดนั้นจะเกิดจากสาเหตุใด ครอบครัวและผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องความสำคัญ เปิดใจรับฟังข้อกังวลและทำให้ผู้สูงอายุรู้ว่าคุณพร้อมรับฟัง และลองปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อช่วยลดความกังวลในผู้สูงอายุ

ปรับกิจวัตรประจำวัน

ให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารเช้าให้เสร็จก่อนเปิดข่าวจะช่วยลดความวิตกกังวลในตอนเช้า หากคุณกำลังทำงานจากที่บ้านและเว้นระยะห่างทางสังคม ให้ลองดูว่าผู้สูงอายุสามารถใช้เวลากับหลาน ๆ ของพวกเขาเพื่อให้ทั้งคู่มีงานยุ่งหรือไม่ นี่เป็นวิธีที่ดีในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น

ยอมรับความกลัวและความรู้สึกของผู้สูงอายุ

ครอบครัวหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ อาจพยายามที่จะปลอบให้ผู้สูงอายุคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ผู้สูงอายุจะยังกังวลและเครียด ดังนั้นครอบครัวและผู้ดูแลควรตั้งใจรับฟังและสนับสนุนให้พวกเขาแสดงความกลัวออกมา ทำให้ผู้สูงอายุเข้าใจว่าความรู้สึกทุกข์ใจ กังวลในช่วงวิกฤตเป็นเรื่องปกติ

ฝึกสติ

องค์การอนามัยโลกแนะนำให้คุณ “ใช้ทักษะที่คุณเคยใช้ในอดีตที่ช่วยให้คุณจัดการกับความทุกข์ยากในชีวิตก่อนหน้านี้ และใช้ทักษะเหล่านั้นเพื่อช่วยคุณจัดการกับอารมณ์ในช่วงเวลาที่ท้าทายของการระบาดครั้งนี้” วิธีการเหล่านี้อาจรวมถึงการทำสมาธิ การบำบัด หรือการทำบันทึกประจำวัน สำหรับผู้สูงอายุบางคน สติสามารถมาในรูปแบบของการฟังเพลงตั้งแต่วัยเด็ก หรือแม้แต่การอาบน้ำอย่างเงียบๆ

รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและกระฉับกระเฉง

การออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ

แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากแหล่งที่เชื่อถือได้

ระวังการเข้าถึงข้อมูลเฟคนิวส์ เพราะเป็นสร้างความตระหนกและวิตกกังวลให้กับผู้สูงอายุได้ง่าย ครอบครัวและผู้ดูแลควรคัดกรองข้อมูลและแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อที่ได้เหล่านี้

ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้ผู้สูงอายุนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุขมากขึ้น

ครอบครัวหรือผู้ดูแลควรใช้เวลาร่วมกับผู้สูงอายุ พูดคุยถึงเรื่องราวความสุขในอดีต การได้นึกถึงความสุขที่ผ่านมากก็ทำให้ผู้สูงอายุมีความรู้สึกเป็นสุขได้อีกครั้ง และยังถือเป็นการกระชับสัมพันธ์กับคนรอบข้างอีกด้วย

อยู่กับสิ่งที่ทำให้มีความสุข

ครอบครัวและผู้ดูแลควรสังเกตว่าญาติผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุชอบอาหารอะไร เมนูโปรดที่ท่านชอบทำให้เรารับประทานตอนที่เราเป็นเด็กคืออะไร ท่านยังสูตรอาหารหรือมีตำราอาหารเก่าหรือไม่ เนื่องจากร้านอาหารหลายแห่งปิดตัวลง จึงเป็นเวลาที่ดีที่จะลองทำอาหารโปรดจากอดีต หลายเมนูอาจมีเรื่องราวดี ๆ ซ่อนอยู่