ดูแลผู้สูงอายุ ใน ภาษีเจริญ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ภาษีเจริญ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สิริมา ทวีสิทธิ์
สิริมา ทวีสิทธิ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 50 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมามากกว่า5ปี สามารถขับรถพาไปหาหมอ อยู่เป็นเพื่อน เฝ้าไข้

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย นวดได้ ภาษาได้ อาหารได้ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อทิตยา บางชัยภูมิ
อทิตยา บางชัยภูมิ
Saijai อายุ 47 ปี

ค่าจ้างพิจารณาตามความเหมาะสมชอบดูแลผู้สูงอายุ

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Suttinee  Munin
Suttinee Munin
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

น.ส. ศุทธินี เหมือนอินทร์อายุ 22 ปี ศาสนา พุทธ เรียนจบ ผู้ช่วยพยาบาล pn เคยทำงาน opd ดูแลผู้สูงอายุ กุมารเวชกรรมที่อยู่ เจริญนคร 55 เขต คลองสาน กรุงเทพมหานครมีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้ม ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ไวพจน์ หมู่ขำ
ไวพจน์ หมู่ขำ
Saijai อายุ 32 ปี

14,000ต่อเดือน ใจเย็นสะอาดเรียบร้อย ใส่ใจและรักในงานที่ทำ เชื่อว่าความสามารถของตัวเองจะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายออกมาดีที่สุด

แสดงเพิ่มเติม
วลดา ดาวเรือง
วลดา ดาวเรือง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะหนูจบผู้ช่วยพยาบาลหนูมั่นใจว่ามีจิตใจอ่อนโยนและใจเย็นมากๆค่ะเคยดูแลผู้ป่วยติดเตียงในโรงพยาบาลได้ดีมากๆค่ะและยังสามารถทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าวขับรถหรือไปทำธุระให้ได้ค่ะ คุยกันได้ก่อนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
รุ่งเพชร ก๊กรัมย์
รุ่งเพชร ก๊กรัมย์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

พร้อมดูแล​ห่วงใย​เอาใจใส่ผู้สูงอายุ

ใจเย็น​เพียบพร้อม​สามารถทำกายภาพบำบัด​นวดแขนขา​พาเดิน​หรือทำนา​สั่งได้ทุกอย่าง

พร้อมดูแลครอบครัวท่านดุจพ่อแม่

แสดงเพิ่มเติม
วชิราภรณ์ ขาวอุบล
วชิราภรณ์ ขาวอุบล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่นชื่อนก อายุ 36 ปี ประวัติการทำงานเคยทำงานที่โรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย 10 ปีแผนกห้องผ่าตัด 4 ปี แผนก ICU 6 ปีดูแลผู้สูงอายุ 2 ปี

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 24 ปี

เคยดูแลคุณย่าเมื่อสองปีก่อนระหว่างการเป็นนักเรียนกับผู้ให้การดูเเล

แสดงเพิ่มเติม
พัชญ์ณัฐฏ์ หวยสูงเนิน
พัชญ์ณัฐฏ์ หวยสูงเนิน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรับผิดชอบงาน ไม่เทงานแม้จะยาก จริงใจ พูดตรง

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม
Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

ทำความรู้จัก ภาษีเจริญ

นับตั้งแต่เริ่มแรกมีคลองขุดภาษีเจริญในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดเส้นทางใหม่ที่สะดวกต่อการขนส่งอ้อยและน้ำตาลจากแหล่งผลิตใหญ่ที่นครชัยศรีมายังกรุงเทพฯ ภาษีเจริญจึงเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาหรือฝั่งธนบุรี จนกระทั่งเป็นเขตหนึ่งของกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

เขตภาษีเจริญเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ต่างไปจากพื้นที่อื่น ๆ ในฝั่งธนบุรีโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสังคมและวิถีชีวิตของผู้คนจากสังคมชาวสวนที่พึ่งพาอาศัยกันมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำมาสู่สังคมเมืองที่เต็มไปด้วยถนนหนทางตึกรามบ้านช่องแน่นขนัดเพื่อรองรับผู้คนจากต่างถิ่นที่หลั่งไหลเข้ามาและมีแนวโน้มว่าการเปลี่ยนแปลงจะยิ่งรุดหน้ารวดเร็วมากขึ้นในอนาคต ในอดีตเขตภาษีเจริญมีพื้นที่ 53.947 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยแขวงต่าง ๆ 10 แขวง คือ แขวงคลองขวาง แขวงบางจาก แขวงบางแวก แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงบางแค แขวงบางแคเหนือ แขวงบางไผ่ แขวงคูหาสวรรค์และแขวงปากคลองภาษีเจริญ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2540 เขตภาษีเจริญ ได้มีการแบ่งพื้นที่การปกครองอีกครั้งหนึ่ง โดยประกาศ กระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2540 แบ่งพื้นที่แขวงบางแค แขวงบางแคเหนือและแขวงบางไผ่ จัดตั้งเป็นเขตใหม่เรียกว่า “เขตบางแค” ทําให้เขตภาษีเจริญ มีพื้นที่ประมาณ 17.18 ตารางกิโลเมตร แบ่ง การปกครองออกเป็น 7 แขวง คือ แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงบางจาก แขวงบางแวก แขวงคลองขวาง แขวงคูหาสวรรค์และแขวงปากคลองภาษีเจริญ ปัจจุบันเขตภาษีเจริญ มีประชากรโดยประมาณอยู่ที่ 125,000 คน บนพื้นที่ น้อยกว่า 18 ตารางกิโลเมตร เนื่องด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่5 (พ.ศ.2525-2529) ควบคู่ไปกับแผนพัฒนากรุงเทพฯ ที่กระจายเขตอุตสาหกรรมออกไปยังชานเมืองทำให้พื้นที่รอบนอก จึงทำให้พื้นที่จากนาผสมกับสวนส้ม เปลี่ยนเป็นเขตอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ภาษีเจริญจึงเต็มไปด้วยตึกแถวเรียงรายเต็มสองฟากถนน โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นจำนวนมากทั้งโรงงานย้อมผ้าทอผ้าเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปโรงเหล็กโรงกลึงโรงงานน้ำตาล ฯลฯ ตามตรอกซอกซอยต่างๆ แน่นขนัดไปด้วยตึกแถวห้องเช่าเพื่อรองรับผู้คนจากต่างถิ่นที่เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่สวนมีหลงเหลืออยู่ไม่มากนักเช่น สวนผักในแถบบางแวก บางขี้แก้ง และสวนผลไม้ในแถบบางหว้า เป็นต้น



การจัดการกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยูในวัยสูงอายุ

มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้สูงอายุ ที่ต้องทนทรมานกับอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งสาเหตุของอาการดังกล่าวในวัยชราอาจมาจากความเสื่อมของเส้นประสาท กล้ามเนื้อ อาการป่วย หรือ อาจมาจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่อาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้สูงอายุพ่อแม่สูงอายุจนไม่อยากออกจากบ้านและเข้าสังคมกับผู้อื่น

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่มีประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

1. ตั้งตารางเข้าห้องน้ำ

หากผู้สูงอายุมีปัญหากับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ แนะนำให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุลองจัดตารางการเข้าห้องน้ำ เริ่มต้นด้วยการจดบันทึกเวลาที่ผู้สูงอายุมักจะต้องไปห้องน้ำทุกวัน เมื่อผู้ดูแลว่าผู้สูงอายุต้องใช้ห้องน้ำกี่โมง จะทำให้ผู้ดูแลสามารถจัดตารางเวลาเพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าห้องน้ำได้ทันเวลาเขาหรือเธอไปก่อนที่จะสายเกินไปตัวอย่างเช่น ถ้าพ่อแม่ของคุณมักจะต้องเข้าห้องน้ำเวลา 10.00 น. ทุกวัน ให้พาเขาไปเข้าห้องน้ำล่วงหน้าอย่างน้อย 10 นาที

2. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่

หากผู้สูงอายุมีการเคลื่อนไหวที่จำกัด ทำให้มีปัญหาในการเข้าห้องน้ำตลอดเวลา การใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่มีประโยชน์มาก แต่ก่อนที่ซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ผู้ดูแลควรวัดสะโพกและรอบเอวของผู้สูงอายุ เพื่อให้แน่ใจว่าได้ผ้าอ้อมที่มีขนาดเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงการดูดซับเมื่อดูผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้สูงอายุปัสสาวะในปริมาณมาก ให้ใช้ผ้าอ้อมแบบซึมซับพิเศษ

3. เฝ้าระวังตัวกระตุ้นอาการ

ตัวกระตุ้นบางอย่างอาจทำให้เกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เช่น เครื่องที่มีโซดา คาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่แย่ลง ควรให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำเปล่า

4. ทำให้การเข้าห้องน้ำง่ายขึ้น

เพื่อลดอุบัติเหตุ คุณควรทำให้ผู้สูงอายุไปห้องน้ำได้ง่ายที่สุด ไม่ควรมีสิ่งกีดขวางระหว่างทางเดินไปห้องน้ำเพื่อให้ผู้สูงอายุได้เข้าห้องน้ำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดอุบัติเหตุเพื่อเพิ่มความปลอดภัยควรติดตั้งราวจับในห้องน้ำเพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าห้องน้ำได้ง่ายขึ้น

5. ห้ามสูบบุหรี่

หากผู้สูงอายุเป็นคนสูบบุหรี่ ผู้ดูแลหรือลูกหลานควรพยายามเกลี้ยกล่อมให้เลิกนิสัยนี้ การสูบบุหรี่อาจทำให้เกิดอาการไอ ซึ่งทำให้กดทับกระเพาะปัสสาวะได้ การเลิกสูบบุหรี่สามารถช่วยลดปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ผู้สูงอายุรวมถึงลดความเสี่ยงของภาวะสุขภาพอื่น ๆ ได้

6. คอยดูแลเรื่องน้ำดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

การให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำให้น้อยลงอาจทำให้เกิดปัญหาขาดน้ำจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ปัสสาวะอาจมีความเข้มข้นมากขึ้น และทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคือง จึงควรให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำสักแก้วทุกครั้งที่รู้สึกกระหายน้ำ



เมื่อไหร่ที่คุณควรใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุ

เมื่อรู้สึกเหนื่อยและเครียด

หลายครอบครัวคนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะดูแลพ่อแม่ หรือผู้สูงอายุในครอบครัวด้วยตัวเอง แต่นั่นอาจจะต้องแลกกับการออกจากงานประจำและมีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยลง รู้หรือไม่ว่าหลายคนใช้เวลา 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์เพื่อดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้ดูแลครอบครัวใช้เวลา 40 ชั่วโมง หรือมากกว่า ต่อสัปดาห์ในการดูแลผู้สูงอายุ เวลาและพลังงานที่ใช้ในการนี้อาจส่งผลต่อร่างกาย อารมณ์ และการเงินเพราะต้องขาดงาน ขาดเวลาในการดูแลคู่ชีวิตและลูก ๆ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับชีวิตได้

การลงทุนที่คุ้มค่า

แน่นอนการใช้บริการผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุต้องมีค่าใช้จ่ายที่ตามมา แต่หากลองเปรียบเทียบกับการมีสมาธิกับงาน บ้านและครอบครัว ทำให้รู้สึกเครียดและกังวลน้อยลง การใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุอาจเป็นทางออกที่ดีและถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสามารถมั่นใจว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

สุขภาพของพ่อแม่คุณอยู่ในความเสี่ยง

เมื่อสมาชิกครอบครัวไม่สามารถอยู่ดูแลผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา การใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุทำให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุได้รับการดูแลเมื่อคุณไม่อยู่ ผู้สูงอายุมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในที่พักอาศัย ทั้งในขณะที่ลุกจากเตียงหรืออาบน้ำ ในหลายกรณีการหกล้อมอาจจะทำให้เกิดการกระแทกและรอยฟกช้ำเท่านั้น แต่บางครั้งการหกล้มอาจรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้ผู้สูงอายุกระดูกหักหรือสมองได้รับความกระทบกระเทือน ดังนั้นการจ้างผู้ดูแลสามารถปกป้องผู้สูงอายุได้ นอกจากเรื่องอุบัติเหตุยังมีเรื่องการทานของสูงอายุ ผู้ดูแลจะดูแลเรื่องการทานยาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการหลงลืมและตรวจสอบปริมาณยาเพื่อลดความเสี่ยงของการใช้ยาเกิน

ในบ้านหรือที่พักอาศัยไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ

หากบ้านของคุณไม่มีอุปกรณ์ช่วยเคลื่อนที่และอุปกรณ์ความปลอดภัย ควรพิจารณาว่าจ้างหรือใช้บริการผู้ดูแลมืออาชีพเมื่อคุณไม่ว่าง ลิฟต์เก้าอี้ เบาะนั่งชักโครกแบบยกขึ้น ราวนิรภัยในอ่างอาบน้ำและฝักบัว และวอล์คเกอร์และสกู๊ตเตอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวไปมาและทำงานให้เสร็จลุล่วงได้หากไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้หรือความช่วยเหลือจากผู้ดูแลมืออาชีพ ผู้สูงอายุจะเสี่ยงต่อการลื่นล้ม หกล้ม และการบาดเจ็บอื่นๆ ดูแลผู้สูงอายุให้ปลอดภัยและเป็นอิสระโดยใช้บริการผู้ดูแลเต็มเวลา