ดูแลผู้สูงอายุ ใน สายไหม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน สายไหม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 36 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
Pailin Sangmaneepang
Pailin Sangmaneepang
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ปัจุบันทำงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประสบการณ์ด้านนี้ 3 ปี เข้าเวรดึกได้ค่ะ ฟีดได้ รับวัคซีนโควิค 4 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ทำความรู้จักเขตสายไหม

เขตสายไหม ตั้งอยู่ตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ที่มีพื้นที่ติดกับถนนพหลโยธิน ลำลูกกา (จังหวัดปทุมธานี) เขตคลองสามวา เขตบางเขน และเขตดอนเมือง และอยู่ใกล้กับพื้นที่ของหน่วยงานราชการทหารหลายแห่ง รวมถึงใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย ซึ่งความเจริญเติบโตของเขตสายไหม เกิดมาจากพื้นที่ใกล้เคียง ที่มีทั้งหน่วยงานราชการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้มายาวนาน จากเขตบางเขน และจากเขตดอนเมือง ทำให้เขตสายไหม เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่หมู่บ้านจัดสรร และชุมชนอยู่อาศัยจำนวนมาก และหากประเมินตามเขตการปกครองแล้ว เขตสายไหม เป็น 1 ใน 50 เขตการปกครองของกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และในปี พ.ศ.2563 เขตสายไหมมีประชากรอาศัย อยู่โดยประมาณที่ 207,272 คน บนพื้นที่มากกว่า 50 ตารางกิโลเมตร

"สายไหม" เดิมเป็นชื่อของหมู่บ้านหนึ่งในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ภายหลังในพื้นที่เขตบางเขนมีความเจริญมากขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม สาธารณูปโภค รวมทั้งมีประชากรหนาแน่นขึ้น เพื่อประโยชน์แก่การปกครอง การให้บริการของรัฐ และความสะดวกของประชาชน กระทรวงมหาดไทยจึงประกาศเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตบางเขน แยกพื้นที่ 3 แขวงทางตอนเหนือของเขตมาจัดตั้งเป็น เขตสายไหม ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2540 และกรุงเทพมหานครได้ประกาศเปลี่ยนแปลงพื้นที่แขวงคลองถนนเพื่อความชัดเจนในการปกครองเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน โดยประกาศทั้งสองฉบับให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ขณะที่ถนนสายไหม เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย เช่น ถนนจันทรุเบกษา เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน ถนนกาญจนาภิเษก ถนนหทัยราษฎร์ ถนนสุขาภิบาล ถนนสุขาภิบาล 5 (ออเงิน) ถนนเทพรักษ์ (พหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช) ทางพิเศษฉลองรัช เชื่อมกับย่านวัชรพล และย่านรามอินทราได้ ด้วยจำนวนประชากรที่ขยายตัวต่อเนื่อง จึงดึงกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบดิสเคาน์สโตร์ หรือโมเดิร์นเทรนด์รายใหญ่ ๆ ทุกรายให้เข้ามาเปิดสาขาให้บริการบนย่านนี้จำนวนมาก ประกอบกับการที่ย่านนี้ใกล้กับโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่ง (โรงพยาบาลสายไหม (Saimai Hospital) ใกล้กับสถานศึกษาจำนวนมาก และการเดินทางที่สะดวก จึงยิ่งดึงให้คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทางตอนเหนือของกรุงเทพฯเลือกพื้นที่เขตนี้



เคล็ดลับสำหรับผู้สูงอายุคลายความวิตกกังวล

ผู้สูงอายุ มีโอกาสเป็นโรควิตกกังวลได้มากกว่าภาวะซึมเศร้า แต่โรควิตกกังวลมักไม่เป็นที่รู้จักเนื่องจากคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุมากกว่า ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถรับมือกับความวิตกกังวลจะมีปัญหากับชีวิตประจำวัน และมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยทางกาย หกล้ม ซึมเศร้า ความทุพพลภาพ การแยกทางสังคม และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากขึ้น

อาการวิตกกังวลเป็นอย่างไร

แม้ว่าความวิตกกังวลในช่วงสั้น ๆ เป็นการตอบสนองตามธรรมชาติต่อภัยคุกคามหรืออันตราย แต่คนอาจมีปัญหาความวิตกกังวลหากรู้สึกกลัวหรือกังวลบ่อยครั้ง จนมีปัญหาการนอนหลับ และไม่กล้าทำสิ่งต่างๆ ในระหว่างวัน จนส่งผลกระทบกับสุขภาพจิต

อาการวิตกกังวลที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ ความวิตกกังวลหรือความกลัวที่ไม่มีเหตุผลและมากเกินไป ย้ำคิดย้ำทำเพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงกิจกรรมประจำ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ทางสังคม หัวใจเต้นเร็ว หายใจตื้น ตัวสั่น คลื่นไส้และเหงื่อออก

โชคดีที่ความวิตกกังวลสามารถจัดการและรักษาได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย

การฝึกโยคะ ไม่ได้เป็นแค่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่เป็นการฝึกลมหายใจด้วย และการหายใจลึก ๆ สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้

เคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยลดความวิตกกังวลด้วยการปล่อยสารเคมีในสมองที่ให้ความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่าเอ็นดอร์ฟิน

2. เข้าสังคม

ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว การอยู่กับครอบครัว และพบปะเพื่อนฝูง จะช่วยให้ผู้สูงอายุรับมือกับความเครียดและความวิตกกังวลได้ดีขึ้น

3. กินอิ่มนอนหลับ

ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่สมดุลโดยไม่อดอาหาร และการนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้ผู้สูงอายุจัดการกับความเครียด และรู้สึกสงบขึ้น

4. ฟังเพลงหรือสวดมนต์

การฟังเพลง ร้องเพลง หรือสวดมนต์ร่วมกับผู้อื่นให้ความเพลิดเพลิน สร้างสมาธิและความรู้สึกเข้าสังคม จะช่วยคลายความวิตกกังวลในผู้สูงอายุ

5. หลีกเลี่ยงคาเฟอีน

รู้หรือไม่ว่าคาเฟอีนในกาแฟ ชา น้ำอัดลม และช็อกโกแลตสามารถเพิ่มระดับความวิตกกังวลได้ ลองดื่มเครื่องดื่มอื่น เช่น ชาสมุนไพร หรือเติมผลไม้ เช่น มะนาว ส้ม หรือสตรอเบอร์รี่ลงในน้ำ

6. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หากผู้สูงอายุได้ลองวิธีการเหล่านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถลดความวิตกกังวลได้ ให้พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและการบำบัดพฤติกรรม



วิธีช่วยให้ผู้สูงอายุรับมือกับความเครียดและความโดดเดี่ยวทางสังคม

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19อาจสร้างความเครียดให้คนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษเพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะรับเชื้อได้ง่ายและมีอาการรุนแรง มีการจำกัดการเข้าเยี่ยมผู้สูงอายุในศูนย์ดูแล และมีการกักตัวในบางพื้นทที่ ความวิตกกังวลในผู้สูงอายุอาจเกิดจากสาเหตุข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น หรืออาจเกิดจากเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ว่าความเครียดนั้นจะเกิดจากสาเหตุใด ครอบครัวและผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องความสำคัญ เปิดใจรับฟังข้อกังวลและทำให้ผู้สูงอายุรู้ว่าคุณพร้อมรับฟัง และลองปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อช่วยลดความกังวลในผู้สูงอายุ

ปรับกิจวัตรประจำวัน

ให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารเช้าให้เสร็จก่อนเปิดข่าวจะช่วยลดความวิตกกังวลในตอนเช้า หากคุณกำลังทำงานจากที่บ้านและเว้นระยะห่างทางสังคม ให้ลองดูว่าผู้สูงอายุสามารถใช้เวลากับหลาน ๆ ของพวกเขาเพื่อให้ทั้งคู่มีงานยุ่งหรือไม่ นี่เป็นวิธีที่ดีในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น

ยอมรับความกลัวและความรู้สึกของผู้สูงอายุ

ครอบครัวหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ อาจพยายามที่จะปลอบให้ผู้สูงอายุคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ผู้สูงอายุจะยังกังวลและเครียด ดังนั้นครอบครัวและผู้ดูแลควรตั้งใจรับฟังและสนับสนุนให้พวกเขาแสดงความกลัวออกมา ทำให้ผู้สูงอายุเข้าใจว่าความรู้สึกทุกข์ใจ กังวลในช่วงวิกฤตเป็นเรื่องปกติ

ฝึกสติ

องค์การอนามัยโลกแนะนำให้คุณ “ใช้ทักษะที่คุณเคยใช้ในอดีตที่ช่วยให้คุณจัดการกับความทุกข์ยากในชีวิตก่อนหน้านี้ และใช้ทักษะเหล่านั้นเพื่อช่วยคุณจัดการกับอารมณ์ในช่วงเวลาที่ท้าทายของการระบาดครั้งนี้” วิธีการเหล่านี้อาจรวมถึงการทำสมาธิ การบำบัด หรือการทำบันทึกประจำวัน สำหรับผู้สูงอายุบางคน สติสามารถมาในรูปแบบของการฟังเพลงตั้งแต่วัยเด็ก หรือแม้แต่การอาบน้ำอย่างเงียบๆ

รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและกระฉับกระเฉง

การออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ

แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากแหล่งที่เชื่อถือได้

ระวังการเข้าถึงข้อมูลเฟคนิวส์ เพราะเป็นสร้างความตระหนกและวิตกกังวลให้กับผู้สูงอายุได้ง่าย ครอบครัวและผู้ดูแลควรคัดกรองข้อมูลและแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อที่ได้เหล่านี้

ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้ผู้สูงอายุนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุขมากขึ้น

ครอบครัวหรือผู้ดูแลควรใช้เวลาร่วมกับผู้สูงอายุ พูดคุยถึงเรื่องราวความสุขในอดีต การได้นึกถึงความสุขที่ผ่านมากก็ทำให้ผู้สูงอายุมีความรู้สึกเป็นสุขได้อีกครั้ง และยังถือเป็นการกระชับสัมพันธ์กับคนรอบข้างอีกด้วย

อยู่กับสิ่งที่ทำให้มีความสุข

ครอบครัวและผู้ดูแลควรสังเกตว่าญาติผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุชอบอาหารอะไร เมนูโปรดที่ท่านชอบทำให้เรารับประทานตอนที่เราเป็นเด็กคืออะไร ท่านยังสูตรอาหารหรือมีตำราอาหารเก่าหรือไม่ เนื่องจากร้านอาหารหลายแห่งปิดตัวลง จึงเป็นเวลาที่ดีที่จะลองทำอาหารโปรดจากอดีต หลายเมนูอาจมีเรื่องราวดี ๆ ซ่อนอยู่