ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง

ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อมรรัตน์  อัศวจิตตานนท์
อมรรัตน์ อัศวจิตตานนท์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ด้านรพ.มา4ปีและดูแลตามบ้านมาก่อนหน้านี้รวมแล้วเกือบ10ปีทั้งด้านเด็กและผูสูงอาย สามารถพูดจีน ขับรถยนต์ได้มีใบขับขี่ และด้านกายภาพบำบัด รวมถึงนวดบำบัด ฯลฯ

แสดงเพิ่มเติม
วลดา ดาวเรือง
วลดา ดาวเรือง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะหนูจบผู้ช่วยพยาบาลหนูมั่นใจว่ามีจิตใจอ่อนโยนและใจเย็นมากๆค่ะเคยดูแลผู้ป่วยติดเตียงในโรงพยาบาลได้ดีมากๆค่ะและยังสามารถทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าวขับรถหรือไปทำธุระให้ได้ค่ะ คุยกันได้ก่อนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 34 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย นวดได้ ภาษาได้ อาหารได้ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
เจนจิรา  ชูเกิด
เจนจิรา ชูเกิด
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สามารถทำอาหารได้ทำอาหารเป็นปั่นได้ฟิตอาหารเป็นแซ็กชั่นได้

แสดงเพิ่มเติม

รีวิวล่าสุด

ดูแลผู้ป่วยติดเตียงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ได้คนมาทำงานแต่ส่วนมากทำได้ระยะสั้น ๆ มีคนล่าสุดนี่แหล่ะ เจอที่เว็บใส่ใจ นอกจากจะมีประสบการณ์ ขยัน อดทน แล้วยังไว้วางใจให้ดูแลบ้านได้ด้วย พี่เค้าเก่งมากเลยค่ะ
Saijai
ศิริรัตน์ รักษาการณ์
3 ปีที่แล้ว
คุณย่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่คนที่บ้านไม่มีความรู้ในการดูแล เลยลองหาคนที่รับจ้างดูแลผู้ป่วยติดเตียง โชคดีที่เจอน้องคนนี้ น้องตั้งใจทำงานและดูแลคุณย่าได้ดีมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้คอยช่วยดูแลกันเหมือนเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว
Saijai
ณัฐฐา จามศิลป์
3 ปีที่แล้ว
อยากได้คนดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน แต่เป็นอีกคนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องการใช้โซเชี่ยลหรืออินเทอร์เน็ตในการทำอะไรแบบนี้ ญาติเลยแนะนำเว็บใส่ใจมา บอกให้ลองเปิดดู อ่านเงื่อนไขต่าง ๆ ดูแล้วลองศึกษาวิธีการตามดูแล้วก็ค้นพบว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้ตอนแรกเลยค่ะ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ
Saijai
ศิศิกาญจน์ แย้มสมัย
3 ปีที่แล้ว
ไม่ใช่แค่ดูแลแค่เรื่องกิจวัตร แต่พี่ีที่เฝ้าคุณพ่อยังดูแลเรื่องกิจกรรมสันทนาการต่างๆให้กับคุณพ่อผมอีกด้วยครับ ดีเกินกว่าที่คิดไว้จริง พี่เค้าอัธยาศัยดีมากครับ ตอนนี้นอกจากอาการของคุณพ่อผมดีขึ้นแล้วยังมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ
Saijai
3 ปีที่แล้ว
คุณตาของเราเพิ่งได้ออกจาก รพ หลังจากที่ต้องรักษาตัวอยู่เป็นอาทิตย์ กลับบ้านมาเป็นผู้ป่วยติดเตียง พยาบาลที่ รพ แนะนำให้หาคนดูแล ลอง Google พบเว็บใส่ใจ รู้ข้อมูลของผู้ดูแลก่อน ทำให้เราตัดสินใจได้ไม่ยาก แล้วเราก็ได้ผู้ที่มาดูแลได้ดีอย่างมืออาชีพ
Saijai
หยดเทียน เจนกิจโสภณ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง

หน้าที่ของผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงมีอะไรบ้าง
ผู้ป่วยติดเตียง คือ ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยเรื้อรังจนทำให้สภาวะร่างกายเสื่อมโทรมลง ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ชีวิตหรือทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนคนปกติทั่วไป อีกทั้งยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เพราะต้องนอนอยู่แต่บนเตียงตลอดเวลานั่นเอง ผู้ป่วยติดเตียงนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด หากเป็นผู้ดูแลที่มีประสบการณ์และมีความมืออาชีพในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้นยิ่งดี เพราะผู้ดูแลจะมีวิธีการดูแลอย่างถูกวิธีนั่นเอง

หน้าที่หลักของผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงมีดังนี้

1. ดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนแก่ผู้ป่วย การที่ผู้ป่วยต้องนอนนิ่ง ๆ เป็นเวลานานนั้นอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลาย ๆ อย่างตามมา เช่น แผลกดทับ เนื่องจากกล้ามเนื้อไม่ได้ขยับเป็นเวลานานนั่นเอง ผู้ดูแลจำเป็นต้องดูแลเรื่องการจัดท่านอนอย่างถูกต้อง จับผู้ป่วยพลิกตัวอยู่เสมอ คอยช่วยขยับแขนหรือขา เพื่อลดอาการกล้ามเนื้อฝ่อและไม่ให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
2. ผู้ดูแลมีหน้าที่ใส่ใจเรื่องความสะอาดของผู้ป่วยติดเตียง โดยจะดูแลเรื่องกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น การขับถ่าย การชำระร่างกาย เป็นต้น รวมไปถึงดูแลเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์และสิ่งของทั้งหลายที่ผู้ป่วยใช้ เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ เป็นต้น
3. ดูแลไม่ให้ผู้ป่วยเกิดภาวะขาดสารอาหาร ผู้ป่วยติดเตียงบางคนอาจต้องให้อาหารทางสายยาง ดังนั้นผู้ดูแลต้องหมั่นตรวจสอบและติดตามอาการจากแพทย์บ่อย ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอ หากไม่เพียงพอจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เรื่องอาหารเสริมหรือวิธีแก้ไขอื่น ๆ ต่อไป
4. ดูแลเรื่องสภาวะจิตใจของผู้ป่วย ผู้ป่วยบางคนที่อยู่บนเตียงเป็นเวลานานอาจส่งผลให้สภาพจิตใจแย่ลง ผู้ดูแลควรหากิจกรรมหรือพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้ป่วยอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อจ้างผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและวิธีการแก้
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ระบบการทำงานต่าง ๆ และสภาพร่างกายย่อมเสื่อมโทรมลง และนำไปสู่การเป็นผู้เป็นผู้ป่วยติดเตียงได้ ซึ่งการดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้นผู้ดูแลจำเป็นต้องเป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลเป็นอย่างดี อีกทั้งจำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิด

ปัญหาที่พบได้บ่อยในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงและวิธีการแก้ไข มีดังต่อไปนี้

1. แผลกดทับ เนื่องจากขยับตัวได้ยากหรือทำไม่ได้เลย ผู้ป่วยติดเตียงส่วนใหญ่ต้องนอนกับที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดแผลกดทับตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณ ท้ายทอย ข้อศอก สะโพก ก้นกบ เป็นต้น ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ดี อาการแผลกดทับเหล่านี้อาจลุกลามไปเป็นแผลติดเชื้อที่มีความรุนแรงถึงชีวิตได้ วิธีแก้ไขคือผู้ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงต้องพลิกตัวผู้ป่วยบ่อย ๆ หรือพยายามเปลี่ยนท่านอนของผู้ป่วยอยู่เสมอ ห้ามทิ้งผู้ป่วยให้นอนในท่าเดียวซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน หมั่นทำความสะอาดผิวหนังไม่ให้เปียกชื้น และอาจใช้อุปกรณ์เสริมในการลดแรงกดดันของกระดูก
2. ปัญหาเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยของผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยต้องนอนอยู่กับที่ตลอดเวลา การทำความสะอาดร่างกายเป็นไปได้ยากและจำกัด ต้องให้ผู้ป่วยขับถ่ายด้วยกระโถนบนที่นอน บางรายต้องใช้สายสวนปัสสาวะ ดังนั้นการดูแลรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในรายที่ใช้สายสวนปัสสาวะ ผู้ดูแลจำเป็นต้องเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะเป็นประจำทุกสองสัปดาห์ และควรทำความสะอาดสายด้วยสบู่อ่อนเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรทำความสะอาดร่างกาย ของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีการขับถ่ายต้องรีบทำความสะอาดทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานเป็นอันขาด ทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ สุขภาพปากและฟันสำคัญควรทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
3. ปัญหาด้านสภาพจิตใจของผู้ป่วย สิ่งนี้นับเป็นอีกสิ่งสำคัญ เพราะผู้ป่วยติดเตียงอาจมีภาวะเครียดและอาการซึมเศร้าได้ ผู้ดูแลควรชวนพูดคุย หรืออ่านหนังสือ หรือเปิดเพลงที่ผู้ป่วยชื่นชอบเพื่อเป็นการสร้างความผ่อนคลาย ผู้ดูแลต้องไม่แสดงอาการไม่พอใจ หงุดหงิด กับผู้ป่วยเพราะอาจกระทบต่อความรู้สึกของผู้ป่วยได้
หากต้องการจ้างผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ญาติควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
การดูแลผู้ป่วยติดเตียงต้องเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ทั้งเครื่องมือ ของใช้ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมทั้งผู้ดูแล ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงถือเป็นค่าใช้จ่ายประจำระยะยาว และเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยมีสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดี

ครอบครัวสามารถเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงดังนี้

1. ปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลเรื่องแนวทางการดูแล เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยมากที่สุด เช่น ผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายยาง อาหารที่ผู้ป่วยรับประทานได้หรือไม่ได้ การดูแลรักษาความสะอาด เป็นต้น เพื่อที่จะได้กำหนดคุณสมบัติและหน้าที่ของผู้ดูแลผู้ป่วยได้ถูกต้องและครอบคลุม
2. จัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและของใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่วย เช่น เตียงที่สามารถปรับท่านอนหรือนั่งได้ รถเข็นสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ที่นอนลม อาจรวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ออกซิเจนชนิดถัง หรือของใช้ที่จำเป็น เช่น ผ้าอ้อมผู้สูงอายุ
3. เตรียมพื้นที่หรือจัดบ้านให้เหมาะสมและเอื้ออำนวยต่อการดูแลผู้ป่วย เช่น ที่พักของผู้ป่วยควรอยู่ชั้นล่าง เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเตียงและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการดูแล อากาศโปร่งถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้น มีแสงสว่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
มีวิธีการป้องกันอย่างไรไม่ให้ผู้ป่วยติดเตียงมีแผลกดทับ
เมื่อเกิดแผลกดทับกับผู้ป่วยแล้ว ต้องดูแลรักษาแผล บรรเทาอาการเจ็บแผล ป้องกันการติดเชื้อ อย่างระมัดระวังที่สุดเพราะแผลอาจรุกรามได้ ส่วนนิยามของการส่วนการรักษาแผลกดทับคือการช่วยให้ผู้ป่วยเกิดแรงกดทับที่อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งน้อยลง

วิธีป้องกันแผลกดทับมีดังนี้

• ที่สำคัญที่สุดคือการจัดท่าทางในการนั่งและนอน ควรปรับเปลี่ยนท่านอนผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 2 ชั่วโมงช่วย เพื่อถ่ายน้ำหนักตัวและเป็นการป้องกันการเกิดแผลกดทับได้ดี ควรเลือกเบาะรองนั่งหรือเตียงนอนที่ช่วยผ่อนแรงกด อาจเป็นเตียงนอนลม หรือหาหมอนลม ห่วงยางที่มีรูมารองตรงจุดกดทับ และเปลี่ยนท่าทุก 15 นาทีสำหรับท่านั่งและ2 ชั่วโมงในท่านอน ปรับเตียงให้สูงขึ้นไม่เกิน 30 องศา เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังบริเวณก้นกบดึงรั้งกันจนเกิดแผลกดทับ
• ทำแผนภูมิ รูปอธิบายอย่างชัดเจน เป็น “นาฬิกาพลิกตัวผู้ป่วย” อีกวิธีที่หนึ่งที่จะช่วยให้การดูแลผู้ป่วยนอนติดเตียงมีสุขภาพที่ดีขึ้นและปลอดภัยจากการเกิดแผลกดทับ เริ่มต้นด้วย 6 โมงเช้า พลิกตะแคงผู้ป่วยไปทางซ้าย จากนั้น 8 โมงเช้า พลิกผู้ป่วยนอนหงาย เมื่อถึงเวลา 10 โมงเช้า พลิกกลับมาตะแคงขวา เที่ยงวัน เปลี่ยนอิริยาบถ แล้วให้ตะแคงซ้ายอีกครั้ง ฯลฯ ทำเช่นนี้สลับวนไปทุกๆ สองชั่วโมง เมื่อถึงกลางคืนเวลานอน แนะนำให้ใช้ที่นอนลมหรือแผ่นเจลรอง ลดการกดทับปุ่มกระดูก
• การทำความสะอาดผิวหนัง ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือป่วยเป็นโรคที่มีความเสี่ยงให้เกิดแผลกดทับ ควรหมั่นตรวจผิวหนังของผู้ป่วยว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติใด ๆ หรือไม่ หลังจากล้างทำความสะอาดผิวหนังและเช็ดให้แห้งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังอับชื้น ดูแลผิวสม่ำเสมอ เช่น ทาโลชั่นสำหรับผิวแห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ ตรวจดูกระดุมเสื้อหรือตะเข็บของผ้าปูที่นอนให้ดี เพื่อป้องกันและลดการเสียดสีผิวหนัง